The Soul Purchasing Pirate
บทที่265:0.2 วินาที!
S.P.P: บทที่ 265: 0.2 วินาที
คลื่นสายลมได้พุ่งออกมาจากขาขวาของเทรนซุก่อนที่มันจะกระแทกเข้าไปที่ลูกกระสุนปืนใหญ่
“บูมม!”
คลื่นสายมนั้นได้ตัดลูกกระสุนปืนใหญ่ออกเป็นสองส่วนในทันที
เมื่อจัดการกับมันเสร็จก็ได้เดินหน้าเข้าหาอีกฝ่ายต่อในทันที
“ เล็งไปบนฟ้าแล้วยิง!”
พันตรีได้มองไปที่เทรนซุด้วยแววตาที่เยือกเย็นราวกับน้ําแข็ง
ในตอนนั้นเองพลซุ่มยิงก็ได้เล็งปืนไปที่เทรนซุอย่างรวดเร็ว
“ แย่แล้ว!”
บนท้องฟ้า,เทรนซุนั้นรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคยมันเป็นความรู้สึกเวลาที่มีปากกระบอกปืนเล็งเข้ามาที่เขา
มันแตกต่างจากพวกปืนที่ยิงมาอย่างมั่วๆก่อนหน้านี้ในครั้งนี้ มันคือการเจาะจง
“บูม!”
ในขณะที่เขากําลังกังวลนั้นอีกฝ่ายก็ได้ลั่นไกออกมาแล้ว
กระสุนปืนนั้นได้พุ่งเข้ามาหาเทรนซุที่ยืนอยู่กลางอากาศอย่างรวดเร็ว,อีกเพียงนิดเดียวมันก็จะถึงตัวเทรนซุแล้วแต่ในทันใดนั้นเอง
“ กําแพงทราย!”
ในตอนที่กระสุนปืนกําลังจะถึงตัวของเทรนซุนั้นคล็อกโคไดล์ก็ได้เหยียดมือออกมาข้างหน้าพร้อมกับปลดปล่อยพลังของเขาออกมา
ในตอนนี้ตรงหน้าของเทรนซุนั้นได้มีกําแพงทรายปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน
กระสุนจํานวนนับไม่ถ้วนได้พุ่งชนเข้ากับกําแพงทรายในทันที,ดูเหมือนว่ากระสุนพวกนั้นจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทะลวงกําแพงทรายนี้เข้ามาได้
เทรนซุได้อาศัยโอกาสนี้ในการล่าถอยกลับมาหาคล็อกโคไดล์ในทันที
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่อาวุธที่ใช้แล้วหมดไป แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายนั้นจะมีมันอยู่เยอะมากแถมพวกเขายังสามารถใช้งานพวกมันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย, รูปแบบการต่อสู้ของพวกเขานั้นแตกต่างจากกองทัพเรือโดยสิ้นเชิง
“ กลุ่มคนพวกนี้มันจะผิดปกติเกินไปแล้ว!”
เมื่อหันไปมองดูรอบๆเทรนซุก็พบว่าตัวเขานั้นได้ถูกอีกฝายปิดล้อมเอาไว้แล้ว
ไม่ว่าจะพลซุ่มยิง,พลปืนใหญ่ หรือคนที่อยู่ในหน้าที่อื่นๆพวกเขานั้นต่างก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความเย็นชาพวกเขานั้นไม่มีความตื่นตระหนกปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
กลุ่มคนพวกนี้น่าหวาดกลัวมากพวกเขานั้นสามารถมองหาช่องโหว่และปรับเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีของพวกเขาเองได้อย่างรวดเร็ว
“ เทรนซู จัดการกับปืนใหญ่ของพวกเขา!”
เจสันนั้นได้ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่ดูน่าเกลียด
ที่เจสันสั่งให้เทรนซุไปจัดการกับปืนใหญ่นั้นก็เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดในการบุกทะลวงเข้าไปหาอีกฝ่ายของเขา
ตราบใดที่เขาสามารถบุกทะลวงเข้าไปอีกฝ่ายได้ละก็ด้วยความแข็งแกร่งของเขาและคล็อกโคไดล์มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะจัดการกับพวกเขา
“เข้าใจแล้ว”
อีกฝ่ายนั้นก็ยังคงยิงปืนใหญ่เข้ามาไม่ขาดจนทั้งสามนั้นต้องล่าถอยกลับไปอย่างต่อเนื่องและในเวลาเดียวกัน คล็อกโคไดล์ก็ได้ใช้กําแพงทรายของเขาในการป้องกันพวกมันไปด้วย
ปืนใหญ่และปืนต่างๆนั้นถูกยิงเข้ามาหาพวกเขาอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นปัญหามากสําหรับพวกเขาทั้งสามคน
“ฟุบ!”
ในตอนนั้นเองเทรนซุก็ได้ยกปืนของเขาขึ้นมาพร้อมกับเล็งไปที่ปืนใหญ่
เขาได้ทําการปรับจูนสโคปอย่างรวดเร็ว และในที่สุดเขาก็ได้ระยะที่เข้าต้องการ
“ ระยะทาง 530 เมตร มีลมพัดผ่านมาจากทิศตะวันตก”
“ หนึ่งนัดสังหาร!”
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ลั่นไกออกไปในทันที
“บูม!”
กระสุนสีดําเงานั้นได้พุ่งออกไปจากลําเพลิง และพุ่งเข้าไปหาปืนใหญ่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งอย่างดุร้าย
“บูมม!”
ปืนใหญ่อันนั้นไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปแล้ว
“ต่อไป”
ท่าทางของเทรนซุนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย เขาได้หันปากกระบอกปืนไปยังเป้าหมายต่อไปในทันทีพร้อมกับลั่นไกออกไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
“บูมม!”
เพียงพริบตาเดียวกองกําลังที่เคยเป็นระเบียบนั้นก็ได้เปลี่ยนไปเป็นวุ่นวายในทันที,ในเวลานี้เทรนซุนั้นได้จัดการปืนใหญ่ไปกว่า 50% แล้วในตอนนี้ใบหน้าของพวกกองทัพบกนั้นก็ได้เต็มเปี่ ยมไปด้วยความตื่นตระหนก
ในตอนนั้นเองพันตรีนั้นได้กล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่เทรนซุด้วยความเย็นชา
“ส่งหน่วยพลซุ่มยิงที่ดีที่สุดไปจัดการกับไอ้เด็กนั่น!”
“ ไปซะ!”
เขาได้กล่าวสั่งออกมาด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา
ในตอนนั้นเองบนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งก็ได้ปรากฏเงาร่างของใครบางคนขึ้นมา แม้จะไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่เขานั้นกําลังเล็งปืนที่อยู่ในมือของเขามาที่เทรนซุ
ทันใดนั้นเองเทรนซุก็ได้หยุดชะงักไปพร้อมกับเหงื่อที่ไหลรินออกมาเต็มใบหน้าของเขา
“ ฉันถูกเล็งอีกแล้ว!”
ความรู้สึกนี้ได้หวนคืนกลับมาหาเขาอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้กลัวแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะขยับตัวเช่นกัน
“ เทรนซุเป็นอะไร?”
เจสันที่เห็นว่าจู่ๆเทรนซุก็หยุดชะงักไปจึงได้กล่าวถามออกมา
“ มีคนเล็งเป้ามาที่ฉัน!”
เทรนซุได้กล่าวตอบออกมาอย่างแผ่วเบา
เมื่อได้ยินคําพูดของเทรนซุใบหน้าของเจสันก็ได้เปลี่ยนไปในทันที
ดูเหมือนว่าการจะจัดการกับอีกฝ่ายนั้นจะยากกว่าที่เขาคิด
เพราะว่าพวกมีนักแม่นปืนอยู่! ในฐานะที่เป็นพรรคพวกกับเทรนซุมานานมันทําให้เขารู้ดีว่าการจัดการกับพวกที่สู้ในระยะไกลนั้น มันเป็นอะไรที่ยากลําบากมาก
“ แล้วนายจัดการกับพวกเขาได้หรือเปล่า?,ให้พวกฉันช่วยมั้ย?”
คล็อกโคไดล์ได้กล่าวถามออกมาพร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงหาอีกฝ่ายไม่เจอแม้แต่เงาของพวกเขาเขาก็ยังหาไม่เจอ
“ ฉันจัดการเองได้,นายไปจัดการพวกนั้นเถอะ หลังจากที่ฉันได้ทําลายปืนใหญ่ไปเป็นจํานวนมากพวกเขาก็ไม่น่าจะขัดขวางนายได้แล้ว!”
เทรนซุได้กล่าวออกมา
ในตอนนี้เขาได้กําปืนของเขาแน่นพร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ
เขาไม่ได้บอกทั้งสองว่าในครั้งนี้มีคนที่มาซุ่มยิงเขาถึงห้าคน!,ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายนั้นจะโกรธแค้นเขามากการที่ส่งนักแม่นปืนมางห้าคนนั่นมันเป็นอะไรที่โหดเหี้ยมมาก
“ ต้องรีบหาตําแหน่งของพวกเขาให้เจอ!”
“ แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมยิงออกมาฉันก็หาพวกเขาไม่เจอ”
“ ดูเหมือนว่าฉันต้องสร้างโอกาส!”
“ แม้มันจะเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม!”
แววตาของเทรนซุนั้นกําลังเปล่งประกาย,การต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิต นั่นมันทําให้หัวใจของเขาเต้นแรงและหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของเขานั้นกําลังสั่นสะท้าน
อีกฝ่ายนั้นมีความสามารถในการซ่อนตัวที่สุดยอดมาก จนกระทั่งตอนนี้เทรนซุก็ยังไม่สามารถหาพวกเขาเจอ
ใตอนนั้นเองเทรนซุก็ได้หลับตาลง
หลังจากที่หลับตาลงเขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงเสียงของลมหายใจ และเสียงของหัวใจที่กําลังเต้นอยู่ได้อย่างชัดเจน
“ เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ฉันต้องหาตําแหน่งของพวกเขาให้ได้!”
ในช่วงแรกของการเผชิญหน้าพวกเขานั้นกําลังเผชิญหน้ากันด้วยความเงียบสงบ
พลซุ่มยิงทั้งห้าคนนั้นรู้ดีถึงความยากลําบากของเทรนซุ,การที่ต้องมาถูกนักแม่นปืนถึงห้าคนเพ่งเล็งนั้น มันเป็นอะไรที่กดดันเป็นอย่างมากแต่อีกฝ่ายนั้นกลับหลับตาลง
“ ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจที่จะโต้กลับในตอนที่พวกเราลั่นไกออกไป!”
ด้วยประสบการณ์ของพวกเขาทําให้พวกเขานั้นสามารถรู้ถึงความคิดของเทรนซุได้ในทันที
แต่ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็อดที่จะรู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายไม่ได้ มันมีอยู่ไม่กี่คนหรอกที่มีความกล้าพอที่จะทําอะไรแบบนี้ถ้าพวกเขาไม่ได้มั่นใจในตัวเองจริงๆ
“ น่าเสียดายความกล้าของเขาจริงๆ!”
“ เพราะช่องว่างของเวลาที่เหลืออยู่นั้นมันมีแค่..”
“ 0.2 วินาทีเท่านั้น!”