หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 195 จู่โจมสายฟ้าแลบ

น่าเสียดายที่แค่เพียงเกอซียกขยับฝ่าเท้าเท่านั้น อายพลังอันเย็นยะเยือกพลันระเบิดพวยพุ่งขึ้นมาจากด้านหลัง

 

หญิงสาวรับรู้ได้ถึงขุมพลังที่หนักหน่วงเข้มข้นที่เฉียบคมประดุจใบมีดที่พุ่งเล็งตรงมายังแผ่นหลังของนางด้วยความรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าฟาด

 

หญิงสาวรีบคว้าแส้กระดูกออกมาจากมิติในทันทีโดยไม่เหลือเวลาให้ฉุกคิด นางพลิกตัวกลับ 180องศา อาศัยแรงโน้มถ่วงของผิวโลกตวัดปลายแส้รัดอาวุธที่ตรงเข้าจู่โจมตน

 

เสียงดัง ‘แกร๊งงงง’ ก้องสะท้อนไปทั่ว ปลายตะขอแหลมบนสายแส้กระทบพื้นเป็นทางยาวส่งประกายไฟกระจายไปทั่ว

 

อาวุธที่พุ่งตรงเข้าจู่โจมนางเมื่อครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่คงเหลือกลับเป็นแต่เพียงสิ่งที่ไม่คาดฝันกวัดแกว่งอยู่เบื้องหน้าสายตา

 

ริมฝีปากของหญิงสาวเม้มสนิทกระทั่งแทบเป็นเส้นบาง ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่พุ่งเข้าโจมตีนางเมื่อครู่จะเป็นแค่เพียงน้ำเต้าเท่านั้น

 

ยามนี้ขวดน้ำเต้ายังคงลอยคว้างอยู่กลางอากาศตรงหน้าหญิงสาว ทั้งบางครามันยังคล้ายผงกหน้าไปมาประหนึ่งกำลังเย้ยหยันในความไร้ฝีมือของเกอซี

 

หญิงสาวถลึงตาใส่ชายเฒ่า “เมื่อครู่เจ้าเพิ่งกล่าวว่าเจ้ากับนางหาใช่พวกเดียวกันไม่มิใช่หรือ ?”

 

ขอทานเฒ่ายกมือขึ้นเกาเห็บเหาบนศีรษะขณะระเบิดเสียงหัวเราะร่าอย่างสะใจ “แน่นอน อาวุโสผู้นี้ย่อมไม่ใช่พรรคพวกของนาง ! ทว่าเจ้าผิดอย่างมหันต์ที่กล่าวปรักปรำข้า เจ้าตุ๊กตาทารกน้อย ! หากข้าไม่โต้ตอบกลับไปบ้าง อาวุโสเข่นข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด !”

 

สีหน้าของเกอซีหม่นมัว นางหันหลังกลับหมายจะใช้ยุทธวิธีการหลบหลีกของตนเข้าช่วย

 

ทว่าน่าเสียดายที่แม้การเคลื่อนกายของเกอซีจะฉับไวยิ่งนัก ทว่ากลับลงท้ายด้วยความคล่องไวยิ่งไปกว่าของขวดน้ำเต้า แม้นางจะพยายามใช้เทคนิคการหลบหลีกสักกี่ครั้งกี่ครา น้ำเต้าใบนั้นกลับยังคงสามารถตรงเข้าขวางหน้าได้ทุกคราไป

 

ครั้นเมื่อนางยกตวัดปลายแส้ออกไป น้ำเต้าจะหลบล่าถอยกลับไปอยู่ในระยะที่ปลอดภัย ทั้งยังหมุนตัวไปมาเยาะเย้ยความไม่ได้เรื่องของนางอย่างไม่หยุดหย่อน

 

แววตาของเกอซีหนักแน่นขึ้น ดูคล้ายน้ำเต้าใบนี้จะอ่านใจนางได้ เสมือนหนึ่งมันสามารถคาดการณ์ความเคลื่อนไหวทุกขณะของนางได้อย่างชัดเจน

 

เมื่อไม่อาจคาดเดาการจู่โจมของฝ่ายตรงข้ามได้ นางจำต้องอาศัยช่วงที่มันขาดความระวังเพื่อตรงเข้าจู่โจมแบบสายฟ้าแลบ

 

เกอซีแสร้งใช้กลยุทธการหลบหลีกเช่นเดิมตามแผนการในใจ และแน่นอนว่าน้ำเต้าใบนั้นก็รีบตรงเข้าจู่โจมนางด้วยคลื่นพลังที่แข็งแกร่งในทันที ทว่าครานี้เกอซีไม่เพียงไม่หยุดยั้งการเคลื่อนไหว ทว่านางกลับปลดปล่อยกระแสพลังทั้งหมดในกายออกมา เมื่อไม่ถอยหลบทว่ากลับพุ่งตรงเข้าใส่ ร่างของนางจึงประดุจปลายกระบี่อันคมกริบร้ายกาจที่พุ่งสวนกลับเข้าหาขวดน้ำเต้า

 

เพียงเสี้ยววินาที อายพลังอันเย็นยะเยือกแผ่ซ่าน รัศมีการเข่นฆ่าที่รุนแรงถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของหญิงสาว ความน่าหวาดผวาที่ทำให้ผู้คนทั้งหลายต้องสั่นสะท้านพุ่งตรงเข้าหาน้ำเต้าใบนั้น

 

สีหน้าของขอทานเฒ่าแปรเปลี่ยนในทันที เดิมทีเขาเพียงนั่งรอชมการละเล่นที่น่าตื่นตา ทว่ายามนี้กลับต้องตาค้างตะลึงแลไปกับการกระทำของเกอซี เพราะมัวแต่ใจลอย การโจมตีของน้ำเตาใบนั้นจึงชะงักคล้ายถูกแช่แข็งอยู่กลางอากาศ

 

เสียงดัง ‘เปรี้ยง’ เท่านั้น ขวดน้ำเต้าก็ถูกแส้กระดูกสะบัดแตกออกเป็นสองเสี่ยงก่อนจะแหลกละเอียดลงเป็นร้อย ๆ ส่วน และร่วงหล่นกระจายเกลื่อนพื้น

 

ย่อมเป็นผลให้สุราเวทที่บรรจุอยู่ด้านในทะลักออกจนเกลี้ยง ทั่วทั้งชั้นบรรยากาศในตรอกซอยแห่งนี้คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นหอมของสุรา

 

ขอทานเฒ่าตะลึงตาค้างไปอีกคราก่อนจะรีบพรวดพราดเข้ามาหาน้ำเต้าด้วยความอาลัยอย่างเหลือแสน เขาเดินวนไปมาราวกับหนูติดจั่นอยู่กับกองสุราที่เจิ่งนองอยู่กับพื้นพลางส่งเสียงคร่ำครวญ “อ๊า—- สุราของข้า สุราวิเศษของข้า ! เจ้ามันไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว ! รู้ไหมว่ากว่าจะได้สุราชุดนี้มาหาใช่ง่ายดาย ? ! ข้าต้องขายสมบัติออกไปนับพันชิ้นกว่าจะได้มาแค่เพียงน้อยนิดเช่นนี้ ! รู้ไหมว่าตลอดทั่วทั้งเมืองเหยียนจิงแห่งนี้ย่อมไม่อาจพบเจอสุราเช่นนี้อีกแล้ว ? !”

 

ปลายจมูกของเกอซีเชิดขึ้นสูง บนดวงหน้าคืออาการดูแคลน

 

สุราวิเศษใดกัน ? ไอ้เท่าที่เห็นอยู่นี้หรือ น่าจะเรียกว่าสุราปลอม ๆ หลอก ๆ ก็เท่านั้น !

 

สุราเช่นนี้ย่อมไม่มีวันมีคุณสมบัติแม้เพียงเฉียดกับสุราเวทที่นางเพิ่งหมักไว้ที่ริมบ่อทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้นเก้าได้เลย ยิ่งเมื่อนึกถึงสุราผลไม้ที่นางเคยหมักในอดีตภพ เกอซีย่อมสามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่ามันไม่อาจเทียบได้กับยอดสุราที่เพิ่งหมักในมิติเวทนั้น

 

ส่วนพลังน้อยนิดกระจิ๊ดริดที่มีอยู่ในสุรากระจอก ๆ นี่คืออะไร ? สิ่งนี้หรือที่เรียกว่ายอดสุรา ?

 

แล้วที่กล่าวว่าทั่วทั้งเมืองเหยียนจิงแห่งนี้ย่อมไม่อาจพบเจอสุราเช่นนี้ได้อีกนั้นเล่า ? เหตุใดไม่กล่าวว่าทั่วหล้านี้ย่อมไม่อาจพบเจอสุราเช่นนี้ได้อีกเสียเลยเล่า ?

 

ขอทานเฒ่าคว้าไหล่เกอซีมาเขย่าตะคอกใส่ “ข้าไม่สนอะไรทั้งนั้น ! แม่ตุ๊กตาน้อย เมื่อเจ้าทำสุราข้าหกหมด เจ้าต้องรีบหามาชดใช้ข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะจัดการกับเจ้า !”

 

หญิงสาวจ้องกลับด้วยใบหน้ามืดมัว “เจ้าหมายถึงอะไร เจ้าเฒ่าเต่าเหม็น ! เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเจ้าเป็นฝ่ายหาเรื่องข้าก่อน ยังจะมาให้ข้าชดใช้อันใดอีก ?่”

 

“ข้าไม่สน !” ขอทานเฒ่ากระฟัดกระเฟียดหัวเสียอย่างหนัก “เจ้าต้องหาสุราวิเศษชั้นยอดมาชดใช้ข้า ! หาไม่แล้ว ในวันหน้าเจ้าจะต้องมาเป็นแม่หนูน้อยพรหมจรรย์ของข้า !”*

*หนูน้อยพรหมจรรย์ในที่นี้คล้ายกับเทวดาเด็กน้อยของชาวตะวันตก ซึ่งจะมีเทวดาเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงคอยทำงานดูแลรับใช้อยู่บนสวรรค์หรือในโบสถ์

 

 

***จบตอน จู่โจมสายฟ้าแลบ***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

Options

not work with dark mode
Reset