ตงฟางซั่วครอบครองดาบนามว่า ‘ดาบอัคคีเขียว’ และเขาพุ่งตัวไปยังผลไม้ที่ช้างเกล็ดเงินคอยปกปักษ์อยู่ มันเป็นผลไม้วิญญาณระดับกลาง และมันมีประโยชน์มากมาย
ใกล้กันกับผลเขาเงินนั้นมีช้างเกล็ดเงินชราคอยปกป้องอยู่ มันยกงวงสูงขึ้นเหนืองาทั้งสอง และในจังหวะที่ตงฟางซั่วกำลังจะไปถึง งวงนั่นก็ได้ฟาดลงมาอย่างแรง
“สังหาร!” ตงฟางซั่วเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ช่วงท้ายของระดับแปรสภาพ ดาบอัคคีเขียวส่องแสงขึ้น ดูเหมือนเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำนั่นจะมีพลังอันน่าอัศจรรย์
ช้างชราได้กระทืบลงกับพื้นด้วยความโกรธเกรี้ยว ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ก้อนหินขนาดใหญ่กระเด็นจากผืนดิน และถูกส่งไปหาตงฟางซั่วด้วยแส้จากงวงของช้างชรา
หินได้พุ่งไปด้านหน้าอย่างรุนแรง แต่ชั่วขณะที่สัมผัสกับพลังงานจากดาบของตงฟางซั่ว หินได้ถูกบดขยี้เป็นเศษเล็กเศษน้อย ช้างเกล็ดเงินชราได้ฉีดลำแสงสีเงินจากงวงเข้าใส่ตงฟางซั่ว
ตงฟางซั่วตะโกน “ข้าจะสังหารเจ้าให้ได้ในวันนี้!”
ชายหนุ่มฟันดาบแปดครั้งติดต่อกัน ส่งลำแสงดาบแปดสีเข้าใส่การโจมตีที่เข้ามา จากนั้นจึงแทงดาบเข้าใส่ช้างเกล็ดเงินชรา
ชิ้ง! เคร้ง!
ช้างเกล็ดเงินเป็นสัตว์ที่มีพลังการป้องกันสูง ดังนั้นการโจมตีของตงฟางซั่วจึงล้มเหลว ด้วยไม่อาจแทงทะลุหนังพวกมันได้ หลังจากการโจมตีล้มเหลว ช้างชราได้สวนกลับในทันที
ตงฟางซั่วมั่นใจในฝีมือของตนมาก และไม่เต็มใจจะยอมแพ้ต่อผลเขาเงินตรงหน้า การต่อสู้ของมนุษย์ และสัตว์จึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะเดียวกันกับผู้อื่น การต่อสู้ของพวกเขาร้อนแรงขึ้นเช่นกัน
ในตอนนั้นเอง ร่างสีขาวขนาดเล็กได้พุ่งเข้ามาท่ามกลางสนามรบด้วยความเร็วที่ไม่อาจมองได้ทัน ร่างเล็กนั่นคือเสี่ยวไป่ที่หดกลับไปขนาดตัวเท่าเดิมนั่นเอง ตอนนี้เขาพุ่งตัวไปยังผลเขาเงิน โดยใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศ จึงสามารถเคลื่อนที่ได้โดยที่ไม่ถูกตรวจจับ และมาถึงผลเขาเงินในที่สุด หลังจากคาบผลไม้ไว้ในปาก มันก็รีบหลบหนีออกมา
ตงฟางซั่วเพิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากช้างเกล็ดเงิน เมื่อเขาสังเกตเห็นเสี่ยวไป่ขโมยผลไม้ตรงหน้าไป จึงตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ “เจ้าแมวป่ามาจากที่ใดกัน? นี่เจ้ากล้าขโมยของข้ารึ?”
เสี่ยวไป่ส่งสายตายั่วยุตงฟางซั่ว ก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นอีก
ตงฟางซั่วเดือดดาลอย่างมาก เขาไล่ตามเสี่ยวไป่ แต่ตอนนั้นเองช้างชราได้ปลดปล่อยการโจมตีสุดท้ายแห่งความสิ้นหวัง งาของมันยาวขึ้นสองเท่า ก่อนจะแทงมาที่ตงฟางซั่ว
งาทั้งสองเป็นอาวุธแห่งโชคชะตาของช้างเกล็ดเงินชรา และมันไม่อาจป้องกันหรือปัดป้องได้ ตงฟางซั่วสัมผัสได้ถึงอันตราย และหันกลับไปทันที ก่อนจะฟันดาบไปที่ช้างเกล็ดเงิน แม้จะตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังได้รับบาดแผลลึกที่เอวแม้จะฟันโดนที่หูของช้างชราก็ตาม
“ข้าจะมาจัดการเจ้าภายหลัง” ตางฟางซั่วกล่าว เป้าหมายหลักคือผลเขาเงิน ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปหาเสี่ยวไป่แทน
“หยุดเจ้าสัตว์นั่นไว้!” ตงฟางซั่วตะโกน
การตะโกนนั่น ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพออกจากสนามรบทันที และพยายามไล่จับเสี่ยวไป่ แต่เจ้าเสือน้อยวิ่งไวกว่าพวกเขามากนัก เวลาเดียวกัน ช้างเกล็ดเงินร้องเสียงดัง และพุ่งเข้าใส่กลุ่มนักล่าสิ่งโตคลั่งโดนไม่สนใจชีวิตของตนเอง
โชคไม่ดี ที่ปีศาจชั้นสูงมีจำนวนน้อยกว่า ช้างหนึ่งตัวจึงถูกสังหารในที่สุด เมื่อจัดการช้างเกล็ดเงินแล้ว กลุ่มน่าล่าสิงโตคลั่งจึงทิ้งคนไว้สองถึงสามคนเพื่อจัดการซากของช้าง ส่วนที่เหลือติดตามตงฟางซั่ว และไล่จับเสี่ยวไป่
“ตายซะ เจ้าสัตว์ขี้ขโมย!” ตงฟางซั่วเพิ่มความเร็วขึ้น และทันใดนั้นเขาก็ขว้างอาวูธที่ซ่อนอยู่ใส่เสี่ยวไป่
ฟึ่บ! ฟึ่บ!
อาวุธลับนั่นได้พุ่งมาที่เสี่ยวไป่อย่างรวดเร็ว ขณะที่มันกำลังถึงตัว เสี่ยวไป่ได้ม้วนตัว และกลิ้งลงกับพื้นทันที ด้วยร่างกายที่เล็กลงจึงทำให้เขาหลบอาวุธลับนั่นได้อย่างง่ายดาย แต่การทำเช่นนั้น ทำให้ความเร็วลดลงอย่างมากเช่นกัน และทำให้ผู้ไล่ตามจับเขาได้ทันในที่สุด
“ตาย!” ตางฟางซั่วแทงดาบอัคคีเขียวเข้าใส่เสี่ยวไปส่งลำแสงเพลิงสีเขียวออกจากปลายดาบ
ในตอนนั้น เสี่ยวไป่ไม่อาจหลบหลีกการโจมตีตรงหน้าได้ ท้ายที่สุดแล้ว นี่คือการโจมตีของยอดฝีมือช่วงท้ายของระดับแปรสภาพ ความเร็ว และพลังโจมตีที่ไม่อาจประเมินได้ ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็ได้กระโดดลงมาจากต้นไม้ใกล้เคียง และเหวี่ยงกระบี่เข้าหาดาบ
ดาบอัสนีคลั่ง!
นี่คือวิชาดาบระดับสามที่เซี่ยงเส้าหยุนเชี่ยวชาญมาก่อน มันมีสามกระบวนท่า และเซี่ยงเส้าหยุนกำลังใช้กระบวนท่าแรก ‘อัสนีบ้าคลั่งร่วงหล่น’
เซี่ยงเส้าหยุนนอนรออยู่ที่นี่มาตลอด เขาให้เสี่ยวไป่ไปหลอกล่อศัตรูเพื่อที่จะได้เริ่มสังหาร เขาโจมตีด้วยพลังทั้งหมด ผสานสายฟ้าสีม่วงโดยกำเนิดในการโจมตีนั่น อาจกล่าวได้ว่าการโจมตีนี่มีลักษณะคล้ายกับนามของมัน ด้วยลงมาจากบนท้องฟ้าราวกับอัสนีบาตล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า
ตงฟางซั่วเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ต่อสู้มาอย่างโชคโชน และยังเป็นคนที่คอยระมัดระวังตัวอยู่เสมอ กระนั้น เขาก็ไม่คาดคิดว่านี่จะเป็นกับดัก และสัตว์ตัวน้อยตัวนี้จะเป็นสัตว์เลี้ยงของใคร
เขามัวแต่สนใจเสี่ยวไป่อย่างเต็มที่ ในขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนพุ่งเป้าไปที่เขาอย่างเต็มที่เช่นกัน ดังนั้น กว่าจะสังเกตเห็นการโจมตีที่เข้ามานั้น ก็สายไปเสียแล้ว
“บ้าฉิบ!” เมื่อสัมผัสได้ถึงกระบี่นั่น เขาจึงละทิ้งการโจมตีเสี่ยวไป่ทันที และใช้พลังเพื่อสร้างเกราะสีเขียวโอบล้อมตัวเอง
ตู้ม!
ก่อนที่เกราะป้องกันของตงฟางซั่วจะกางเสร็จสิ้น เซี่ยงเส้าหยุนก็ฟันลงมาก่อน การโจมตีครั้งแรกของเซี่ยงเส้าหยุนด้วยกระบี่ราชันผ่าเมฆา ชั้นของสายฟ้าสีม่วงโดยกำเนิดติดบนใบมีดที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่การฟันได้ทำลายเกราะกำบังของตงฟางซั่ว
โลหิตพุ่งออกไปทั่วทุกหนแห่ง
“อ๊าก!”
ตงฟางเสียแขนข้างหนึ่งไปเสียแล้ว ทำให้เขาร่ำไห้อย่างน่าเวทนา แต่ด้วยยังคงเป็นยอดฝีมือ แม้จะเจ็บปวดหนักเพียงใดก็ยังคงไม่ลืมที่จะตวัดดาบเข้าใส่เอวของเซี่ยงเส้าหยุน
เคร้ง!
ตงฟางซั่วคาดหวังว่าจะสามารถสังหารได้ด้วยการโต้กลับนั่น แต่เมื่อตวัดดาบไปยังเอวของเด็กหนุ่ม เสียงดาบกระทบนั่นบอกกับเขาว่ามันล้มเหลว
ผลกระทบนั่นส่งผลให้เซี่ยงเส้าหยุนลอยขึ้น และขณะที่แขนที่ถูกตัดของตงฟางซั่วกำลังตกถึงพื้น โดยปราศจากเกราะชั้นในระดับราชา เซี่ยงเส้าหยุนจะต้องถูกสังหารเป็นการแลกเปลี่ยน
“ช่างคู่ควรกับการเป็นยอดฝีมือช่วงท้ายของระดับแปรสภาพนัก เขาสามารถโจมตีได้แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนโชคชะตาได้ เขาจะต้องตายในวันนี้” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคำเบากับตนเอง ก่อนจะพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง
“หยุดอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวนี้!” กลุ่มของตงฟางซั่วได้มาถึงในที่สุด
ผู้ที่เข้ามาใหม่นั้น สองคนเป็นยอดฝีมือระดับแปรสภาพ พวกเขาทั้งสองชักอาวุธออกมาก่อนจะพึ่งเข้าหาเซี่ยงเส้าหยุน พยายามไม่ให้เขาสังหารตงฟางซั่ว
“ไม่มีผู้ใดหลบหนีจากการตายได้ หากข้าต้องการให้มันตาย” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวด้วยแววตาเฉียบคม