เมืองไร้ชื่อได้รับการประดับประดาด้วยแสงไฟและเครื่องประดับสำหรับงานรื่นเริง แม้แต่หิมะก็ไม่อาจทำให้ความร้อนแรงของผู้เล่นในงานเลี้ยงลดลงได้
ที่จัตุรัสเล็ก ๆ ถัดจากไลฟ์สโตน กองไม้และเชื้อไฟที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันถูกจุดขึ้นด้วยทักษะไฟร์บอล(Fireball) กองไฟที่ปรากฏขึ้นได้ส่องสว่างไปทั่วทุกมุมของจัตุรัส ขณะที่ชาวเมืองไร้ชื่อก็ได้เริ่มงานปาร์ตี้ของพวกเขา
เดิมทีการเฉลิมฉลองครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของผู้เล่นรุ่นเก๋าหลายคน แต่หลังจากที่แองโกร่าได้ค้นพบเรื่องนี้ เขาก็ตัดสินใจที่จะจัดงานเลี้ยงให้คนทั้งเมืองได้เพลิดเพลิน เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกว่านี่คือเมืองของพวกเขาจริง ๆ และเสริมสร้างสายสัมพันธ์ของประชาชนในเมือง
เนื่องจากเขาพบว่าฐานที่มั่นลับในแลงคาสเตอร์กลายเป็นดินแดนของเทพเจ้าแห่งเกมแล้ว เขาก็เลยรู้สึกว่าเขากำลังถูกคุกคามอยู่นิด ๆ
จริงอยู่ที่การใช้คำว่า ‘ฟุ่มเฟือย’ เพื่ออธิบายงานเลี้ยงครั้งนี้นั้นค่อนมากเกินไปหน่อย เนื่องจากสภาพปัจจุบันของเมือง
แต่งานเลี้ยงรอบกองไฟ ก็ยังคงสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ไม่เคยได้สัมผัสกับงานเฉลิมฉลองประเภทนี้มาก่อน
ซ่งเยวี่ยน*ไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตมันง่ายขนาดนี้ เพียงหนึ่งสัปดาห์ เขาที่เป็นเพียงผู้ลี้ภัยที่มีภูมิหลังที่ต่ำต้อย แม้ว่าเขาจะต้องการไปเป็นผู้ช่วยของร้านค้าเล็ก ๆ บางแห่ง ก็ไม่มีใครที่ไหนยอมรับเขา แม้ว่าเขาจะเป็นโสดและไม่มีครอบครัวให้ดูแล แต่เนื่องจากเขามีความอยากอาหารมากกว่าคนทั่วไป เขาจึงหิวโหยและมีชีวิตเสี่ยงตายมาโดยตลอด
หลังจากที่เขากลายเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมและมาที่เมืองไร้ชื่อแห่งนี้ ชีวิตของเขาก็ดีขึ้นมาก ตราบใดที่เขาเต็มใจจะใช้เวลาและความพยายามของเขาในการออกล่าโครงกระดูกใกล้กับหุบเขาแห่งความตาย เขาก็จะได้รับเหรียญเกมและอาหารอร่อย ๆ ที่ร้านอาหารในเมือง
แม้ว่าเหล่าผู้เล่นรุ่นพี่จะบ่นว่าเมนูพวกนี้ธรรมดาเกินไป และตัวเลือกก็มีน้อยเกินไป แต่สำหรับผู้ลี้ภัยแล้ว พวกเขามีความสุขแค่ได้กินอิ่ม
ซ่งเยวี่ยนรู้ว่างานเลี้ยงคืออะไร ในขณะที่เขาอาศัยอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัย เขาก็ได้เรียนรู้ว่างานเลี้ยงเป็นกิจกรรมที่ขุนนางมักจะจัดขึ้นและชวนคนในแวดวงของตัวเองมาร่วมสนุก จากชายที่ชื่อว่าแวนเค่อ•นอร์เรจี้
ดังนั้นเขาจึงประหลาดใจมากที่งานเลี้ยงที่ท่านเจ้าเมืองจัดขึ้นในครั้งนี้ ประชาชนในเมืองทุกคนสามารถเข้าร่วมได้
ซ่งเยวี่ยนไม่ได้สนใจของแต่งที่เรียงรายไปตามถนนมากนัก เป้าหมายของเขาอยู่ที่ตะแกรงปิ้งย่างมากมายที่ตั้งอยู่รอบ ๆ สถานที่จัดงาน แม้ว่าของประดับจะสวยงาม แต่มันก็ไม่อาจเติมเต็มกระเพาะของเขาได้
ชาวเมืองบางคนทำหน้าที่ปิ้งย่างอาหาร บางคนรับผิดชอบทำเคบับร้อน ๆ ที่ราดด้วยน้ำมันและเครื่องเทศ บางคนดูแลผักสดใหม่เสียบไม้ย่าง แต่จุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือตะแกรงย่างที่มีไก่ทั้งตัวยัดไส้สมุนไพรและเครื่องเทศราคาแพง ไก่ที่ย่างด้วยวิธีนี้จะกรอบนอกนุ่มในและมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ มันน่ารับประทานสุด ๆ!
บรรยากาศของงานเลี้ยงเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผู้เล่นรุ่นเก๋าที่เข้าร่วมการต่อสู้กลับมาด้วยเสียงหัวเราะ และพากันพูดคุยเสียงดัง
ผู้เล่นรุ่นเก๋าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทหารรับจ้างบางคน พากันล้อมรอบกองไฟ พวกเขาเริ่มร้องเพลงเพลงพื้นบ้านและเต้นรำอย่างดุเดือด
สำหรับซ่งเยวี่ยนที่กำลังแลบลิ้นเลียเคบับก่อนจะยัดมันเข้าปาก ผู้เล่นเหล่านี้ไม่ได้กำลังเต้นรำในงานเลี้ยงเหมือนที่แวนเค่อเคยเล่าให้เขาฟัง พวกเขาดูเหมือนกำลังเต้นรำในพิธีกรรมที่นักล่าจากบ้านเกิดของเขา ทำเพื่ออธิษฐานขอให้ทุกคนโชคดีในการออกล่า
การเต้นของผู้เล่นนั้นติดดินและเรียนรู้ได้ง่ายมาก ผู้ลี้ภัยที่กลายเป็นผู้เล่นบางคนก็กล้าหาญก้าวเข้ามาในวงล้อมของผู้เล่นรุ่นพี่ และเริ่มโยกตัวตามจังหวะหมุนไปรอบกองไฟกับพวกเขา
แน่นอนว่าผู้เล่นรุ่นเก๋าหลายคนก็ไม่ได้สนใจการเต้นรำ ดังนั้นพวกเขาจึงรวมตัวกันใกล้กับพื้นที่ปิ้งย่าง และคุยโวเกี่ยวกับการผจญภัยของพวกเขา
พวกเขาเล่าเรื่องราวอันยิ่งใหญ่เกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาฆ่าจระเข้เกราะคลั่ง และวิธีที่พวกเขาหลบหนีฝูงหนูที่สามารถกินคนทั้งตัวในไม่กี่วินาที ได้โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ และบางคนยังบอกว่าพวกเขาได้เผชิญหน้ากับมนุษย์เงือกหนองน้ำ 3,000 ตัวในคราวเดียว…
ผู้ลี้ภัยที่กลายเป็นผู้เล่นฟังเรื่องนี้อย่างตั้งใจและหวาดกลัว พวกเขาจินตนาการว่าตัวเองจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับผู้เล่นรุ่นพี่ในสักวันหนึ่ง และได้ออกไปผจญภัยด้วยตัวเอง
ซ่งเยวี่ยนที่เคยเป็นนักล่ามาก่อน รู้สึกว่าเรื่องที่พวกเขาเล่าดูไม่ค่อยสมจริง แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ มาโต้แย้ง เขาจึงได้แต่ยืนอยู่ข้าง ๆ และกินเคบับ ในขณะที่ฟังเพลงพื้นบ้าน เขาก็คิดว่าเขาควรจะทำอะไรไปต่อหลังจากนี้ดี บางทีเขาคงจะไปท้าทายอัตราการสำรวจ 4% ของหุบเขาแห่งความตาย
“ทำไมเจ้าถึงไม่ไปร่วมสนุกกับพวกเขาล่ะ”
มีเสียงคน ๆ หนึ่งถามขึ้นใกล้ ๆ เขา
เมื่อซ่งเยวี่ยนหันไปมอง เขาก็ได้พบกับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง
ถ้าไม่ใช่คำว่า ‘ซีเว่ย’ ที่ลอยอยู่บนหัวของคน ๆ นั้นเป็นสีขาว ซ่งเยวี่ยนคงจะคิดว่าเขาเป็นสายลับ
“ข้าพูดกับคนอื่นไม่ค่อยเก่ง” หลังจากที่เขายืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาร้าย เขาก็กัดเคบับต่อไปอย่างหน้าด้าน ๆ ก่อนจะถามทั้งที่เนื้อเต็มปาก “เจ้ามีธุระอะไรกับข้ารึเปล่า ข้าคิดว่าข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน”
“ข้าเป็นผู้ศรัทธาของเทพเจ้าแห่งเกมที่มาจากภายนอก” ชายคนนั้นยิ้มอ่อน “ข้ารู้จักเอลีน่าและเพื่อน ๆ ของเธอ วันนี้ข้ามาเยี่ยมพวกเขา”
“เอาล่ะ ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกเขาแล้วกัน”
ซ่งเยวี่ยนกินเคบับเสร็จแล้วก็โยนไม้ที่เหลือทิ้งลงถังขยะใกล้ ๆ ก่อนจะเช็ดปาก “ที่นี่ยอดเยี่ยมมาก แต่ก็มีกฎมากเกินไปด้วย เจ้าสามารถโยนขยะของเจ้าลงในถังขยะได้เท่านั้น และเจ้าต้องเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระของเจ้า ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องเสียค่าปรับ…”
“แต่ก็เพราะกฎเหล่านั้นที่ทำให้เมือง ๆ นี้สะอาดและน่าอยู่ขึ้นไม่ใช่เหรอ?”
“ก็จริง ชีวิตที่นี่ดีกว่าข้างนอกมาก!” ซ่งเยวี่ยนเกาแผงคอของเขาอย่างหงุดหงิดผสมกับเหนื่อยใจ
ทั้งสองคุยกันไปเรื่อย ๆ ขณะที่พวกเขาเดินผ่านฝูงชน
ภายในฝูงชน มีใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่ไม่น้อย
ตัวอย่างเช่นแองโกร่าและมาร์นี่ที่กำลังคุยกันอยู่ไม่ไกลจากกองไฟ
“ท่านวิลฟ์ ขอบคุณสำหรับทรัพยากรทั้งหมดที่คุณนำมาให้เมืองของเรา ถ้าไม่มีท่าน เราก็คงไม่สามารถจัดงานเฉลิมฉลองเช่นนี้ได้”
“ไม่ ไม่ขอบคุณข้าหรอก ข้าเป็นพ่อค้า ดังนั้นข้าจะไม่ทำอะไรที่ทำให้ข้าต้องขาดทุน”
“ท่านหมายถึงอะไร อ๊ะ ถ้าไม่สะดวกก็ไม่ต้องบอกก็ได้นะ…”
“ไม่เป็นไร ท่านจำร้านค้าที่ท่านพึ่งสร้างขึ้นเมื่อวันก่อนได้ไหม ลอร์ดของข้า”
“โอ้นั่น คุณภาพของสินค้าที่ขายค่อนข้างดีและราคาไม่แพง แต่ด้วยข้อจำกัดในการซื้อสินค้า และข้อกำจัดด้านจำนวนสินค้าที่แต่ละคนสามารถซื้อได้ ทำให้มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”
เมื่อเขาได้รับแบบแปลนร้านค้าจากเอ็ดเวิร์ด แองโกร่าก็สร้างอาคารนี้ขึ้นมาทันที ร้านค้านี้เป็นร้านค้าระบบที่ซีเว่ยจัดหาให้กับผู้เล่น พวกผู้เล่นสามารถซื้อไอเท็มเช่น โพชั่น HP โพชั่น MP ม้วนคาถาเทเลพอต และม้วนคาถาประเมิน เมื่อผู้เล่นมีชื่อเสียงเพียงพอ พวกเขาจะสามารถปลดล็อกโพชั่นและสินค้าระดับสูงได้มากขึ้น
เนื่องจากซีเว่ยไม่ได้มีพลังงานเทพเจ้าเหลือกินเหลือใช้มากมายนัก เขาจึงไม่สามารถมอบไอเท็มจำนวนมากให้กับผู้ศรัทธาของเขาได้ ดังนั้นเขาจึงได้กำหนดวงเงินการซื้อสำหรับผู้เล่นแต่ละคน
“หลังจากที่ข้าใช้เหรียญเกมเพื่อซื้อโพชั่นพิเศษจากผู้เล่น ข้าก็นำไอเทมไปขายที่แลงคาสเตอร์เป็นเงินริออน และซื้อเสบียงกลับมาด้วยเงินนั้น”
“…โอ้”
“ข้าบอกท่านเรื่องนี้เพราะข้าต้องการทำธุรกิจกับท่านในระยะยาว ลอร์ดของข้า เมืองแห่งนี้จะต้องการเสบียงและทรัพยากรมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นทำไมท่านไม่หาคู่ค้าที่ปลอดภัยสำหรับการซื้อขายของท่านล่ะ”
“ท่านทำเงินเก่ง มาร์นี่…”
แองโกร่าไม่คิดว่าเขาจะสามารถลอกเลียนแบบมาร์นี่ และปล่อยให้วีลาไปขายโพชั่นที่แลงคาสเตอร์เหมือนที่มาร์นี่ทำได้
อย่างไรซะมาร์นี่เป็นพ่อค้ามาครึ่งชีวิต ดังนั้นเขาจึงมีวิธีการขายสินค้าเหล่านี้ได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เขาบอกข้อมูลนี้ให้แองโกร่ารู้ก็เพราะมันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“แน่นอน คนทั่วไปต้องการเหรียญริออนและเหรียญทองแดง ในขณะที่ผู้เล่นต้องการเหรียญเกม แต่ข้า…” มาร์นี่ยื่นมือออกมาและกำแน่น “ข้าต้องการทั้งหมด!”
แองโกร่า “…”
ซ่งเยวี่ยนที่อยู่ไม่ไกลเหงื่อตก
“ข้ารู้สึกว่าเรากำลังได้ยินสิ่งที่เราไม่สมควรได้ยิน…”
“ไม่เป็นไร พวกเขาไม่สนใจหรอกว่าจะมีใครแอบได้ยินรึเปล่า เพราะพวกเขาพูดในที่สาธารณะ…” ซีเว่ยปลอบ
จากนั้นเขาก็หยุดชะงักแล้วพูดว่า “น่าจะนะ”
“…” ซ่งเยวี่ยนถึงกับพูดไม่ออก
‘เจ้ากำลังทำให้ข้ากังวลมากกว่าเดิมอีก!’
—————————————————————————————————————————————————————————————