เพราะพลเมืองแรกเริ่มของประเทศหยวนจากดินแดนทุ่งหญ้าเป็นพวกทะเยอทะยาน
พวกเขาตั้งรกรากที่บริเวณนี้เพราะแหล่งน้ําและที่ลุ่มในการเพาะปลูก และทั้งดินแดนนี้ก็เมืองใหญ่เพียงไม่กี่เมือง
ตอนที่ฟางหยวนน้ําประเทศต่าง ๆ มุ่งหน้ามาเมืองหลงเชิง พวกเขาก็ไม่ได้ต้องเผชิญหน้ากับชาวเมืองมากนักในระหว่างทาง มีการต่อต้านเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แน่นอนว่า ยิ่งเข้าใกล้เมืองหลงเชิง ก็ยิ่งมีอุปสรรคระหว่างทาง
ตรงหน้าฟางหยวนเป็นทหารม้าหลายแถว แม้ว่าจะดูไม่เป็นระเบียบนัก ก็ยังดูมีพลังแกร่งกล้า แต่ละคนดูร้ายกาจและม้าก็ล้วนเป็นพันธุ์ดี ดวงตาสีแดงและบางครั้งก็พ่นลมหายใจออกมาจากปากให้เห็นเป็นไอ ฟังสีขาวเป็นแนวเห็นได้ชัดเจนเมื่อม้าแยกเขี้ยวยิงฟัน
“อาจารย์ ข้ามีข้อมูล!”
ขณะที่ทหารรอคําสั่งของพวกเขาอยู่ เซี่ยหลิงอวิ๋นก็บังคับม้าขยับมาข้างตัวฟางหยวน “ ที่อยู่ตรงหน้าพวกเราคือหน่วยจินหยางและโหลวเนี่ย เป็นกองทัพขององค์ชายสามและองค์ชายสี่! พวกเราควรจะส่งใครออกไปคุยกับพวกเขาหรือไม่?”
“ไม่จําเป็น เรียกตัวแทนของทุกประเทศเข้ามา!”
ฟางหยวนนั้นมีอํานาจเหนือทุกประเทศแม้จะไม่ได้ประกาศออกมาเป็นทางการ เขา เพียงผู้เดียว ก็สามารถตัดสินความเป็นความตายของพวกนั้นได้ ดังนั้นเมื่อคําสั่งถูกถ่ายทอดลงไปก็ไม่มีใครไม่กล้าเชื่อฟัง
ไม่นานนัก อู่เฉียนคุนและพวกก็มาอยู่ต่อหน้าเขา
“ทุ่งหญ้ายิ่งใหญ่แห่งประเทศหยวนนั้นเป็นปัญหาใหญ่ของพวกเรา ข้านั้นไร้สามารถ แต่ข้าก็ ต้องการจัดการกับปัญหานี้”
ฟางหยวนสั่ง “ให้ทหารม้าทั้งหมดมารวมกันและตามข้ามา พวกเราจะบุกฝ่าเข้าไป!”
“เดี๋ยวก่อนนะ พวกเราไม่ควรเจรจากับพวกเขาก่อนรึ?”
อู่เฉียนคุนงงงวย
ในทางหนึ่ง เขาก็หวังว่าฟางหยวนจะตายจากการบุกเข้าไปในกองทัพตรงหน้า
แต่อีกทางหนึ่ง มองเห็นความขัดแย้งภายในของประเทศหยวนก็ทําให้เขารู้สึกว่าเขาใกล้จะประสบความสําเร็จแล้วจริง ๆ ดังนั้นจึงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
ในที่สุด ความคิดจะปล่อยให้ฟางหยวนตกลงไปในกับดักของคนพวกนี้ก็เป็นฝ่ายชนะ
“ไม่จําเป็น! พวกเขาไม่กลัวพวกเรา! ถ้าพวกเราไม่เอาชนะพวกเขาซะ ก็ไม่มีพื้นที่ให้เจรจา!”
โดยไม่สวมเกราะใด ๆ ฟางหยวนรวบรวมทหารม้าห้าพันและเริ่มพุ่งตัวออกไป
“ไม่มีใครสู้พวกเราได้”
ในขุดคลุมสีขาว ฟางหยวนบนหลังม้าขาวที่ด้านหน้าทัพนั้นดูสง่างาม
ม้าสีขาวนั้นไม่นับเป็นม้าดี! เพราะว่าตั้งแต่โบราณมาก ม้าทุกตัวล้วนสีน้ําตาหรือดํา และการบนหลังม้าสีขาวนั้นดึงดูดความสนใจเกินไป นอกจากนี้ มันยังตกเป็นเป้าหมายของปืนไฟ แต่ทว่าฟางหยวนไม่จําเป็นต้องกังวลเรื่องพวกนี้
“บุก!”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
แม้ว่าการจู่โจมจะเป็นแผนการที่ผุดขึ้นกะทันหัน จิตวิญญาณและความกระตือรือร้นของฟางหยวนนั้นกลับเป็นราวโรคติดต่อ และพวกมันทุกคนก็มีใจจะสู้ขึ้นมา
“ทหารม้าของคนทางใต้?”
ที่ค่ายฝั่งตรงข้าง องค์ชายทั้งสองนั้นโมโหขึ้นมาเมื่อเห็นคนทางใต้ไม่สนใจการป้องกันของพวกเขาแม้ว่าจะเห็นกองทัพของพวกเขาทั้งคู่แล้วก็ตาม “ทําลายพวกมันเสีย!”
“บุก!”
หน่วยทหารม้าของดินแดนทุ่งหญ้าล้วนตะโกนออกมาขณะเร่งม้าขึ้นไป
ม้าศึกพวกนี้สูงใหญ่กว่าม้าจากทางใต้และยังร้ายกาจกว่า
ว่ากันว่าบนดินแดนทุ่งหญ้าของประเทศหยวนนั้นมีม้าวิเศษ มันมาจากสวรรค์ชั้นเก้าและยัง เป็นผู้นาของสัตว์วิญญาณทั้งปวง
ม้าวิเศษนั้นไม่ได้อยู่อย่างม้าทั่วไป และสามารถพบได้เฉพาะในพื้นที่อันตราย
ทุกครั้งที่คนเลี้ยงม้าต้องการตามไปดูว่าม้าวิเศษนั้นอยู่ที่ใด พวกเขาจะปล่อยม้าตัวเมียที่สวยงามและว่าง่ายเป็นที่สุดเข้าไปบนภูเขาและหุบเขา
ม้าตัวเมียประมาณสิบตัวจากทั้งหมด จะมีอย่างน้อยหนึ่งตัวกลับมาพร้อมกับลูกในท้อง ทายาทของม้าวิเศษนั่น
หลังจากผ่านมาหลายชั่วอายุ ก็กลายเป็นมาตรฐานของม้าศึกในดินแดนทุ่งหญ้า
แม้ว่าพวกมันจะสืบทอดเลือดของม้าวิเศษมาเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังแข็งแกร่งกว่าม้าทั่วไปมาก ถ้าผู้ฝึกยุทธ์ระดับใช้กําลังภายในมายืนเป็นกําแพงมนุษย์ ม้าพวกนี้ก็ยังสามารถทะลวงฝ่าได้โดยง่าย
ทหารม้าสองแถวเรียงตัวเป็นรูปปลายศรพุ่งเข้าใส่กัน
“ปัง!”
“ปัง ปัง!”
ในที่สุด หลังจากการปะทะหลายครั้ง ทหารบางคนก็พุ่งเข้าใส่กัน กลายเป็นศพชุ่มเลือดกองหนึ่ง
“ยิ่ง!”
คนจากประเทศหยวนนั้นเติบโตบนหลังม้า วิชาธนูของพวกเขานั้นโดดเด่นและสามารถยิงออกได้อย่างเต็มกําลังในระยะใกล้
“ฝุบ ฝุบ!”
ลูกศรราวห่าฝนเล็งมาทางฟางหยวน แต่ว่า ไม่แม้แต่จะเจาะผ่านสนามพลังรอบร่างเขาได้และ ได้แต่ร่วงลงพื้น
“ตายซะ!”
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาโบกมือ หัวของม้าสองหัวก็หล่นลงพื้น
“พวกมันอ่อนแอเกินไป! ต่อให้ข้าใช้คาถาสะกด พวกเขาก็ทําได้แค่ตามมาตรฐานเท่านั้น!
ฟางหยวนมองด้านหลังตัวเอง ทหารม้าหลายหน่วยตวัดหอกไปรอบ ๆ ขณะเข้าสู่การต่อสู้รุนแรงกับทหารม้าจากดินแดนทุ่งหญ้า มันช่างน่าสมเพชและบาดตาเกินจะทนได้ที่การต่อสู้ส่วนมากนั้น ใช้ทหารสองคนป้องกันทหารประเทศหยวนหนึ่งคน ทหารพวกนี้ช่างไร้ประโยชน์เกินจะหวังอะไรได้
“อย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้เชี่ยวชาญการรบบนหลังม้า นอกจากนี้พวกเราก็เป็นเพียงกองกําลังร่วม และทหารพวกนี้ไม่รู้จักผู้บัญชาการเท่าที่ผู้บัญชาการรู้จักทหารของตน ดังนั้น ข้าจะโทษพวกเขาไม่ได้!”
“โชคดี แผนการของข้าไม่ได้ต้องพึ่งพาพวกเขา!”
มองไปทางหนึ่ง ฟางหยวนกกระโดดลงจากหลังม้าของตน
“ฝุบ!”
เคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็กของเขาใช้ออกถึงขีดสุด และหาลูกศรก็ไม่สามารถชะลอเขาไว้ได้ด้วยซ้ํา จากสายตาเขาเปลี่ยนเป็นเงาสีขาว หลังจากกระโดดไม่กี่ครั้ง เขาก็ไปถึงตรงหน้าผู้บัญชา การกองทัพที่กําลังสั่งการ
ผิวหนังของคนผู้นี้ราวกับเหล็กกล้าที่สะท้อนการโจมตีได้ เห็นฟางหยวนตรงมาทางเขา เขาก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และกระโดดถอยหลัง ในเวลาเดียวกันก็ตวัดมีเล่มใหญ่ออกไปหลายครั้ง
“ปกป้องผู้บัญชาการ!”
ที่รอบ ๆ ทหารม้าหลายหน่วยพุ่งมาทางฟางหยวน พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสีประตูสวรรค์ และผู้บัญชาการยิ่งแข็งแกร่งกว่า มีระดับการฝึกตนที่ระดับสูงสุดของประตูทองที่ 12
การถอยของเขาและการควงแคบเข้ามาล้อมฟางหยวนเกิดขึ้นในไม่กี่วินาที ดูเหมือนว่า ทหารพวกนี้จะเชี่ยวชาญกลยุทธ์นี้มากราวกับได้ฝึกซ้อมมาก่อนเป็นพัน ๆ ครั้ง เป็นกลยุทธ์ที่เตรียมไว้เพื่อสงครามแบบนี้จริง ๆ
อย่างไรเสีย ในโลกนี้ ก็มีทั้งคู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์! สงครามย่อมต้องมีการปรับเพื่อ รับกับตัวตนพวกนี้
“ไร้ประโยชน์!”
ฟางหยวนคําราม ความเร็วของเขาจู่ ๆ ก็เพิ่มขึ้น เขาหนีออกจากวงล้อมและพุ่งไปที่ตรงหน้า ผู้บัญชาการ เขารวบและทําลายมีดสั้นทิ้งด้วยปลายนิ้วและในเวลาเดียวกันก็แตะนิ้วลงที่หน้าผากของผู้บัญชาการ
“โผละ!”
หัวของผู้บัญชาการระเบิดออกราวกับผลชซือกว๋อ และร่างของเขาก็หล่นลงพื้น
ทหารแปดนายที่ล้อมวงอยู่ตัวแข็งที่อไป ตอนนี้ ดวงตาของพวกมันแดงก่ําด้วยความโกรธเกรี้ยว “ ตายซะ!”
ประเทศหยวนนั้นฝึกทหารอย่างเข้มงวด ถ้าผู้บัญชาการเสียชีวิต พวกมันทั้งหมดก็ไม่รอด รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวด้วย
ถึงตอนนี้ พวกมันก็คือคนตายไปแล้วในสายตาของประเทศของมัน หนทางเดียวที่พวกมันจะ มีโอกาสรอดชีวิตไปได้ก็คือสังหารฟางหยวนเพื่อเป็นการทําคุณไถ่โทษให้ตัวเอง ดังนั้นพวกมันทั้งหมดก็พุ่งเข้าใส่ฟางหยวนโดยไม่คํานึงถึงชีวิตตัวเอง
“ไม้ซีกอยากจะงัดไม้ซุงงั้นรีบ”
ฟางหยวนเหยียดแขนออกไป ตอนที่ดาบตวัดมาใส่แขนของเขาก็ราวกับกระแทกเข้ากับโลหะ และสะท้อนกลับอย่างแรง
“ติ๊ง ติ๊ง”
ทันใดนั้น ทหารทั้งแปดกราวกับกลายไปเป็นรังผึ้ง ร่างของพวกมันเต็มไปด้วยแผลจํานวนนับไม่ถ้วน เลือดซึมไหลออกมาจากทุกแผล
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในแค่ไม่กี่วินาที ผู้บัญชาการและทหารทั้งแปดนายกีตายตกไป ทหารนับ พันภายใต้บัญชาการของเขาที่เหลืออยู่ก็เริ่มวิตก
ในกองทัพของประเทศหยวน ผู้บัญชาการแบ่งออกเป็นหลายระดับ ตั้งแต่มีผู้ใต้บัญชา 10 นาย 100 นาย ไปจนถึง 1000 นาย และที่ตายไปก็เป็นผู้บัญชาการระดับนายกองพัน! เขาเป็นผู้นําระดับสูงคนหนึ่ง และการตายของเขาก็หมายความว่าการออกคําสั่งนั้นขาดตอนไปทันที
ฟางหยวนไม่ได้ช้าลงเลยสักนิด ชิงม้าตัวอื่นมาได้เขาก็พุ่งเข้าใส่กองทัพทหารสองหมื่นทันที
“ฆ่ามัน!”
“ฆ่ามัน!”
ทหารจากประเทศหยวนกลายเป็นวุ่นวาย ทํามกลางทหารราบนับพันทหารม้านับหมื่น จุดสี ขาว ๆ พุ่งผ่านไปทั่ว ๆ ฟางหยวนสังหารผู้บัญชาการระดับนายกองพันอีกหลายคนอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้
“แม่ทัพ ไม่ต้องซ่อนตัวหรอก นอกเสียจากกองทัพของท่านจะไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา! อ่า ฮ่าๆ
ฝั่งตรงข้า เฉียนคุนมองเงาสีขาวที่วิ่งไปทั่ว ๆ กองทัพของประเทศหยวน ได้ยินเสียงโห่ร้อง อย่างยินดีจากที่ข้าง ๆ เขาก็มีนงงไปด้วยกันกับตัวแทนจากประเทศอื่น ๆ
“ได้เวลาตอบโต้แล้ว พวกท่านทุกคนรออะไรอยู่?”
เซี่ยหลิงอวิ๋นมองคนผู้นั้นที่ราวกับเป็นกองทัพทหารเดียวที่สามารถขัดขวางศัตรูไว้ได้ ดวงตาเปล่งประกาย “รวบรวมทหารทั้งหมดของพวกเราและบุก! บุก!”
“ ฟังเสียงกลองและบุก!”
ราชาแห่งประเทศเซียออกคําสั่ง
อู่เฉียนคุนเดิมหวังว่าฟางหยวนจะตกลงไปในกับดักของศัตรู แต่ว่าเขาก็สูญเสียความหวัง ทั้งหมดไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เขาตัดสินใจจะให้ความเคารพต่อฟางหยวนมากขึ้น
“ บุก!”
นายทหารเก่งกล้ากว่าสองหมื่นคํารามออกมา เสียงของพวกมันสั่นสะเทือนฟ้าดิน ต่อจาก ทหารม้าอันยอดเยี่ย พวกมันก็เริ่มรุกเข้าไปเช่นกัน
“ฉัวะ!”
เลือดสาดกระจายเมื่อผู้บัญชาการระดับนายกองพันอีกคนล้มลงพื้น สีหน้ายังไม่อยากเชื่อ
“นี่น่าจะเป็นคนที่เจ็ด!”
ฟางหยวนโยนศพทิ้งไปอย่างง่าย ๆ เส้นทางตรงหน้าเขานั้นว่างโล่งแล้ว และสามารถมองเห็น ชายสองคนในชุดคลุมสีสว่างวิ่งหนีไป
“เจ้าหนี้ไม่ได้หรอก!”
แล้วเขาก็สูดลมหายใจลึก ประกายของพลังเวทย์ปรากฏขึ้นและล้อมอยู่รอบตัวเขา
“ปกป้ององค์ชาย!”
หมอผีหลายคนกระโดดออกมาขณะร่ายคาถาด้านมืดมากมายใส่เขา
อู่จงอีกหลายคนปรากฏตัวขึ้นและพยายามทําให้เขาจนมุม
“พวกเจ้าคิดว่าจะสามารถหยุดข้าได้รึ?”
ขณะที่คาถาเวทย์หลายชนิดตกลงบนร่างเขา ชีพจรศักดิ์สิทธิ์จู่ ๆ ก็ส่องสว่างขึ้นทําให้คาถาเหล่านั้นสลายไปในอากาศ
เขาเพ่งพลังไปที่กรงเล็บ แล้วฟางหยวนก็ลงมือ “กรงเล็บอินทรียักษ์”
พลังธาตุของเขารวมตัวกัน มันดูเหมือนจริงราวกับจะสัมผัสได้ตอนที่ฟางหยวนตวัตกรงเล็บใส่ อู่จงสองสามคนนั้น พวกมันกลายเป็นกองเลือดเนื้อเละไปในพริบตา!
เป็นพลังร้ายกาจจากผู้ที่ครอบครองพลังธาตุระดับที่สาม!
“เจ้า เจ้ามันไม่ใช่มนุษย์ ฉิวเท่อเกือ! ฉิวเท่อเกือ!”
เห็นองครักษ์ของพวกตนถูกฟางหยวนบดขยี้อย่างง่ายดาย พวกมันก็รีบเร่งฝีเท้าออกวิ่งได้ เร็วกว่ามาเสียอีก! เมื่อถูกไล่ตามทัน ก็หวาดกลัวจนนี่รดกางเกงเปียกชุ่ม
หนึ่งในสองคนดูอายุมากกว่าและหน้าตาคล้ายกับเก่อรื่อถู เขาเป็นคนที่ชี้หน้าฟางหยวนและกรีดร้องออกมา
ฉิวเท่อเก๋อหมายถึงปีศาจร้ายในภาษาของประเทศหยวน
แม้ว่าพวกเขาจะรู้เรื่องผู้ฝึกตน แต่ก็ยังทําเหมือนว่าผู้ที่มีพลังพวกนั้นเป็นปีศาจร้าย!
“พวกเจ้าทั้งคู่ช่างไร้ประโยชน์! เดี๋ยวก่อน ข้าสามารถใช้พวกเจ้าทั้งสองได้นี่นา!”
ฟางหยวนคว้างคนทั้งคู่ขึ้นมาแล้วชิงม้าตัวหนึ่งมา ใช้สองคนนี้เป็นโล่ ทหารของพวกเขาจะยังกล้ายิงธนูใส่ได้อย่างไร? แล้วฟางหยวนก็เร่งมากลับไปที่กองทัพของเขา
“ตุบ!”
เขาโยนองค์ชายอ่อนแอทั้งสองให้เซี่ยหลิงอวิ๋นอย่างง่าย ๆ “ทั้งสองคนนี้เป็นทาสขั้นสูง ให้ พวกเขาได้ลิ้มรสของทหารม้าจากดินแดนทุ่งหญ้าดู! ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเราก็ยังใช้เขาแลกเปลี่ ยนกับองค์ชายอื่นได้ ลองดูว่าพวกนั้นจะยอมจ่ายเพื่อพวกเขาสองคนสักเท่าใดกัน!”
“อาจารย์”
เซี่ยหลิงอวิ๋นอ้าปากค้าง แต่ไม่ได้พูดอะไรสักคํา
จงคนอื่นมองเขาอย่างหวาดกลัวและยังเหงื่อไหลพรั่งพรู
จับตัวผู้นําทัพได้ท่ามกลางทหารนับพัน!
พวกเขาไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ หากพวกเขาถูกผู้ฝึกยุทธ์ที่มีความสามารถเท่ากันนี้ล้อมเอาไว้ และยังมีการจู่โจมจากศัตรูอื่น พวกเขาต้องถูกจับตัวเอาไว้ได้เป็นแน่
แต่ว่า ฟางหยวนได้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาแล้วในวันนี้
เมื่อเห็นเช่นนี้ อู่เฉียนคุนก็ยิ่งรู้สึกหมดหวังมากขึ้น เผชิญหน้ากับศัตรูมากเพียงนั้น ต่อให้เขา มีทหารนับพัน มีกลยุทธ์ที่ดี ก็ยังไร้ประโยชน์! ฟางหยวนเป็นคนที่ไม่ยอมเสียเวลาไปเปล่าและคง พุ่งตรงเข้าสู่กระบวนทัพและจัดการกับแม่ทัพ และสุดท้ายที่ผู้นําทัพ!
นี่เป็นแผนการง่าย ๆ ใช้เพียงกําลังภายนอก แต่ได้ผลยิ่งนัก!
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผู้ชายชุดขาวบนหลังม้าขาวคงจะกลายเป็นฝันร้ายสําหรับทหารแห่งดินแด นทุ่งหญ้าไปตลอดกาล
TL note: เมืองหลงเชิง คือชื่อเมืองหลวงของประเทศหยวน
ช่วงนี้ผู้แปลไม่ค่อยสบาย เนื่องจากสภาพอากาศ ทางผู้แปลได้พยายามรักษาคุณภาพการ แปลให้คงที่ แต่อาจจะต้องตรวจคําผิดได้ไม่ถ้วนเท่าเดิม
ต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย