บทที่ 109 แม่มดแห่งความมืด
ก่อนที่โจวหยูจะรู้ว่าจะทําอย่างไรกับสตอล์เกอร์รายนี้อยู่นั้น เทียนเนียง, ลุงกวนเออร์และบราวนิ่ง, เกษตรกรทั้งสามคนต่างก็รีบมาหาเขาด้วยใบหน้าที่กระวนกระวายใจ ก่อนที่จะรายงานว่าฟาร์มได้ประสบภัยพิบัติ
ปัญหากําลังระดมเข้ามาหาเขาที่ระอย่าง
โจวหยูรีบวิ่งไปที่ฟาร์มผักทันที่ที่ได้รับเรื่อง ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นช่างเป็นฉากที่ยุ่งเหยิ่งจริงๆ ได้มีทหารกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดสีดําพร้อมกับคําว่า “ความตาย” ที่เขียนบนหน้าอกของพวกเขา ทหารตัวน้อยเหล่านั้นดูเหมือนเชื้อจุลินทรีย์จากเกมพืชเกมหนึ่ง
แจ็คได้จ้องที่มันระยะหนึ่งแล้วพูดว่า “ทหารแห่งความตาย! นี่เป็นความสามารถพิเศษของแม่มดแห่งความมืด บูบู! เจ้ารีบขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่รอบอากาศรอบๆบริเวณนี้ให้ที ข้ามั่นใจว่านางจะต้องซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน”
คนจากโลกของACGไม่สามารถรับการโจมตีโดยตรงจากโลกแห่งความจริงได้ ดังนั้นวิธีเดียวที่สามารถทําได้ก็คือพึ่งพาคนจากโลกACGเหมือนกันเท่านั้น ดังนั้นหน้าที่นี้จึงตกเป็นหน้าที่ของแจ็คและบูบู
แต่ดูเหมือนว่าแม่มดแห่งความมืดนั้นจะมีประสบการเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก จนถึงตอนนี้บูบูและแจ็คก็ไม่สามารถหาอีกฝ่ายเจอ ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะมีทักษะนักผจญภัยระดับพระเจ้า พวกเขาก็ไม่สามารถจับตัวอีกฝ่ายได้ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะจับอีกฝ่ายได้ เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะทํายังไงเช่นกัน?
ในเวลานี้ดูเหมือนจะจําเป็นต้องสร้างคุก
อาจเป็นเพราะพระเจ้าแห่งโลกACGได้รับฟังเรื่องนี้ ท่านจึงได้ประทานอาคารหลังใหม่ปรากฏในเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ – คุก มีหน้าที่สองประการ หนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงอาชญากรโดยใช้แรงงาน และหนึ่งคือการจับกุมอาชญากร การเบลี่ยนแปลงด้วยใช้แรงงานระบบที่สามารถเปิดใช้งานได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ แต่การจับกุมอาชญากรจําเป็นต้องมีนักล่าเงินรางวัล
นักล่าเงินรางวัลทุกคนมีทักษะการติดตามที่เรียกว่า – หมาล่าเนื้อ และยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ความสามารถก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น มันเหมาะมากสําหรับสถานการณ์นี้
มีสองวิธีในการรับนักล่าเงินรางวัล หนึ่งคือการใช้เหรียญโมเพื่อเรียกพวกเขามา แต่มันก็ติดปัญหาเพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่ต้องการเงินเดือน พวกเขามีชีวิตอยู่กับรางวัลของการจับกุมอาชญากรเท่านั้น อีกหนึ่งคือการยกระดับคนของตัวเอง นักผจญภัยทุกคนสามารถถ่ายโอนไปยังนักล่าเงินรางวัลได้ และหลังจากการถ่ายโอนทักษะพวกเขาจะได้รับทักษะการติดตามโดยอัตโนมัติ
เมื่อเกิดเรื่องนี้โจวหยูก็คิดว่าไลฟ์สไตล์ของนักล่าเงินรางวัลเหมาะสําหรับพิ่งห้อยลูกสาวคนนี้ของเขามาก แต่เขายังคงต้องถามความสมัครใจของเธอก่อนว่าเธอเต็มใจที่จะถ่ายโอนหรือไม่?
“จับอาชญากรเหรอ? รีบเลย! พ่อต้องรีบทําให้ข้ากลายเป็นนักล่าเงินรางวัลที่เก่งที่สุดในโลก! คนทําลายฟาร์มนั่นจะเป็นเหยื่อรายแรกของข้า!”
หิ่งห้อยมีความแน่วแน่มาก เธอบอกว่าเธอต้องการช่วยเหลือครอบครัว แต่โจวหยูไม่คิดอย่างนั้น ด้วยนิสัยของเธอมันเป็นไปไม่ได้ที่จะทําอย่างที่พูด ถามว่าทําไมเขาถึงคิดแบบนี้ นั้นก็เพราะเมื่อเขากําลังสร้างคุกอยู่นั้นเขาเผอิญได้ยินลูกสาวตัวน้อยพูดเบาๆว่า
“เยส! ในที่สุดข้าก็สามารถกําจัดชายชราผู้น่ารังเกียจคนนี้ได้แล้ว! ตั้งแต่นี้ต่อไปข้าก็สามารถหาเงินของตัวเองและซื้ออะไรก็ได้ที่ข้าชอบ ดื่มอะไรได้ตามต้องการ ไม่ต้องมาคอยฟังคําบ่นของชายชรานั้นอีกแล้ว ฮิฮิ
โจวหยูที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับไปไม่ถูกที่เดียว เขาไม่คิดว่าความหวังดีของเขาจะเป็นเรื่องน่ารําคาญสําหรับอีกฝ่าย เฮ้อ! เป็นอย่างที่คนโบราณพูดจริงๆ ผู้หญิงนี้ช่างเอาใจยากจริงๆ”
มันต้องใช้เวลาในการสร้างคุก ดังนั้นพวกเขาจึงทําได้เพียงมองดูพวกทหารแห่งความตาย เหล่านั้นทําลายผักในสวน ภาพเหตุการณ์นี้มันเป็นความอัปยศอย่างยิ่งสําหรับหมู่บ้านมินิลู่หัวอย่างมาก พวกเขาต้องมองดูแหล่งอาหารของพวกเขาถูกทําลายไปต่อหน้าต่อตา
คุณปู่หหูมักมาที่ฟาร์มเล็กๆแห่งนี้และมองดูผักที่นี่ดูมีชีวิตชีวาและสดใสอยู่เสมอ เขาไม่รู้จริงๆว่าเจ้านายตัวเล็กดูแลพวกมันยังไง เพราะพวกมันทั้งหมดดูดีและรสชาติดี มันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ อย่างไรก็ตามเมื่อเขามาที่นี่ในวันนี้ เขากับพบว่าผักทั้งหมดกําลังเหี่ยวลง
“มันเกิดอะไรขึ้น”
แน่นอนว่ามันคงเป็นเรื่องยากสําหรับปู่หูที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยประสบการณ์การทําฟาร์มมานานหลายปีเขาก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าโรคหรือแมลงศัตรูพืชชนิดใดที่สามารถทําลายผักพวกนี้ได้ในช่วงข้ามคืนแบบนี้
แต่เนื่องจากมันเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นในตอนนี้ที่สามารถทําได้ก็คือจํากัดบริเวณให้เหลือน้อยที่สุด วิธีที่ดีที่สุดในการทําแบบนี้ก็คือการทําลายผักที่ติดโรคพวกนั้น และควรจะหยุดการใช้ดินจากแปลงที่เกิดโรคนี้
อย่างไรก็ตามข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธโดยเจ้านายน้อยแทบจะทันที อีกฝ่ายได้อธิบายว่านี้เป็นปัญหาที่เกิดจากตัวผักเท่านั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับดินที่ใช้เลย ดังนั้นถึงเขาจะปลูกผักโดยใช้ดินนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
คุณปู่หูที่ได้ฟังแบบนั้นก็เกิดความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงทําได้เพียงถอนหายใจออกมาอย่างทําอะไรไม่ได้ ก่อนที่เขาจะช่วยเจ้านายตัวน้อยทําลายผักพวกนั้น
วันรุ่งขึ้นคุกก็เสร็จสมบูรณ์เช่นกัน ในที่สุดราชอาณาจักรเทพนิยายแห่งนี้ก็มีอาคารหลังแรกที่ใช้ในการรักษาความสงบ ความปรารถนาของนิ่งห้อยก็เป็นจริงเช่นกัน เธอได้กลายเป็นนักล่าเงินรางวัลหญิงคนแรกของหมู่บ้านมินิลู่หัว และงานแรกของเธอคือจับแม่มดแห่งความมืดที่ต้องการทําลายผัก
เพื่อล่อแม่มดแห่งความตายออกมา โจวหยูจําใจต้องปลูกผักชุดใหม่ตามฤดูกาลเป็นพิเศษ
เมื่อเวลาประมาณบ่ายสามโมง ทหารแห่งความตายก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งจากอากาศที่แผดเสียงกรีดร้องและวิ่งไปที่แปลงปลูกอย่างบ้าคลั่ง หิ่งห้อยที่รอจนเกือบจะหมดความอดทนแล้ว เห็นสถานการณ์เดิมๆเกิดขึ้น เธอจึงเปิดใช้งานทักษะ ”หมาล่าเนื้อ” ทันทีและเริ่มค้นหาแม่มด
ส่วนอาจารย์ทั้งสามก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะหยุดยั้งทหารแห่งความตายเอาไว้ พวกเขาพยายามปกป้องแปลงผักที่อยู่ด้านหลังสุดความสามารถ
แม่มดแห่งความมืดไม่มีพลังต่อสู้ทางกายภาพมากนัก สําหรับปรมาจารย์ที่ทรงพลังทั้งสาม แค่ส่งคนใดคนหนึ่งไปก็สามารถจัดการเธอได้ อย่างใดก็ตามด้วยทักษะที่อีกฝ่ายมีมันเป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะหาตัวพบ ดังนั้นจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่สามารถหาตัวอีกฝ่ายพบ
เมื่อสถานการณ์กําลังเบนไปทางทหารแห่งความตายที่ละนิด ก็ได้ปรากฏสัญญาณดอกไม้ไฟขึ้นมาบนอากาศในที่สุด เจ้าสิ่งนี้มันเป็นหนึ่งในอุปกรณ์งานมาตรฐานของนักล่าเงินรางวัลที่เรียกว่า – สัญญาณลุกเป็นไฟ เมื่อเกิดสัญญาณนี้ขึ้นมานั่นก็หมายความว่าแม่มดแห่งความมืดได้ถูกค้นพบแล้ว
แม่มดแห่งความมืดผู้ซึ่งความสามารถเรียกได้ว่ามีทักษะการต่อสู้ประชิดเข้าขั้นอ่อนแอก็ได้ถูกจับกุมในที่สุด นั้นจึงทําให้งานแรกของนักล่าเงินรางวัลเสร็จสมบูรณ์ และหิงห้อยรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เธอลากแม่มดแห่งความตายไปจนถึงที่คุมขังและมอบงานให้ผู้คุมเพื่อรับรางวัล
เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหัวใจของโจวหยูก็คล้ายกับมีมีดมากีดหัวใจของเขาอย่างจัง เขาเป็นคนกําหนดภารกิจดังนั้นรางวัลก็ต้องมาจากเขาเช่นกัน หลังจากได้รับเงินเป็นครั้งแรกหิงห้อยก็มีความสุขมาก เธอไม่รีรออะไรทั้งนั้นก่อนที่เธอจะรีบวิ่งไปในผับพร้อมกับกําเงินในมือเอาไว้ ในอดีตเธอสามารถตามอาจารย์ขี้เมาไปแอบขโมยเหล้าจากโรงเบียร์ได้เท่านั้น และแต่ละครั้งมันก็ทําได้เพียงปริมาณเล็กน้อย ซึ่งมันเป็นอะไรไร้ค่า แต่ตอนนี้มันกลับกันแล้วเธอสามารถซื้อเครื่องดื่มและดื่มได้มากตามที่ต้องการ
โชคดีที่เงินเหล่านั้นไม่ได้ไหลออกไปข้างนอก เพราะยังไงเงินเหล่านั้นก็ต้องกลับเข้ามายังกระเป๋าของเขาอีกครั้งอยู่ดี
ในตอนนี้แม่มดแห่งความมืดได้ถูกคุมขังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โจวหยูมีความต้องการอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับอีกฝ่ายอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่รอช้าที่จะตรวจสอบอีกฝ่าย
แม่มดแห่งความมืด มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์เวทดํา – เรียกทหารแห่งความตาย
มีผลร้ายต่อพืชผักของ ACG โลก
อาชญากร : คลาส D
เธอมีระดับสูงกว่าสตอล์เกอร์เพียงหนึ่งระดับ แต่น่าแปลกใจที่เธอจัดการได้ยากกว่ามาก มันทําให้โจวหยูสงสัยว่าอาชญากรคลาส S จะเลวร้ายเพียงใด ดูเหมือนว่าเขาจะต้องยกระดับ หิ่งห้อยลูกสาวคนนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ ไม่อย่างนั้นในอนาคตเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก จะไม่มีใครสามารถจัดการได้
จากนั้นโจวหยูก็คอยเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่าการแรงงานเป็นเวลาหลายวันและพบว่าหลังจากที่พวกนั้นได้รับการเปลี่ยนแปลงไป พวกนั้นจะกลายเป็นคนดีมากขึ้น ดูได้จากการที่พวกเขาจัดบันทึกประจําวันและกล่าวสุนทรพจน์ในยามว่าง ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงทางอุดมการณ์จะประสบความสําเร็จอย่างมาก
เรือนจําระดับหนึ่งสามารถรองรับอาชญากร 15 คนในเวลาเดียวกัน แต่อาชญากรระดับสูงสุดต้องไม่เกิน คลาส C ในส่วนของทักษะการเปลี่ยนแปลงตัวเองของคุกนั้นในแต่ละคลาสจะใช้เวลาไม่เท่านั้น โดยที่ในคลาสE นั้นมันจําเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงจะสําเร็จ ดังนั้นเวลาของแม่มดแห่งความมืดใช้ไปในทักษะนี้ก็คือสองสัปดาห์นั้นเอง
เมื่อโจรร้ายสตอล์เกอร์ได้ออกมาจากคุก เขาก็ดูแตกต่างจากเดิมไปมาก เดิมทีเขาเป็นโจรร้ายที่ชอบไอดอลและคอยทําร้ายพวกเขาด้วยพิษ มาตอนนี้เขาได้กลายเป็นชาวบ้านคนใหม่จากโลก ACG ไปแล้ว เขาได้กลายเป็นชายหนุ่มที่ชอบถ่ายภาพและวิดีโอ และยังสามารถพัฒนาไปเป็นช่างภาพมืออาชีพได้ ; ส่วนแม่มดแห่งความมืดก็ได้กลายเป็นแม่มดสีขาวที่ใจดีและยังมีทักษะที่รักษาชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บได้อีกด้วย
ดูๆแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ถือว่าแย่มากนัก