บทที่ 144 ข้าจะกลับมา!
“เจสสิก้าข้าจําได้ว่าเจ้ามีชุดนักเต้นใช้ไหม”
เอ็ดเวิร์ดหันไปหาเครลิคสาวที่คอยติดตามทุกคนอย่างเงียบ ๆ
“ใช่ ข้ามี…” เจสสิก้าสะดุ้งเพราะเธอไม่คิดว่าเอ็ดเวิร์ดจะคุยกับเธอ แต่เธอก็ตอบอย่างรวดเร็ว “แต่นั้นเป็นไอเทมของนักสะสม ข้าทําเควสเพื่อเติมเต็มคอลเลกชันของข้า มันไม่ได้มีบัฟค่าสถานะอะไร”
“ชุดนักเต้นนั้นดูดีไหม” เอ็ดเวิร์ดถามตรง ๆ
“เอ๋?” เด็กสาวตามความคิดของเอ็ดเวิร์ดไม่ทัน เธอจึงตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ “งืออ…ไม่ใช่เรื่องที่ว่ามันดูดีไหม แต่มันมีผ้าน้อยชิ้นเกินไปนั่น ไม่ใช่อะไรที่จะใส่ให้คนอื่นเห็นได้!”
ความจริงแล้วเจสสิก้าทําเควสคอลเลคชั่นสําเร็จเพียงเควสเดียว เหตุผลที่เธอทําเควสนี้ก็เพราะว่าเธอพบผู้เล่นหญิงที่แต่งงานแล้วคนอื่น ๆ พูดว่าชุดนี้เป็นที่ถูกใจคู่รักของพวกเธอมาก เธอจึงออกไปทํามันด้วยความอยากรู้อยากเห็น และด้วยความหวังที่ไร้เดียงสา
สุดท้ายเมื่อเธอทําเควสเสร็จ และได้เห็นชุดนักเต้นที่เปิดเผย และมีท่อนบนโปร่งใส เด็กสาวจากหมู่บ้านชนบทก็เกือบจะตายด้วยความอับอาย
เธอไม่กล้าแม้แต่จะใส่ชุดนี้ไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องของเธอ เพราะกลัวว่าจะมีใครมาเห็น ด้วยเหตุนี้เธอจึงยัดชุดนั้นไว้ใต้กระเป๋าเธอ (ชุดนั้นแทบจะไม่มีผ้าเลย ดังนั้นมันจึงไม่เปลืองพื้นที่ใด ๆ) แม้ว่าเธอจะลําบากใจที่จะใส่มันแต่ชุดนี้ก็สวยมากและเธอก็ค่อนข้างชอบมัน
อีกอย่างผู้เล่นชายก็มี “ชุดเจ้าชาย” เป็นชุดคู่ของชุดนักเต้นในหน้าคอลเลกชัน และมันก็ดูดีเช่นกัน แต่มันหนักถึง 12 กิโลกรัม นั่นรวมทั้งเครื่องประดับและตราที่ติดมาด้วย มันจึงดูเทอะทะราวกับเกราะหนัก ซึ่งทําให้มันกลายเป็นไอเทมดีบัฟในตัวเอง เช่นเดียวกับหมวกปลาที่ไม่เป็นที่นิยม
“เยี่ยมมาก!” เอ็ดเวิร์ดดีใจ
ปฏิกิริยาของเขาทําให้เจสสิก้าประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม และเธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลมขณะที่เลือดไหลขึ้นสมอง และหัวใจเต้นแรง
เป็นไปได้ไหมว่า เอ็ดเวิร์ดเขา…
“เอาชุดนั้นให้โจใส่ เอ็ดเวิร์ดพูด
เด็กสาวหัวใจหยุดเต้นทันที
“อะไร?” เจสสิก้า
“?????” โจ
“ถ้าข้าเดาไม่ผิด…” เอ็ดเวิร์ดไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของเจสสิก้า และยิ้มราวกับว่าเขามีทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม “พวกมนุษย์เงือกน่าจะชอบกล้ามอกหรือไม่ก็เหยื่อที่อ้วนกว่า นั่นคือเหตุผลที่คนอื่น ๆ ไม่สามารถล่อพวกมันออกมาได้ นอกจากโจ!”
เจสสิก้าเหลือบมองไปที่หน้าอกอันแข็งแกร่งของโจ และมองลงไปที่หน้าอกของเธอเอง
[ระบบ: เจสสิก้าตรวจดูหน้าอกของตัวเอง แต่ไม่พบอะไรเลย]
“…”
จู่ ๆ เจสสิก้าก็รู้สึกสมเพชตัวเองขึ้นมา
10 นาทีต่อมา
เมื่อโกวต้านกลับมายังที่หลบภัยชั่วคราวของปาร์ตี้ หลังจากตรวจสอบการเคลื่อนไหวของมนุษย์เงือก เขาก็เห็นคนแปลกหน้ายืนอยู่ในหมู่เพื่อน ๆ
ชายคนนี้สวมชุดที่ทอจากผ้ากึ่งโปร่งแสง มันบางเบาและพริ้วไหวจนไม่น่าเชื่อ มันเป็นชุดอันศักดิ์สิทธิ์ที่ตัดเย็บออกมาได้ชวนฝัน แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันเป็นชุดที่เปิดเผยมากกว่าชุดที่สาวๆ ในย่านโคมแดงของแลงคาสเตอร์ส่วมใส่
ความจริงส่วนบนของชุดไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเสื้อผ้าด้วยซ้ำ มันมีผ้าสามเหลี่ยมเพียง 2 ชิ้นที่ใช้ปิดส่วนสําคัญโดยผูกกันไว้ด้วยเชือกเส้นเล็ก ๆ
-และมีขนหน้าอกเหนือกล้ามอกพริ้วไหวไปตามลม
มงกุฏที่อยู่เหนือหัวของชายคนนั้นก็เปล่งประกายระยิบระยับยิ่งกว่ามงกุฏที่แพงที่สุด อัญมณีทั้งหมดที่ฝังอยู่บนนั้นไม่ได้สะท้อนแสง แต่กลับส่องประกายแวววาวอันน่าหลงใหลด้วยตัวของมันเอง โดยอัญมณีที่อยู่ตรงกลางนั้นดูเหมือนจะมีทั้งจักรวาลอยู่ในนั้น เพียงแค่มองไปที่มัน ก็ทําให้ใครต่อใครหลงเสน่ห์ได้แล้ว
แต่เนื่องจากความกระจุ๋มกระจิ๋มของมัน จึงทําให้มงกุฏแพลตตินั่มนั้นดูน่ารักขึ้นมาทันที
-และใบหน้าชายคนนั้นก็มีจอนและหนวดเคราที่เด่นชัด (ที่ไม่ตรงกับอายุของเขา)
เสื้อผ้าบนร่างกายของคนแปลกหน้าจะเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ตามแสงและเงาเหมือนกับเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ชุดของเขาเปล่งแสงอ่อน ๆ ดูนวลตา ราวกับว่ามันเป็นชุดของเทพธิดาในตํานาน เห็นได้ชัดว่าทั้งที่กระโปรงนั้นยาวถึงข้อเท้า แต่กลับน่าประทับใจมาก เพราะด้านข้างทั้ง 2 ด้านของกระโปรงผ่าสูงจนเขาไม่รู้ว่าจะเอาสายตาไปมองที่ไหนดี
-และมีขนหน้าแข้งพริ้วไหวไปตามสายลม
“อ๊าาาาาาาาาาาาาาา! ตาข้า!” โกวต้านล้มลงกับพื้น เขากุมดวงตาและกรีดร้อง “ดวงตาของข้า!”
โจในชุดนักเต้นรู้สึกอับอายจากปฏิกิริยาของโกวต้านและเตะเขา ทําให้เครื่องหมาย -1 ปรากฏขึ้นเหนือหัวของโกวต้าน) “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ว่าเจ้าปรับระดับความเจ็บปวดเป็น 10% แล้ว!”
โกวด้านหลบการโจมตีขณะที่หัวเราะเสียงดัง “ข้าไม่อาจตาบอดคนเดียวได้! ข้าจะอัปโหลดภาพนี้ลงไปในฟอรัม!”
“เจ้ากล้ารึ?! วอนตายซะแล้ว!” ด้วยความตกใจ โจก็ชักดาบออกมาทันทีและเหวี่ยงดาบไปยังโกวต้าน ที่กําลังหัวเราะรวนขณะที่เขาหลบการโจมตีของโจอย่างชํานาญ
ที่มุมหนึ่ง สีหน้าของเจสสิก้ามืดหม่น เธอนั่งจับเข่าทําราวกับว่าเธอได้ปลงชีวิตแล้วขณะพึมพําว่า “ ข้าไม่ต้องการชุดนั้นคืนแล้ว ยังไงข้ามันก็แค่ตู้เสื้อผ้าเคลื่อนที่สินะ…”
แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้เริ่มต่อสู้กับมนุษย์เงือกจริง ๆ แต่ปาร์ตี้ผู้เล่นชั้นยอดนี้ก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้ถูกทดสอบซ้ำ ๆ และได้ถูกทําลายล้างไปแล้ว
“มันจะได้ผลจริง ๆ เหรอ” เอลีน่าถามเอ็ดเวิร์ดด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจระดับความหายนะของการแต่งตัวข้ามเพศ และสภาพของโจในชุดนักเต้น
ปฏิกิริยาของผู้เล่นทั้งกลุ่มสั่นคลอน และความเชื่อมั่นอันเต็มเปี่ยมของเอ็ดเวิร์ดก็เช่นกัน “ก็น่าจะ…”
ในที่สุดเอ็ดเวิร์ดก็ตัดสินใจที่จะลอง
โจก็แต่งไปแล้ว และหากให้เขาหยุดตอนนี้ มันก็จะดูเหมือนว่าพวกเขาแค่หลอกให้โจแต่งหญิงเท่านั้น
มนุษย์เงือกจับอีกัวน่าทะเลได้จากที่ไหนสักแห่ง แต่ขณะที่พวกมันกําลังจะฉีกเหยื่อกิน ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ดึงดูดความสนใจของพวกมัน
“ฮิฮิ ”
ไม่ไกลนัก โจที่แต่งหญิงร่างกํายํากําลังบิดตัวอย่างเชื่อช้า เขาพยายามอ่อยมนุษย์เงือกอย่างเต็มที่ และอวดกล้ามอกของเขาให้มากที่สุดตามที่เอ็ดเวิร์ดบอก
ขณะที่เขาทําเช่นนั้น เขาก็ใช้ทักษะยั่วยุของเขาไปด้วยเมื่อมนุษย์เงือกทุกตัวหันมามองเขา
ไม่เหมือนเสียงของเขาตามปกติ ครั้งนี้เขากําลังบีบเสียงเล็กเสียงน้อยที่แปลกประหลาดออกมาว่า “มา~ หา~ พ่อ~แร้ว~”
อีกด้านหนึ่ง โกวต้านที่ซุ่มดูอยู่ก็หงายหลังนอนแผ่กับพื้น และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ชั่วขณะ ถ้าเขาพูดได้ตอนนี้เขาคงจะพูดว่า “โอ้ววม่าย! ข้ากําลังจะตายแล้ว!” ขณะพยายามกันเสียงหัวเราะอย่างเต็มที่
ขณะที่โจกําลังคิดว่าแผนนี้ล้มเหลว เพราะมนุษย์เงือกไม่ได้ขยับเลยตั้งแต่ที่เขาอ่อย พวกมนุษย์เงือกทั้งหมดก็กระโจนเข้าใส่เขา เพียงแค่มองผ่าน ๆ ก็จะเห็นว่าหนึ่งในสามของประชากรมนุษย์เงือกทั้งหมดในพื้นที่ส่วนกลาง กําลังวิ่งเข้าใส่โจ!
“เชี่ย!” โจมีเวลากรีดร้องเพียงคําเดียว ก่อนที่เขาจะหันหลังวิ่งหนี
ไม่นานหลังจากที่โจและมนุษย์เงือกหายไปจากสายตา บนเนิน โควต้านที่ขําจนท้องแข็งในที่สุดก็ฟื้นตัวแล้ว เขายกนิ้วโป้งให้เอ็ดเวิร์ด ก่อนที่เขาจะไล่ตามฝูงมนุษย์เงือกไปอย่างลับ ๆ
เนื่องจากชุดนักเต้นไม่ได้มีบัฟเพิ่มความเร็ว และคลาสนักดาบวิญญาณก็ไม่ได้มีความคล่องตัวมากนัก โจจึงอยู่ได้ไม่นาน งานของโกวด้านนั้นง่ายมาก หลังจากที่โจเตะถังแล้ว สิ่งเดียวที่เขาต้องทําคือหยุดไม่ให้มนุษย์เงือกกลับขึ้นไปในพื้นที่ส่วนกลาง หากเขาหยุดไม่ได้ เขาก็จะต้องฆ่ามนุษย์เงือกให้ได้มากที่สุด เพื่อให้จํานวนของพวกมันลดลง
ขณะที่มนุษย์เงือกหนึ่งในสามหายไปเพราะโจ จํานวนมนุษย์เงือกในพื้นที่ส่วนกลางก็เบาบางลง นั่นทําให้เอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ สามารถเข้าใกล้นักบวชชั้นสูงที่อยู่ท่ามกลางฝูงมนุษย์เงือกได้ง่ายขึ้น!
“เอลีน่า ตอนนี้แหละ!”
ในฐานะดาเมทหลักที่แท้จริงของปาร์ตี้ เอลีน่าจึงเรียกหอกทองคําออกมา เพื่อเปิดการโจมตีไปยังนักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือก!
“หอกแห่งชัยชนะ!”
หอกศักดิ์สิทธิ์สีทอง พุ่งเข้าหาเป้าหมายราวกับสายฟ้าฟาด!
ทีแรกปาร์ตี้ของเอ็ดเวิร์ดอยู่ห่างจากนักบวชชั้นสูงมากเกินไป แม้ว่าโจจะล่อฝูงมนุษย์เงือกขนาดใหญ่ออกไป แต่คาถาของเอ็ดเวิร์ดและลูกธนูของโกวต้านก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวมันได้มีเพียง เอลีน่า นักบุญหญิงฝึกหัดที่มาพร้อมกับโบนัสคลาสเท่านั้น ที่มีพลังที่เป็นอันตรายต่อนักบวชชั้นสูง! นั้นยังเป็นสาเหตุที่ทําให้เอลีน่าถูกไล่ล่าโดยมนุษย์เงือกก่อนหน้านี้
แต่นักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือก ก็เป็นชนชั้นสูงเช่นกัน ดังนั้นมันจึงสามารถตรวจพบการชาร์จพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เอลีน่าส่งหอกของเธอออกไป นักบวชชั้นสูงก็ได้กางโล่ครึ่งวงกลมสีฟ้าอ่อนออกมาแล้ว
นั่นเป็นโล่เดียวกับที่ปิดกั้นการลอบโจมตีก่อนหน้านี้ของเอลีน่า
แม้จะมีระยะทางสั้นกว่าและเร็วกว่าเดิม แต่นักบวชชั้นสูงก็ลดขนาดโล่ลงอย่างเหมาะสม เพื่อแลกกับการร่ายที่เร็วขึ้น แต่ยังคงป้องกันได้
สําหรับมัน ไม่สําคัญหากมันต้องสังเวยชีวิตของมนุษย์เงือกทุกตัว ตราบใดที่มันอยู่รอดได้มันก็ชนะ!
ข้อได้เปรียบด้านความเร็วที่น้อยกว่า 1 วินาทีนั้น ปกติแล้วไม่อาจทําลายโล่ของนักบวชชั้นสูงได้ เมื่อหอกสีทองปะทะกับโล่ ตัวหอกก็แตกสลายเหมือนวัตถุเปราะบางที่ทําจากแก้ว และระเบิดออกเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วน
ขณะเดียวกัน นักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกก็ได้สั่งให้มนุษย์เงือกทุกตัวโจมตีพวกเขาทันที
ทักษะของเอลีน่าจะกลายเป็นจุดแสงจํานวนนับไม่ถ้วน เจ้านั้นกลับไม่ได้สังเกตเลยว่า เอลีน่าได้ซ่อนลูกบอลสีแดงขาวขนาดเล็กไว้ในหอกแห่งชัยชนะที่เธอขว้างออกไป!
ลูกบอลลอยข้ามโล่ที่หัวหน้านักบวชสร้างขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองจากทักษะของเอลีน่า จากนั้นลูกบอลก็ระเบิดเป็นควันสีขาวทันทีที่มันตกลงสู่พื้น!
มนุษย์เงือกทุกตัวที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างก็ตกตะลึง
จากนั้นในเสี้ยววินาทีถัดมา คล็อกกาโตว์มนุษย์กบก็พุ่งออกมาจากควัน โดยที่คาบแซฟไฟร์ทะเลที่มันขโมยมาจากนักบวชชั้นสูงไว้ในปาก!
“โจตายแล้ว!” เอ็ดเวิร์ดผู้ซึ่งสามารถเฝ้าดูข้อมูลของคนในปาร์ตี้ได้ตลอดเวลาตะโกนใส่เอลีน่าที่ยังคงฟาดค้อนดาวตกของเธอ (เกมไบเบิ้ล)
“ถอย!”
“คล็อกกาโตว์กลับมา!” เอลีน่าตะโกนใส่มนุษย์กบ
แต่ถึงอย่างนั้นคล็อกกาโตว์ก็ถูกมนุษย์เงือกล้อมไว้แล้ว และเอลีน่าก็ไม่สามารถเรียกเขากลับมาได้เพราะเขาอยู่นอกระยะ
เมื่อคล็อกกาโตว์เห็นแบบนั้น แววตาของเขาก็เปล่งประกายเด็ดเดี่ยว เขาไม่ได้วิ่งหนีอีกต่อไป เขายัดแซฟไฟร์ทะเลเข้าปากทันที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นฟ้า และกลืนมันลงไปอย่างดัง
“คล็อก -!”
เสี้ยววินาทีถัด มาเขาก็ถูกฝูงมนุษย์เงือกที่บ้าคลั่งท่วมทับ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยกนิ้วโป้งขึ้นเหนือหัวพวกมนุษย์เงือก