ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 115

เจสันตกใจมากที่เห็บก็อบบลินจำนวนมาก และดูเหมือนว่าจะมีทหารก็อบบลินมากกว่า 2-3 ล้าน ตัว ทำให้เจสันหวาดกลัว

 

ผ่านไปไม่ถึงนาที เจสันไม่สามารถนับจำนวนก็อบบลินจอมเวทย์ได้ว่ามันเดินผ่านไปกี่ตัว แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือก็อบบลินและออร์คระดับผู้พิทักษ์และระดับวิเศษ พวกมันกำลังเดินทัพเข้าไปยังเมืองไซโรอย่างเป็นระเบียบ โดยแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มต่างๆ

 

ในขณะก็อบบลินตัวอื่นที่อยู่ระดับที่ต่ำกว่าระดับวิเศษเดินอย่างไม่เป็นระเบียบและกระจัดกระจายอย่างพวกป่าเถื่อน อย่างไรก็ตามที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ ก็อบบลินที่มีระดับและตำแหน่งภายในสังคมของเผ่าที่สูงกว่านั้นดูเป็นระเบียบ

 

เจสันสามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนมานาที่แข็งแกร่งที่มหาศาล เมื่อมองไปรอบๆ

 

 

เชนมองเจสันและยิ้มเบาๆ

 

‘ดวงตาของเจ้าหนูนี้ สวยงามจริงๆ ‘

 

“ระวัง”

 

เชนพูดเบาๆ และในขณะนั้น เจสันก็สามารถมองเห็นขีปนาวุธตกลงมาจากท้องฟ้า ทำให้เจสันเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ และมีอักษรรูนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาเป็นเกาะป้องกันเหนือพวกก็อบบลิน ก่อนที่พื้นที่นั้นจะมีแสงสว่างวาป

 

เมื่อสัมผัสได้ว่า พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงบางอย่าง มิสไซล์ก็ระเบิดกลางอากาศ และเผาไหม้อากาศ โดยไม่มีก็อบบลินตายสักตัว

 

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคืออักษรรูนยังคงอยู่ในอากาศไม่สลายหายไป และเจสันเพ่งความสนใจไปที่มานาภายในจี้ที่ใช้ป้องกัน

 

พวกมันยังความแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันมิสไซล์อีก 2 – 3 ลุก ซึ่งมิสไซล์นี้สามารถฆ่าสัตว์ระดับวิเศษได้ 2-3ตัว แม้แต่ตัวของเชนเองก็เบิกตากว้าง และประหลาดใจเล็กน้อย และยกย่องรูนของพวกก็อบบลินในใจ

 

“ไม่คิดว่ารูนของพวกมันจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ไม่เลวเลย”

 

เรื่องนี้ทำให้เจสันขวมดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น ขณะที่มองท่าทางของเชนด้วยความสับสน

 

เชนสังเกตเห็นเจสันมองเขาจึงยิ้มให้

 

“ไม่ใช่ว่าฉันต้องการให้พวกก็อบบลินเข้ายึดเมืองเรา แต่สติปัญญาของพวกมันไม่ดีมากนัก แต่ว่าอักษรรูนที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ฉันไม่คิดว่าจะมีใครในแอสทริกซ์สามารถสร้างได้

นอกจากนี้ สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าวัสดุที่พวกมันใช้ทำจี้เหล่านี้ น่าจะหายาก และก็อบบลินหลายหมื่นตัวก็มีจี้เหล่านี้

แต่สิ่งที่ยากน่าจะเป็นการเติมมานาลงไปในจี้ห้อยคอ บอกตามตรงว่าฉันนั้นได้ตรวจสอบราชาก็อบบลินและเหล่าก็อบบลินที่ใกล้ชิด

พวกมันนั้นสามารถสร้างกลุ่มสังคมได้อย่างดีเยี่ยมในระยะเวลาที่สั้นแค่นี้ แต่การที่พวกมันจะรวมตัวกันได้มากขนาดนี้ ราชาก็อบบลินคงต้องอยู่ในดินแดนต้องห้ามมาเป็นเวลา และนั้นถือว่ามันมีความอดทนที่ดีเยี่ยม “

 

รูนนับร้อยปรากฏในอากาศ และส่องสว่างไปทั่วบริเวณ ในขณะที่มิสไซล์ระเบิดขณะที่กระทบกับรูนป้องกัน รูนป้องกันนั้นสามารถป้งองกันมิสไซล์ได้ถึง 2-3 ลูก ในขณะที่ฝ่ายมุนษย์นั้นพยายามโจมตีอย่างต่อเนื่อง

 

เมื่อเหล่าก็อบบลินที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้รูนป้องกันที่สร้างขึ้นค่อยๆ พังทหลายลงๆ เมื่อรูนป้องกันของพวกก็อบบลินได้พังทหลายลง ก็อบบลิน 2 – 3 พันตัวที่อยู่ใกล้กับเขตเมืองก็ตายจากการโดนระเบิดของมิสไซล์

 

ผู้พิทักษ์ของเมืองต่างสัเกตว่า การยิงมิสไซล์ไม่ค่อยได้ผลนัก เนื่องจากยังมีรูนป้องกันบางส่วนที่สามารถป้องกันได้ ทำให้การระเบิดของมิสไซล์นั้นไม่ได้ผล 100%

 

แต่สักพักต่อมา เจสันก็แทบอยากจะตะโกนออกมาด้วยความดีใจ เมื่อมีบุคคลที่แข็งแกร่งมากๆ 2-3 คนปรากฏตัวขึ้นที่ทางด้านหน้าของเมือง ผู้แข็งแกร่งทั้ง 3 กำลังหมุนเวียนมานาที่เป็นสีน้ำตาลและสีน้ำเงิน

 

ภายในไม่กี่วินาที มานาก็ได้แพร่กระจายออกไปและครอบคลุมพื้นที่บริเวณนั้นทั้งหมด  และภูมิทัศน์ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ท้องฟ้าเริ่มที่จะครึ้มขึ้น และพื้นดินเริ่มแยกออกทำให้พวกก็อบบลินร่วงลงไปในรอยแยก

 

จากนั้นก็มีเหล่าผู้วิเศษออกมาอีก 3-4 คน พวกเขาได้สร้างเมฆพายุขึ้น

 

ท้องฟ้าเริ่มแปรปรวนและก็เกิดพายุขนาดใหญ่ เริ่มมีเม็ดฝนร่วงลงมา มันมีสีเขียว ใช่ และนั้นคือ พิษ เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ออกมาป้องกัน พวกเขาได้แปรสภาพอากาศให้กลายเป็นพายุฝนพิษ ซึ่งมันทำให้พวกก็อบบลินที่โดนฝนเหล่านี้ เกิดความเสียหาย

 

เม็ดฝนค่อยๆ กัดกินเนื้อของก็อบบลิน ทุกสิ่งที่สัมผัสกับเม็ดฝนจะถูกกัดกร่อน

 

“อ่า ยังโหดร้ายเหมือนเดิม แต่ก็คงไม่มีวิธีอื่น “

 

เมื่อเชนหันไปหาเจสัน เขาเริ่มอธบายเมื่อเห็นท่าทีที่สับสนของหนุ่มผมดำ

 

“เจ้าเห็นผู้วิเศษเหล่านั้นหรือเปล่า พวกเขาได้สร้างเมฆพายุด้วย ธาตุน้ำลม ไฟ และเมื่อเมฆพายุก่อตัวขึ้น พวกเขาได้ใส่มานาลงเมฆเหล่านั้น ทำให้มันเกิดเป็นพิษที่มีลักษณะกัดกร่อน”

เมื่อมันหยดลงกระทบกับสิ่งต่างๆ สิ่งที่กระทบกับหยาดฝนจะถูกกัดกร่อนและลายไป ซึ่งรวมถึงมนุษย์ด้วย

 

มีผู้วิเศษที่เชี่ยวชาญพลังลมและน้ำอยู่ 2 – 3 คนที่กำลังควบคุมสภาพอากาศทั้งหมด

 

เมื่อไซโรนั้นมีมาตรการในการป้องกันฝูงสัตว์ร้ายได้ดีกว่าที่คาดไว้ ถึงแม้พวกเขาจะสามารถจัดการกับก็อบบลินได้หลายล้านตัวได้ง่ายๆ แต่ภัยคุกคามใหญ่ยังคงมีชีวิตอยู่

 

เจสันสนใจกับกลยุทธ์ของมนุษย์ที่ใช้ แต่ดูเหมือนเชนจะชื่นชมวพกก็อบบลินมากกว่าฝั่งมนุษย์ ซึ่งทำให้เจสันแปลกใจ

 

เชนเคลื่อนที่เข้าใกล้กำแพงเมื่องไซโรมากขึ้น และห่อหุ้มร่างกายของเขาและเจสันด้วยมานาอย่างมิดชิด ตอนนี้เขาอยู้เหนือกำแพงเมือง และเจสันสามารถพวกก็อบบลิจอมเวทย์ระดับสูง

 

พวกมันสามารถปล่อยลูกไฟที่มีขนาดเท่ารถยนต์ออกมา หินที่มีลักษณะแหลมคม ใบมีดลม และพลังอื่นๆ อีกมากมาย และโจมตีเข้าไปยังเมือง

 

ในขณะที่ทหารก็อบบลินกำลังดิ้นรนจากการโดนพิษ และทหารแนวหน้าที่ไม่สามารถทนไหวได้ ทำให้พวกมันไม่สามารถบุกเข้าไปยันเมืองได้

 

 ก็อบบลินระดับสัตว์วิเศษและระดับผู้พิทักษญ์คำรามออกมาด้วยความโกรธ และมีไฮออร์คตัวหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้ากำแพงเมือง

 

 

เมื่อเจสันมองมันด้วยดวงตามานา เขาก็ตกตะลึง

 

“รูน !”

เจสันตะโกนออกมา และเมื่อเชนมองไป เขาก็ตกตะลึงเช่นเดียวกับเจสัน

 

“มีอักษรรูนอยู่บนตัวของมัน ?!”

 

ทันใดนั้นอักษรรูนที่อยู่บ้นตัวของมันก็เริ่มทำงาน มันขยายตัวไฮออร์คขึ้นมาเล็กน้อย เจสันเห็นว่าตอนนี้ไฮออร์คนั้นมีระดับที่สูงขึ้น มันสามารถควบคุมพื้นดิน และใช้พื้นดินโจมตีเมือง โดยการควบคุมให้พื้นดินมีลักษณะแหลมคมพุ่งเข้าโจมตี

 

 “รูนเพิ่มพลัง ?”
ดวงตาของเชนเบิกกว้างด้วยความตกใจ และทั้งคู่ก็มองออร์คที่มีระดับผู้พิทักษ์ มันกระโดดขึ้นไปบนแพงเมืองและเผชิญหน้ากับเหล่าผู้วิเศษจากเมืองไซโร

 

ในมือของไฮอร์คมีดาบดำขนาดใหญ่ และมันเต็มไปด้วยอักษรูน
“พวกแกจงรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของสิ่งที่ฉันได้สร้างขึ้น พวกแกจงสูญพันธุ์ไป”

 

ออร์คพูดภาษามนุษย์อย่างหยาบๆ และดาบสีดำของมันปลดปล่อยออร่าออกมา ตอนนี้อักษรูนทั้งหมดบนดาบมันกำลังทำงาน !

 

ไฮออร์คฟาดฟันดาบลงไป ด้วยพลังทำลายที่รุนแรง มันสร้างความเสียดายเป็นเส้นตรงยาวไปถึงกลางเมือง มันรุนมาก แม้แต่ผู้วิเศษทั้งหลายยังต้องสั่นสะท้านด้วยความกลัว กับพลังทำลายที่รุนแรงนี้ พวกเขาถอยหลังกลับ 2-3 ก้าวเพื่อตั้งหลัก

 

 

ก่อนที่ลำแสงดาบจะพุ่งเข้าใส่ใจกลางเมือง มันจะต้องสร้างความเสียหายให้กับทุกเขตที่ขวางทาง

 

 

 พลเมืองบางคนตื่นขึ้นเนื่องจากแรงสั่นสะเทือนจากพลังทำลายที่ไออร์คได้สร้างขึ้น โชคดีที่ไม่มีพลเมืองคนใดได้รับอันตรายจากการโจมตีนี้

 

 

เจสันเองก็ตกตะลึงการพลังโจมตีอันรุนแรงนั้น แต่จู่ๆ รอบตัวของเจสันก็เริ่มบิดเบียว และเจัสนก็ถูกห้อหุ้มด้วยกุญแจมือที่ทำจากมานา

จู่ๆ เจสันก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆ ไฮออร์ค ทั้งเจสันและออร์คต่างตกใจกันและกัน และตอนนี้เจสันสังเกตว่าเขานั้นกำลังเผชิญหน้าอยู่ตรงหน้าของไฮออร์ค ในขณะที่ถูกใส่กุญแจมือ

 

`เชนอยู่ที่ไหน`

เจสันคิดในใจ ขณะที่กำลังตกตะลึง
God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes
Score 7.8
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้าจากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset