ไม่นานกลิ่นอันหอมหวลของเนื้อย่างก็คลุ้งไปทั่วอากาศ
ฉากอันแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นที่ทางออกของหุบเขาสายลม
วู่ เฟิง ที่กำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้นั้นพลันได้กลิ่นบาอย่างขึ้นมา มันทำให้เขารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก ทำอยู่ดีๆถึงมีกลิ่นเนื้อย่างขึ้นมา?
อย่าบอกนะว่า
กลยุทธ์กระดานแปดทิศนั้นมีการใช้ไฟเพื่อโจมตีด้วย!
โดยสัญชาติญาน เขาหันหน้าไปยังทางที่กลิ่นลอยมา จากนั้นเขาก็เห็นว่าภายในหุบเขาสายลมนั้นมีเนื้อขนาดใหญ่มโหราญกำลังถูกย่างอยู่บนกองไฟ
น้ำมันที่ไหลลงมาจากเนื้อ ทำให้ไฟที่จุดขึ้นมาดับได้ยากถึงแม้อากาศจะหนาวเย็นก็ตาม
“ย่าง …ย่างเนื้อ?! นี่มัน…ฟาง เจิ้งจือ ยังมีอารมณ์มาย่างเนื้ออีกงั้นรึ?!” วู่ เฟิง ได้นึกถึงความเป็นไปได้อันหลากหลายแล้ว ตัวอย่างเช่น ฟาง เจิ้งจือ จะนั่งดูอยู่ด้านข้างและไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น จะเริ่มเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อพวกเขาแพ้เท่านั้น หรือ ฟาง เจิ้งจือ อาจจะรอให้ศัตรูเหนื่อยจึงเข้าโจมตี
อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคิดเลยจริงๆเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ ที่นั่งอยู่ข้างๆพวกเขา จะเริ่มก่อกองไฟและย่างเนื้อ ขณะที่พวกเขาสู้แบบเอาเป็นเอาตาย
มันจะมากเกินไปแล้ว!
วู่ เฟิง รู้สึกร้อนรุ่มในใจ เขาโกรธมาก โกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมา
อีกคนที่กำลังโกรธมาและอยากจะกระอักเลือดตาม วู่ เฟิง ไปอีกคนนั่นคือ เฉิน เฟยยู่
“ไร้ยาง ไร้ยางอาย ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!“ตอนนี้ เฉิน เฟยยู่ อยู่ในระดับอภินิหารแล้ว หมายความว่าเขามีความสามารถในการเอาชีวิตรอดในสนามรบ
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหนีได้ทันที
อย่างน้อยที่สุด …
มันก็เป็นไปไม่ได้ในเวลาสั้นๆ
ในความเป็นจริง เขาอยากจะพุ่งกลับเข้าไปในหุบเขสายลมและดึงหู ฟาง เจิ้งจือ พร้อมตะโกนใส่เขาว่า ” ไปสู้ซะ ข้าจะกินเนื้อก่อน!”
น่าเสียดาย ความเป็นจริง ฟาง เจิ้งจือ กำลังกินเนื้อ ขณะที่พวกเขากำลังสู้จนตัวตาย
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ เฉิน เฟยยู่ โกรธที่สุดคือ ฟาง เจิ้งจือ และคนอื่นๆกำลังนั่งอยู่รอบๆกองไฟ โดยเหลือบมองมาที่พวกเขาเป็นระยะๆ ขณะเดียว ฟาง เจิ้งจือ ก็เหมือนพึมพัมบางอย่างอยู่
อย่าบอกนะว่า
เขากำลังฮัมเพลงอยู่?
…
ข่าวที่ว่า ฟาง เจิ้งจือ เริ่มทำอาหารนั้นไปถึงบ้านหินในถิ่นฐานวานรน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ทำให้ชายวัยกลางคนอ้าปากค้างทันที
“เจ้าบอกว่า ฟาง เจิ้งจือ สั่งให้ทหารทำอาหารในหุบเขาสายลม?“ชายวัยกลางคนไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยินจึงถามขึ้นมาอีกรอบ
“ใช่!”ทหารผู้รายงานข่าวตอบทันที
“เหอะ ช่างหาญกล้าจริงๆ เขาสั่งให้ทำอาหารขณะที่ทั้งสองกองทัพกำลังสู้กันอยู่ ไม่ถือว่าเป็นความผิดทางทหารงั้นรึ? เขาไม่กลัวที่พวกเราจะส่งทหารเข้าโจมตีทันทีงั้นรึ?“ชายวัยกลางคนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
“ข้าเกรงว่าเขาคงไม่กลัว!“ชายวัยกลางคนอีกคนที่อยู่ด้านซ้ายของ หนานกง เฮา พูดขึ้นมาทันที
“ทำไมกัน?“
“ทางออกจากหุบเขาสายลมนั้นถูกกันไว้หมดแล้ว พวกเขาไม่สามารถออกมาได้ ในขณะเดียวกันพวกเราก็ไม่สามารถเข้าไปได้ นอกจากนี้ลมในหุบเขาได้หยุดลงแล้ว ไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น”
“แล้ว … พวกเราจะทำได้แค่เฝ้าดูเขากินอาหารหรือไงกัน?“
“ถ้าเราแบ่งกองกำลังออกไปโจมตี เกรงว่าจะตกหลุมพลางของ ฟาง เจิ้งจือ แน่นอน”
“นายน้อยหนานกง ท่านมีความเห็นอย่างไร?” ถึงแม้ว่าชายวัยกลางคนรู้ดีว่าไม่มีทางเลือก เขาก็ไม่พอใจที่เเห็นคนมากินอาหารอย่างสบายใจต่อหน้าเขาอยู่ดี
“มันไม่ดีหรอกรึถ้ากินกับเหล้า ให้คนส่งเหล้าเข้าไปในหุบเขาสายลม และเตรียมของรางวัลให้สำหรับทหารทั้ง 40,000 นายที่ขยันทำงานเป็นอย่างมาก!” หนานกง เฮา ยังคงอ่านหนังสือที่อยู่ในมือ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมาแม้แต่น้อย
“ส่งเหล้าให้พวกเขา?!“ชายวัยกลางคนตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
“แผนที่ดี! นายน้อยหนานกง แผนนี้สมบูรณ์แบบจริงๆ!“ดวงตาของชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างซ้ายของ หนานกง เฮา สว่างขึ้นมาทันที
“การให้เหล้าก็ถือเป็นแผนการที่ดีงั้นหรือ?“
“ในศึกทั้ง 2 กองทัพ สิ่งสำคัญที่สุดคือการโจมตีความรู้สึกของพวกเขา ในขณะที่กองทัพของเราต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย ฟาง เจิ้งจือกลับเริ่มทำอาหารอยู่ด้านข้าง นี่เป็นการโจมตีด้านจิตใจ เหล้าที่เป็นของขวัญจากนายน้อยหนานกงเองก็เป็นการโจมตีด้านจิตใจเช่นกัน เจ้าไม่คิดว่ามันเป็นแผนที่ดีรึ?“
“ไม่ใช่แค่การโจมตีจิตใจเท่านั้น ถ้า ฟาง เจิ้งจือ ไม่รับมัน มันคงทำให้ทหารของเขาไม่พอใจ แต่ถ้าเขารับมัน ทหารที่เมาเหล้าจะสู้รบได้อย่างนั้นรึ?“ชายวัยกลางคนๆหนึ่งพูดขึ้น
“เหล้าสัก 100 ถังก็คงเพียงพอสำหรับแผนนี้ แผนของนายน้อยหนานกงช่างทำให้ข้าประหลาดใจเสียจริง!“ชายวัยกลางคนที่ยังคงมีข้อสงสัย ในที่สุดก็เข้าใจได้เสียที
…
ภายในหุบเขาสายลม
ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กัดเนื้อย่างในมือและกำลังเฝ้าดูการต่อสู้ ก็เห็นทหารมากกว่า 10 นายใกล้เข้ามา ทหารทุกคนล้วนแบกคานไม้ไว้บนไหล่ของพวกเขา
ในแต่ละคานไม้บรรทุกถังเหล้า 6 ถัง
“หืม? พวกเขาส่งเหล้ามาให้พวกเรางั้นรึ?“เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เห็นเช่นนี้เขารู้สึกแปลกๆเล็กน้อยและค่อนข้างตกใจ
“หนานกง เฮา ส่งเหล้าให้กับเรา? เป็นไปได้ยังไงกัน!?“เหล่าแม่ทัพหันมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้เห็น
แม่ทัพคนอื่นๆต่างขมวดคิ้วและเริ่มคาดเดาความคิดของ หนานกง เฮา
“ข้ารู้แล้ว หนานกง เฮา รู้ว่าพวกเรากำลังทำอาหารท่ามกลางสนามรบ ดังนั้นเขาจึงหวัง … “
“ชนะใจทหารพวกเรา?!“
“ใช่แล้ว การเคลื่อนไหวของ หนานกง เฮา ไม่ธรรมดาจริงๆ!“
แม่ทัพแต่ละคนเริ่มเดาความตั้งใจของ หนานกง เฮา อย่างรวดเร็วและแสดงความโกรธออกมา
“แม่ทัพฟาง พวกเราควรส่งคนไปหยุดพวกเขาหรือไม่?“แม่ทัพคนหนึ่งยืนขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น ในตอนนี้ทางออกที่ดีที่สุดคือการปฏิเสธสิ่งนั้นไป
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขายอมให้ทหารกว่า 40,000 นายดื่มเหล้ากันล่ะก็ ทุกสิ่งทุกอย่างคงจบลงแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น …
จะรู้ได้ยังไงว่าในเหล่าพวกนั้นไม่ได้ผสมยาอื่นอยู่ด้วย
“ทำไมเราต้องหยุดพวกเขา?“รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ
“อย่าบอกนะว่า แม่ทัพฟางจะยอมรับเหล้าจาก หนานกง เฮา และยอมให้ทหารได้ดื่มเหล้ากันจริงๆ?“แม่ทัพคนหนึ่งค่อนข้างสับสน
“ในเมื่อพวกเราเห็นคนส่งของมาให้ มันคงเสียมารยาทถ้าเราปฏิเสธไป ถึงแม้จะเป็นทหารแค่ไม่กี่สิบนาย แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นทหารที่กล้าหาญของอาณาจักรเซี่ย จับทหารเหล่านั้นและเก็บเหล้าพวกนี้ไว้ เมื่อข้าเข้ายึดถิ่นฐานวานรน้ำแข็งได้แล้ว ข้าจะใช้เหล้าพวกนั้นเป็นการดื่มฉลองให้กับทหารทั้ง 40,000″ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างใจกว้าง
“จับตัวทหาร?!“เมื่อเหล่าแม่ทัพได้ยินคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขาต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
อีกฝ่ายส่งเหล้าให้เจ้าเป็นของขวัญ
แต่เจ้าไม่ต้องการแค่ของขวัญ เจ้าต้องการคนด้วย!
ใครจะไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้!
“แม่ทัพฟาง การต่อสู้ระหว่าง 2 กองทัพ พวกเราจะไม่ฆ่าผู้ส่งสาร!“แม่ทัพคนนึงกล่าวเตือนอย่างใจเย็น
“ข้าไม่ได้จะฆ่าพวกเขา ข้าเพียงแต่จะกักตัวพวกเขาไว้เผื่อว่าพวกเขาจะสามารถช่วยอะไรเราได้ ข้าพูดถูกไหม?”” ฟาง เจิ้งจือ โบกมือสั่ง
“นี่มัน …เอาล่ะ!“แม่ทัพทำอะไรไม่ถูก
ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นแม่ทัพสูงสุดของทหารกว่า 40,000 นาย ในฐานะทหารพวกเขามีหน้าที่ต้องทำตามคำสั่ง
ทหารสิบกว่าคนเข้ามาถึงภายในหุบเขาสายลมด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มอันสดใส หนึ่งในนั้นเดินออกมาแล้วตะโกนเสียงดัง ยินดีต้อนรับ ‘แขก’ ของ หนานกง เฮา
อย่างไรก็ตามหลังจากพูดจบรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาก็หายไป
เพราะพวกเขาถูกจับกุมทันที
จากที่มีสถานะเป็นผู้ส่งสารสิบกว่าคน กลับกลายเป็นเหล่านักโทษสิบกว่าคนแทนเสียแล้ว การแปรเปลี่ยนสถานะของพวกเขานี้ รวดเร็วมากเสียจนพวกเขาไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน
และจากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็ทำสิ่งให้พวกเขาแปลกใจอีกครั้ง
ฟาง เจิ้งจือ ประกาศเสียงดังว่า หนานกง เฮา และตัวเขาเองนั้นมีการเดิมพันผ่านการส่งจดหมาย การเดิมพันนั้นมีอยู่ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถพิชิตหุบเขาสายลมได้หรือไม่ ตอนนี้ หนานกง เฮา แพ้เดิมพันแล้ว
เขายอมรับว่าแพ้การเดิมพัน
สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้คือการมอบเหล้าที่ดีมาให้ร้อยถัง
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขของการเดิมพันคือ 1000 ถัง หนานกง เฮา ได้กลับคำพูดอย่างชัดเจน
คำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ เต็มไปด้วยความจริงใจจริงและนอกเหนือจากความจริงที่ว่า หนานกง เฮา ได้มอบเหล้าชั้นเยี่ยมให้หลังจากที่พวกเขาสามารเอาชนะหุบเขาสายลมได้จริง และด้วยทหารที่เหลือมากกว่า 40,000 นาย มันมากกว่าสิ่งที่เขาคิดไว้
ชีวิตของมนุษย์บนโลกนี้นั้น ล้วนขึ้นอยู่กับการแสดง!
ฟาง เจิ้งจือ เข้าใตคำพูดนี้ถ่องแท้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น ท่ามกลางเสียงตะโกนด้วยความยินดีของทหาร ฟาง เจิ้งจือ ได้เช็ดน้ำตาของเขาและจับตัวทหารที่ออกมากล่าวต้อนรับจาก หนานกง เฮา ไว้ จากนั้นก็ให้งานสำคัญบางอย่างแก่พวกเเขาและปล่อยเขาออกไปจากหุบเขาสายลม!