บนยกพื้นที่ประชุม
ฟางหยวนยืนเด่นและมองไปรอบ ๆ
ท่ามกลางผู้คนที่กล่าวโทษเขา อู่อู๋เต๋าและแม่ทัพเฟยหลงนั้นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ขณะค่อย ๆ ขยับเข้าหาเขาอย่างช้า ๆ
ตัวแทนประเทศอื่น ๆ ก็มองภาพตรงหน้าอย่างเย็นชา หรือไม่ก็คาดหวัง
อย่างไรเสีย เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์อายุเพียงยี่สิบปีผู้นี้ก็สามารถใช้พลังธาตุได้แล้ว! อนาคตของเขานั้นทำนายไม่ได้เลย และยังดูเหมือนจะสามารถเข้าสู่ขอบเขตแยกธาตุได้ในอนาคตด้วย!
แน่นอนว่า พวกมันย่อมไม่ต้องการเห็นคนผู้หนึ่งมีพลังถึงเพียงนั้น นั้นจะเป็นการคุกคามต่อทุกประเทศ
ถึงตอนนี้ อู่จงและนักรบวิญญาณของแต่ละประเทศนั้นก็คอยปกป้องตัวแทนของประเทศตนอย่างใกล้ชิด มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าร่วมกลุ้มรุมด้วยสายตามุ่งร้าย เหมือนกับว่าได้รับคำสั่งมาให้ร่วมลงมือ
เป็นสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้แล้ว!
“สังหารคนผู้นี้ นำศีรษะของเขามาเป็นเครื่องสังเวย!”
อู่เฉียนคุนกัดฟันคำรามออกมา
เสียงของเขาคือคำสั่ง และทันใดนั้นคนที่สองข้างตัวเขาก็ลงมือทันที
“ตายซะ!”
แม่ทัพเฟยหลงนำอยู่ข้างหน้า สนามพลังรูปร่างคล้ายมังกรปรากฏขึ้นล้อมรอบร่างของเขา และทันใดนั้น เขาก็ตวัดฝ่ามือออกไปครั้งเดียว 18 ฝ่ามือ ปลดปล่อยพลังธาตุ สนามพลังกระจายออกและทหารหลายคนก็ถูกบีบให้ถอยออกไป พอจอกเหล้าตกพื้น ทั้งยกพื้นก็แตกออกเป็นชิ้น ๆ
“ฝ่ามือล่าเทวะ!”
อู่อู๋เต๋าเองก็ลงมือพร้อมกัน
เขาหวาดกลัวฟางหยวนเป็นอย่างมาก ดังนั้นเปิดกระบวนท่าแรกก็เป็นกระบวนท่าเอาชีวิตเลย
“ฝุ่บ!”
พร้อมกับการขยับมือก็มีประกายแสงแห่งพลังเวทย์ รอยฝ่ามือโปร่งแสงปรากฏขึ้นและจากนั้นก็หายไปในอากาศ
ฝ่ามือล่าเทวะนี้จะโจมตีเข้าจุดจูเฉียวโดยเฉพาะและยังเป็นที่รู้กันว่าไร้ร่องรอย เป็นฝ่ามือสุดหยินและเป็นพิษถึงตาย ก่อนหน้านี้ เจ้าเมืองอี้ซานฝูคนก่อน หลิวเอี๋ยน ก็ถูกฝ่ามือนี้ทำลายจุดจูเฉียว กระทั่งฟางหยวนก็อาจจะต้องยอมจำนวนกับฝ่ามือนี้
“ฆ่า!”
ไม่ใช่ทั้งสองคนที่ลงมือ อู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์จากประเทศเล็ก ๆ อื่นก็ลงมือด้วยเช่นกัน
เคล็ดวิชาเวทย์และวิทยายุทธ์หลายหลากล้วนแต่เล็งไปที่ตรงกลางกลุ่ม
“ครืน!”
“ฟุบ! ฟุบ!”
กลางอากาศ สัตว์วิญญาณหลายชนิดกระโดดขึ้น คอยดูแลพื้นที่ด้านบน และยังมีเงาราง ๆ ของคนผู้หนึ่งอยู่บนนั้นด้วยเช่นกัน
ไม่มีทางหนีแล้ว!
เผชิญหน้ากับการโจมตีจากรอบด้าน ฟางหยวนที่ฝึกทั้งวิทยายุทธ์และวิชาเวทย์ก็ไม่มีโอกาสเช่นกัน แม้ว่าเขาจะฝึกจนถึงจุดสูงสุดของระดับรวมธาตุ แม้ว่าจะมีความช่วยเหลือจากสัตว์วิญญาณของเขา เขาก็ไม่มีทางหนีอยู่ดี!
แต่เขาไม่ใช่ฟางหยวนที่ไร้ความสามารถอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว!
ทั้งแม่ทัพเฟยหลงและฝ่ามือล่าเทวะนั้นพุ่งตรงมาหาเขา และยังมีอู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์อีกหลายคนโจมตีจากด้านหลังด้วยพร้อมกัน
แต่ว่า ทั้งหมดที่ฟางหยวนทำก็คือสูดลมหายใจลึกยาว
“ฟู่!”
ขณะที่ระดับพลังของเขาพุ่งขึ้น ชีพจรศักดิ์สิทธิ์อันแข็งแกร่งและมองเห็นได้ชัดเจนก็ปรากฏขึ้นบนร่างของเขา!
อู่จงที่ระดับที่สอง ขอบเขตเปิดชีพจร!
“ฝ่ามือล่าเทวะ!?”
เขามีท่าทีใจเย็น ขณะเหยียดมือข้างขวาออกไป เขาใช้สองนิ้วกดลงที่หน้าผากของตัวเอง
“โครม!”
กลางอากาศ รอยฝ่ามือปรากฏขึ้นตอนที่มันเกือบจะโจมตีโดนฟางหยวน แต่ว่า มันกลับตกลงสู่กับดักของฟางหยวน และก็มีเสียงโครมดังลั่น ภายในวินาทีเดียว มันก็สลายไปราวกับฟองอากาศ
“ติ๊ง! ติ๊ง!”
ดวงตาของแม่ทัพเฟยหลงเบิกกว้าง ฉวยโอกาสนี้ ตวัดฝ่ามือมากมายใส่ฟางหยวนราวกับบ้าคลั่ง “สิบแปดฝ่ามือเฟยหลง!!”
“ครืน!”
หลังจากเสียงดังลั่น ชุดของฟางหยวนก็ฉีกขาดเป็นริ้ว เผยให้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและเส้นเลือดปูดนูน เขาคว้าข้อมือของแม่ทัพเฟยหลงไว้ได้แล้วพูดเยาะเย้ย “เป็นอย่างไร? พอหรือยัง?”
“เป็นไม่ได้!”
แม่ทัพเฟยหลงและอู่อู๋เต๋าแทบจะตาถลนออกจากเบ้า
แม้ว่าฟางหยวนจะใช้เคล็ดกำลังภายนอกทะลวงขึ้นสู่ระดับอู่จง ทำให้เขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่แม่ทัพเฟยหลงเองก็เป็นอู่จงเช่นกัน! นอกจากนี้ แม่ทัพเฟยหลงยังกรำศึกมานานหลายปี ใช้กระบวนท่าเอาชีวิต ต่อให้เป้าหมายของเขาเป็นรูปสลักโลหะ เขาก็ยังสามารถทุบตีมันให้แตกเป็นชิ้น ๆ ได้!
แต่เกิดอะไรขึ้นกับฟางหยวน? เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดเลยสักนิด?
แม่ทัพเฟยหลงตกใจเกินจะบรรยายเป็นคำพูดได้ พอฟางหยวนคว้าข้อมือของเขา เขาก็รู้สึกราวกับฝ่ามือของฟางหยวนนั้นทำจากเหล็ก สีหน้าเขาเปลี่ยนไป เขาร้องออกมา “ท่านราชครู ช่วยข้า…”
“แกร่บ!”
ตอนปลายประโยค แขนทั้งข้างของเขาก็หักลงภายใต้กำมือของฟางหยวน ราวกับเขาเป็นขยะชิ้นหนึ่ง ฟางหยวนเหวี่ยงแม่ทัพเฟยหลงทิ้งไป
“ไป…ให้พ้น!”
ตอนที่ฟางหยวนตะโกน ชีพจรศักดิ์สิทธิ์บนร่างของเขาก็ทอประกาย และทันใดนั้น ประกายเรืองรองนั้นก็ไหลมาสู่มือขวาของเขา เขาเหวี่ยงหมัดออกไปอีกครั้ง
“ครืน!”
ยกพื้นสั่นสะเทือน และไม้ที่รองรับอยู่หลายชิ้นแตกออก ราวกับจะถล่มลงไปตอนไหนก็ได้
อู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์ที่รอบ ๆ ล้วนกระอักเลือดออกมาและปลิวถอยไปด้านหลัง อู่อู๋เต๋าที่อยู่ด้านหน้านั้น ถูกชกเขาที่หน้าอกและล้มลงใส่ยกพื้น บนหน้าอกของเขาเกิดรูขึ้นมองเห็นอวัยวะภายใน
ใครจะคิดว่าเพียงแค่หมัดเดียวจะมีพลังถึงเพียงนี้!
“เป็นไปไม่ได้!”
สถานการณ์พลิกกลับภายในเสี้ยววินาที
กระทั่งเซี่ยหลิงอวิ๋นเองก็งันไป
“นี่… นี่ไม่ใช่วิชาเวทย์! แต่… เป็นวิทยายุทธ์เท่านั้น…”
แม่ทัพเฟยหลงกระอักเลือดออกมาอีกหลายคำก่อนจะตะกายลุกขึ้นถาม “นี่มันวิชาอะไร? หรือว่าเจ้า… ทะลวงด่านแล้ว!”
เพื่อที่จะเอาชนะอู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายภายในครั้งเดียว มีความเป็นไปได้เดียว เขาต้องขึ้นถึงระดับขอบเขตแยกธาตุ!
“เคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็ก!”
ตั้งแต่ทะลวงฝ่าได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนใช้พลังทั้งหมด และมันก็ให้ความรู้สึกต่างไปจากก่อนหน้า
“หลังจากขอบเขตเปิดชีพจร พลังธาตุของข้าก็เพิ่มขึ้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น ข้ายังสามารถต้านทานคาถาเวทย์ได้!”
มองนักรบศักดิ์สิทธิ์หลายคนที่กระอักเลือดอยู่ เขาก็ครุ่นคิด
ตอนนี้ วิชาเวทย์และคำสาปล้วนมีเป้าหมายอยู่ที่เขา แต่ว่า ชีพจรศักดิ์สิทธิ์ปกป้องร่างกายของเขา เพียงการสั่นของพลังเล็กน้อยก็ทำลายวิชาเวทย์และคำสาปทั้งหมด และยังมีผลสะท้อนกลับไปที่ผู้ใช้คาถาด้วย!
‘ความแตกต่างนี้ ยิ่งอู่จงระดับสูงขึ้น จำนวนชีพจรศักดิ์สิทธิ์ก็มากขึ้นและการต้านทานวิชาเวทย์ก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นตามไป…’
‘ถ้ามีนักรบศักดิ์สิทธิ์ระดับแยกธาตุคอยช่วยพวกเขาอยู่ เช่นนั้นข้าย่อมไม่สามารถรับพลังโจมตีร่วมของพวกเขาได้ แต่ว่า คนไร้ประโยชน์พวกนี้มาที่นี่ก็เพื่อทิ้งชีวิตของตนแล้ว!’
ท่ามกลางความเงียบ ฟางหยวนยืนอยู่บนยกพื้นและมองไปรอบ ๆ ไม่มีตัวแทนประเทศใดกล้ามองสบตากับเขาเลย
กระทั่งอู่เฉียนคุนก็นั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้ของเขา ใบหน้าซีดเผือด
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะมาถึงวันนี้!”
ฟางหยวนกำหมัดแน่น
นี่เป็นพลังที่มากพอที่จะกดข่มทั้งดินแดน!
ถึงตอนนี้ ฟางหยวนก็มองไปที่หน้าต่างสถานะของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 18.0
พลังลมปราณ: 18.0
พลังเวทย์: 9.9
สายวิชา: จ้าวแห่งฝัน
การฝึกตน: [จ้าวแห่งฝัน (ระดับสูงสุดของขอบเขตรวมธาตุ)], อู่จง (ชีพจรแรก)
วิทยายุทธ์: [อินทรียักษ์กายาเหล็ก (ระดับ 2) (0 ใน 10 ส่วน)], คาถาสะกด, ก้าวมายา
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)]”
“วิชาอินทรียักษ์กายาเหล็ก (ชีพจรแรก)— วิทยายุทธ์อันเป็นเอกเทศที่มีพื้นฐานจากการรวมเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กและลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนเข้าด้วยกัน วิชานี้เกิดจากพลังธาตุและเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยลมปราณยิ่งใหญ่ เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการป้องกันตัวเอง การใช้พิษ พลัง และพลังหยิน ระดับปัจจุบันกำเนิดชีพจรศักดิ์สิทธิ์จุดแรก! สามารถต่อต้านคาถาเวทย์ได้!”
ฟางหยวนคิดกับตัวเอง “ตอนนี้ ข้าอยู่ที่พลังธาตุระดับที่สาม ดูเหมือนว่าถ้าเป็นอู่จงทั่วไปก็น่าจะสามารถทะลวงด่านได้จนถึงระดับ 5 หรือ 6?”
พลังธาตุระดับสามนั้นเทียบเท่ากับพลังการต่อสู้ของอู่จงสามคนรวมกัน!
นอกจากนี้ พลังการต่อสู้ดูยังดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นในลักษณะนั้น
“เจ้าทะลวงผ่านสู่ขอบเขตแยกธาตุแล้ว?”
แม่ทัพเฟยหลงยืนตัวตรงราวกับเสาที่ปักไว้บนพื้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ฟางหยวนบอกได้ว่านี่เป็นคำถามจากใจจริงของผู้ฝึกยุทธ์ที่สงสัยเกี่ยวกับการฝึกวิทยายุทธ์ของเขา
“มีหนทางถัดจากอู่จงจริงใช่หรือไม่?”
แม่ทัพเฟยหลงดูเอาจริงเอาจัง เขาก้าวเข้าไปหาฟางหยวนและโค้งตัวคารวะอย่างนับถือ เหมือนถ้าต้องตาย ก็ต้องตายอย่างบุรุษผู้ดีงาม
“ถูกต้อง นักรบศักดิ์สิทธิ์มีขอบเขตแยกธาตุ และอู่จงมีขอบเขตเปิดชีพจร!”
ความกระหายในความรู้แม้อยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานทำให้หัวใจของฟางหยวนอ่อนลง เขาคารวะกลับ
“ฮ่าฮ่า… ข้าเริ่มเรียนวิทยายุทธ์ตั้งแต่อายุแปดปี ถึงประตูทองที่สิบสองตอนอายุสามสิบปี และใช้เวลาอีกยี่สิบปีถึงได้เป็นอู่จง เดิมทีข้าคิดว่าข้าคงจะถึงทางตันแล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนตัวเองมาเป็นแม่ทัพในกองทัพ ในที่สุดแล้ว วิทยายุทธ์ก็ไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวัง!”
แม่ทัพเฟยหลงเปลี่ยนเป็นจริงจังกว่าเดิมและทำสัญญาณมือ “ได้โปรด! ได้ตายตกภายใต้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเปิดชีพจรนับเป็นเกียรติของข้าแล้ว!”
“ท่านไม่ทัพ ไม่!”
สีหน้าของอู่เฉียนคุนเปลี่ยนไป
อู่อู๋เต๋าเองก็ไม่ปลอดภัย แลเขาก็ไม่ต้องการสูญเสียอู่จงระดับสูงไปอีกคน
แต่ว่า แม่ทัพเฟยหลงนั้นปัดทุกความคิดเกี่ยวกับฐานะและชื่อเสียงทิ้งไปแล้ว เขาเหลือเพียงจิตใจอันบริสุทธิ์ของผู้ฝึกยุทธ์และร้องขอให้ฟางหยวนสังหารเขา
“ได้โปรด!”
ฟางหยวนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น เขารวมพลังไปที่มือขวา
“ฮ่า! ฝ่ามือล่ามังกรเทวะ!”
แม่ทัพเฟยหลงเปลี่ยนเป็นเงาร่างหนึ่งในทันทีและพุ่งเข้าไปตรงหน้าฟางหยวนอย่างรวดเร็ว เขาเพ่งพลังไปที่มือซ้าย ก่อเกิดกรงเล็บมังกรอย่างช้า ๆ
“พลังธาตุระดับสาม!”
โดยไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาใด ฟางหยวนชกหมัดออกไปอย่างเรียบง่าย
“โครม!”
พลังมหาศาลกระแทกกับพลังของแม่ทัพเฟยหลง และมันก็ถาโถมผ่านแขนของเขาเข้าไปในร่างของเขา ทำลายทุกอย่างที่อยู่ระหว่างทาง
“ผัวะ!”
แม่ทัพเฟยหลงปลิวไปด้านหลัง เลือดสาดกระจายออกมา
“แค่ก แค่ก…”
เขากระแทกเข้ากับโต๊ะตรง ๆ และกระอักเลือดออกมา “เปิดชีพจร! นี่คือเส้นทางของอู่จงงั้นหรือ? น่าเสียดาย… ข้าคงไม่สามารถพบเห็นได้อีกครั้งแล้ว…”
หลังจากพูดประโยคนี้จบ เขาก็หลับตาและลมหายใจขาดห้วงไป!
“ท่านราชครู! ท่านแม่ทัพ!”
อู่เฉียนคุนงันไป จิตใจล่องลอย
เมื่อครู่เขายังกดข่มทุกประเทศอยู่ และขึ้นเป็นผู้นำกองกำลังร่วมอย่างถูกต้องพร้อมกับบัณฑิตและผู้ฝึกยุทธ์ที่เก่งกาจ!
แต่ตอนนี้ ผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ทั้งสองของเขาถูกสังหารในพริบตาเดียว!
ผู้ที่ประสบกับการเปลี่ยนเปลงเช่นนี้ย่อมรู้สึกราวกับตายไปแล้ว
มองไปรอบ ๆ เขาก็พบว่าหลายประเทศที่ก่อนหน้านี้สาบานเข้าร่วมกองกำลังก็กำลังกระวนกระวายเช่นกัน บางคนเริ่มมองที่ประเทศด้วยความตั้งใจจะสานสัมพันธ์อันดีกับพวกเขา ไม่มีใครกล้าสบตากับเขา แต่เขาก็จนหนทางแล้วเช่นกัน
ในโลกนี้ พลังคือทุกอย่าง!
ถ้าฟางหยวนยังอยู่ในขอบเขตรวมธาตุ เช่นนั้นพวกเขาก็คงทำทุกอย่างเพื่อสังหารฟางหยวนให้ได้
แต่ว่า เขาทะลวงด่านได้แล้ว และสิ่งเดียวที่ควรทำก็คือไปเข้าร่วมฝ่ายเดียวกับเขาเสีย ใครจะไปสนใจว่าหัวหน้ากองกำลังร่วมีอก? ในเมื่อหัวหน้ากองกำลังร่วมนั้นได้รับเลือกจากคนอื่น ๆ เช่นนั้นเขาก็ถูกคนอื่น ๆ ปลดออกได้เช่นกัน!
“จู่ ๆ ข้าก็รู้สึกว่า การเลือกหัวหน้ากองกำลังร่วมของเราก่อนหน้านี้ พวกเราควรจะลงความเห็นใหม่อีกครั้งหนึ่ง!
ตัวแทนของประเทศคุนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แค่ก แค่ก…”
ราชาของประเทศจูกระแอม และเกือบจะสำลักเพราะว่านี่ก็เป็นสิ่งที่เขากำลังจะพูดออกไปเช่นกัน มองตัวแทนของประเทศคุนอย่างเสียอารมณ์เขาก็เสริมขึ้น “นั่นก็จริง ข้าอยากจะแนะนำเป็นตัวแทนของประเทศเซี่ย พวกท่านคนอื่น ๆ มีความเห็นอื่นหรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่! เจ้าเมืองฟางเป็นผู้มีพรสวรรค์ ในเมื่อเขาเป็นเจ้าเมืองอี้ซานฝู เขาก็สามารถตั้งตนขึ้นเป็นประเทศได้ และยังเป็นราชครูของประเทศเซี่ยอีกด้วย! เขาเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะรับตำแหน่งหัวหน้ากองกำลัง!”
ตัวแทนของประเทศเล็ก ๆ ประเทศหนึ่งให้ความเห็น แต่ทั้งหมดที่เขาได้รับก็คือสายตาจากตัวแทนของประเทศอื่น
“ฮ่าฮ่า… ฮ่าฮ่า…”
เห็นภาพนี้แล้ว อู่เฉียนคุนก็ฉีกยิ้มและเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ดี! ดี! ดีเลย! พวกเราช่างเป็นสมาชิกกองกำลังที่ดี!”
เขารู้ว่าแม้จะมีผู้คุ้มกันอยู่ ชะตาของเขาก็ตกอยู่ในมือฟางหยวนไปแล้ว!
TL note: ผู้แปลตรวจสอบในต้นฉบับภาษาจีนแล้ว พบว่าก็เขียนไว้ว่า ฟางหยวนมีพลังระดับ 3 ทั้งสองจุดเขียนไว้ตรงกัน