ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 87

เจสันยืดตัวขึ้น จากที่นั่งและพุดทันทีว่า

“ได้ครับ !!!”

 

กรีลมองเจสันด้วยความประหลาดใจในความกระตือรือร้นของเจสัน จนกระทั่งนึกถึงสมบัติที่เขาเจอเมื่อนานมาแล้ว มันเป็นสิ่งที่สร้างความหวาดกลัวต่อการเจ็บปวด ที่แม้แแต่กรีลเองก็ไม่อยากกินมัน

 

“ฉันมีผลไม้ชนิดหนึ่ง ที่สามารถปกป้องชีวติของคุณจนกว่าคุณจะแยกจิตแรกได้สำหรับ และมันจะทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรง และมันอาจจะทำให้คุณอยากตายเพื่อที่จะหลุดจากความทรมาณนี้ นอกจากนี้ความเจ็บปวดที่คุณจะต้องทนเพราะการแบ่งแยกจิตและแยกตัวของสมอง ฉันไม่แน่ใจว่าถึงคุณจะอดทนมันได้แต่หลังจากนั้นสุขภาพจิตของคุณจะเป็นเช่นไร “

ตอนนี้เจสันลังเลอยู่ครู่หนึ่งและมองกรีลด้วยสายตาที่มีความหวาดกลัว อย่างไรก็ตามเจสันก็ยังแน่วแน่ที่จะทำมัน เจสันไม่ต้องการรอจนกว่าตัวเขาจะถึงระดับผู้วิเศษ เพื่อที่จะแยกจิตแรกของเขา

 

“อย่างน้อย ตอนนี้ผมก็รู้วิธีการแยกจิตแรกแล้ว ถ้าครูจะขายสมบัติให้ผม ผมจะขอบคุณมาก แต่ผมขอเวลาที่จะรวบรวมสตาร์โน๊ตเพื่อใช้คืน”

กรีลมองดูเจสันและรู้สึกชอบเด็กืี่อยู่ตรงหน้ามากที่สุดเพราะบุคลิก ความมุ่งมั่น หนักแน่นและพรสวรรค์ที่มีอยู่

 

‘ทำไมเจสันถึงอยากรีบแยกจิตเร็วๆ ในตอนนี้ มันเป็นเรื่องเร่งด่วนงั้นหรอ’

นานมากแล้วที่กรีลอดที่จะอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่อยุ่ในตัวผู้อื่นแบบนี้

 

“จะเกิดอะไรขึ้น หากฉันให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ เพื่อที่จะแยกจิตแรกของคุณ” กรีลถามอย่างเรียบเฉย โดยถูกคำถามแบบนี้เจสันจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่มันมี 2 ปัจจัยที่เจสันเองก็ยังไม่มั่นใจ

1. ทำไมครูต้องถามแบบนั้น

2.ฉันสามารถอดทนความเจ็บปวดที่จะต้องเผชิญได้จริงๆ งั้นหรอ และมันจะมีประโยชน์จริงๆ ใช่ไหม

 

ปัจจัยอย่างหลังสามารถตอบได้ว่า ใช่ การรวบรวมมานาตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันจะเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนของเจสันขึ้นอย่างมาก เมื่อพิจารณาว่ามานาที่ดูดซับโดยจิตใต้สำนึกนั้นมีประสิทธิภาพน้อยกว่า การทำเองเพียงเล็กน้อย

 

***เพิ่มเติม คือเจสันจะสร้างจิตแยกออกมา เพื่อใช้มันดูดซับมานาตลอดเวลา โดยที่ตัวจริงๆ ของเจสันไม่ต้องทำ เจสันเลยอยากแยกจิตแรกให้ได้ไว ๆ อธิบายไว้นะครับเพื่อใครอาจจะ งง ^^ ***

 

โดยปกติ เจสันจะดูดซับมานาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน แต่หลังจากนี้เจสันไม่ต้องทำสิ่งนี้แล้วหลังจากแยกจิตได้ และเจสันจะมีเวลาที่จะมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาในการดูดซับมานา มันมีประโยชน์อย่างมาก และความเจ็บปวดที่จะต้องเผชิญ มันก็คุ้มค่าที่ต้องเผชิญเมื่อได้รับสิ่งที่มีประโยชน์ขนาดนี้

 

เจสันยังไม่แน่ใจว่า ทำไมหรีลถึงเสนออะไรแบบนี่ให้กับเขา แต่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจสันได้ทำความเข้าใจคร่าวๆ เกี่ยวกับนิสัยของกรีล กรีลนั้นซ่อนสิ่งที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ แต่ไม่ได้ปกปิดมันมากนั้น ไม่เช่นนั้น เขาคงจะไม่ได้รับอนุญาติให้สอนเทคนิคระดับ 3 ให้เด็กนักเรียน

 

นักเรียนจะบอกผู้ปกครองและเพื่อนๆ คนอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ และมันก็ง่ายที่จะตรวจสอบว่าใครฝึกเทคนิคเหล่านี้ไว้ นั่นหมายความว่า เขาไม่ใช่อาชญากรอย่างแน่นอน กรีลยังใจดีและอดทนที่จะตอบคำถามให้กับทุกคนด้วยข้อมูลที่ละเอียดและยอดเยี่ยม ปัญหาเดียวของกรีลคือ ความเข้มงวด ในขณะที่มันเป็นประโยชน์สำหรับเด็กนักเรียนทุกคน ถึงแม้คนอื่นจะมองว่าเขาหยาบคาย

 

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่สามารถปกปิดความเมตตาและความแบ่งปันของกรีลได้ ซึ่งบางคนก็อาจจะไม่เห็นมัน เนื่องจากผู้ปกครองบางคนบ่นเรื่องงานที่ยากเกินไป แต่กรีลก็ไม่สนใจเพระาไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้ และเจสันเห็นว่าเด็กนักเรียนและผุ้ปกครองเหล่านี้มีนิสัยที่หยาบคาย

 

‘พยายามทื่จะกดดันครู ด้วยความเรียกร้องไร้สาระงั้นเราะ ทุเรศ’ เจสันชอบกรีลเพราะความมั่นใจ ความแข็งแกร่ง และความรู้ที่มากมายของกรีล

 

“ผมทนกับคาวมเจ็บปวดนั้นได้ !!”

เจสันตะโกนออกมาอย่างหนักแน่น

 

กรีลสามารถมองผ่านความคิดเห็นของเจสันได้ และถ้ามีโอกาสตอนเขาอายุเท่าเจสัน เขาก็คงทำแบบนี้เหมือนกัน ตัวกรีลเองสามารถสร้างจิตแยกครั้งแรกได้ตอนเป็นผู้วิเศษขั้นสูง และการรวบรวมมานา ดูดซับและการแปลงมานาไปเป็นมานาเหลวอย่างอดทนโดยไม่หาวิธีที่ช่วยเร่งขั้นตอนนี้ มันแตกต่างกันมาก เพราะมันช้ามาก เมื่อพิจารณาการแปลงมานาไปเป็นมานาเหลว กรีลต้องทำมันอย่างขันแข็งและอดทน

 

นอกจากนี้กรีลยังชอบเจสันมากและต้องการให้ทางเลือกเจสันหลายๆ ทางในการตัดสินใจว่าจะเสี่ยงชีวิตหรืออดทนรอจนกว่าจะเข้าถึงขั้นผู้วิเศษ ส่วนเรื่องค่าตอบแทน เจสันจะไปถึงระดับผู้วิเศษก่อนที่จะรวบรวมสตาร์โน๊ตที่จำเป็นสำหรับสมบัติวิเศษ หินมานาและสิ่งของเวทย์มนต์ต่างๆ

 

“โอเค จะเริ่มตอนนี้ หรือจะรอพรุ่งนี้ ??”

 

“เดี๋ยวก่อนนะ !!”

เจสันอุทานออกมา

 

“ด้วยการควบคุมมานาในปัจจุบันของคุณ กระบวนการทั้งหมดในการสร้างร่างจิตแยกออกมา ต้องใช้เวลาน้อย 1 วัน ตอนคุณสามารถเลือกได้ ถ้าไม่อยากทำก็แค่บอกฉัน แต่ถ้ายังอยากทำอยู่ก็โทรบอกที่บ้านว่าจะนอนที่โรงเรียนสักวัน 2 วัน ถ้าตัดสินใจได้ก็มาหาฉันที่ห้องทำงาน”

 

“ได้ครับ ผมจะโทรเดียวนี้เลย “

เจสันไม่ได้นึกถึงเวลาที่จะต้องใช้ ตามที่กรีลบอกเลยแม้แต่น้อยถึงกระนั้น

 

เมื่อโทรหาพวกเฟลเลอรื ทุกคนดูตกใจและสับสนเล้กน้อยที่เจสันนอนค้างที่โรงเรียน สักวัน 2 วัน แต่ทุกคนก้ไม่ได้ถามเหตุผล พวกเฟลเลอร์นั้นมองว่าเจสันนั้นโตเป็นผู้ใหญ่และรู้ว่า เจสันรู้ว่ากำลังจะทำอะไร และนอกจากนี้พวกเฟลเลอร์ยังคงตระหนักว่า พวกเขานั้นไม่ใช่ครอบครัวจริงๆ ของเจสัน ดังนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถบังคับหรือจูจี้กับเจสันได้มากนัก หากอยู่นอกเวลาที่พวกเขาไม่ได้ดูแล และเจสันเองก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในโลกภายนอก

 

หลังจากที่โทรเสร็จ เจสันก็รีบไปที่ห้องของกรีล ทันใดนั้นเจสันก็เห็นว่าภายในห้องมีหนังสือมากขึ้น ทำให้ปรระหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเดินลึกเข้าไป เจสันเห็นกรีลกำลังวาดวงเวทย์ขนาดใหญ่ อย่างสวยงามด้วยหินอ่อน ด้านล่างเป็นกล่องหยกที่มีจารึกที่สวยงาม เจสันสรุปได้ว่ามันเป็นหล่องสำหรับผลไม้วิเศษ เพื่อกักเก็บพลังของมันเอาไว้

 

เมื่อเจสันเดินเข้ามา กรีลก็อธิบายทุกอย่างอย่างใจเย็น

“ภายในกล่องหยก คือผลปีศาจวัลคีรีส์ชิล์ด ที่คุณต้องกินก่อนที่จะเปิดใช้งานวงเวทย์ หลังจากกินเสร็จคุณจะต้องนำแกนมานาโอเวอร์ลอร์ด เบฮีมอธ เอาไว้ในมือ ซึ่งจะกระตุ้นวงเวทย์เพื่อการรวบรวมมานาด้วยการฉีดมานาเพียงเล็กน้อย คุณไม่จำเป็นต้องใช้มานารอบๆ ตัว ในทันที มานาจะอยู่ภายในวงเวทย์ และใช้มันเพื่อปรับแต่งสมองอย่างช้าๆ ผลปีศาจวัลคีรีส์ชีล์ดจะป้องกันชีวิตไม่ให้ถึงแก่ความตาย แม้ว่ามันจะเจ็บปวดทรมาณขนาดไหน ให้อดทนและค่อยๆ คลายสมองและผ่อนคลายมันและแยกมันออกหลังจากที่ตรวจสอบว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และคุณไม่ได้รับอนุญาติให้ทำผิดพลาดนะ โอเคไหม !!”

 

จิตของเจสันว่างเปล่า…. ผลปีศาจวัลคีรีส์ชิล์ดคืออะไร โอเวอร์ลอร์ดเบฮีมอธคืออะไร ??

 

“โอเวอร์ลอร์ดเบฮีมอธเป็นสัตว์อสูรระดับผู้พิทักษ์หรือเปล่า”

นั้นเป็นสิ่งเดียวที่เจสันถามได้

 

***เพิ่มเติม สัตว์อสูรระดับผู้พิทักษ์จะต่างจากสัตว์ร้ายต่างๆ นะครับ สัวต์อสูรระดับผู้พิทักษ์นั้นหายากมากๆ และมีความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าสัวต์วิเศษ มันเป็นสัตว์ที่ค่อยให้ความสามารถในการช่วยเหลือ ปกป้อง และฟื้นฟูรักษา อย่างเช่น หมาป่าสีขาวของกรีลที่ใช้รักษาตอนแข่งขันภายในห้อง และสัตว์พันธะของกาเบรียลลาเองก็เป็นสัตว์อสูรระดับผู้พิทักษ์ ***

 

“มันเป็นสัตว์อสูรระดับลอร์ด”

เป็นสิ่งเดียวที่กรีลพูดและเจสันก็รู้ว่ามันอยู่อันดับที่สูงกว่าระดับผู้พิทักษ์

 

เจสันเริ่มวิตกกังวล และมองดูแกนสัตว์อสูรระดับลอร์ดนี้เป็นร้อยๆ ครั้ง และบอกกับตัวเองว่าเขาจะสามารถอดทนกับมันได้ ในขณะที่ร่างกายสั่นไปทั้งตัว

 

เจสันไม่สามารถพาสกอร์พิโอเข้าไปอยู่ในวงเวทย์ได้ เพราะมันอยู่ภายใต้เส้นผมบนหัวของเจสันตลอดเวลา และมันก็ไม่อยากเข้าไปในโลกวิญญาณ ในระหว่างที่กรีลกำลังวาดวงเวทย์ เจสันก็ได้ให้สกอร์พิโอกินผลบาคูรีเพิ่ม เพราะเขาไม่สามารถให้มันได้ในวันพรุ่งนี้ มันกินไปสองชิ้น และบิดตัวด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย ซึ่งทำให้เจสันสบายใจขึ้น นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าสกอร์พอโอจะลอกคราบในวันพรุ่งนี้ เจสันก็คาดหวังอยู่ว่ามันจะใช้เวลานานขนาดไหน เพื่อที่จะกลายพันธุ์

 

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืน และกรีลก็วาดวงเวทย์เสร็จพอดี ในขณะที่วางหินเวทย์มนต์ในจุดที่กำหนด และหินเวทย์มนต์บางก้อนมีขนาดใหญ่เท่าลูกฟุตบอล เจสันสงสัยว่า นี้คือหินวิเศษระดับ 3 หรือระดับ 4 เนื่องจากมานาจำนวนมากที่แผ่ออกมาจากหินพวกนี้ทำให้เจสันปวดตาเมื่อมองมัน

 

ตอนนี้เจสันเข้าใจดีว่า ปริมาณมานาในวงเวทย์มีจำนวนมหาศาลและตอนนี้ก็รู้ถึงความร้ายแรงของสถานณ์นี้อย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้เจสันถอยกลับไม่ได้ ในขระที่ค่อยๆ เดินเข้าไปในวงเวทย์ และนั่งรถ เจสันเริ่มเหงื่ออกทันทีเพราะความผันผวนของมานาที่มีปริมาณมากมายมหศาลและมีแรงกดดันสูง

 

เมื่อเปิดกล่องหยกที่อยู่ด้านหน้า กลิ่นเหม็นกระฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง และก็มีผลไม้สีเงินอยู่ตรงหน้าดูราวกับกับเป็นโล่อันจิ่วอ้วนๆ หากมองใกล้ๆจะเป็นใบหน้าที่โหดร้ายและบิดเบี้ยว เจสันได้ปิดตาลงทันทีที่เห็นมัน แต่นั้นไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้เจสันสั่นไปด้วยความหวาดกลัว แต่ยังรวมถึงออร่าสีน้ำเงินเข็มที่แผ่กระจายออกมาจากผลไม้ลูกนี้ เจสันไม่เคยเห็นออร่าแบบนี้มาก่อน และมือของเขาที่ถือผลไม้ก็เริ่มสั่น

 

เพื่อเอาชนะความกลัว เจสันยัดผลไม้ทั้งลูกเข้าปากและเคี้ยวมัน มันมีรสชาติที่หวานมากจนแทบจะติดใจ ในขณะที่เจสันเองก็บังคับตัวเองให้รีบกลืนมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะกรีลบอกว่าความเจ็บปวดจะเกิดขึ้นหลังจาก นาทีครึ่งหลังที่กินเข้าไป

 

เมื่อนำแกนมานาระดับลอร์ดอสูรมาไว้ในมือ เจสันก็เปิดใช้งานวงเวทย์ทันที อักษรรูนส่องสว่างในวงเวทย์ โดมเล้กๆ ก่อตัวขึ้นรอบๆ วงเวทย์ ในขณะที่หินเวทย์มนต์ค่อยๆ ละลายหายไป ทำให้เกิดหมอกสีเงินหนาทึบภายในโดม

 

หมอกกำลังเปลี่ยนเป็นของเหลวและเหมือนฝนตกภายในโดมเล็กๆ กรีลมองสถานการณ์อย่างคาดหวังขณะที่กรีบสังเกตุเห็นมานาที่เป็นของเหลว

 

‘ฉันใส่หินเวทย์มนต์ระดับ 4 มากไปรึเปล่า’

กรีลรู้สึกกังวลเล็กน้อย

 

God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes
Score 7.8
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้าจากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset