ตอนที่ 450 : ต่อสู้กับอะไรนะ?
สํานักสวรรค์มีลูกศิษย์มากมายจากหลายพื้นที่ทั่วโลก พวกเขาแบ่งออกเป็นสองประเภทศิษย์ ประเภทแรกมีปรมาจารย์มีความรู้มาก่อนและมาต่อยอด ส่วนอีกประเภทคือศิษย์ธรรมดาไม่มีปรมาจารย์แต่ฝึกฝนมาด้วยตัวเอง
พวกเขาแต่ละคนมีจุดแข็งในการฝึกฝนและประสบการณ์ที่ต่างกัน ความได้เปรียบของแต่ละคนจะต่างกันไปบางคนมีพื้นฐานจากครอบครัวพวกเขาได้รับเทคนิคที่สืบทอดรุ่นต่อรุ่นกันมาช้านาน
แน่นอนคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีพื้นฐานจากครอบครัวพวกเขาจะอาศัยการเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยตัวเอง พวกเขาเลือกที่จะสอบเข้าที่นี่เนื่องจากพัฒนาตนเองและเพื่อเข้าใจถึงแก่นแท้ของพลังดีกว่าที่จะลองผิดลองถูกอย่างที่ผ่านมา
“เจ้านาย” เสียงเจียงเสี่ยวหยูที่กลับมาจากการเลิกเรียนเอ่ยเรียกเขาขณะที่เขากําลังเล่นเกมอย่างตั้งใจ
จือไปพูดขึ้น “บะหมี่และชามนมอย่างละหนึ่ง!”
มู่ชิงตะโกน “พี่ซินเอ๋อข้าขอแท่งรสเผ็ดหนี้กล่อง!”
ตามมาด้วยเสียงของเล่ยเก้อและซู “เราสองคนเอาด้วย ท่านหัวหน้าเสี่ยวหยูท่านต้องการอะไรมั้ย?”
แทนที่จะเดินไปที่เคาน์เตอร์เจียงเสี่ยวหยูเลือกที่จะวิ่งไปหาฟางฉีเป็นอันดับแรก “เจ้านายวันนี้ผู้อาวุโสสอนเรื่ององค์ประกอบของพลังลมปราณหยินหยาง นอกจากนี้เขายังพูดบางอย่างเกี่ยวกับโลกคือดินแสงคือสวรรค์ ข้าไม่ค่อยเข้าใจท่านรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้างมั้ย?”
“ถ้าเรื่องนี้ ” ฟางฉีเล่นเกมพลางตอบคําถาม “พลังลมปราณประกอบด้วยไฮโดรเจนและออกซิเจนเป็นส่วนใหญ่”
“โอ้
ออกซิเจน ไฮโดนเจน ” เสี่ยวหยูหยิบสมุดเล่มเล็กออกมาจดบันทึก
“ถ้าอย่างนั้น.. ดินคือโลก แสงคือท้องฟ้า นั่นหมายความว่าอย่างไร?”
“ หมายความว่าก๊าชมีความหนานแน่นต่ํากว่าเช่นไฮโดรเจนจะลอยขึ้นกลายเป็นท้องฟ้าแต่ก็าชที่มีความหนาแน่นสูงอย่างคาร์บอนไดออกไซส์และออกซิเจนจึงตกลงสู่พื้น”
“แล้วไฮโดรเจรและออกซิเจนคืออะไร? ไม่เห็นผู้อาวุโสจะสอนคําเหล่านี้ให้เรา”
“ไฮโดรเจรและออกซิเจนคือ ” ฟางฉีอธิบายออกไปเจียงเสี่ยวหยูจดบันทึกอย่างตั้งใจ คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่อ้าปากค้างกับการสอนที่ดูไม่ธรรมดา
ในไม่ช้าสมุดของเธอก็เต็มไปด้วยความรู้ด้านฟิสิกส์เคมีชีวะระดับมัธยมต้นถึงปลาย
“หือ?” เจียงเสี่ยวหยูเกาหัวขณะอ่านใสมุดบันทึกของเธอ“พลังลมปราณประกอบด้วย อนุภาคที่มองไม่เห็นอย่างโอโซนสเฟียร์เป็นสานที่ประกอบด้วยอะตอม ”
“คือ อย่างนั้นหรอ? มันฟังดู ข้าไม่เข้าใจสักนิด”
เจีบงเสี่ยวหยูทําหน้างงงวย “ข้าควรถามพี่ใหญ่ดีมั้ยนะ”
“พี่ชาย!”
เจียงซวนตอบขณะที่กําลังดูกระบี่เทพสังหาร
“โอ้? เสี่ยวหยูเจ้ากลับมาจากสํานักเรียนแล้วหรือ” เจียงซนตอบเธอแต่ยังคงไม่ละลายตาจาก หนัง
“ใช่ เจ้านายอธิบายองค์ประกอบของพลังลมปราณให้ข้าฟังแต่ฟังยังไงข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี”เจียงเสียวหยูกล่าว
“องค์ประกอบของพลังลมปราณ?” เจียงซวนโบกมือและพูดอย่างมั่นใจ“เชื่อข้าแม่เขาจะทรงพลังแต่ความรู้ของเขาเกี่ยวกับพลังลมปราณนั้นไม่ลึกซึ้งเท่ากับตระกุลเจียงของเราแน่นอน”
ครอบครัวของเขาเป็นตระกูลโบราณที่มีมรดกอันยิ่งใหญ่และความรู้สืบต่อรุ่นต่อรุ่น
“เยี่ยม!” เสี่ยวหยูพูดด้วยความตื่นเต้น “เจ้านายเพิ่งบอกข้าว่าพลังลมปราณนั้นประกอ บด้วยไฮโดรเจรและออกซิเจน ”
เจียงซวนมองไปที่ฟางฉี “!!??”
“มันคือ
พลังลมปราณแบบไหน?”
เกมไซไฟและหนังที่เปิดตัวของร้านหลักก็เช่นเรสซิเดนท์อีวิล, GTAVตามด้วย CSGO
แม้เกมจะช่วยพัฒนาเรื่องเทคนิคแต่ในนั้นไม่ได้แสดงถึงสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณและสมบัติ ขั้นสูงสักเท่าไรนักแน่นอนว่าเพื่อให้เข้าใจสิ่งใหม่ๆ เราเองก็ต้องเข้าใจความรู้พื้นฐานของวิทยาศาสตร์ที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อนเช่นกัน
อย่างไรก็ตามผู้เล่นเกมส่วนมากไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดเหล่านี้สักเท่าไร
“ลืมมันไปเถอะ ข้าจะนําคําถามของเจ้าไปให้ผู้อาวุโส”เจียงเสี่ยวหยูทําหน้ามุ่ย
“ข้าเล่นเกมละ!” เธอนั่งที่ว่างข้างเขา
ขณะเดียวกันฟางนี้ได้รับการแจ้งเตือนเซียนกระบี่เทพพิชิตมารสามของเขานั้นมีการเปิดใช้มากกว่าสองพันครั้ง
วันนี้ฟางไม่ได้ถ่ายทอดสดแต่เขายังเล่นเกมเพื่อฝึกฝนเทคนิคดาบตามปกติ
มันแตกต่างจากเกมเดิมแม้ว่าในเวอร์ชั่นนี้จะไม่ได้มีข้อจํากัดในการใช้สมบัติทางจิตวิญญาณแต่สําหรับสมบัติในเกมนั้นมีค่ามากเกินไป พวกมันมีเอกลักษณ์การใช้งานเฉพาะตัวมันไม่สามารถได้รับจากการฆ่ามอนเตอร์เหมือนในเวอร์ชั่นเก่า
ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องฝึกฝนพึ่งพาเทคนิคการต่อสู้และความแข็งแกร่งของจิงเทียน
หากจุดแข็งของผู้เล่นไม่สูงพอ พวกเขาจําเป็นต้องฝึกฝนเพื่อให้ระดับของจิงเทียนเติบโตซึ่งนอกจากจุดแข็งของจิงเทียนจะเพิ่มแล้วจุดแข็งของผู้เล่นก็เช่นกัน
นี่คือเหตุผลที่ฟางฉีเลือกจะเล่นเกมต่อไปด้วยความใจเย็น
เขาไม่ได้รีบเข้าสู่ขั้นอมตะ เขาคิดว่าเขาจะเข้าเมื่อพร้อม
“เจ้าของร้าน .. ถ่ายทอดสดอีกแล้วหรอ?”
“เขาจะเล่นอะไน?”
“ตอนนี้เหลือการต่อสู้กับชงหลิว”
นอกจากลูกค้าเก่าแล้วลูกค้าใหม่เองก็ตั้งหน้าตั้งตารอเช่นกัน
ขณะเดียวกันชายชราผมขาวตัวสั่นเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับนักรบลัทธิเต๋ชุดดําและชายชุดขาว
“ร้านนี้?” ชายชราเหลือบมองข้างใน “ดูธรรมดา ”
ร้านนี้เนี่ยนะ ที่ทําให้สามเหลี่ยมของข้าระเบิดข้าพยายามที่จะคํานวณว่ามันคืออะไร
“ช่วย ช่วยด้วย” ชายชนะพูดเสียงสั่น
“ระวัง!” พวกเขาผลักประตูพลางพยุงชายชรา
เมื่อเข้ามาในร้านพวกเขาเห็นคนกลุ่มใหญ่นั่งจับกลุ่มกันอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่หน้าจอใหญ่
“พวกเขาทําอะไร? กูถึงหยุนเหลืองมองหน้าจอใหญ่ด้วยความสงสัยเขากวาดสายตาไปรอบๆเห็นกวางขาวตัวใหญ่นั่งมองอย่างตั้งใจ
“เรากําลังดูเจ้าของร้านต่อสู้กับชงหลิว” กวางขาวตอบ
“ชงหลิว?”
บนหน้าจอใหญ่ชายหนุ่มชุดคลุมสีม่วงทองยืนอยู่พร้อมดาบปราบปีศาจในมือตรงข้ามเขาเป็นปีศาจหนุ่มเขามีเขาสองเขาในชุดเกาะสีแดงทอง
จิงเทียนกับชงหลิว
นี่คือการต่อสู้รอบสุดท้ายหลังจากกลับชาติมาเกิด
“ใครคือ ชงหลิว?”
กวางตัวใหญ่ใช้สองกลีบชี้ไปที่หน้าจอ “จอมมาร! วันนี้เจ้าของร้านจะไปสู้กับจอมมารโดยการถ่ายทอดสดให้พวกเราดู มันคือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในการกลับชาติมาเกิด”
สามคนที่เดินเข้ามาได้ยินเช่นนั้นถึงกับผงะ
“เจ้าของร้านกําลังต่อสู้อะไรอยู่!?”
ทําไมกวางขาวถึงได้เฝ้าดูการต่อสู้อย่างตื่นเต้นเช่นนั้น!