อลิซหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
นี่เป็นไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เธอใช้มันอีกด้วย
แม้แต่ผู้ตัดสินเองก็คิดว่าการแข่งขันคงจบลงตั้งแต่เธอใช้ทักษะ
“มีบางอย่างผิดปกติ! นางกำลังทำในสิ่งที่ข้าคิดว่านางกำลังทำอยู่รึไม่?”
“เจ้าคิดถูกแล้ว นางสลายบลิซซาร์ดสแทลเลี่ยนซึ่งเป็นแบทเทิลบีสต์ของนางเอง…”
“ช่างโหดเหี้ยมนัก! นางอยากเอาชนะล็อคขนาดนั้นเลย?”
“แบทเทิลบีสต์ของนางจะหายไปตลอดการ…”
“นางบ้าไปแล้ว? นั่นเป็นข้อห้ามใหญ่ที่สุดที่จ้าวแห่งสัตว์อสูรสามารถกระทำได้! เธอได้ละเมิดกฎสูงสุดของสถาบันเรา!”
สิ่งที่นักเรียนคนนั้นพูดนับว่าตรงจุด
แม้ว่าทักษะ “หิมะโบยบิน ดอกไม้พลิ้วไหว” นี้จะทรงพลังมาก แต่ก็ต้องแลกมากับค่าใช้จ่ายที่แสนแพง
มันเป็นทักษะที่อาศัยการสลายตัวของแบทเทิลบีสต์
ล็อคเคยอ่านเจอเรื่องเกี่ยวกับทักษะนี้มาก่อน อยู่ๆเขาก็เกิดคิดขึ้นมาว่าผู้หญิงคนนี้ต้องไร้ยางอายและไร้หัวใจเพียงใดกัน
‘เธอเต็มใจทำถึงขนาดนี้เพียงเพื่อคว้าชัยชนะในการแข่งขันเล็กๆนี่?’
อลิซใช้ไพ่ที่เธอมีไปหมดแล้ว ทำให้ตอนนี้มานาของเธอจึงหมดลงอย่างสมบูรณ์ เธอไม่มีความสามารถในการสู้กลับอีกต่อไป
“มาดูกันว่าเจ้าจะหลบสิ่งนี้ได้อย่างไร!” อลิซตะโกน
“ทำไมข้าต้องหลบด้วย?” ล็อคถอนหายใจและมองดูเกล็ดหิมะที่พลิ้วไหวในอากาศ “ทักษะของเจ้าใช้ได้ดีหากเป็นกับดัก แต่ถ้าเจ้าใช้มันเพื่อโจมตี มันก็ไม่สามารถแยกมิตรออกจากศัตรูได้ทำให้มันช่างไร้ค่านัก ยิ่งกว่านั้น เจ้ายังต้องเสียสละแบทเทิลบีสต์อันล้ำค่าของเจ้าสำหรับทักษะนี้อีกด้วย ในความเห็นของข้า…”
“ทักษะนี้ไม่ต่างจากขยะ!” จากนั้นล็อคจึงกล่าวกับขาวน้อย “มาจบเรื่องนี้กันเถอะ…”
ดวงตาของงูสองหัวเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้งพร้อมกับที่มันเริ่มเหยียดคอ
“ไม่… เป็นไปไม่ได้! เกล็ดหิมะสัมผัสงูของเจ้าไปบางส่วนแล้วแต่ทำไมมันถึงไม่เป็นอะไรเลย?” เมื่อเห็นงูสองหัวกำลังจะโจมตี อลิซก็ตะโกนออกมาด้วยความสิ้นหวัง
พริบตาเดียว เลื่อยน้ำแข็งที่ส่องประกายระยิบระยับสองอันก็ทะลุเกล็ดหิมะที่เต็มท้องฟ้าและกระแทกเข้ากับแบทเทิลบีสต์ของเธอ
เมื่อร่างที่หลอมรวมหายไป สิ่งที่เรียกว่าไพ่ตายของอลิซก็ค่อยๆ หายไปเช่นกัน เกล็ดหิมะกลับเป็นหยดน้ำ ไม่นานก็กลายเป็นฝนตกลงสู่พื้น
บลิซซาร์ดสแทลเลี่ยนไม่ปรากฏขึ้นอีก มันนั้นหายไปอย่างสมบูรณ์!
“ล็อค… ชนะ!!” ผู้ตัดสินตะโกน!
อลิซทรุดลงกับพื้นด้วยความงุนงง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
แม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะเป็นนักเรียนอัจฉริยะที่มีคุณสมบัติสำหรับห้องระดับเพชร
แต่ผลลัพธ์ของการต่อสู้นั้นกลับเป็นการบดขยี้อยู่ฝ่ายเดียว!
แน่นอนว่าอลิซนั้นได้ใช้กำลังทั้งหมดที่เธอมีแล้ว แต่ถึงกระนั้นล็อคกลับไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
“ล็อคช่างน่ากลัวนัก! เขาเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง!”
“ลำดับชั้นของเขตเพชรกำลังจะเปลี่ยนไปในไม่ช้า…”
“ล็อคแข็งแกร่งมาก! ข้าอยากเป็นลูกน้องของเขา!”
“เขาเท่มาก…”
“ข้าอยากแต่งงานกับเขา! ลูกหลานของเราจะได้รับการการันตีว่าเป็นอัจฉริยะ!”
ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง นักเรียนส่วนใหญ่ในปัจจุบันต่างก็ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของล็อคแล้ว
เอเดรียนที่รู้ความแข็งแกร่งของน้องสาวเขาดีตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ ‘ล็อคแข็งแกร่งขนาดนี้เลย?’
“อลิซ! เจ้าสลายแบทเทิลบีสต์ของเจ้า การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎของสถานศึกษาอย่างร้ายแรง! ช่วยตามข้ามาที่สำนักงานของผู้อำนวนการฝ่ายการศึกษาด้วย!” ผู้ตัดสินซึ่งรับผิดชอบดูแลการแข่งขันก้าวไปข้างหน้าและพูดกับอลิซพร้อมขมวดคิ้ว
อาจารย์โอลลี่รีบเดินไปข้างหน้าเพื่อทำให้ผู้ตัดสินใจเย็นลง เขายังเตือนเสียงเบา “ผู้ตัดสินเฮลเมอร์… ต้องให้ข้าเตือนเจ้าหรือไม่ว่านางเป็นสมาชิกของตระกูลไวท์?”
ผู้ตัดสินถ่มน้ำลายออกมาอย่างไม่คาดคิด “หากนางเป็นสมาชิกของตระกูลไวท์แล้วมันทำไม? สถาบันนี้ไม่ได้เป็นของตระกูลของนาง! เจ้าจงอย่าลืมว่าาบทบาทและความรับผิดชอบของเราคืออะไร!”
เอเดรียนก็ช่วยพูดด้วย “ขอเวลาให้นางหน่อย ตระกูลไวท์ของเรายินดีจ่ายให้เจ้าสำหรับปัญหาที่เจ้าต้องเผชิญ ข้าเชื่อว่าเดือนหน้าเจ้าจะได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าผู้ตัดสิน”
“เจ้าสารเลว! นี่เจ้ากล้าถึงขนาดติดสินบนผู้ตัดสินเลยรึ! ตระกูลไวท์ชักกล้าขึ้นทุกวัน! ข้าจะรายงานเรื่องที่เจ้ากล่าวกับข้าด้วย แต่สำหรับตอนนี้… อลิซ! เจ้าต้องมากับข้าเดี๋ยวนี้!!”
เอเดรียนถูกหยุดโดยหลักการของเฮลเมอร์ ในที่สุดเขาก็ได้พบกับคู่ต่อสู้ของเขา
เพียงแค่คิดแบทเทิลบีสต์ลิงคุกบนไหล่ของเฮลเมอร์ก็กลายเป็นกุญแจมือคู่หนึ่ง! กุญแจมือคู่นี้ถูกใช้เพื่อคุมตัวอลิซ!
เมื่อเห็นน้องสาวของเขาถูกจับ เอเดรียนก็ตื่นตระหนกและจากไปพร้อมกับเฮลเมอร์
ตามกฎแล้วคู่ต่อสู้คนต่อไปของล็อคคือเอเดรียนจากกลุ่ม A อย่างไรก็ตามตอนนี้เอเดรียน…
มันทำให้โอลลี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องประกาศ “การดวลระหว่างเอเดรียนและล็อคจะถูกเลื่อนออกไปเป็นพรุ่งนี้เช้าแทน! ส่วนกลุ่มอื่นขอให้ดำเนินการแข่งต่อไป!”
“ตระกูลไวท์จ่ายเงินให้อาจารย์โอลลี่เท่าไหร่กัน? ทำไมเขาถึงกล้าแสดงความลำเอียงอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้?”
“ใช่! ตอนนี้เอเดรียนกำลังตกอยู่ในความยุ่งเหยิง นับเป็นโอกาสดีที่จะเอาชนะเขา!”
“เฮ้อ! ตระกูลขุนนางช่างแตกต่างจริงๆ…”
“ไร้ยางอายนัก…”
นักเรียนห้องเพชรจำได้ว่าเอเดรียนรังแกพวกเขาทุกวันอย่างไร ทำให้พวกเขาแสดงความไม่พอใจต่อการดวลของเอเดรียนที่โอลลี่เลื่อนออกไป
ล็อคไม่คิดมาก หลังจากได้รับอนุญาตแล้วเขาก็กลับไปที่หอพักเพื่อฝึกฝนเทคนิคทำสมาธิมานาของเขาต่อ
ก่อนนอน เขานึกภาพการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นระหว่างเขากับเอเดรียน
น่าเสียดายที่ล็อคนั้นไม่เคยเห็นการต่อสู้ของเอเดรียนมาก่อน
แม้ว่าเขาจะเป็นพวกชอบกดขี่ข่มเหงผู้อื่น แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขานั้นเป็นนักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดของห้องเพชร
มิฉะนั้นแล้วนักเรียนคงไม่กระตือรือร้นที่จะเอาชนะเอเดรียนขนาดนี้
“ระบบ! แสดงสถานะของข้า”
[ ชื่อ: ล็อค ]
[ ระดับ: ทองแดง 8 ดาว ] [1]
[ แบทเทิลบีสต์: งูหยกขาวสองหัวระดับศักดิ์สิทธิ์, ปีกแห่งนภาระดับศักดิ์สิทธิ์, อินฟินิตไฟร์เอลเม็นท์ระดับศักดิ์สิทธิ์ ]
[ อาวุธ: ไม่มี ]
[ ทักษะ: ยังไม่ตื่น ]
[ พรสวรรค์: สามารถเรียกแบทเทิลบีสต์ได้สามตัวโดยไม่คำนึงถึงระดับ ]
[ คำอธิบายพรสวรรค์: คุณสามารถปลุกพรสวรรค์ได้ทุกครั้งที่คุณเลื่อนระดับจ้าวแห่งสัตว์อสูร ส่วนพรสวรรค์ของคุณที่ตื่นขึ้นมานั้นไม่อาจทราบได้ ]
ล็อคมองสถานะของเขาอย่างตื่นเต้น
“ใครจะไปรู้ บางทีพรุ่งนี้ข้าอาจจะต้องใช้แบทเทิลบีสต์ทั้งสามตัว…”
หลังจากนึกถึงความแข็งแกร่งของแบทเทิลบีสต์ของเขาแล้ว ล็อคก็ค่อนข้างมั่นใจกับการแข่งที่กำลังจะมาถึง
[ ติ๊ง! ภารกิจใหม่: ปราบเอเดรียนในการต่อสู้วันพรุ่งนี้และคว้าที่หนึ่งมาให้จงได้! ]
[ รางวัล: คะแนนฟังก์ชั่น 100 แต้ม! ]
ล็อครีบลุกขึ้นจากเตียงของเขาทันที
“ข้ากำลังคิดบ่นเรื่องไม่มีรางวัลสำหรับการดวลครั้งก่อนอยู่พอดี! แต่ในที่สุดมันก็มาเสียที!”
“คะแนนฟังก์ชั่น 100 แต้มก็พอเพียงแล้วสำหรับการเพิ่มระดับแบทเทิลบีสต์ของข้าหนึ่งตัว ตอนนี้จุดอ่อนด้านความคล่องตัวของข้าถูกปกปิดแล้ว งั้นตอนนี้มันก็ถึงเวลาเพิ่มความสามารถด้านการโจมตี!”
ด้วยเหตุนี้ล็อคจึงเปิดหน้าต่างของระบบขึ้นมาอีกครั้ง และตรวจสอบข้อกำหนดสำหรับการเพิ่มระดับอินฟินิตไฟร์เอลเม็นท์
[ ไม้พายุ x15 แก่นไฟที่ไม่มีวันดับ x13 หญ้าชั้นสูง x10 ]
แม้ว่าจะมีวัตถุดิบเพียงสามรายการ แต่ล็อคก็จำได้ว่าวัตถุดิบเหล่านี้ล้วนมีราคาแพงทั้งสิ้น
ล็อครู้สึกเจ็บหัวใจทันที!
ท้ายที่สุดแล้วแม้จะนับรวมส่วนลดวีไอพีของเขาเข้าไปด้วย แต่วัตถุดิบเหล่านี้ก็ยังมีราคาแพงมากอยู่ดี เขาแทบจะต้องใช้เงินเก็บทั้งหมดที่เขามีในปัจจุบัน!
[1] ตรงนี้ไม่ได้แปลผิด แต่น่าจะเกิดจากผู้เขียนรู้สึกว่าตัวเอกเก่งเร็วเกินไปเลยต้องการปรับสมดุล