..
ยามค่ำคืนที่เงียบสงบราวกับสายน้ำนิ่ง กลุ่มดาวที่ส่องสว่างบนท้องฟ้ากระทบกับหยาดน้ำค้างที่ผืนดินจนเปล่งประกาย
ณ ค่ายทหารชองดินแดนภูเขาทางใต้
ในกระโจมขนาดใหญ่
มีอ่างไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกระโจม ในถังนั้นเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้สีทอง
องค์หญิง ฉาน ยู่ นอนแช่น้ำอยู่ภายในนั้น ผิวของนางดูขาวเนียนเมื่ออยู่ในน้ำอุ่นๆ ขณะเดียวกันขาอันเรียวงามของนางก็พาดอยู่ที่ขอบอ่าง
ผมยาวสลวยของนางที่ปล่อยระบ่าราวกับน้ำตกท่ามกลางภูเขา
ดวงตาของนางปิดลงเบาๆๆ ราวกับนางกำลังดื่มด่ำความสุขอยู่ นางเปิดริมฝีปากออก เป็นลมหายใจในรูปแบบไอหมอก
“ฟาง เจิ้งจือ“
นางค่อยๆลืมตาขึ้นขณะเดียวกันก็เผยรอยยิ้มออกมา นางค่อยๆขยับแขนขึ้นและลูบหน้าด้วยน้ำ
“ถ้าเจ้าเป็น ฟาง เจิ้งจือ จริงล่ะก็ทหารหมาป่าเขาเงิน 500 นายก็คงเพียงพอ …ใช่ไหม? อาณาจักรเซี่ย …ข้าสงสัยว่าพวกเขาจะทำยังไงจริงๆถ้าเห็นทหารหมาป่าเขาเงิน?“
องค์หญิงหลับตาลงอีกครั้งจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนจากอ่างไม้ หยดน้ำกระเซ็นจากร่างของนาง
…
ถิ่นฐานแสงสายฟ้า
มันไม่ใช่ถิ่นที่น่าประทับใจอะไร ในฐานะที่เป็นแค่ถิ่นฐานเล็กๆที่อยู่ภายใต้ถินฐานราชสีห์คำราม ถิ่นฐานนี้นี้มีวัตฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุด
กระโจมที่สร้างด้วยไม้จึงกลายเป็นจุดเด่นที่สุดในถิ่นฐานแสงสายฟ้า นอกจากนั้นในพื้นที่นี้ก็มีเพียงสีเขียวของภูเขาและสีเทาของก้อนหินเท่านั้น
การใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนภูเขาทางใต้ที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย แน่นอนว่ารั้วนั้นเป็นสิ่งจำเป็น
ขั้นแรก มีคำสั่งให้ป้องกันถิ่นฐานแห่งนี้ แต่ละวันผู้เยาว์กว่า 20 คนที่ถือหอกและสวมชุดเกราะมาลาดตระเวนอยู่รอบๆภูเขาหินสีเขียว
อย่างไรก็ตาม …
ในตอนนี้ถิ่นฐานแสงสายฟ้าไม่ได้เป็นของถิ่นฐานราชสีห์คำรามอีกต่อไป
เพราะมีคนอื่นได้มารับงานนี้ไปแทน พวกเขาเป็นทหารของอาณาจักรเซี่ย ทหารสองพันคนยึดครองถิ่นฐานราชสีห์คำราม พวกเขากำลังจัดกองกำลังป้องกันที่นี่อย่างแน่นหนา
ในทางกลับกันสิ่งที่ถิ่นฐานแสงสายฟ้านั้นใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข
แน่นอนว่าชาวบ้านผู้มีความกระตือรือร้นและมีน้ำใจ ต่างนำเนื้อสัตว์ป่าย่าง รวมถึงเหล้าที่หมักด้วยตัวเองมาให้เหล่าทหารตามโอกาส เพื่อเป็นการแสดงความมีน้ำใจของเจ้าบ้านที่ดีและขอบคุณเหล่าทหารที่ช่วยปกป้อง
เฉิน เฮา อายุ 33 ปี
นักปราชญ์ที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ลำดับที่ 23 ในการทดสอบด้านปัญญาระดับสภา มันไม่ได้สูงมาก แต่มันก็ไม่ได้ต่ำจนเกินไปเช่นกัน
สำหรับพลังของเขา นั้นอยู่ในระดับกลางๆ
แต่มันไม่ได้ทำให้เขากังวลมากมาย เพราะเขาเชื่อว่าเขามีสมองที่ชาญฉลาดมาก ที่สำคัญที่สุดเขารู้จักเกาะกลุ่ม
การเกาะกลุ่มของเขาไม่ใช่การเกาะเป็นปลิงแบบโง่ๆ แต่มันเป็นการเกาะกลุ่มที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์
นับตั้งแต่เริ่มต้นการทดสอบเขาได้ไปเกาะกลุ่มกับนักปราชญ์มาหลายคนแล้ว ความจริงที่เห็นได้พิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเขานั้นฉลาดเป็นอย่างมาก
ในการทดสอบด้านการต่อสู้ นั้นมีอยู่ 3 เรื่องใหญ่
หนึ่งคือ หนานกง เฮา สองคือ วู่ เฟิง และสามคือ เหยียน ซิว
มันเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดี หนานกง เฮา นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในพวกนั้น เฉิน เฮา เองก็คิดเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม หนานกง เฮา ปฏิเสธที่จะร่วมเดินทางไม่ว่ากับใครก็ตาม
นับตั้งแต่ที่เข้ามาในดินแดนภูเขาทางใต้ เขาได้ตัดสินใจรีบตรงไปยังถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง จากนั้นเขาก็ได้ตรึงตัวเองไว้ที่นั่นราวกับตะปูที่ตอกลงบนกำแพง เขาไม่ออกห่างจากที่นั่นไปไหนแม้แต่น้อย
เรื่องนี้ทำให้คนส่วนใหญ่ยอมแพ้กับการที่จะร่วมเดินทางกับ หนานกง เฮา คนส่วนใหญ่จึงเลือกข้อที่สอง วู่ เฟิง
เฉิน เฮา ไม่ได้ตัดสินใจแบบนั้น เพราะมีคนมากมายเกาะ วู่ เฟิง อยู่ จึงทำให้ไม่มีทีว่างสำหรับคนอื่นมากนัก ด้วยความสามารถของเขา การไปเข้าร่วมกลุ่มนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับการต้อนรับที่ดี
ดังนั้นเขาจึงไม่เลือก วู่ เฟิง
สำหรับ เหยียน ซิว …
เขาเย็นชาเกินไป จึงไม่ใช่ทางเลือกของ เฉิน เฮา เช่นกัน
ไม่เลือก 3 ข้อนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่โง่ อย่างไรก็ตาม เฉิน เฮา ไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะเขารู้อย่างชัดเจนว่า ผู้คนที่ทรงพลังในสมัยก่อนต้องฝ่าฟันอุปสรรค์ มีการแก้ปัญหาที่ดีเพื่อจะได้ประสบความสำเร็จ
สิ่งที่เขาต้องทำคือแยกตัวเองออกจากสนามรบ ซ่อนตัวเองให้ห่างไกลที่สุดที่คนอื่นจะไม่สามารถหาเจอได้ รอจนกระทั่งการทดสอบใก้ลจบ เขาจึงจะโผล่ออกไป
ด้วยวิธีนี้ อันดับของเขาแน่นอนว่าต้องสูงกว่าผู้ที่ถูกตัดออกไปก่อนหน้านี้
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
แผนที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงความสามารถในการทรยศเพื่อนเพื่อความรุ่งโรจน์ของ เฉิน เฮา ทำให้เขาสามารถหาพื้นที่ที่ค่อนข้างสงบในตอนนี้ได้
ถิ่นฐานแสงสายฟ้าเป็นถิ่นฐานเล็กๆอยู่ชายขอบของทั้ง 4 ถิ่นฐานหลัก
ทิวทัศน์รอบๆก็งดงาม สัตว์ป่าก็อุดมสมบูรณ์
ในตอนเช้า
ดวงอาทิตย์สีแดงค่อยๆขึ้นจากขอบฟ้าส่องกระทบใบหญ้าสีเขียว เฉิน เฮา ที่สวมเกราะสีดำเดินออกมาจากกระโจมทหารเพื่อยืดเส้นยืดสาย
“วันนี้อากาศดีมาก เหมาะกับการล่าสัตว์ในตอนเช้า!“เฉิน เฮา เป็นคนคนหนึ่งที่รู้จักการใช้ชีวิตให้มีความสุข การที่เขาเกิดในตระกูลชั้นสูง ทำให้เขาไม่เคยกินผักป่าหรือเสบียงทหารมาก่อน
สำหรับสัตว์ป่าที่อยู่ในฟาร์มของถิ่นฐานแสงสายฟ้า
เขาไม่สามารถฆ่ามันและเอามาย่างกินได้ทุกวัน เพราะตามกฎของทหารแล้วนั้น ถ้าผู้คนไม่ให้เขา เขาก็ไม่สามารถแย่งมันมาได้ ถ้าถูกจับได้เขาจะมีโทษทันที
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา เขาเป็นคนที่รู้จักพึ่งพาตัวเอง
เขามีทหาร ธนู และพลัง การล่าสัตว์แล้วได้ลิ้มรสชาติของมันนั้นเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายและสนุกสนานกับการใช้ชีวิต
“มานี่! เฉิน เฮา ตะโกน
“แม่ทัพเฉิน ท่านต้องการอะไร?” ชายวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะที่ราวกับเป็นผู้บัญชาการกองทัพรีบวิ่งมาหาและถาม เฉิน เฮา ด้วยความเคารพ
“เตรียมการที ข้าจะไปล่าสัตว์!“่
“ข้าเข้าใจแล้ว” ชายวัยกลางคนเข้าใจทันทีที่ได้ยิน เขาโบกมือด้วยท่าทีสบายๆ ทหารเกือบร้อยคนที่กำลังฝึกในตอนเช้ารีบวิ่งเข้ามาทันที
พวกเขาเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการล่าสัตว์ พวกเขาตาม เฉิน เฮา มาตลอดทาง พวกเขาร่วมมือกันเป็นอย่างดี
แน่นอน…
เฉิน เฮา ตั้งที่พักในถิ่นฐานนี้ ดังนั้นแน่นอนว่าเขาเองก็ต้องเตรียมตัวไว้เช่นกัน เช่น ขุดหลุมกับดักไว้จำนวนหนึ่งบนภูเขาที่สัตว์มากมายชอบผ่าน หรือวางกับดักสัตว์ไว้ตามทางสัตว์ป่า
ด้วยวิธีนี้เมื่อเขาต้องการจะล่าสัตว์เขาก็มั่นใจได้ว่าจะต้องมีสัตว์ตกลงไปบ้างแน่นอน และมันก็ไม่เป็นการใช้ธนูอย่างสิ้นเปลืองหรือใช้กำลังทหารจนมากเกินไป สัตว์ที่ล่าได้นั้นมีจำนวนมากมาย
เมื่อทหารนับร้อยได้ยิน เฉิน เฮา เรียกไปล่า พวกเขาตื่นเต้นทันที นั่นหมายความว่าค่ำคืนนี้จะมีการเลี้ยงฉลองกันอีกแน่นอน
ทุกครั้งที่มีการเลี้ยงฉลองยามค่ำคืน หญิงสาวของที่นี่จะวิ่งออกมาเต้นรำรอบๆกองไฟ กระโปรงที่พริ้วไหวของพวกนางทำให้หัวใจของเหล่าทหารนั้นสั่นสะท้าน
ไม่เพียงแต่เขามีอะไรให้กิน แต่พวกเขานั้นมีอะไรให้ดูเช่นกัน เป็นชีวิตที่ยอดเยี่ยมมาก!
เฉิน เฮา มองไปยังทหารที่กำลังตื่นเต้น ก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ ทหารที่หลงไหลในเรื่องเหล่านีคือทหารที่เขาต้องการ
การเลี้ยงพวกเขาในเวลาปกติ นั้นจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งเมื่อการต่อสู้ที่แท้จริงเริ่มต้นขึน!
“ไปกันเถอะ!“
เมื่อตะโกนออกคำสั่งเสร็จ เฉิน เฮา ขี่ม้าชื่อดังจากอาณาจักรเซี่ย เขาถือธนูยาวสีดำไว้ที่หลัง เหน็บมีดสั้นสองอันไว้ที่เอว ท่าทีของเขานั้นเต็มไปด้วยความสง่างาม
เมื่อหญิงสาวของดินแดนแสงสายฟ้าที่ตื่นออกมาเดินเล่นในยามเช้าเห็นท่วงท่าในการขี่ม้าของ เฉิน เฮา พวกนางก็ป้องปากเบาๆ พร้อมกับเลือดที่สูบฉีดบนใบหน้าและพวกนางก็ส่งสายตาอย่างมีความหมายมาให้ เฉิน เฮา เช่นกัน
ความเป็นจริงแล้ว คนของดินแดนภูเขาทางใต้ ค่อนข้างเปิดเผยมากกว่าของอาณาจักรเซี่ย
ขณะที่เหล่าทหารมองไปที่หน้าที่ขึ้นสีของหญิงสาวชาวภูเขาทางใต้ พวกเขายิ่งตื่นเต้นขึ้น พวกเขารู้สึกภาคภูมิใจมากยืดอกและขี่ม้าพุ่งตาม เฉิน เฮา ไป
“ไปเลย!“
…