ในระหว่างการสนทนา เจียง หลี่ ได้รับความเชื่อมั่นที่ว่า บรรพชน บ๋า หลี่หมิง ถูกคุมขังในคุกแห่งการจลาจล โดยมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตพระเจ้าเป็นคนเฝ้าเป็นธรรมชาติที่หากเขาจะช่วยเหลื่อย่อมเป็นไปได้ยาก
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ของโลกวิหารอมตะกับโลกอมตะนั้นก็ไม่ได้มีรูปธรรมมากนักอาจเข้าขั้นได้ว่าเลวร้าย
การต่อสู้นั้นอาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ยิ่งเกิดการต่อสู้ที่ยิ่งนําพาสู่ความสูญเสียจํานวนมาก
หลัว เฟิง องค์หญิงของโลกอมตะตัวยสถานะของเธอแน่นอนว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับโลกอมตะเป็นอย่างมากเธอเองก็ไม่หวังจะให้สงครามเกิดขึ้นกับโลกอมตะของเธอเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญจากโลกอมตะก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ค่ายอมตะนั้นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยพึงพอใจตัวตนเหล่านั้นสักเท่าไหร่
ธรรมชาติโลกอมตะเป็นโลกที่ทรงพลังโลกนึ่งพวกเขามีการดํารงอยู่มาอย่างนาวนาน
นอกจากนี้ยังมีประชากรจํานวนมากที่แข็งแกร่งที่คอยรักษาสมดุลอํานาจเอาไว้
“แม้ว่าฉันจะอยากพานายไปหาพระเจ้าของเราก็ตามแต่เขาได้ติดภารกิจเฝ้าคุกคุมขังเอาไว้ดังนั้นฉันจะพาไปหาบุตรชายของเขาแทนเขามีนามว่า เฟิง ซินจาง ความแข็งแกร่งของเขานั้นถือว่ารุนแรงเป็นอย่างมาก” หลัว เฟิง กล่าวออกมา
“เขาแข็งแกร่งขนาดนั้น?”เจียง หลี่ ราวกับกําลังได้รับรู้ถึงตัวตนที่รุนแรงของ โลกอมตะอีกครั้ง”เขากับองค์ชายของวิหารอมตะใครแข็งแกร่งกว่ากัน?”
“ธรรมชาติย่อมเป็นเขาที่แข็งแกร่งกว่าองค์ชายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ 49 ระดับวิถี” หลัว เฟิง กล่าวออกมา “ความแข็งแกร่งของ เฟง ซินจาง นั้นเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญ 100 ระดับวิถี ยิ่งไปกว่านั้นเขากําลังจะฝึกฝนประกายศักดิ์สิทธิ์พระเจ้า”
” ต้นแบบผู้เชี่ยวชาญ 100 ระดับวิถี?” เจียง หลี่ แทบจะบ้าคลั่ง นอกจากนั้นยังเป็นผู้เชี่ยวชาญประกายศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าเป็นธรรมชาติที่ว่าชายคนนี้ย่อมแข็งแกร่ง
ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญ 100 ระดับวิถี นั้นแข็งแกร่งเพียงไหน เขาย่อมอยากรู้อยากเห็นยิ่งฝึกฝนประกายศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าด้วยแล้ว
เมื่อเปิดใช้ประกายศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าย่อมมีความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้น
“เดิมคุณในตอนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว ฮัว ฉันเชื่อว่าราชันย์ เฟิง ซินจาง นั้นจะต้องชื่นชอบคุณเป็นแน่” หลัว เฟิง กล่าวออกมา
เจียง หลี่ เองก็ต้องการสานสัมพันธ์ที่ดีกับ เฟิง ซินจาง ธรรมชาตินั่นก็เพื่อช่วยเหลือบรรพชน บ๋า หลี่หมิง ให้กลับสู่อารยธรรมมนุษยชาติ
“เชื่อมต่อระบบการใช้งาน ” หลัว เฟิง กล่าวออกมา
ในขณะที่เธอเชื่อมต่อนั้นเธอได้ระบุพิกัดสถานที่ไปด้วยแน่นอนว่าสถานที่บางแห่งไม่สามารถค้นหาได้เพราะว่าเป็นสถานที่ลับ
ยกตัวอย่างเช่น เรือนจําแห่งการจลาจล
นี่เป็นข้อมูลลับสุดยอดที่หากใครบางคนเปิดเผยออกมาก็ย่อมสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ได้
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถทําเช่นนั้นได้เพราะว่าระบบได้เข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นและดําเนินการปกปิดทันที
นอกจากนี้หากใครกล้ารายงานข่าวเหล่านี้เกรงว่าจะต้องได้รับการลงโทษจากระบบอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการหักเหรียญปฐมโกลาหลหรือแต้มบุญ
“การประสานได้เริ่มต้นแล้ว!”
เจียง หลี่ ได้ติดตาม หลัว เฟิงมาเขาได้เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
นอกจากนี้เขายังเห็นตัวตนของราชันย์ เฟิง ซินจาง
การบ่มเพาะพลังของ ราชันย์ เฟิง ซินจาง นั้นรุนแรงมากอาจเรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตขนาดใหญ่
นอกจากนี้เขายังมีโชคชะตาที่รุนแรง
หลายคนนั้นย่อมมีโชคชะตาเป็นของตัวเอง
ในอารยธรรมจีนทั่วโลกสมัยจักรพรรดิ์แต่เดิมอํานาจของจักรพรรดิ์นั้นได้กําหนดโชคชะตาของผู้คน
แต่แล้วยุคเหล่านั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปยุคแห่งการกดขี่ทางอํานาจได้หมดไปแล้ว
ราชันย์ เฟิง ซินจาง นั้นไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นแต่กลับปลดปล่อยกลิ่นอายที่รุนแรงออกมา
มันคือกลิ่นอายพลังที่รุนแรงเหมือนกับตอนที่เขาเผชิญหน้ากับขุมพลังระดับพระเจ้าครั้งแรก
แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของ ราชันย์ เฟิง ซินจาง ย่อมไม่สามารถเทียบได้กับพระ เจ้าแห่งเพลิง แต่พระเจ้าแห่งเพลิงได้ยับยั้งกลิ่นอายของเขาไม่อย่างนั้นผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมฟังบรรยายในสถานที่แห่งนั้นคงถูกสังหารเรียบ
แต่ตอนนี้ ราชันย์ เฟิง ซินจาง ไม่ได้ยับยั้งแรงกดดันของเขาแม้แต่น้อย
ทันทีที่ เขาเห็น เจียง หลี่ เขาก็เผยแรงกดดันที่รุนแรงออกมา
นอกจากนี้ตัวตนของ ราชันย์ เฟิงซินจาง นั้นจากน้ำเสียงของเขายังเยาว์อย่างมากเงาร่างที่ปรากฏออกมาของเขาเหมือนกับตัวตนของมนุษยชาติที่มีร่างกายที่เหมือนเผ่าพันธุ์มนุษย์
ชายคนนี้คือผู้ที่ประสบความสําเร็จในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังที่แท้จริง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ ราชันย์ เฟิง ซินจาง เห็น หลัว เฟิงเขาก็เปลี่ยนที่อย่างรวดเร็ว
“องค์หญิง หลัว เฟิง ไม่คาติคิดว่าเธอจะจากโลกอมตะมายังดินแดนวิหารอมตะเช่นเดียวกัน”เงาร่างของเยาวชนชายคนนี้กล่าวออกมาอย่างสง่างาม” ฉันคือ ราชันย์ เพิ่ง ซินจาง จุดประ สงค์ที่องค์หญิง หลัว เฟิงมาเกรงว่าจะต้องมีเรื่องที่จะพูดคุยกับฉันอย่างแน่นอนนอกจากนี้ฉันนึก ไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงของสายเลือดจักรพรรดิ์นั้นจะเดินทางมาที่นี่?”
“ นี่เป็นพระประสงค์ของนิกายของฉัน,นอกจากนี้ตระกูล หลัว ของเรา เองก็มีหน้าที่สํา คัญที่จะต้องทําให้สําเร็จ ตอนนี้ฉันเดินทางมาหานายและเพิ่งเข้ามาที่ดินแดนวิหารอมตะแห่งนี้ได้ ไม่นานหวังว่านายจะสามารถต้อนรับฉันด้วยตัวเองไม่ใช่เงาร่างตัวแทนเช่นนี้”หลัว เฟิง กล่าวออกมา
“เป็นธรรมชาติที่เป็นเช่นนั้น ฉันจะปล่อยให้องค์หญิงที่มีสายเลือดจักรพรรดิ์ไหลเวียนอยู่ต้องรู้สึกลําบากใจได้อย่างไรนอกจากนี้นี้เป็นการพบกันครั้งแรกของเราที่วิหารอมตะอิทธิพลของทางนี้ กายนั้นได้เพิ่มขึ้นสูงมากเนื่องจาก พระเจ้าแห่งการสร้างได้เป็นผู้คุมคุกแห่งการจราจลหลายปีมานี้ พวกเราได้รับการส่งเสริมความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ด้วยความแข็งแกร่งของเธอฉันเชื่อว่าจะต้องทะยานไปสู่จุดสูงสุดอย่างแน่นอน” เฟิง ซินจาง กล่าวออกมา
เขากล่าวโดยไม่สนใจ เขียง หลี่ แม้แต่น้อย
“นี่เป็นสหายของฉัน,เขาชื่อว่า เยว่ ฟาง เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูล ฮัว ฉันพาเขามาที่นี่เพื่อพบ ศิษย์พี่ซินจาง” หลัว เฟิง กล่าวออกมา
“จริงงั้นรึ?”เฟิง ซินจาง จ้องมองไปที่ เจียง หลี่” นับตั้งแต่ที่เจ้าเป็นสหายร่วมกับองค์หญิง หลัว เฟิง เป็นธรรมชาติที่ฉันจะต้อนรับ”
“อม ” หลัว เพิ่ง กล่าวพยักหน้า” ฉันมีเรื่องที่จะปรึกษาศิษย์พี่อาวุโส ซินจาง หวังว่า ศิษย์พี่จะช่วยเหลือฉันได้”
คําพูดของเธอแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่
นอกจากนี้มันทําให้ ราชันย์ เฟิง ซินจาง ขมวดคิ้วทันที