ในห้องฝึกฝนของฟางฉี ตอนนี้เขากำลังอยู่ในช่วงเวลาการฝึกฝนครั้งสุดท้ายก่อนออกเดินทาง
ว่ากันว่าผู้ฝึกฝนและนักรบที่ดินแดนอันแสนไกลนั้นมีความแข็งแกร่งสูงกว่าผู้ฝึกฝนทางดินแดนทะเลทรายร้างดังนั้นฟางฉีจึงต้องเตรยีมตัวให้พร้อม
บนหอคอยปีศาจ .. ในคืนพระจันทร์เต็มดวง
เงาสีฟ้าปรากฏขึ้น ฟางฉียกมือขึ้นเพื่อปิดกั้น เพียงเสี้ยววิเลือดสาดกระเซ็นมาโดนเขา ใบหน้าของฟางฉีซีดเผือดราวกับไม่มีเลือด เขาพบว่าแขนของเขาถูกปักด้วยดาบหนาสร้างบาดแผลลึกจนเผยให้เห็นกระดูกข้างใน!
อย่างไรก็ตามการโจมตีไม่ได้จบลง การถูกโจมตีส่งผลให้ร่างกายของเขาเย็นลงพร้อมกับการมองเห็นที่พร่ามั่ว เวลาเดียวกันพลังงานดาบอันน่ากลัวก็ฟันเข้าที่เขา!
ด้วยความเจ็บปวดและทรมานเขาลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในจุดเกิดใหม่อีกครั้ง
“ชิบ!”
เขาตาย
ช่วงเวลาที่ฟางฉีฟื้นขึ้นอีกครั้งเขาก็จำต้องหนีด้วยความรวดเร็ว ทันทีที่ขยับตัวพลังดาบมากมายก็ปรากฏขึ้นและพุ่งเข้าหาเขา!
“…” ก่อนที่เขาจะได้หายใจด้วยความโล่งอก ก็ถูกโจมตีโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว
“โอ้ย!”
มากกว่าครึ่งปี ..
เวอร์จิลค่อยๆ วางมือลงบนด้ามดาบของเขา ดาบของเขาดูเหมือนจะค่อยๆ หายไป ขณะเดียวกันฟางฉีค่อยๆ ถอยหลังกลับเล็กน้อยดาบในมือเขาเองก็ค่อยๆ หายไปด้วย
พลังดาบปะทะกันต่อหน้าเขาสองคน แรงกระทบของมันก่อให้เกิดประกายไฟทันที!
“หือ ..” เมื่อมาถึงอาณาจักรนักรบแล้วฟางฉีที่ยังไม่ได้เตรียมพร้อมปากเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา เขามองเวอร์จิลด้วยแววตาดูหวั่น จากนั้นพื้นที่รอบๆ กลับสู่ความมืดมิด “.. มันค่อนข้างยากมากที่จะเชี่ยวชาญ”
การฝึกฝนปัจจุบัน : เวอร์จิล
การผสานต่อร่างกาย : ร้อยละสามสิบ
การผสานโดยรวม : ร้อยละสิบสามจุดเจ็ด
ประสบการที่ได้รับ / ความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของตัวละคร : 9653/3628
หมายเหตุ : ตอนนี้ท่านสามารถใช้เทคนิคนี้ได้อย่างเชี่ยวชาญ
ตอนนี้ฟางฉีได้เชี่ยวชาญการใช้สกิลของเวอร์จิลและถึงระดับสองของการใช้รอลยัลการ์ด เมื่อรวมกับเทคนิคการใช้ปืนและดาบอื่นๆ ที่เขาเชี่ยวชาญแล้วความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันความแข็งแกร่ในการฝึกฝนของเขาเองก็เติบโตขึ้นเป็นระดับสองของอาณาจักรนักรบในที่สุด
…
ท้องฟ้สเหนือเมืองครึ่งมักจะมืดมนเป็นเรื่องปก ในช่วงเวลาอันยาวนานที่ฟางฉีหมกตัวอยู่ในเมือง อย่างไรก็ตามแสงแดดที่เคยเจิดจ้าหายไปเนิ่นนานหลังจากหิมะตก
ตามปกติแล้วลูกค้าประจำบางคนที่เมืองครึ่งเช่นโมเทียนซิงจะมาที่ร้านในเวลาเช้าเพื่อซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พวกเขาไม่เคยพลาดแม้แต่วันเดียว
“หัวหน้าสมาคมเจ้าจะออกไปข้างนอกหรือ?” ชายชรายังคงเรียกเขาว่าหัวหน้าสมาคมด้วยความนับถือ
ตอนนี้เซียนกระบี่พิชิตมารได้มีการย้ายอาวุธต่างๆ ได้ไม่นาน ผู้เล่นบางคนได้เดินทางไปถึงเกาะพระจันทร์สีเลือดทางเดินเต็มไปด้วยซากศพ
ฟสงฉียังคงเล่นเกมทุกวันสมาคมท้าทายสวรรค์ของเขายังคงเป็นกลางแม้จะมีการปะทะเล็กน้อยแต่โลกในเกมก็ยังสงบสุขตามปกติ
ขณะที่ผู้ฝึกฝนและนักรบจากร้านค้าทั้งสองกำลังพูดคุยเรื่องสมาคมเพื่อเข้าร่วมอย่างดุเดือดบางคนค่อยๆ พัฒนามิตรภาพนอกเกมไปพร้อมๆ กัน
หลังจากที่พวกเขาเบื่อกับการฆ่าสัตว์ประหลาดในเซียนกระบี่พิชิตมารแล้วพวกเขาก็จะเปลี่ยนไปขับรถเล่นเที่ยวรอบเมืองใน GTAV แทนเพื่อเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตที่แตกต่างกับโลกแห่งความจริงโดยสิ้นเชิง
“ใช่!” ฟางฉียืดตัว “ข้าอยู่ในร้านมานานแล้ว ได้เวลาที่ข้าจะต้องออกสำรวจ”
“มันไกลมากหรอ!?” รวนหนิงขมวดคิ้ว เธอเคยทะเลาะกับฟางฉีมาตลอดแต่ตอนนี้แววตาเธอดูกังวล “ความแข็งแกร่งและพลังขชองเจ้าตอนนี้เจ้ายังดีอยู่ใช่มั้ย?”
“หัวหน้าท่านจะกลับมาเมื่อไร?” ซูโมถามแม้ว่าจะรู้สึกเขินเล็กน้อย
ฟางฉีที่นั่งอยู่บนโซฟามองไปทางแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาและหัวเราะ “ข้าคิดว่าคงไม่นาน”
“การเดินทางไกลในช่วงฤดูใบไม้ผลิ?” หนิงไป่เดินเข้ามาและวางคริสตัลจำนวนหนึ่งบนเคาน์เตอร์ก่อนจะรินชานมด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ดูแลตัวเอง” หลิวหนิงหยุนผู้นิ่งเฉยและมักจะเพิกเฉยต่อฟางฉีกล่าว
หวังปู่เต๋า, นักบวชปีกแดงและคนอื่นๆ จากเมืองมังกรดำยืนขึ้นและจับมือเขา
ฟางฉีโบกมือด้วยความใจเย็น
…
ในร้านจิวหัวกลุ่มผู้เล่นเก่าตอนนี้ค่อนข้างสงบเพราะพวกเขาเคยมีประสบการณ์จากการพรากจากกันในครั้งก่อน
“จะออกไปเปิดร้านที่อื่นใช่มั้ย?” นาหลันฮงวูถามขณะกินบะหมี่
“เมื่อเจ้าไปถึงที่นั้นแล้วอย่างลืมทำการถ่ายทอดสดอีกละ” ซูเทียนจิเอ่ยเตือนพลางดื่มชานม “อย่างไรก็ตามเรายังไม่เคยเห็นบ้านเกิดของเสี่ยวหยูเลย นั่นน่าสนใจมาก” สาวกกล่าวเสริม
“เสี่ยวหยู!” ด้านนอกร้านหลันหยันโบกมือให้เสี่ยวหยูที่ยืนอยู่ข้างๆ เจียงหยวน “อย่าลืมเข้า QQ ด้วยหยกสื่อสารละ เราจะได้คุยกันได้”
“เข้าใจแล้ว!”
ด้วยพลังของดาบบพาพวกเขาบินขึ้นไปยังท้องฟ้าเพื่อเดินทาง
เจียงซวนจับผสานมือเข้าด้วยกัน เขาเอ่ยถามฟางฉี “เจ้าของร้านเจ้ามีความคิดที่จะเปิดร้านที่เมืองของข้าหรือยัง?”
เขากล่าวต่อว่า “เรามีเหล่าปรมาจารย์มากมายในกลุ่มของเรา รวมถึงเผ่าอื่นๆ ถึงสิบสองเผ่า นอกจากนี้กองทัพของเรายังมีข้อได้เปรียบ หากท่านเปิดร้านในเมืองเราไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีเหล่าอันธพาลมารบกวน”
“ใช่! เจ้านายเปิดร้านใกล้บ้านข้าเลย ข้าจะขอให้ท่านพ่อส่งยามไปที่ร้านเพื่อเฝ้ารักษาไม่ให้ใครมายุ่ง”
ฟางฉีส่ายหัว “ไม่จำเป็น”
“ทำไมถึงไม่จำเป็น!?” เจียงเสี่ยวหยูรู้สึกไม่พอใจ “เจ้าแค่ไม่อยากให้ข้าไปละสิ!”
โดยปกติแล้วปัญหาหลายประเภทมักเกิดขึ้นในเมืองหลว แล้วนับประสาอะไรกับสถานที่ที่เป็นแห่ลงรวมของตระกูลโบราณ
นอกจากนี้หากเปิดร้านแถวชายแดนเมือง ประชาชนจากประเทศอื่นๆ ก็จะสามารถเข้าร่วมใช้บริการได้ ถ้ามันเปิดในเมือง มันก็จะสะดวกต่อผู้ฝึกฝนเท่านั้น
ฟางฉีอธิบายว่า “คงเป็นเรื่องลำบากมากถ้าเจ้าจะต้องบินไปกลับนอกเมืองในเมืองทุกวัน ข้าจะดำเนินการหาข้อมูลเพื่อจับจองทำเลที่ดีเอง เพื่อเจ้าจะได้บินไปที่ร้านทุกวันหลังเลิกเรียน”
“เยี่ยม!” เจียงเสี่ยวหยูรับฟังอย่างเข้าใจ
ฟางฉีพยักหน้าว่ารู้กัน .. ใบหน้าของเจียงซวนกระตุก
บ้าเอ้ย! ข้าละอยากจะชวนเจ้าของร้านไปเยี่ยมครอบครัว ข้าต้องหาวิธีอื่นแล้ว
“ฟางฉีเจ้ารู้จักวิธีผ่านเขตสวรรค์มั้ย?”
ฟางฉีพยัหน้า “พอจะรู้จัก”
“งั้นข้าจะพาเสี่ยวหยูกลับบ้าน ยัยเด็กดื้อนี่แอบออกไปและไม่ได้กลับบ้านมานานแล้ว” เจียงซวนกล่าว
ฟางฉีโบกมือ .. เจียงซวนที่พูดไม่ทันจบประโยคเห็นแสงสีขาววาบต่อหน้าต่อตา
เขาตัวแข็ง
ฟางฉีหายไปแล้ว