ชายร่างใหญ่ตกตะลึงกับคำพูดของเด็กหญิงเล็กน้อย และมองดูนางที่พูดจบเเล้วเอาเเต่เงียบอยู่ตลอดทำเอาเครียดจนต้องเผลอขมวดคิ้ว เขามองไปที่ก้อนหินที่จี้เฟิงเยี่ยนพูดถึง ขนาดของมันก็เล็ก แต่ก็มีราคาเท่ากันในมือของเขา ยิ่งกว่านั้นดูจากรอยแยกและลักษณะรูปร่างภายนอกที่ดูสกปรกของหิน มันก็ดูไม่เหมือนว่ามันมีค่าอะไร
“สหายน้อยท่านนี้ ร้านเรามีกฎเกณฑ์ห้ามขัดจังหวะหรือเสนอความคิดเห็นเมื่อคนอื่นซื้อที่ร้านของเรา” เจ้าของร้านมองที่จี้เฟิงเยี่ยนและตักเตือนนางด้วยความไม่พอใจ
จี้เฟิงเยี่ยนยักไหล่ไ่ใส่ใจ
ชายร่างใหญ่ลังเลและทิ้งหินที่เลือกเมื่อครู่นี้ทิ้งทันที
เมื่อเห็นว่าเขาสูญเสียลูกค้าที่เกือบจะซื้อ เจ้าของร้านมองที่จี้เฟิงเยี่ยนอย่างไม่พอใจมากขึ้น
.
ถึงตอนนี้มีหลายคนที่นำหินที่พวกเขาซื้อมา เพื่อให้ทางร้านเปิดหน้าหิน พอเปิดเสร็จเเล้วบางคนก็มีความสุขและบางคนไม่พอใจกับผลลัพธ์ถึงกับนั่งร้องไห้ก็มี
มันช่างน่าเศร้า เมื่อเห็นคนหนึ่งเคยเปิดหินดูเเร่พบว่ามีพลอยสีม่วง นั่นจึงเป็นสิ่งจูงใจชั้นดีทำให้พวกเขาอยากที่จะลองซื้อ เหล่าผู้คนได้รับการกระตุ้นไปพร้อมๆกััน พวกเขาใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อก้อนหินก้อนใหญ่ อย่างไรก็ตามเมื่อมันถูกเปิดมันเป็นเพียงแร่เหล็กธรรมดา และเงินทองเหล่านั้นที่ลงทุนจ่ายไปก็เป็นอันว่าไหลลงสู่ท่อระบายน้ำทันที ทุกคนที่เล่นพนันหินล้วนจำเป็นต้องรู้ ว่าแร่เหล็กเป็นแร่ที่พบมากที่สุด โดยไม่คำนึงถึงขนาดของเหล็ก ต่อให้มันใหญ่เท่าบ้านพวกมันไม่มีค่าอะไรเลย
แต่มีบางคนที่โชคดีและได้รับแร่หายาก อย่างไรก็ตามแร่เหล่านี้มีขนาดเล็กมาก ชิ้นที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดเพียงภาพเล็กๆภาพนึง แม้ว่าพวกเขาจะคุ้มค่าเงิน แต่ก็ไม่ได้ผลกำไรเหมือนดีงามเหมือนคนที่เปิดหินเจอพลอยก่อนหน้านี้
จี้เฟิงเยี่ยนเฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดของการเปิดแร่และสังเกตเห็นสีของพลังงานจิตวิญญาณของแร่ หลังจากเฝ้าดูอยู่พักหนึ่ง เธอก็พร้อมที่จะซื้อเพื่อลองวัดโชค
เเต่ทว่าดูเหมือนไม่มีโอกาสนั้น จู่ในร้านก็พลันโกลาหล เส้นทางถูกเปิดขึ้นที่ทางเข้า คนจำนวนมากได้หลีกทาง เเล้วเปิดเส้นทางให้หญิงสาวที่มีรูปร่างที่เพรียวบางและสง่างามเข้ามาในร้านอย่างช้าๆ
เจ้าของร้านที่กำลังยุ่งอยู่กับการดูแลลูกค้ารายอื่น เมื่อเห็นร่างของสตรีคนนั้นก้าวเท้าเข้ามา งานทั้งหมดของเขาก็ถูกทิ้งกับพื้นทันที เขารีบวิ่งไปกล่าวยินดีต้อนรับนางด้วยท่าทางชวนให้ผู้คนต้องขมวดคิ้ว
“ยินดีต้อนรับขอรับคุณหนูซู ขอบคุณที่ให้เกียรติมาเยือนร้านซอมซ่อของผู้น้อยขอรับ” เจ้าของร้านยิ้มอย่างซื่อตรงเมื่อเขาเห็นซูหลิงเฉิงในชุดสีขาวเคลือบเงาปรากฏตัวในร้าน
ใบหน้าของซูหลิงเฉิงสงบในขณะที่นางมองไปที่เจ้าของร้านผู้พยายามจะประจบประแจง และความสง่างามตามธรรมชาติของนางก็พลันปรากฏพร้อมกับบารมีที่เหนือกว่า
“วันนี้มีหินลักษณะดีมานำเสนอเต็มไปหมด–” เมื่อผู้คนได้ยินเสียงหวานๆของซู่หลิงเฉิง เสียงที่หวานใสนั้นทำให้หัวใจทุกคนในร้านละลายกลายเป็นวุ้นด้วยเเรงหลงใหล และดวงตาของพวกเขาทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่ซู่หลิงเฉิง แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
ทุกคนรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของผู้หญิงที่สวยงามคนนี้ ต่อให้นางจะไม่ความสัมพันธ์กับคุณชายเล่ย บุตรคนโตของท่านเจ้าเมืองก็ตาม เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะตัวตนของนางในฐานะข้ารับใช้หญิงคนสนิทที่รับใช้องค์หญิงใหญ่นั้นก็เพียงพอให้ผู้คนเทิดทูนบูชาแล้ว
“เรียนคุณหนูซู นี่คือหินชุดใหม่ๆที่เพิ่งมาวางขาย หากท่านสนใจก็นับว่าเป็นเกียรติของร้านเรายิ่งเชิญเลือกตามสบายขอรับ” เจ้าของร้านหัวเราะขณะที่เขาพูด ขณะที่เขาพูดอยู่นั้นก็ได้มองเหล่าผู้ติดตามของซูหลิงเฉิงอย่างกระตือรือร้น นั่นต้องเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินของเขาในอนาคตอันใกล้นี้เเน่นอน
ซูหลิงเฉิงมาที่เมืองจีตามคำสั่งขององค์หญิงใหญ่ ดังนั้นสถานะทางสังคมของนางจึงสูงมากและความมั่งคั่งของเธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับคนทั่วไปในเมืองจีได้
ซูหลิงเฉิงพยักหน้าเล็กน้อย เจ้าของร้านดูแลผู้คนทันทีเพื่อให้มีที่ว่าง แต่การจ้องของนางทำให้เห็นพื้นที่ทั้งหมดของร้านทันที และในทันใดเธอเห็นร่างของคนที่นางไม่คาดหวังจะได้เห็น
จี้เฟิงเยี่ยน!?
ซู่หลิงเฉิงมึนงงสับสนเล็กน้อย นางละความสนใจในฝูงชนที่มองนางอย่างชื่นชมทันที
ทำไมนางถึงอยู่ที่นี่?
คิ้วของซูหลิงเฉิงขมวดเเน่นโดยไม่รู้ตัวและนางมองจี้เฟิงเยี่ยนด้วยอารมณ์หงุดหงิด ความสบายอกสบายใจเมื่อครู่ก่อนหน้านี้หายไปเเบบไม่มีวันหวนคืน