ภาพเทพอสูรบรรพกาล – ตอนที่ 114

ตอนที่ 114 เปลี่ยนปรับกายา

 

//เปลี่ยนจากระดับยาเมฆา เป็น ระดับแก่นเมฆา

 

ของเหลวสีฟ้าในบ่อโลหิตเทพอสูรค่อนข้างเย็น หลังจากที่เมิ่งชวนเข้าไปในบ่อนั้นแล้ว เขาก็นั่งขัดสมาธิ เขารู้สึกได้ว่ามีกระแสพลังที่มองไม่เห็นซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา พลังชีวิตอันมหาศาลเติมเต็มเข้าไปในร่าง ขนาดผมและเล็บก็เริ่มที่ยาวขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

เมิ่งชวนรู้ว่าบ่อโลหิตเทพอสูรนั้นสามารถปรับเปลี่ยนร่างกายของคนๆนั้นได้ และมันจะเปลี่ยนให้มนุษย์กลายเป็นเทพอสูร แต่ว่ามันก็มีค่ามากๆ! ไม่เช่นนั้นคงมีอัจฉริยะมากกว่านี้ที่มีโอกาสได้เข้าไปในบ่อโลหิตเทพอสูรนี้

 

” ท่านอาจารย์ ศิษย์พร้อมแล้ว” เมิ่งชวนกล่าว

 

“เข้าใจแล้ว” ผมของปรมาจารย์กระพือเมื่อเขามองขึ้นไป เขาจ้องผ่านหินไปยังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่

 

ครืน! ท้องฟ้าที่ตอนแรกนั้นสงบนิ่งจู่ๆก็มีเมฆสีดําสองก้อนเกิดขึ้นพร้อมกับประกายสายฟ้าในนั้น

 

สภาพอากาศเปลี่ยนในทันทีเลยเหรอ?” หลิวชีเยว่ที่มองจากไกลๆตกใจ

 

เจ้าเขาหยวนชูและผู้อาวุโสอี่มองด้วยความตื่นใจ แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นราชันเทพอสูรและยังพอบังคับเปลี่ยนแปลงบรรยากาศได้นิดหน่อยแต่พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนสภาพอากาศ เรียกลมหรือฝนหรือสายฟ้าออกมาได้

 

เมฆสีดําขนาดใหญ่สองก้อนชนใส่กัน สายฟ้าแตกแขนงเหมือนต้นไม้ก่อนจะเปรี้ยง! สายฟ้าฟาดลงมา ตามด้วยเสียงระเบิดดังก้อง

 

หลังจากที่เมฆสีดําทั้งสองชนกันสายฟ้าเส้นหนาก็ผ่าลงมา มันเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศและเหมือนจะฟาดลงใส่ในบ่อโลหิตเทพอสูร

 

อัสนีสวรรค์เส้นแรก ใจของหลิวชีเยว่แน่น เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของเมิ่งชวนมาก เพราะจากที่เธอได้อ่านเกี่ยวกับร่างอสูรตัดสายฟ้าในห้องสมุด เธอรู้ว่าเขาต้องทนต่ออัสนีสวรรค์ทั้งเจ็ดในช่วงขอบเขตความเป็นตายนี้ และด้วยพลังของอัสนีสวรรค์และพลังของบ่อโลหิตเทพอสูร รวมไปถึงพลังของกระแสพลังวินาศที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน ก็จะทําให้ได้รับร่างอสูรตัดสายฟ้ามาครอบครอง

 

แต่หากคนๆนั้นเตรียมตัวมาไม่พอ ร่างของพวกเขาก็จะสลายหายไปเป็นฝุ่น

 

“ไม่ต้องกังวลไป เมิ่งชวนเตรียมตัวมาเสียยิ่งกว่าพร้อมอีก ไม่เกิดอะไรที่ไม่คาดฝันขึ้นหรอก” เจ้าเขาหยวนชูมองไปที่หลิวชีเยว่และปลอบเธอ

 

เมิ่งชวนรู้สึกได้ถึงบางอย่างและมองขึ้นไป เขามองเห็นเส้นสายฟ้าที่กําลังก่อตัวจากบนถ้ำ จากนั้นสติของเขาก็สั่นสะท้านในตอนที่สายฟ้าฟาดเข้าใส่เขา

 

“ผ่านขอบเขตความเป็นและความตายและควบแน่นร่างเทพอสูรซะ!” เสียงของปรมาจารย์ดังขึ้นในหัวของเมิ่งชวน

 

“เข้าใจแล้วขอรับ”

 

เมิ่งชวนยังคงมีสติอยู่ แม้ว่าเขาจะตกใจจากสายฟ้า แต่เขาก็รับรู้ได้ในทันทีว่าร่างของเขานั้นถูกฉีกเป็นชิ้นๆโดยสายฟ้า สายฟ้าเหล่านั้นถูกชี้นําลงมาโดยปรมาจารย์ มันทรงพลังอย่างมาก เพียงสายฟ้าแค่เส้นเดียวก็ทําให้ร่าง กระดูก และเส้นลมปราณของเขาขาดกระจุย อัสนีสวรรค์นี้นั้นสร้างความเสียหายต่อร่างและเครื่องในของเขาอย่างสาหัส

 

ซึ่งนั่นถือว่าเป็นผลดี หากเขาไม่ได้ฝึกร่างอสูรตัดสายฟ้าที่มีความสามารถในการต้านทานสายฟ้าได้สูงกับพลังวินาศที่คอยปกป้องเขาไว้ เขาคงจะระเบิดเป็นชิ้นๆไปตั้งแต่ตอนที่สายฟ้าฟาดใส่เขาแล้ว

 

ในตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส และหากไม่ได้อยู่ในบ่อโลหิตเทพอสูรล่ะก็ เขาคงจะตายจากบาดแผลเหล่านี้ไปแล้วก็เป็นได้

 

“ดีมาก” แทนที่จะตกใจเมิ่งชวนกลับมีความสุข

 

การกําเนิดย่อมเกิดมาจากการทําลาย! มีเพียงการทะลวงผ่านความเป็นมนุษย์ไปเท่านั้นเขาถึงจะได้ร่างเทพอสูรที่แท้จริงได้!

 

บ่อโลหิตเทพอสูรให้พลังชีวิตที่ไม่จํากัดแก่ผู้ที่อยู่ในนั้น มันสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วจนแทบจะนําคนที่ตายไปแล้วกลับมาได้เลย ของเหลวสีฟ้าเหล่านั้นรักษาร่างกายของเมิ่งชวนอย่างรวดเร็ว

 

“สร้างร่างกายของเจ้าขึ้นใหม่เสีย”

 

เมิ่งชวนใช้เจตจํานงกระบี่ของเขาเพื่อชี้นําแก่นสารแห่งจิตและเริ่มสร้างร่างของเขาขึ้นมาใหม่ตามคัมภีร์ร่างอสูรตัดสายฟ้า

 

ปราณของเขาไม่ได้เคลื่อนผ่านเส้นลมปราณ แต่ในตอนนี้ปราณของเขาถูกชี้นําโดยอัสนีสวรรค์พร้อมกับพลังวินาศกําลังเคลื่อนอยู่ในร่างของเขา รวมไปถึงกระดูกที่แตกหักและอวัยวะภายในที่บาดเจ็บ อัสนีสวรรค์คือทัณฑ์สวรรค์ มันมีพลังในการทําลายล้างสูงมาก มันพยายามจะทําลายพลังวินาศที่หลอมรวมกัน แต่ว่าการที่จะทําลายพลังวินาศทั้งเก้าอย่างที่หลอมรวมกันอยู่โดยมีหกประสงค์วินาศเป็นแก่นนั้นยากมาก มันเบาบางจับได้ยากเกินไปกว่าที่สายฟ้าจะทําลายมัน

 

ตามคัมภีร์แล้วนั้น อัสนีสวรรค์กับพลังวินาศจะหลอมรวมเข้าด้วยกันด้วยวิธีแปลกๆ เมิ่งชวนถึงพลังของบ่อโลหิตเทพอสูรและปรับเปลี่ยนรูปกระดูก กล้ามเนื้อและอวัยวะใหม่

 

อัสนีสวรรค์ไม่แรงพอ เมิ่งชวนรู้สึกได้ว่ากระแสพลังวินาศของเขานั้นแข็งแกร่งเกินไปมันครอบคลุมทั้งร่างของเขาทําให้อัสนีสวรรค์เหลือพลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหลังจากฟาดใส่ร่าง

 

เปรี้ยง!

 

และสิ่งที่เขาต้องการก็มาในทันที! สายฟ้าเส้นที่สองฟาดลงใส่ร่างของเขา ทําให้กล้ามเนื้อกระดูกและอวัยวะที่รักษาไปแล้วนิดหน่อยกลับมาเสียหายอีกครั้ง

 

เมิ่งชวนสร้างร่างของเขาขึ้นมาใหม่ต่อ เจตจํานงกระบี่ควบคุมแก่นสารแห่งจิต แต่ว่ามันกระจายออกไปเยอะมาก บ่อโลหิตเทพอสูรเติมพลังปราณให้เขาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันพลังชีวิตที่มากมายจากของเหลวสีฟ้าก็ซึมเข้าสู่ร่างกายของเขาทําให้ร่างกายกลับมาฟื้นฟูดังเดิม

 

เปรี้ยงๆๆๆๆ!

 

เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีสายฟ้าอีกหลายเส้นฟาดลงมาใส่เมิ่งชวน

 

เมิ่งชวนที่กําลังนั่งอยู่ในบ่อโลหิตเทพอสูรก็ยังคงสร้างร่างของเขาขึ้นมาใหม่อย่างสงบนิ่ง ส่วนที่อ่อนแอของร่างถูกทําลาย มีเพียงการหลอมรวมอัสนีสวรรค์กับพลังวินาศเข้ากับร่างกายของเขาเท่านั้น เขาถึงจะทนต่ออัสนีสวรรค์ได้

 

เมิ่งชวนรู้สึกเหมือนตัวเขาเป็นแท่งเหล็ก อัสนีสวรรค์คือค้อน มันฟาดลงใส่เขาอย่างต่อเนื่องเปลี่ยนให้เขากลายเป็นเหล็กกล้า

 

ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปในหลายๆจุด ส่วนมนุษย์ที่ยังเหลืออยู่ก็ถูกอัสนีสวรรค์ทําลายและสร้างขึ้นมาใหม่ มันเป็นเช่นนี้ต่อไปจนเขาหลุดพ้นจากร่างมนุษย์ได้

 

ในตอนนี้ กระดูกทุกชิ้นแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหลายร้อยเท่า พวกมันมีทั้งอัสนีสวรรค์และกระแสพลังวินาศข้างในนั้น ความทนทานของมันนั้นมากมาย

 

กล้ามเนื้อทุกมัด และอวัยวะทุกส่วนต่างก็เปลี่ยนแปลงไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

แม้เขาจะไปถึงระดับเจตจํานงแห่งกระบี่แล้วก็ตาม แต่ด้วยร่างของเขาในตอนนี้ที่ยังไม่ได้เป็นเทพอสูรแม้จะถูกตบเพียงหนึ่งครั้งก็อาจจะตายได้

 

หืม? เมิ่งชวนที่กําลังเปลี่ยนแปลงอวัยวะภายในก็รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนแปลงยังไม่สําเร็จ

 

มีอัสนีสวรรค์ไม่พอ เขาผ่านอัสนีสวรรค์ทั้งเจ็ดมาแล้วแต่ร่างของเขายังเปลี่ยนแปลงไม่สมบูรณ์เลย

 

เปรี้ยง!

 

ปรมาจารย์รู้ว่าร่างของเมิ่งชวนนั้นยังผ่านการปรับเปลี่ยนไม่เสร็จ เขาชี้นําอัสนีสวรรค์อีกเส้นใส่เมิ่งชวน

 

สายฟ้าเส้นที่แปดฟาดเข้าใส่เมิ่งชวน ในตอนนี้เมิ่งชวนกระอักเลือดออกมาหลังจากถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่ และเขายังมีพละกําลังเหลืออยู่เจ็ดส่วน อันที่จริงแล้วกล้ามเนื้อและกระดูกของเขาไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยหลังจากถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่ ที่เขากระอักเลือดออกมานั่นก็เพราะเขายังปรับแต่งอวัยวะภายในไม่เสร็จ


เจ้าเขาหยวนชู ผู้อาวุโสและหลิวชีเยว่ที่กําลังมองจากไกลๆต่างเตรียมใจที่จะได้เห็นสายฟ้าทั้งเจ็ดเส้นอยู่แล้ว แต่เมื่อสายฟ้าเส้นที่แปดฟาดลงมานั่นเอง

 

“ทําไมถึงมีอัสนีสวรรค์เส้นที่แปดกัน?” สีหน้าของหลิวชีเยว่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ในหนังสือไม่มีอะไรบอกเกี่ยวกับสายฟ้าเส้นที่แปดเลย

 

“ไม่ต้องตกใจ” ผู้อาวุโสี่กล่าวทันที “อัสนีสวรรค์ถูกชี้นําโดยนายเหนือเองโดยตรง เขาไม่ทําพลาดอย่างแน่นอน ต้องเกิดอะไรบางอย่างขึ้นแน่ๆเขาถึงเรียกสายฟ้าเส้นที่แปดออกมา”

 

” ตราบใดที่เขาได้รับร่างอสูรตัดสายฟ้ามา เขาก็จะไม่หวั่นเกรงต่อสายฟ้าอีกต่อไป” เจ้าเขาหยวนชูกล่าว “นายเหนือคงจะมีเหตุผลอยู่เป็นแน่”

 

หลิวชีเยว่พยักหน้า แต่เธอก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี

 

การท้าทายขอบเขตความเป็นตายนั้นไม่ใช่เรื่องเล่น การเกิดอุบัติเหตุขึ้นนั้นก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ได้เลย

 

แม้ว่าเมิ่งชวนจะได้รับร่างอสูรตัดสายฟ้ามา แต่การโดนสายฟ้าอีกเส้นหนึ่งนั้นก็เป็นปัญหาใหญ่ สายฟ้าส่วนเกินที่อยู่ในร่างอาจจะก่อให้เกิดอุปสรรคอย่างมากในตอนเข้าสู่ระดับแก่นเมฆา

 

เปรี้ยง!

 

สายฟ้าอีกเส้นฟาดเข้าใส่บ่อโลหิตเทพอสูร

 

มันเป็นอัสนี้สวรรค์เส้นที่เก้าแล้ว เจ้าเขาหยวนชูและผู้อาวุโส ดูงุนงงและเป็นกังวล พวกเขาเชื่อใจในตัวปรมาจารย์ แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าทําไมถึงต้องมีอัสนีสวรรค์เส้นที่เก้า

 

หลิวชีเยว่เป็นกังวลหนักกว่าเก่า แต่ว่าเธอก็ได้แต่มองดูทําอะไรไม่ได้

 

การที่เธอได้รับอนุญาติให้ดูการข้ามผ่านของเมิ่งชวนนั้นก็เป็นเรื่องพิเศษแล้ว พวกเป็นเพียงไม่กี่คนที่มีโอกาสได้เฝ้าดูเมิ่งชวนท้าทายขอบเขตความเป็นตาย! คนอื่นๆต่างถูกห้ามไม่ให้เข้ามาที่ยอดเขาแห่งนี้ เมื่อผ่านยอดเขานี้ไปแล้วก็จะมองไม่เห็นเมฆสีดําและสายฟ้า เสียงฟ้าผ่าเองก็เช่นกัน ในตอนนี้การท้าทายขอบเขตความเป็นตายถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง

 

ในบ่อโลหิตเทพอสูร เมิ่งชวนนั่งขัดสมาธิอยู่ในนั้น ผิวของเขาเป็นประกาย และเส้นผมก็เงางาม เสื้อผ้าของเขาสลายกลายเป็นฝุ่นไปเผยให้เห็นหน้าอกของเขา ร่างของเขาปลดปล่อยพลังอันมหาศาลออกมาพร้อมกับสายฟ้าที่คํารามอยู่ใต้ผิวหนัง บ่อโลหิตเทพอสูรยังมีของเหลวสีฟ้าอยู่อีกมาก มันถูกเติมเต็มไวเท่ากับที่ถูกดูดซับไป ไม่ต้องกลัวว่ามันจะหมด

 

ในที่สุดข้าก็ปรับเปลี่ยนร่างกายได้สําเร็จ เมิ่งชวนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขารู้สึกว่าอัสนีสายฟ้าเจ็ดเส้นนั้นไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงร่างของเขาจนสมบูรณ์ ต้องใช้อัสนีสวรรค์ถึงเก้าเส้นเขาถึงจะปรับเปลี่ยนร่างกายได้สําเร็จ

 

เขาได้รับร่างเทพอสูรที่แท้จริงมาแล้ว บอกลาร่างมนุษย์และขึ้นเป็นเทพอสูร

 

แต่ว่าก็ยังมีขั้นตอนที่สําคัญอยู่อีกขั้น ควบแน่นแก่นเมฆา

 

มนุษย์นั้นต่างจากอสูรที่พลังส่วนมากของพวกมันนั้นมาจากร่างกาย พลังเจ็ดส่วนเกิดจากร่างกายและอีกสามส่วนเกิดจากพลังอสูร พลังเจ็ดส่วนของเทพอสูรมนุษย์มาจากพลังปราณ ระดับแก่นเมฆา แดนอมตะ มหาสุริยัน เดือนมืดมิดและไร้ขอบเขตนั้นวัดจากรูปแบบของปราณในจุดตันเถียนของแต่ละคน

 

ภาพเทพอสูรบรรพกาล

ภาพเทพอสูรบรรพกาล

ภาพเทพอสูรบรรพกาล
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ภาพเทพอสูรบรรพกาล โลกนี้ถูกรุกรานโดยเหล่าปิศาจมานานนับศตวรรษ มนุษยชาติได้รวมตัวกันก่อตั้งสำนักที่เก่าแก่อย่างสำนักเขาหยวนชูขึ้นมา และจัดตั้งระบบการฝึกฝน พร้อมทั้งส่งเทพอสูรไปป้องกันประตูทางเข้าโลกต่างๆ เมิ่งชวนอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่เชี่ยวชาญกระบี่ไว แม้ว่าชีวิตนี้จะได้รับมรดกอันล้ำค่า แต่ปณิธานที่อยู่ภายในใจมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือกำจัดพวกปิศาจให้สิ้นซาก! ในอดีตมารดาของเขาได้ยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อปกป้องเขา เรื่องนี้กลายเป็นแผลในใจที่ไม่อาจจะลืมเลือนได้ เขามุ่งมั่นและทุ่มเททุกอย่างเพื่อที่จะได้เข้าสู่เขาหยวนชู และได้รับทรัพยากรกับการสั่งสอนที่ดีกว่า นอกเหนือจากการฝึกฝนแล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้จิตใจของเขาสงบลงได้ก็คือการวาดรูป และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset