โกวต้านเป็นคนแรกที่รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับอัศวินเกราะดำที่วิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน
“ไม่ถูกสิ ทักษะยิงจุดสำคัญของข้าล้มเหลว! พวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต!”
“มีใครเรียนทักษะตรวจจับบ้าง? ดูสิว่ามันเป็นตัวอะไร!” เอ็ดเวิร์ดพูดสั่ง แต่แล้วเขาก็ต้องพบกับสีหน้าว่างเปล่าของพรรคพวก “เชี่ย ไม่มีใครเรียนเลยเหรอ!”
“มีลุงมาร์นี่กับทีมของลุงอีวานแล้วไง พวกเขามีทักษะตรวจจับ…” โกวต้านพึมพำ “มีพวกเขาแล้ว ใครจะเสียคะแนนเพื่อเรียนรู้มันอีกล่ะ…”
เป็นความจริงที่ว่านอกจากคนอย่างมาร์นี่ ที่มีประสบการณ์และความรู้แล้ว ผู้คนในโลกนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะพบกับความรู้สึกหมดหนทางและอ่อนแอของตนอยู่เสมอ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติ ที่พวกเขาต้องการจะเรียนรู้ทักษะที่สามารถใช้ในการต่อสู้ได้ เมื่อเทียบกับทักษะที่ไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้อย่างตรวจจับ…
“เอลีน่า เจ้าสามารถร่ายบาเรียศักดิ์สิทธิอีกครั้งได้ไหม?” เอ็ดเวิร์ดถามเด็กสาว
“มันยังคูลดาวน์”
เอลีน่าส่ายหัวไปมาทำให้ผมสีเงินทวินเทลของเธอแกว่งตาม ตอนนี้เธอดูน่ารักมาก
“คูลดาวน์นานขึ้นเพื่อแลกกับความแข็งแกร่งของทักษะสินะ…ข้าไม่รู้ว่าศัตรูพวกนี้จะไวขนาดนี้…โจตื่นหรือยัง” เอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนไปใช้แผนสำรองทันที เขาถามโกวต้านที่อยู่ข้าง ๆ เขา
“ข้ามาแล้ว มาแล้ว! ข้าไม่รู้ว่าทำไมข้าถึงมีรูสองรูที่สะโพก ข้าเลยต้องดื่มยา HP อยู่ตั้งนาน” ก่อนที่โกวต้านจะตอบกลับ โจก็วิ่งออกมาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน “ยายของข้าเคยบอกว่า ข้าเลือดออกได้ แต่ข้าจะเสียไตไปไม่ได้!”
“เดี๋ยวก่อน คนผิวแห้งนี่ยังไม่ตายอีกเหรอ!”
ดวงตาของคล็อกกาโตว์ที่ใหญ่กว่ามนุษย์เบิกกว้างขึ้น เขาจ้องที่โจที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“อย่าพึ่งแปลกใจ เจ้ารู้จักการปะทุพลังครั้งสุดท้ายก่อนตายใช่ไหมล่ะ” วีลารีบอธิบาย “นั่นแหละคือสิ่งที่เจ้าเห็น!”
“เจ้าเป็นคนผิวแห้งจริงรึเปล่า?”
คล็อกกาโตว์จ้องมองโจขึ้นลง สีหน้าของเขามีพิรุธ
“ใช่ มนุษย์ทุกคนก็เป็นแบบนั้นแหละ!” วีลามั่นใจ “ไม่ต้องกังวล เขาจะตายในไม่ช้า!”
“มนุษย์ช่างน่ากลัว…” คล็อกกาโตว์ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขาอุทานว่า “แต่เมื่อคิดว่านักรบผู้กล้าหาญเช่นนี้ ยอมสละตัวเองเพราะความเข้าใจผิดธรรมดา ๆ ข้าคล็อกกาโตว์ผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกสะ…”
ก่อนที่คล็อกกาโตว์จะพูดจบ โจที่รู้สึกได้ว่ามนุษย์กบจ้องมาที่เขา เขาเลยชูนิ้วกลางขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มสดใส
คล็อกกาโตว์ “???”
“พวกเจ้าจะคุยกันนานแค่ไหน” เจสสิก้าถามด้วยความตื่นตระหนก “พวกนั้นมาแล้ว!”
แนวป้องกันที่มนุษย์กบดึงออกมาด้วยความเร่งรีบไม่สามารถป้องกันการโจมตีของศัตรูได้ มันถูกทำลายลงในพริบตา
แม้แต่บ้านหอยสังข์ที่ขว้างกั้นเส้นทางของศัตรูก็ยังแตกเป็นเสี่ยง ๆ โดยไม่ทำพวกมันช้าลงเลย
“หลบไป ข้าเอง!”
โจปักดาบของเขาลงพื้นก่อนจะแสดงท่าทีเยาะเย้ยอัศวินดำ “เฮ้ มาหาพ่อมา ไอ้หนู!”
ดวงตาสีแดงดวงเดียวที่ส่องประกายออกมาภายในหมวกเกราะของอัศวินดำ หันไปทางโจทันทีเมื่อมันได้ยินคำเยาะเย้ย
จากนั้นการพุ่งโจมตีของอัศวินดำก็เลี้ยวเปลี่ยนวิถีพุ่งเข้าหาโจ
“โอ้การยั่วยุ…” โจยังพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็ถูกส่งบินไปโดยอัศวินดำ ขนาดเวลาจะเรียกวิญญาณคู่หูออกมาก็ยังไม่ทัน
ร่างกายของเขาหมุนติ้วกลางอากาศก่อนที่เขาจะร่วงลงพื้นด้วยสภาพราวขยะเปียก
น่าแปลก ที่เขาไม่ได้ตายจากการโจมตีครั้งนี้
“เอิ่ม เมื่อกี้ข้ากลัวแทบตาย…”
โจคลานตัวสั่นเหมือนกับคนเป็นพาร์กินสัน
ชุดเกราะบนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยแตก และแม้ว่าเขาจะไม่ได้เปิดดูหน้ารายละเอียดไอเทม แต่เขาก็รู้ว่าค่าความทนทานของชุดเกราะที่เขาสวมมาเป็นเวลานั้นลดลงเหลือ 0 ไปแล้ว และไม่สามารถซ่อมได้อีก
“ข้าเริ่มโกรธนิด ๆ แล้วนะ…เอ็ดเวิร์ดมีศัตรูอยู่ 5 แบ่งกันข้า 2 เจ้า 2 วีลา 1” โจลูบชุดเกราะของเขาด้วยความอาลัย ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจ
“ข้าเห็นด้วย ถ้าเจ้าแยกพวกมันออกจากกันได้น่ะนะ”
เอ็ดเวิร์ดสังเกตเห็นว่าถึงอัศวินดำจะค่อนข้างแข็งแกร่งและน่ากลัว และมีเลเวลสูงถึง 20 แต่ดูเหมือนพวกมันจะไม่มีพลังเหนือธรรมชาติ
ตามการตัดสินของระบบ หากผู้เล่นถูกโจมตีด้วยการโจมตีเหนือธรรมชาติอย่างเวทมนตร์ ทักษะศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้แต่คำสาป ผู้เล่นจะได้รับความเสียหายจากธาตุเพิ่มเติม
สำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่ ความเสียหายจากธาตุนั้นค่อนรุนแรง เพราะการป้องกันของพวกเขายังอ่อนแอและไม่มีไอเทมมากมายที่สามารถใช้ป้องกันธาตุได้ในช่วงต้นเกม
การพุ่งเข้าชาร์ตอย่างรุนแรงของอัศวินดำครั้งนี้เป็นเพียงการโจมตีทางกายภาพเท่านั้น ไม่มีความแตกต่างระหว่างการโจมตีนี้กับการเหวี่ยงดาบแบบธรรมดาของผู้เล่น ปกติแล้วผู้เล่นจะสามารถป้องกันการโจมตีทางกายภาพด้วยค่าสเตตัสและไอเทมของตนเอง และหลังจากการคำนวณค่าความเสียหายแล้ว พวกเขาก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
ดังนั้นอัศวินดำที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งเหล่านี้ สามารถจัดเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอดได้เท่านั้นเมื่อเทียบกับบอสอย่างอาร์คบิชอปกระดูกเน่า
“ไม่มีปัญหา ข้ามีแผน…”
โจเหลือบมองอัศวินดำที่ชะลอม้าลงและตีโค้งเตรียมพุ่งเข้ามาหาเขาอีกครั้ง
ในขณะที่เขากำลังจะอธิบายกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับเอ็ดเวิร์ด ที่สามารถเขียนได้ถึง 5,000 คำในนวนิยายเรื่องนี้ เสียงเด็กผู้หญิงก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
“บาเรียศักดิ์สิทธิ์!”
เอลีน่าที่ทักษะกลับมาออนไลน์แล้วเหวี่ยงหนังสือเกมไบเบิลอีกครั้ง เธอโยนมันไปในทิศทางของอัศวินดำเหมือนนักกีฬาขว้างลูกเหล็ก
ช่วงเวลาต่อมา กำแพงแสงสีฟ้าใสก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าอัศวินดำพุ่งเข้าชาร์จอีกครั้ง
อัศวินดำไม่สามารถหยุดตัวเองได้ทันเวลา พุ่งเข้าชนบาเรียศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญฝึกหัด หลังจากมีเสียงดังสนั่นแล้ว ทั้งตัวอัศวินและม้าของพวกเขาก็ยับยู่ยี่เหมือนกระป๋องถูกบี้
เมื่อเห็นอัศวินดำผู้น่าเกรงขามบุกเข้ามาและถูกทำลายลงในวินาทีถัดมา จิตใจที่หวาดกลัวของมนุษย์กบน้อยที่คิดว่าพวกเขาคงจะตายแน่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง
ขณะเดียวกัน โจก็เสียใจที่ไม่มีโอกาสได้พูดยาว ๆ ในนิยายเรื่องนี้เหมือนกับคนอื่นบ้าง
โกวต้านเดินไปยืนข้างโจก่อนจะเขย่งเท้าตบไหล่เพื่อนแปะ ๆ
“อย่าเพิ่งเศร้า ถึงเวลาจัดการกับต้นตอของปัญหาแล้ว” เอ็ดเวิร์ดพูดข้าง ๆ เขา
“ต้นตอของปัญหา?” วีลาที่พึ่งถอนหายใจด้วยความโล่งอกก็กังวลอีกครั้ง
“ใช่ เจ้าไม่เห็นเหรอว่าเควสยังไม่เสร็จ” เอ็ดเวิร์ดเดาออกมาอย่างมั่นใจ “ข้ากลัวว่าบอสของเควสนี้จะยังอยู่บนหน้าผา เราควรรีบไปก่อนที่มันจะเรียกเกราะพวกนี้ลงมาอีกครั้ง ไปกันเถอะ”