125 – ดิ้นรนเอาชีวิตรอด
เมื่อเสียงฝีเท้าด้านนอกมาถึงประตูเอี้ยนลี่เฉียงก็ถอยกลับไปอีกด้านหนึ่งของสระน้ำแล้ว …
ทันใดนั้นที่ประตูก็มีเสียงดังโครมคราม ประตูก็ถูกใครบางคนผลักเข้ามาในทันที ทหารยามสองคนถืออาวุธในมือรีบวิ่งเข้ามา
ฟิ้ว!…เสียงแหลมดังก้อง
เอี้ยนลี่เฉียงได้ปล่อยลูกธนูออกไปแล้ว มันทะลุลำคอของทหารองครักษ์คนหนึ่งทำให้ทหารอีกคนตกใจ เขาส่งเสียงคำรามพร้อมกับพุ่งเข้าหาเอี้ยนลี่เฉียง
แม้ว่าเขาจะเร็วแต่เอี้ยนลี่เฉียงก็ไม่ช้าเช่นกัน เขาปล่อยลูกศรลูกที่สองออกไปแล้วในขณะที่ทหารคนนั้นวิ่งเข้ามาได้ไม่กี่ก้าว เขาก็ล้มลงกับพื้นเสียชีวิตทันที
ในขณะเดียวกันเสียงกรีดร้องของผู้หญิงก็ดังขึ้น หญิงรับใช้คนนั้นรีบวิ่งออกไปทางประตูพร้อมกับกรีดร้องอย่างเสียขวัญ
ไม่มีทางที่ธนูและลูกศรของเอี้ยนลี่เฉียงจะยิงทะลุกำแพงได้เขาจึงจำเป็นต้องปล่อยหญิงรับใช้คนนั้นหนีหายไปจากสายตา
นายน้อยเย่อยู่ห่างจากเอี้ยนลี่เฉียงเพียงไม่กี่ก้าว มือข้างหนึ่งของเขายังคงถูกตอกเข้ากับชั้นวาง เมื่อเขาได้ยินผู้คุ้มกันทั้งสองรีบเข้ามาเขาก็มีความหวังขึ้นทันที
เขาหักก้านลูกศรที่ตอกมือของเขากับชั้นวางและเลื่อนมือที่บาดเจ็บออกจากมัน ก่อนที่เขาจะพยายามวิ่งหนี
แต่ในขณะเดียวกันเอี้ยนลี่เฉียงก็ปล่อยลูกศรอีกลูก ลูกศรลูกที่สองตอกฝ่ามือซ้ายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บของเขาลงบนชั้นวางนั้นอีกครั้ง
เอี้ยนลี่เฉียงใช้เวลาเพียงครู่เดียวในการทำให้มือทั้งสองข้างของเขาพิการ เสียงกรีดร้องที่ทำให้กระหายเลือดของนายน้อยเย่ดังอยู่ในหูเอี้ยนลี่เฉียง
เอี้ยนลี่เฉียงเดินมาหาเขาด้วยความเยือกเย็น
“ เจ้าจะถูกทรมานยิ่งกว่าตาย…เจ้ากล้าฆ่าคนของข้าที่นี่ได้อย่างไร…ทั้งๆที่ข้ารู้ว่าข้าเป็นใคร…”
นายน้อยเย่ดูเหมือนจะเป็นนายน้อยเสเพลซึ่งเคยชินกับการชี้นิ้วสั่งการและทำตัวสูงส่งและมีอำนาจ เขาไม่เคยถูกรังแกมาก่อนในชีวิต แม้ว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แต่เขาก็ยังเห่าเอี้ยนลี่เฉียงเหมือนสุนัข
เสียงเห่าของเขายังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งเขาเห็นเอี้ยนลี่เฉียงเดินเข้ามาอย่างมั่นคงเขาจึงเริ่มตื่นตระหนก
“เจ้าต้องการอะไร?”
ป๊าบ !!
เอี้ยนลี่เฉียงก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและตบหน้านายน้อยเย่อย่างไร้ความปรานี ความแข็งแกร่งจากแขนของเอี้ยนลี่เฉียงนั้นทรงพลังมาก
การตบเพียงครั้งเดียวทำให้ฟันของนายน้อยเย่หลุดออกมาและใบหน้าด้านหนึ่งของเขาก็บวมขึ้นทันที
“เจ้า”
เสียงตบอย่างหนักอีกครั้งก็ดังขึ้น อีกด้านหนึ่งของใบหน้านายน้อยเย่ก็บวมเช่นกันและฟันอีกซี่หนึ่งของเขาก็หลุดออกมา
เอี้ยนลี่เฉียงสะบัดข้อมือของเขาและตบลงไปไม่หยุด น้อยเย่ถูกตบจนมึนงงเขาไม่กล้าขยับตัวในทันที ความประพฤติของเขาดีมากขึ้นและสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“อย่าเห่าหอนในตอนที่ข้าไม่ได้สั่ง ไม่เช่นนั้นข้าอาจจะรั้งมีดของตัวเองไว้ไม่อยู่”
เอี้ยนลี่เฉียงห้อยคันธนูไว้ที่หลังของเขาในขณะที่พูด เขาปลดดาบสั้นที่ห้อยอยู่เอวออกมาจี้ไว้ใต้คางของนายน้อยเย่ ปลายดาบแทงทะลุผิวหนังของนายน้อยเย่จนมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย
ใบหน้าของนายน้อยเย่ซีดเผือดไร้สีเลือด เขาเงยหน้าขึ้นพยายามหนีจากคมมีดที่ใต้คางของเขาขณะที่ร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัว
มือของเอี้ยนลี่เฉียงยังคงนิ่งและมั่นคงเหมือนเหล็กกล้า สายตาของเขาเย็นชาอย่างถึงที่สุด
ในความเป็นจริงหัวใจของเอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้เย็นชาเหมือนที่ภายนอกของเขาแสดงออกมา ในความเป็นจริงความคิดของเขาสับสนไปหมดในตอนนี้และเขาก็กังวลอย่างมากโดยหวังว่าจะมีโอกาสรอดชีวิตเพียงเล็กน้อย
เขารู้ว่าวันนี้เขาทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่อย่างแน่นอน แม้ว่าคืนนี้เขาจะไม่ได้พบชายชาตูคนนั้น แต่ในที่สุดเขาหรือชายคนนี้ก็ต้องต่อสู้กันจนกว่าอีกฝ่ายจะตายไป
มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงในเมื่อฝ่ายตรงข้ามจับตัวเอี้ยนเต๋อชางไว้ในมือของพวกเขาในขณะนี้ และไม่กี่วันข้างหน้าพวกเขาจะบังคับให้เอี้ยนลี่เฉียงต้องยอมจำนน ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามล้ำเส้นถึงขนาดนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องแสดงความสุภาพอีกต่อไป
คืนนี้เอี้ยนลี่เฉียงได้เข้ามาในสถานที่ที่ไม่คาดคิดโดยไม่ได้ตั้งใจ
สำหรับเขาและพ่อของเขาจะออกจากเมืองผิงซีในครั้งนี้ได้หรือไม่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับนายน้อยเย่ที่อยู่ในมือของเขา
เอี้ยนลี่เฉียงได้ยินมาว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียวของผู้ว่าการแคว้นผิงซี หวังว่าไอ้คนนี้จะพิสูจน์ได้ว่ามีประโยชน์
“พยักหน้าถ้าเจ้าเข้า ใจถ้าเจ้าไม่เข้าใจข้าจะสั่งสอนเจ้าอีกครั้ง”
นายน้อยเย่พยักหน้าเบาๆ นายน้อยเช่นเขาที่ได้รับการปฏิบัติเหมือนเจ้าชายทุกวัน ไหนเลยจะได้สัมผัสกับความตายอย่างใกล้ชิดเช่นนี้
“ไปใส่เสื้อผ้าได้แล้ว!”
“ ข – แต่มือข้า…”
เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้พูดอะไร ดาบสั้นของเขาตัดก้านของลูกศรซึ่งเสียบเข้าที่มือของนายน้อยเย่ทำให้เขาสามารถดึงออกมาได้
“ นับถึงสิบใส่อะไรก็ได้ถ้ายังเปลือยเปล่าเมื่อถึงเวลานั้นก็จะเป็นปัญหาของเจ้าเอง…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเอี้ยนลี่เฉียงนายน้อยเย่ก็กัดฟันแน่นและใช้ข้อมือของเขาดึงเสื้อคลุมอาบน้ำบนชั้นวางออกมาสวม แม้ว่ามือของเขาจะมีเลือดไหลออกมามากและเขาไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
“ข้ามีขี้ผึ้งห้ามเลือดขอใส่ก่อนได้หรือไม่ … บาดแผลของข้าหนักหนาเกินไปข้าอาจจะเสียเลือดจนตาย ” หลังจากใส่เสื้อผ้าแล้วนายน้อยเย่ก็บอกเอี้ยนลี่เฉียงเรื่องนี้ หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
เอี้ยนลี่เฉียงเหวี่ยงดาบสั้นในมือแทงลงไปตรงต้นขาของนายน้อยเย่ ปลายดาบจมลงไปที่ต้นขาของเขาประมาณสองนิ้วโดยหลีกเลี่ยงเส้นเลือดใหญ่
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงดึงดาบสั้นออกมานายน้อยเย่ก็ส่งเสียงร้องอย่างน่าสังเวชอีกครั้ง เสื้อคลุมอาบชุ่มโชกไปด้วยเลือดจนกลายเป็นสีแดง ขาของเขาแทบจะถูกฟันขาดและตอนนี้เขาล้มลงไปกับพื้น
“ถ้าเจ้ากล้าพูดตอนที่ข้าไม่อนุญาตเจ้าจะโดนอย่างนี้อีกครั้ง บาดแผลของเจ้าจะได้รักษาหรือไม่ขึ้นอยู่กับข้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้า” เอี้ยนลี่เฉียงยิ้ม
เมื่อได้ยินคำเตือนของเอี้ยนลี่เฉียงนายน้อยเย่ทำได้เพียงกัดฟันแน่นและอดทนต่อความเจ็บปวดเขาเขย่งตัวขึ้นอย่างช้าๆ
ต่อหน้าคนที่เลือดเย็นขนาดนี้มันทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริง
“เจ้าชื่ออะไร?”
“ เย่เซียว…”
“พ่อของเจ้าเป็นผู้ว่าการแคว้นผิงซี?”
“ใช่!”
“ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า ตอนนี้เจ้าวางแผนจะสั่งหารข้ายังไง”
“น – ไม่เลย … ” เย่เซียวส่งเสียงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกอีกครั้ง
ในขณะที่ร่างกายของเขาสั่นสะท้านราวกับใบไม้ในฤดูฝนและเม็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขาก็กลิ้งลงมาไม่หยุด ดาบสั้นในมือของเอี้ยนลี่เฉียงฟันลงไปอีกครั้งพร้อมกับนิ้วก้อยที่หลุดร่วงออกมาของเย่เซียว
เอี้ยนลี่เฉียงยังคงมองไปที่เย่เซียวด้วยรอยยิ้ม
“กฎข้อที่สองเมื่อพูดกับข้าก็ต้องพูดด้วยความซื่อสัตย์ นั่นคือราคาที่เจ้าต้องจ่ายเมื่อโกหก. “
…