85 – ข่าวดี
ทุกคนในกลุ่มที่ออกมาจากสถาบันศิลปะการต่อสู้สวมเสื้อคลุมของสถาบันอย่างเป็นทางการ คนที่เดินอยู่ข้างหน้าคืออาจารย์ใหญ่ของสถาบันศิลปะการต่อสู้ของมณฑลชิงไห่
เขาเป็นบัณฑิตวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัยห้าสิบและมีใบหน้าแดงก่ำมีเคราหนาและดูสง่างาม ข้างๆอาจารย์ใหญ่คือบัณฑิตวัยกลางคนที่มีใบหน้าเกลี้ยงเกลา
ทั้งสองคนเดินอยู่ตำแหน่งหน้าสุด สองคนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการประจำมณฑล
ผู้เข้าสอบรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากจากการปรากฏตัวของอาจารย์ใหญ่ประจำสถาบันศิลปะการต่อสู้ปของมณฑลชิงไห่
เนื่องจากอาจารย์ใหญ่คนนี้เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากในมณฑลชิงไห่ เขามีแซ่เสิ่นและเขาเป็นที่รู้จักในนามเสิ่งหงปิง
เขาเป็นประมุขของตระกูลเสิ่นในมณฑลชิงไห่และเขายังเป็นอาจารย์ใหญ่ของสถาบันศิลปะการต่อสู้ของมณฑลชิงไห่อีกด้วย
ไม่เพียงแค่นั้นทุกคนยังรู้ว่าเขาเป็น ‘ผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยม’ และเป็น ‘บุคคลในตำนาน’ ของมณฑลชิงไห่ หลังจากที่เขาสร้างรากฐานทั้งสามขั้นสำเร็จเขาก็กลายเป็นนักรบเต็มตัว
เขาสามารถก้าวไปอีกขั้นในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตของการเป็นปรมาจารย์
ตำแหน่งของตระกูลเสิ่นในมณฑลชิงไห่นั้นเกือบจะใกล้เคียงกับตำแหน่งของตระกูลลู่ในมณฑลหวงหลง ทั้งสองถือเป็นตระกูลใหญ่และเป็นมหาอำนาจประจำท้องถิ่นของตัวเอง
เอี้ยนลี่เฉียงได้ยินมาว่าเสิ่นหงปิงคนนี้จะออกไปจากมณฑลเพื่อฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ แม้ว่าเขาจะเป็นอาจารย์ใหญ่ของสถาบันศิลปะการต่อสู้ แต่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นเขาในสถาบันการศึกษา
เขาไม่เคยปรากฏตัวในสถาบันศิลปะการต่อสู้เพื่อเป็นเจ้าภาพในช่วงสอบศิลปะการต่อสู้
อย่างน้อยในสิบปีหลังสุดเขาก็ไม่เคยมาชมการสอบศิลปะการต่อสู้ด้วยตัวเองเลยสักครั้ง ดังนั้นในปีนี้การปรากฏตัวของเขาจึงทำให้เกิดความปั่นป่วนในสนามฝึกซ้อม
ผู้เข้าสอบหลายคนตื่นเต้นอย่างสุดจะพรรณนา ขณะที่ทุกคนต่างยื่นหน้าออกมาเพื่อมองให้เห็นอาจารย์ใหญ่สถาบันศิลปะการต่อสู้ประจำมณฑลที่กำลังเดินไปยังสนามประลองใจกลางเมือง
สายตาของเอี้ยนลี่เฉียงก็จ้องมองไปยังอาจารย์ใหญ่สถาบันศิลปะการต่อสู้คนนี้เช่นเดียวกัน
ประสาทสัมผัสที่ทรงพลังของเขาซึ่งได้รับจากการฝึกฝนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ทำให้เอี้ยนลี่เฉียงสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขามภายในร่างกายของเสิ่นหงปิงได้ทันที
ประสาทสัมผัสของเอี้ยนลี่เฉียงแสดงให้เขาทราบว่าพลังของเสิ่นหงปิงโดดเด่นกว่าคนทั่วๆไปเป็นอย่างมาก พวกมันคล้ายกับเสือที่ดุร้ายและเตรียมที่จะขย้ำคู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลา
เมื่อเขาเดินผ่านเอี้ยนลี่เฉียงในระยะใกล้ๆ เอี้ยนลี่เฉียงสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานอันยิ่งใหญ่ในทุกย่างก้าวของเขาบนก้อนอิฐสีน้ำเงิน
เขาเดินตามจังหวะปกติ แต่พลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากเท้าของเขานั้นเทียบเท่ากับบุคคลทั่วไปกระทืบพื้นแรงๆ
เอี้ยนลี่เฉียงได้ยินมาว่าหลังจากที่พวกเขากลายเป็นนักสู้ที่แท้จริงจุดตันเถียนที่ช่องท้องจะเปิดออก เฉพาะผู้ที่ฝึกฝนกำลังภายในเท่านั้นที่จะสามารถครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ได้ในทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา
ไม่เพียงแค่นั้นแต่พวกเขายังสามารถนำวิชาลับมากมายให้ก้าวขึ้นสู่ศักยภาพสูงสุด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่สามารถเป็นปรมาจารย์การต่อสู้ได้ พวกเขาจะต้องฝึกฝนกำลังภายในในระดับสูงอย่างแน่นอน
เอี้ยนลี่เฉียงมีความต้องการที่จะศึกษาวิชากำลังภายในของเสิ่นหงปิงเป็นอย่างมาก
คนที่เดินข้างๆเสิ่นหงปิงก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับเขา คนผู้นี้ได้รับการฝึกฝนวิชาการต่อสู้มาเป็นอย่างดี
เสิ่นหงปิงเป็นเหมือนลูกไฟขนาดใหญ่ ในขณะที่ชายคนนี้เป็นเหมือนสายลมที่อ่อนโยน เท้าของเขาเหยียบลงบนพื้นเบาๆแม้แต่ฝุ่นละอองก็ไม่กระจายออกมา
ผู้เข้าสอบที่อยู่ในสนามประลองรวมทั้งเอี้ยนลี่เฉียงดูเหมือนจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร อย่างไรก็ตามในสายตาของเอี้ยนลี่เฉียงบุคคลผู้นี้ย่อมมีสถานะไม่ต่ำกว่าเสิ่งหงปิงอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแค่นั้นเสิ่นหงปิงดูเหมือนจะสุภาพกับคนๆนี้มาก ทั้งสองคนเดินไปด้วยกัน แต่การก้าวเท้าของเสิ่นหงปิงไม่เคยเดินล้ำหน้าคนผู้นี้เลย
เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่าสถานะของคนผู้นี้ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง คนกลุ่มนี้ผ่านสนามฝึกซ้อมและตรงเข้าไปในสนามประลองตรงกลางก่อนที่จะยืนอยู่บนเวทีด้วยความสงบ
เสิ่นหงปิงซึ่งอยู่ตรงกลางก้าวไปข้างหน้าด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมเขาพูดด้วยเสียงดัง
“ถึงผู้เข้าสอบทุกคนก่อนที่การสอบการทดสอบศิลปะป้องกันตัวจะเริ่มขึ้นข้าอยากจะแนะนำใครสักคนให้พวกเจ้ารู้จัก คนที่ยืนอยู่ข้างๆข้าคืออาจารย์ประจำสถาบันศิลปะการต่อสู้แคว้นผิงซีสือฉางเฟิง ในวันนี้อาจารย์สือมีข่าวดีจะแจ้งให้กับพวกเจ้าทราบ…”
สือฉางเฟิงยืนอยู่บนเวทีอย่างสุภาพกล่าวกับเสิ่นหงปิงว่า“ อาจารย์ใหญ่เสิ่นเกรงใจเกินไปแล้ว อาจารย์เสิ่นสามารถแจ้งข่าวนี้ด้วยตัวเอง! “
“โอ้ไม่ ไม่ข่าวจะน่าตื่นเต้นกว่านี้ถ้าอาจารย์สือเป็นคนประกาศ!” เสิ่นหงปิงปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม
ทั้งคู่ต่างยกย่องกันและกันบนเวทีก่อนที่สือฉางเฟิงจะก้าวไปข้างหน้าสองก้าว
“ ทุกคนคงทราบว่าสถาบันศิลปะการป้องกันตัวของแคว้นผิงซีได้ดำเนินการเพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถมาโดยตลอด
มณฑลชิงไห่เป็นสถานที่ที่บุคคลที่มีความสามารถของแคว้นผิงซีหลั่งไหลเข้ามา ในปีนี้สถาบันศิลปะการต่อสู้ประจำแคว้นผิงซีจะรับสมัครผู้เข้าสอบจากมณฑลชิงไห่จำนวนห้าสิบคน
จำนวนการรับสมัครนี้มากกว่าจำนวนจากปีก่อนๆ นอกจากนี้ยังหมายความว่าผู้สมัครสอบจะมีโอกาสเข้าร่วมสถาบันศิลปะการต่อสู้ของแคว้นผิงซีมากขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้เข้าสอบที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาการใช้ทวนและการยิงธนูจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ