ปีแห่งการศึกษา …
พวกเขาได้ผ่านการทดสอบมามากมายก่อนหน้านี้ บางคนใช้เวลาสอบห้าถึงหกรอบกว่าจะมาถึงจุดนี้
“เร็วเข้า กำลังจะประกาศผลแล้ว หาที่ยืนดีๆ “
“ข้าสงสัยว่าผลจะเป็นยังไง?“่
“ข้าได้ยินว่า วู่ เฟิง ได้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ ขณะที่คนอื่นๆไม่ ข้าคิดว่าเขาคงเป็น 3 อันดับแรก “
“ข้าได้ยินมาว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้รับเชิญ ข้าคิดว่าเขาจะสอบไม่ผ่าน?“่
“ต่อให้เขาไม่ล้มเหลว หนานกง เฮา ก็จะเป็นผู้ชนะอยู่ดี”
“เห็นด้วย“่
เหล่าอัจฉริยะต่างถกเถียงกัน
หนานกง เฮา นั้นเป็นอันดับที่ 2 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่ง เขาเป็นผู้ที่เก่งกาจที่สุดในอาณาจักรเมื่อ 4 ปีก่อน จากนั้นก็มี วู่ เฟิง ที่เป็นลูกศิษย์ของเซียนวารี
จากนั้นก็เป็น เหยียน ซิว ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาในการทดสอบที่ผ่านมา จากนั้น ฟาง เจิ้งจือ เองก็เป็นผู้ที่ชนะการทดสอบเช่นกัน
การพูดคุยนั้นเต็มไปทั่วเมืองหลวง
ทางเข้าพระราชวังเต็มไปด้วยผู้คน ทุกคนอยากเป็นคนแรกที่ได้ยินข่าวนี้
ทหารชุดเกราะสีทองสองแถวยืนป้องกันทางเข้าหอพิพากษา พวกเขาทุกคนถือหอกสีทอง มีท่าทีที่เคร่งขรึม
เจ้าหน้าที่ทุกคนล้วนยืนอยู่ตรงกลาง รัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ยู่ ยี่ปิง ยืนอยู่หน้าสุด
ผู้เข้าสอบทุกคนยืนรอผลอยู่ห่าง 500 เมตรจากทางเข้า พวกขาทั้งหมดต่างยืดคอมอง
เหยียน ซิว ยืนอยู่ตรงกลางผู้คน ท่าทีของเขายังนิ่งเฉยต่อให้เขามองไปรอบๆแล้วก็ตาม
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้กลับมาเมื่อคืน
เขาไม่ได้แปลกใจมาก บางที ฟาง เจิ้งจือ คงเหนื่อยและนอนพักอยู่ที่หอแห่งปัญญา
แต่…
ใกล้จะถึงการประกาศผลแล้ว แต่ ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ปรากฎตัว
ต่อให้ ฟาง เจิ้งจือ ตั้งใจจะนอนที่นั้น แต่เขาไม่มีทางทำข้อผิดพลาดเช่นนี้
การประกาศผลสอบนั้นเป็นเรื่องสำคัญเกนกว่าที่จะพลาดได้
“เขาอยู่ที่ไหนกัน?” เหยียน ซิว มองไปยังทางเข้าพระราชวังด้วยความเป็นกังวล อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการประกาศผล เขาไม่สามารถก้าวเท้าออกไปได้
เขาทำได้เพียงแค่รอ
รอให้ ฟาง เจิ้งจือ มาถึง
วู่ เฟิง มีความสุขมาก
แน่นอนว่าเขามีความสุขมากที่สุดกับข้อเท็จจริงที่ว่า …
ฟาง เจิ้งจือ ไม่มา!
นี่เป็นข่าวที่ยอดเยี่ยม
วู่ เฟิง เคยได้ยินว่า ฟาง เจิ้งจือ มีความกล้าหาญมาก กล้าถกเถียงกับเจ้าหน้าที่ในศาล
อย่างไรก็ตามการที่ไม่มาฟังผลการทดสอบนั้นค่อนข้างหาญกล้าไปหน่อย
ค่ำคืนแห่งความสนุก …
เชิญมีความสุขของเจ้าไปเถอะ!
“ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้มา? เขาทำอะไรอยู่กัน?“่
“ข้าได้ยินมาว่าเขาอยู่ที่หอแห่งปัญญาเมื่อคืน ท่วงทำนองอมตะได้ชวนไปที่ห้องของนางบางที่เขาอาจจะไม่ได้พักจนทำให้ตื่นสายวั้นนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“ข้าคิดว่าเขาคงไม่กล้ามา?“่
“นายน้อยฉิน พูดถูก ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ แน่นอนว่าเขาต้องสอบไม่ผ่าน เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เขาไม่ได้มาฟังผลสอบ แต่… “
“แต่อะไร?“่
“น่าเสียดายที่ท่วงทำนองอมตะไปนอนกับเขา”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าไมคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะอยู่ที่หอแห่งปัญญาหรอก ข้าคิดว่าเขาคงไปหลบอยู่ที่อื่นมากกว่า?“่
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ทุกคนพบว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้มา พวกเขาจึงถกเถียงกันอย่างดุเดือด
วู่ เฟิง กำลังยิ้มเยาะอยู่ เขาคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ เขาไม่เชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ตื่น
ยิ่งคิดมากเท่าไรเขายิ่งรู้สึกดีมากเท่านั้น เขามองไปที่ฝูงชนและเห็นใครบางคน …
หนานกง เฮา
เขาสวมชุดสีขาว อย่างไรก็ตามรอยเลือดได้หายไปแล้ว มันไม่ชัดเจนว่าถูกล้างออกหรือนี้เป็นชุดใหม่
มันดูเก่าแต่ก็ยังดูสดใส
ดวงตาของ หนานกง เฮา เองก็สดใสเหมือนดวงอาทิตย์ บรรยากาศรอบตัวดูสูงส่ง
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขา ได้เพียงแต่ชื่นชมจากระยะไกล
หนานกง เฮา
มีความสามารถมากเกินไป
เขามีพรสวรรค์อย่างเหลือเชื่อ แม้ว่า หนานกง เฮา จะไม่ได้เว้นระยะห่างจากคนอื่น แต่เขาก็ไม่มีทางเข้ากับคนอื่นได้
วู่ เฟิง อยากรู้อะไรบางอย่าง
เขาอยากรู้ว่า หนานกง เฮา ได้พบองค์จักรพรรดิหรือไม่ แต่สุดท้ายเขาก็นึกยางอย่างได้ ไม่มีทางที่ หนานกง เฮา จะพลาด
แต่เขายังคงสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
เหมือนกับขอทานที่นั่งอยู่กลางสายฝน ต่อให้รู้ว่าถนนนั้นว่างเปล่า แต่ก็ยังยื่นมืออกมาราวกับมีความหวัง
ฟาง เจิ้งจือ ล้มเหลว เพราะรีบส่งกระดาษคำตอบก่อน หนานกง เฮา เองก็ส่งพร้อมกัน
เขาจะเจอกับชะตากรรมเดียวกันไหม?
วู่ เฟิง ไม่ได้สงสัยในความสามารถของ หนานกง เฮา และ ฟาง เจิ้งจือ อย่างไรก็ตามองค์จักรพรรดิจะยอมให้คนมาดูหมิ่นได้ยังไง?
วู่ เฟิง เข้าไปใกล้ หนานกง เฮา
“นายน้อยหนานกง!” วู่ เฟิง ยิ้มขณะที่โค้งคำนับอย่างสุภาพ
ผู้เข้าสอบคนอื่นๆต่างหยุดพูดคุยเมื่อเห็น
วู่ เฟิง ทักทาย หนานกง เฮา ก่อนประกาศผล
เขากำลังพยายามทำอะไร?
พวกเขาไปรู้จักกันตอนไหน? หรือนี่เป็นการจุดกองเพลิงขึ้น?
“นายวน้อยวู่” หนานกง เฮา หันไปมอง วู่ เฟิง จากนั้นก็โค้งคำนับให้เช่นกัน
แม้จะเป็นแบบนั้นแต่คนอื่นๆก็ราวกับมองเห็นกำแพงที่มองไม่เห็นอยู่ระหว่างทั้งสองคน
มันรู้สึกเหมือนจริงมาก
ปากของ วู่ เฟิง กระตุก เขาคิดว่า หนานกง เฮา คงไม่เมินเขา แต่สิ่งที่ หนานกง เฮา ปฏิบัติต่อเขานั้นไมเหมือนที่เขาคิดไว้แม้แต่น้อย
มันแปลกมาก
มันเหมือนกับ หนานกง เฮา เคารพเขาและดูถูกเขาในเวลาเดียวกัน
ความรู้สึกนีทำให้ วู่ เฟิง หงุดหงิด ทำไม หนานกง เฮา ไม่สุภาพต่อเขา
ตอนนี้เขาอยู่อันดับที่ 3 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่ง
หางจาก หนานกง เฮา แค่ 1 ระดับ…
ทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้?
วู่ เฟิง รู้สึกว่าเขาควรจะมีสถานะเทียบเท่ากับ หนานกง เฮา พวกเขาต่างกันเพียง 1 ระดับ เขาต้องการสงบสติอารมณ์ แต่เขาไม่สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม ต่อให้เขาพยายามมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถถามหนานกง เฮา เกี่ยวกับการเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิได้
เขาต้องถามให้ดูปกติที่สุด
มันควรจะเป็นเหมือนคำถามสบาย ๆ ระหว่างเพื่อน อย่างไรก็ตามเมื่อเขาหันไปหา หนานกง เฮา เขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้
“นายน้อยวู่ ต้องการทราบว่าข้าได้เข้าองค์จักรพรรดิใช่หรือไม่?” หนานกง เฮา ถามราวกับว่าเขาอ่านความคิด วู่ เฟิง ได้
“ฮ่าฮ่า ข้าไม่คดว่ามันจำเป็นต้องถาม ด้วยความสามารถของเจาต้องเป็นอันดับ 1 แน่นอน ” วู่ เฟิง พยายามหัวเราะกลบเกลื่อน
แต่เขาก็ติดอ่างเล็กน้อย ตอนที่ หนานกง เอา ถามคำถามนี้ เขาราวกับถูก หนานกง เฮา มองออก
มันอึดอัดมาก
“ข้าไม่ได้” หนานกง เฮา ส่ายหัว น้ำเสียงของเขานิ่งสงบ ราวกับทะเลสาบน้ำแข็ง
ท่าทีของเขาไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย
ไม่ว่าลมจะแรงแค่ไหน พื้นผิวน้ำแข็งก็ไม่สั่นสะเทือนแม้แต่น้อย
ต่อให้ หนานกง เฮา จะสงบ แต่คนอื่นไม่ได้เป็นแบบนั้น
“ข้าได้ยินผิดไปงั้นหรือ? หนานกง เฮา… บอกว่าเขาไม่ได้รับเชิญ?!“่
“เป็นไปได้อย่างไร?“่
ทุกคนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง หนานกง เฮา นั้นเป็นผู้ชนะการทดสอบระดับจักรพรรดิเมื่อ 4 ปีก่อน
ผ่านมา 4 ปีแล้ว …
แต่เขาไม่ได้รับเชิญไปพบกับจักรพรรดิ?
มันเป็นข่าวใหม่
การได้พบองค์จักรพรรดินั้นหมายถึงเป็น 10 อันดับแรก
ใครไม่ได้พบก็เท่าว่าไม่ติด นั่นเป็นความจริงที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงในหลายปีนี้
ต่อให้ 30 อันดับแรกยังคงเข้าร่วมการทดสอบต่อสู้ได้ แต่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับ หนานกง เฮา
จะเป็นไปได้ยังไงผู้ที่เป็นอัจฉริยะสูงสุดเมื่อ 4 ปีก่อน…
ไม่ติด 10 อันดับแรก?!