ตอนที่ 91 คุณปูเป็นกูรูด้านความรัก
เล็กซี่นิ่งเงียบ ขณะที่ในหัวเต็มไปด้วยคําพูดของอบิเกลฝานที่เปล่งออกมาซ้ําๆ ไม่ใช่ว่าเธอจะเชื่อสิ่งที่อดีตผู้จัดการของเธอพูดร้อยเปอร์เซ็นต์ แค่เพราะว่าเธอไม่เคยเอาใจเขามาใส่ใจเราเช่นพวกเขา
เธอคิดมาตลอดว่าไม่มีใครเข้าใจเธอเพราะพวกเขาไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของเธอ แต่ความจริงแล้ว เธอเองก็ไม่เคยทําเช่นกัน
” อย่างที่มีคนเคยว่าไว้ เหรียญมักมีสองด้านเสมอชู ” เมื่อรู้สึกถึงความตระหนักที่ทําให้เล็กซี่ได้รับรู้ ชูรูก็พูดคุยกับเธอ เธอกล่าวเสริมว่า
” เข้าทางเลยชู- ตอนนี้แหละคือกุญแจสําคัญในการตรวจสอบเควสสุดท้ายที่ไม่เสร็จของคุณ”
เล็กซี่ถอนหายใจหนัก ๆ ในขณะที่เธอเหนื่อยเพียงพอสําหรับคืนนี้แล้ว ก่อนหน้านี้เธอโต้เถียงนิดหน่อยกับชูรู จากนั้นก็อีธานและตอนนี้อาบิเกลฝานอีก
“ ไปกันเถอะตัวเล็ก ฉันคิดว่าเราคงมีริ้วรอยแน่ ถ้าเราไม่ใส่มาสก์หน้าตอนนี้”
“ ดีเลยชู !” ชูรูหน้าแดงและมีกําลังใจอย่างมากเมื่อได้รับคําเชิญให้มาส์กหน้า พระเจ้าเธอจะพลาดสิ่งประดิษฐ์ที่สวยงามของโลกนี้ได้อย่างไร
….
[ ลู่ คอปเปอเรชั่น ]
“คุณปู่ !! หัวใจปู่ – ปู่อาจจะหัวใจวายได้นะ!” อีธานตะโกน ขณะที่เขาวิ่งไปอีกด้านหนึ่งของโต๊ะทํางาน
ปัจจุบันไม้เท้าของปู่ของเขานั้นคล้ายกับเคียวของยมทูตที่กําลังมาหาเขา
” เด็กเวร! หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้! ถ้าแกเป็นห่วงสุขภาพของฉัน!” เขาพุ่งเข้าใส่อีธานที่เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
แม้เขาจะอายุมาก แต่เอ็ดเวิร์ดอู่ก็เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่า ในขณะที่เขาพยายามฟาดฟันหลานจอมหัวแข็งของเขา เนื่องจากอีธานลู่เป็นคนเข้าใจยากเกิน แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมา ชายชราได้ยินว่าจริงๆแล้วอีธานลู่ใช้เวลาสามวันติดต่อกันในการทํางานอย่างบ้าคลั่งในบริษัท เขาจึงต้องมาดูด้วยตัวเองให้เห็นกับตา
ท้ายที่สุดแล้ว อีธานไม่เคยมีความคิดที่จะมามีส่วนร่วมในบริษัทนี้เลย แต่เมื่อเขาเข้ามา เขาก็กล้าที่จะหยุดการประมูลที่เดนนิสคู่ลุงของเขากําลังดําเนินการโครงการบางอย่างของบริษัท
แน่นอนว่าอีธานมีสิทธิ์ที่จะทําเช่นนั้นได้ ในขณะที่ตอนนี้เขายังคงดํารงตําแหน่งหัวหน้าใหญ่ในอนาคตของลู่ คอปเปอเรชั่นอยู่ อย่างไรก็ตามหากอีธานรับมือเขาได้ ในเรื่องนี้ เอ็ดเวิร์ดลู่ก็กังวลว่าหลานของเขาจะมีความรับผิดชอบอย่างเต็มที่จริงๆ หรือแค่ตั้งเป้าไปที่ลุงที่เขาไม่ชอบหน้าและหาเรื่องแกล้งเพื่อความสนุกสนาน
“ไอหยา! เด็กคนนี้ หยุดวิ่งจะได้มั้ย!” เอ็ดเวิร์ดลู่ดูหมิ่น ในขณะที่เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ผู้บริหารของอีธาน ตาคมจ้องมองหลานชายของเขา เอ็ดเวิร์ดลู่พูดระหว่างหายใจเข้าออกยาว ๆ
“ ไม่จนกว่าคุณปู่จะสงบลงก่อน!” ฟังดูเหมือนอีธานตอบสนอง ในขณะที่เขาถอยหลังไปอีกก้าวอย่างระมัดระวัง
“ ทําไมแกถึงเข้ามาแทรกแซงการประมูล? ให้ตายสิ แกคิดว่าแกกําลังทําอะไรอยู่? แกไม่รู้หรือไงว่าการปรากฏตัวของแกที่นี่จะทําให้ครอบครัวเราตึงเครียดเกินไปหรือเปล่า!” ในขณะที่เอ็ดเวิร์ดลู่หายใจได้อย่างคงที่ เขาก็โพล่งเหตุผลหลักของการมาเยือนของเขาอย่างกะทันหัน
มันอาจจะฟังดูรุนแรง แต่เพื่อให้ได้รับความสนใจจากอีธาน เขาต้องไม่ใส่น้ําตาลในคําพูดของเขา อย่างไรก็ตามชายชรารู้สึกไม่พอใจอยู่แล้วที่ลูกชายของเขากําลังต่อสู้กับผู้ที่จะเข้ามายึดบริษัท ในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่
ดังนั้นเอ็ดเวิร์ดลู่จึงได้ประกาศไปในอดีตแล้วว่าใครจะเป็นทายาทของเขา และนั่นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอีธาน ด้วยความก้าวหน้าและความสามารถที่น่าพอใจเมื่อตอนเป็นเด็ก อีธานมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นทายาทของเขา อย่างไรก็ตามเมื่อเติบโตขึ้นมา เขาเริ่มหัวแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่สนใจที่จะเป็นผู้นําตระกูล นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมอีธานถึงไม่เข้ามามีบทบาทตรงนี้
” ทําไมผมต้องสนใจ! ปล่อยให้พวกเขาตึงเครียดจนไม่สามารถขยับตัวและนอนหลับได้ในตอนกลางคืนก็ดี!” อีธานประท้วงด้วยน้ําเสียงที่ไม่พอใจ และหงุดหงิดปของเขา เขาเอ่ยต่อ
“ นอกจากนี้ ผมต้องคลายความเครียดด้วยการเข้าไปยุ่งกับเรื่องของลุงเดนส์ซะหน่อย..ฮิฮิ”
“ อ้าา โอ้พระเจ้าหัวใจฉัน” เมื่อได้ยินเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อของอีธานเกี่ยวกับการแทรกแซงโครงการของเดนนิสลู่ เอ็ดเวิร์ดลู่ก็รู้สึกปวดหัวอย่างยิ่งและหัวใจแทบจะล้มเหลว
“ ไอ้หลานคนนี้! แกอยากให้ฉันตายตรงนี้ใช่มั้ย! ไอหยา! นี่ต้องเป็นเวรกรรมแน่ๆ ” เอ็ดเวิร์ดลู่ตบหน้าอกของเขาอย่างพ่ายแพ้เมื่อเขารู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เมื่อต้องรับมือกับหลานชายของเขา มันปวดหัวมาก แต่เขาก็ยังคงสนใจหลานเขาอยู่ดี เขารู้ว่าอีธานทําแบบนี้โดยมีจุดประสงค์บางอย่าง
” อ้า! ผมล้อเล่นน่ะ! แน่นอนว่าผมมีเหตุผลที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เป็นรูปเป็นร่างของเขา แต่ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ําว่าทําไมปูถึงปล่อยให้เขาเดินเตร่ไปมาได้กัน “ เมื่อเห็นว่าปู่ของเขามีขีดจํากัด ในที่สุดอีธานก็ยอมรับในขณะที่เขาเดินไปที่โต๊ะทํางาน และเขาอธิบาย
“ ความจริงที่ว่าไม่มีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งในการประมูลนี้เลย ผมสงสัยอย่างมากว่าทําไมเราถึงต้องจ่ายเงินให้บริษัทอื่นๆ ถึงสามเท่าของมูลค่าสุทธิ แม้ว่าผมจะยังไม่แน่ใจ แต่ผมก็ถามลิริคผู้ช่วยของผมที่ไม่มีเซ็นต์ด้านแฟชั่นของผมแล้ว!”
เมื่อเอ็ดเวิร์ดลู่เห็นหลานชายของเขายืนอยู่หน้าโต๊ะ และอธิบายเหตุผลที่แท้จริงของเขาเขาก็รู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยเขาก็ไม่แทรกแซงด้วยเหตุผลที่เข้าใจไม่ได้
“ แล้วยังไง? หลานควรจะรู้ว่าการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโครงการใหญ่นี้อาจหมายความว่าแกกําลังต่อสู้เพื่อตําแหน่งของแกอยู่ “ ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ตอนนี้ เอ็ดเวิร์ดดูเคร่งขรึมมากขึ้นเมื่อเขาพูดคุยกัน
การให้อีธานลู่เข้ามามีส่วนร่วมในกิจการของบริษัทเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ซึ่งน่าทึ่งมาก แต่เขาไม่เคยเข้ามายุ่งกับบริษัทมากขนาดนี้ ดังนั้นการเข้าไปมีส่วนร่วมในครั้งนี้จึงเหมือนกับการประกาศตัวว่าเขาจะต้องได้บัลลังก์ไปครอง
“เอ่อเรื่องนั้น คุณปู่นั่นไม่สําคัญอะไร ตอนนี้ ใช่สิ! ผมจําได้ว่าปู่บอกว่าปู่เป็นกูรูด้าน ความรักใช่ไหม?” อีธานเกากรามของเขาด้วยนิ้วชี้ของเขา อีธานโยนเรื่องของบริษัททิ้งไปอย่างไม่ใยดี ในขณะที่เขาจําได้ว่าปู่ของเขาโอ้อวดเกี่ยวกับการเป็นนักรักในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ของเขา
ในทางกลับกัน เอ็ดเวิร์ดลู่ก็ปล่อยไอออกมาหลายครั้ง โดยที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าอีธานจะจําคําโกหกในตอนนั้นของเขาได้