ตอนที่ 128 โอสถห้าสี
ยาเม็ดทั้งห้าดึงดูดผู้คนรอบด้านอย่างมาก
หลินเซวียนรีบพุ่งไปยังเม็ดที่เล็กที่สุด ขณะเดียวกันได้มียอดฝีมือขั้นสมุทรวิญญาณอีกสองคนพุ่งไปด้วย
ดวงตาของหลินเซวียนส่องประกาย ภายใต้การตรวจสอบ เขาสามารถเห็นขั้นพลังของทั้งสองได้อย่างชัดเจน
ในสายตาของคนอื่น สองคนนี้อาจจะแข็งแกร่ง แต่ในสายตาของหลินเซวียน พวกเขายังดีไม่พอ
เท้าของเขาเปล่งแสงสีทองก่อนจะพุ่งออกไปด้วยพลังของลมและสายฟ้า ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนี้เหนือกว่าสองคนด้านหลังอย่างมาก
“ฮึ่ม!”
“กล้าดียังไง!”
ทั้งสองโกรธขึ้นมาทันที แขนของพวกเขาสันขณะโคจรพลังวิญญาณโจมตีหลินเซวียน พวกเขาเป็นชายฉกรรจ์หนุ่มแน่น เช่นนั้นจะปล่อยให้คนอื่นที่อายุน้อยกว่ามาตัดหน้าได้ยังไง
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานผันผวนด้านหลัง หลินเซวียนได้แสยะยิ้ม เขาไม่ได้หันไปมองแต่ใช้มือฟันออกไปแทน
เงาดาบได้พุ่งออกมาปะทะกับการโจมตีของทั้งสองทันที ขณะเดียวกัน เงาดาบจากอีกมือหนึ่งได้เสริมเจตนารมณ์แห่งดาบพุ่งข้ามไปด้านหลังการโจมตี
ตู้ม! ตู้ม!
กระแสพลังสามสายมาปะทะกัน ทําให้เกิดแสงพราวระยิบระยับพร้อมด้วยความผันผวนที่รุนแรง
ฟูม! ฟูม!
คลื่นพลังยังไม่สงบลง เงาดาบที่โจมตีออกมาได้กระแทกไปยังพวกเขา
นักสู้ทั้งสองถึงกับหนังศีรษะชาเมื่อเห็น พวกเขารีบสร้างเกราะพลังป้องกันตัวเพื่อหวังว่าจะต้านได้
พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะร้ายกาจ ลมหายใจล่าสุดทําให้พวกเขาตัวสั่นและใจหาย
ขณะที่พวกเขารีบป้องกันตัวเอง หลินเซวียนก็ไปอยู่ตรงหน้ายาแล้ว เขารีบคว้าไว้ทันที
เมื่อได้แล้วก็ถอยกลับอย่างไม่รีรอ
ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา เมื่อหลินเซวียนทะยานลงพื้น การแข่งขันชิงยาก็ได้จบลง
หว่านเจี้ยนซิงและอ้วนเฟยคว้าได้คนละเม็ด ส่วนอีกสองเม็ดอยู่ในมือของนักสู้ขั้นสมุทรวิญญาณธรรมดา
หลังจากอ้วนเฟยได้ยาแล้ว เขารีบหันไปมองหลินเซวียนทันที อันที่จริงเขาไม่ได้อยากจะเห็นหลินเซวียน แต่อยากจะเห็นศิษย์สํานักดอกบัวที่อยู่ใกล้ ๆ
แต่เมื่อเห็นว่าหลินเซวียนเป็นคนได้ยา มันจึงทําให้เขาชะงัก
ดวงตาของเขาหรี่ลงขณะมองหลินเซวียนอย่างระมัดระวัง เมื่อเขาสัมผัสได้ว่าหลินเซวียนอยู่ชั้นสมุทรวิญญาณระดับแรก ดวงตาของเขาจึงเปิดกว้าง
“เราเกรงว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชิงยาจากยอดฝีมือขั้นสมุทรวิญญาณระดับกลางสองคนได้เพียงแค่อยู่ขั้นสมุทรวิญญาณระดับแรก” ดวงตาของอ้วนเฟยเต็มไปด้วยความสงสัยแต่ทั้งหมดก็แค่นั้น
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของอ้วนเฟย หลินเซวียนจึงเงยหน้าขึ้นและยิ้ม จากนั้นได้กลืนยาเข้าปากทันที
“เจ้านี้!”
อ้วนเฟยขมวดคิ้วอีกครั้งพร้อมเผยความประหลาดใจ ยาเหล่านี้มีฤทธิ์แรงมาก มันต้องใช้ยอดฝีมือระดับสูงเพื่อตรวจดูผลก่อน แล้วจะให้ใครกินง่าย ๆ แบบหลินเซวียนได้ยังไง?
ถึงแม้ภายนอกหลินเซวียนจะดูประมาท แต่เขาได้ถามเซียนสุราหมดแล้ว
” ขมดีแท้!” หลินเซวียนขมวดคิ้วพร้อมสบถสองสามคํา
นักสู้บางคนที่อยู่ใกล้ ๆ เขาถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคํานั้น
“นี่มันเป็นโอสถวิญญาณนะ! แม้จะกินน้ำตาลตามเข้าไปมันยังขมเลย! เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ
ใบหน้าของนักสู้รอบด้านบิดเบี้ยวก่อนจะถอยห่างจากหลินเซวียน
หลินเซวียนยักไหล่ก่อนจะหยิบดาบเพลิงโลหิตออกมา จากนั้นได้คว้าไปที่ถุงด้านข้างดาบเพื่อนําสุราออกมาดื่ม จากนั้นเขาได้ปิดตาลงเพื่อเดินพลัง
เมื่อพวกเขาเห็นพลังของหลินเซวียนที่กําลังโคจรไปทั่วร่างก็ถึงกับมองอย่างเย็นเยือก แต่เมื่อเห็นชุดสํานักชวนเทียน พวกเขาก็ไม่คิดอะไรอีก
เพราะหว่านเจี้ยนซิง ศิษย์หัวหน้าของสํานักชวนเทียนยังอยู่ที่นี่ พวกเขาจึงไม่กล้าลงมือกับศิษย์สํานักชวนเทียนอย่างเปิดเผย
“ดูเหมือนสํานักชวนเทียนจะมีอัจฉริยะเพิ่มอีกคนแล้ว!” อ้วนเฟยมองหว่านเจี้ยนซิงขณะกล่าว
หว่านเจี้ยนซิงมองหลินเซวียน ดวงตาของเขาเปล่งประกาย ไม่มีใครทราบว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ดูเหมือนคนจะลือว่าเขาเข้าใจเจตนารมณ์แห่งดาบ ไม่ช้าก็เร็วนี้ข้าคงจะได้สู้กับเขา ดังนั้นเจ้าไม่จําเป็นต้องกระตุ้นข้าหรอก!” หว่านเจี้ยนซิงกล่าวอย่างเย็นเยือก
“เจตนารมณ์แห่งดาบ?” อ้วนเฟยมองหลินเซวียนอย่างประหลาดใจอีกครั้ง เขาไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะเข้าใจเจตนารมณ์แห่งดาบ ไม่ใช่เพียงแค่เขา นักสู้รอบตัวหลินเซวียนต่างก็มองเขาอย่างระมัดระวัง
ไม่ว่าขั้นพลังของเขาจะเป็นยังไง มันก็ไม่สําคัญเท่าเจตนารมณ์แห่งดาบ
หลินเซวียนไม่ทราบว่าข้างนอกพูดคุยอะไรกัน เขาเดินพลังของยาและสุราในตัวอยู่ ด้วยโอสถที่เขากินเข้าไป มันช่วยหลอมรวมทะเลวิญญาณของเขาให้เป็นหนึ่งเดียว
เวลานี้ ทะเลแห่งวิญญาณสีเขียวกําลังหมุนสร้างกระแสพลังงานที่สม่ำเสมอ หากมองจากที่ห่างไป มันจะเห็นเป็นประกายแสงสีหยกอย่างงดงาม
เหนือของขอบเขตพลังนั้นมีเงาดาบตั้งอยู่ หลินเซวียนสัมผัสได้ว่า เมล็ดพันธุ์แห่งดาบในตัวเขา เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย
หลังจากเข้าใจเจตนารมณ์แห่งดาบที่แท้จริงแล้ว เขาก็พบว่าเจตนารมณ์แห่งดาบนั้นสามารถแบ่งขั้นได้อีก ตอนนี้เขาเข้าใจแค่หนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น
พลังคงกระพันทํางานอย่างรวดเร็ว หลินเซวียนดูดซับพลังอย่างบ้าคลั่ง ด้วยการมีเซียนสุราอยู่ เขาจึงไม่กังวลกับเหตุการณ์ด้านนอก
ครึ่งชั่วยามผ่านไป เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มันราวกับมีดาบที่ล่องหนวูบวาบอยู่ในดวงตา
ร่างกายของเขาเองก็กําลังเติบโตขึ้น
ฟูม! ฟูม!
ไม่นาน เม็ดยาก็ได้พุ่งออกมาจากบ้านหลังเดิมอีก
หนึ่งในนั้นมีโอสถห้าสีเปล่งประกายดึงดูดสายตาผู้คนอย่างมาก
“เป็นไปได้ยังไง เป็นยาชนิดนี้จริง ๆ !” เซียนสุราประหลาดใจ
“เสียวเซวียน หากเป็นไปได้ ชิงโอสถห้าสีนั้นมาเ” เซียนสุรากล่าวเสียงต่ำ ”มันน่าจะเป็นประโยชน์กับข้า”
หลินเซวียนพยักหน้า ถึงแม้เขาจะไม่ทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเซียนสุรา แต่เขาก็พอจะตระหนักได้ว่าเซียนสุราติดอยู่ในจี้ดาบลึกลับนั่น
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะเอามาให้ได้!” หลินเซวียนยิ้ม
เขากระทืบพื้นพุ่งออกไปยังโอสถห้าสีทันที ขณะเดียวกันยอดฝีมือคนอื่น ๆ ก็ไม่อยู่เฉย เกือบทุกคนได้มุ่งไปยังมั่น
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
เสียงอากาศฉีกออกดังขึ้นขณะที่ร่างของเหล่ายอดฝีมือเปล่งแสง พวกเขาเริ่มสู้กันเองเพื่อชิงยาเม็ดนั้น
ฝ่ามือของยอดฝีมือคนหนึ่งพุ่งออกไปและกําลังจะคว้ายาเม็ดดังกล่าว
เหอะ!
อ้วนเฟยตะโกนขณะที่ร่างกายของเขาเผยพลังปราณมังกรเข้าไปขัดขวาง เขาฟาดฝ่ามือลงไปอย่างรุนแรง
อีกด้านหนึ่ง หว่านเจี้ยนซิงได้แทงดาบออกไปราวกับดวงดาวที่ร่วงหล่นเพื่อขับไล่นักสู้คนอื่น
แต่นักสู้ที่พุ่งเข้ามานั้นมีมากเกินไป แม้พวกเขาจะไม่ทราบว่ายานั้นมีสรรพคุณอะไร แต่ด้วยรูปลักษณ์ของมัน มันจะต้องล้ำค่าแน่นอน
ถึงแม้พวกเขาจะกินมันไม่ได้ แต่หากเอากลับไปให้ตระกูล เช่นนั้นย่อมได้รับค่าตอบแทนมหาศาล หรือหากเอาไปประมูลขาย มันอาจได้ราคาที่แพงหูฉี
ขณะที่ฝูงชนพุ่งไปอย่างบ้าคลั่ง ปราณดาบที่คมกริบได้ตัดผ่านมิติลงไปยังกลุ่มพวกเขา