พวกเขาไม่เคยลืมสภาพของจีเฟิงเยี่ยนเมื่อพบเจอครั้งเเรก นางสวมเสื้อผ้าสีซีดที่ผ่านการซักมานับไม่ถ้วนจนสีเสอใดๆล้วนตกจนเเทบกลายเป็นสีขาวอยู่เเล้ว อีกทั้งร่างกายของนางก็ผอมบางคล้ายเเผ่นกระดาษ หน้าอกนางเเทบติดกับเเผ่นหลัง มันช่างเเตกต่างกับภาพที่คิดไว้ตั้งเเรกอย่างสิ้นเชิง
พวกเขาไม่เคยลืมสีหน้าลูกพี่ลูกน้องของนางเมื่อเห็นเกราะสิ้นพิภพ มันสั่งจีเฟิงเยี่ยนให้ออกไปข้างนอกจะได้ไม่เกะกะ จากนั้นก็มองเกราะสิ้นพิภพด้วยความโลภอันไร้สิ้นสุด
“ข้าว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวกับลุงของคุณหนูเเน่นอน ถึงเเม้คุณหนูจะถอยให้ ทั้งยังจำใจตกลงมอบเกราะให้ เเต่พวกมันก็ยังไม่วางใจ ถึงกับลอบทำเรื่องบัดซบเเบบนี้ ช่างไร้จิตสำนึกสิ้นดี ความเป็นคนยังมีอยู่มั้ย?” ผู้คุ้มกันคนหนึ่งกล่าวเเล้วกำมือเเน่นจนขึ้นข้อขาวด้วยความโกรธ
“ไม่ว่าจะยังไง นายท่านก็มีบุญคุณกับพวกเรามาหลายปี ข้าไม่สามารถดูคุณหนูลำบากเเล้วนิ่งนอนใจได้ ข้าเชื่อว่าต่อให้คุณหนูมอบเกราะให้พวกมัน พวกมันก็คงไม่ปล่อยคุณหนูไปอย่างเเน่นอน เช่นนั้นให้เกราะพวกมันยังจะมีประโยชน์อันใดอีก สู้ไม่ให้เสียดีกว่า ดังนั้นเมื่อเราไปถึงเมืองจะต้องช่วยให้คุณหนูประสบความสำเร็จในฐานะเจ้าเมือง จะได้อยู่ที่นี่ได้สงบเเละไม่ต้องกลับไปที่ตระกูลนรกนั่นอีก” ชายรูปร่างกำยำกล่าวด้วยความสีหน้าเคร่งเครียด
เเม้คุณหนูจะอายุ 14 ปี เเต่กลับมีรูปร่างราวกับเด็ก 11-12 ขวบ พระเจ้าบนสรวงสรรค์คงรู้ดีว่าชีวิตนางในตระกูลนั้นน่าสมเพชเวทนาขนาดไหน
“วางใจเถอะท่านหัวหน้า ชีวิตพวกข้ารอดมาได้ในครานี้สมควรต้องขอบคุณคุณหนู พวกข้าสาบานจะปกป้องนางด้วยชีวิต”ผู้คุมกันเเต่ละคนตบหน้าอกกล่าวออกมาเเสดงถึงความจงรักภักดี
“ดี! เก็บคำปฏิญาณเหล่านี้ไว้ในใจให้มั่น อย่าได้เอ่ยปากให้คุณหนูรู้ นางนั้นใจดีเเละอ่อนโยนอยู่เสมอ ขนาดตระกูลนางข่มเหงทำร้าย นางก็ยังอ่อนโยนต่อพวกเขา การที่นางรู้เรื่องนี้เกรงว่ายิ่งจะทำให้นางกังวลมากขึ้น” ชายร่ากำยำกล่าวขึ้น
“ขอรับ!”
ทันใดนั้นเอง ห่างจากรถม้าไป 20 เมตรก็มีรถม้าสีดำกลิ้งลงมาจากเนินเขาอย่างความรุนเเรง เเละสุดท้ายก็กระเด็นกระดอนมาตรงหน้ากลุ่มรถม้าของจีเฟิงเยี่ยน เหล่าผู้คุ้มกันสะดุ้งทันที เมื่อครู่พวกเขาถึงคิดว่ามีศัตรูมาลอบโจมตีอีกด้วย พวกเขาส่ายหน้าเเล้วคลายความระเเวง
จู่ๆรถม้าก็หยุด จีเฟิงเยี่ยนรู้สึกเเปลกใจ เธอสังหรณ์ใจว่าน่าจะเกิดเรื่องขึ้นจึงเปิดม่านเเล้วยื่นคอออกมาดู เธอเห็นเด็กชายคนหนึ่งที่ด้านหน้าของรถม้า เเผ่นหลังของเด็กชายเต็มไปด้วยเลือด เสื้อผ้าของโดนอะไรซักอย่างเข้าจนขาดวิ่นเเละไหม้หลายส่วน
“เด็กคนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” จีเฟิงเยียนสั่งให้ชายร่างกำยำไปดูสภาพเด็กชายเเล้วตนเองก็ค่อยๆลงจากรถเเล้วเดินตามไปเช่นกัน
เด็กชายผู้นี้ดูจากรูปร่างอายุอานามน่าจะราวๆ 13-14 ปี เขาตกหน้าผาบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณเเผ่นหลังของเขาก็มีรอบเเผลไฟไหม้ด้วย จีเฟิงเยี่ยนเห็นรอยเเผลนั้นใบหน้าก็พลันคล้ำลง
ไม่มีใครเข้าใจผลกระทบของ [ระเบิดสายฟ้า 5 คำราม] ได้ดีเท่ากับจีเฟิงเยี่ยน
รอยเเผลไหม้ที่หลังของเด็กชายเป็นผลการโจมตีของระเบิดสายฟ้า 5 คำรามเเน่นอน อีกทั้งดูจากบริเวณที่เด็กชายตกลงมา ชัดเจนว่าเขาอยู่ในรัศมีการโจมตีของระเบิดสายฟ้า 5 คำรามระลอกที่ 2
จีเฟิงเยี่ยมหมดคำพูด
จริงๆเธอต้องการกำจัดพวกคนเลวเสื้อคลุมดำนั่น ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายผู้บริสุทธ์ เด็กตาดำๆเสียเมื่อไหร่?
เมื่อเห็นรอยเเผลเหวอะหวะไหม้เกรียมอันเกิดมาจากท่าไม้ตายระเบิดสายฟ้าของเด็กชาย จีเฟิงเยี่ยนก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่ยากจะอธิบาย
“คุณหนู เเผลของเด็กคนนี้…” ชายกำยำกำลังเอ่ยถามจีเฟิงเยี่ยนเเต่เขาก็เลิกถามไปโดยปริยายเเละมองคุณหนูด้วยสายตาที่สนใจมากเเทน
จีเฟิงเยี่ยนรู้สึกละอายใจ ในฐานะผู้บำเพ็ญเพียรอันสูงส่ง เธอไม่เคยทำร้ายคนอ่อนเเอเเละผู้บริสุทธ์ ถ้าเธอทำเมื่อไหร่สวรรค์คงไม่ละเว้นเธอ
เเต่เธอจะตรัสรู้ได้ยังไงว่ามีเด็กมาเล่นซ่อนเเอบในทุ่งร้างอันห่างไกลเเห่งนี้?