ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา
ตอนที่ 45 วิญญาณสถิต
จี้เฟิงเยี่ยนยิ้มในขณะที่นางมองไปที่เจ้าของร้านที่กําลังนั่งคุกเข่าต่อหน้านาง การแสดงออกของเขาดูไร้เดียงสาและว่าง่ายมากๆ
“เจ้ามีอะไรจะพูดมั้ย?” จี้เฟิงเยี่ยนถาม เจ้าของร้านไม่สามารถพูดอะไรได้และร่างกายของเขาไม่สามารถขยับได้แม้ครึ่งเซ็นต์ มีเพียงดวงตาคู่นั้นของเขาเท่านั้นที่สามารถกระพริบปริบๆสื่อสารได้ หลังจากได้ยินคําถามของจี้เฟิงเยี่ยน เขาก็กระพริบตาสามครั้งด้วยความโกรธ
“อ่า พอดีข้าไม่ได้อยากฟัง…แค่ถามตามมารยาทเท่านั้นแหละ” มุมปากของจี้เฟิงเยี่ยน ค่อยๆยกขึ้นเล็กน้อย นางลุกขึ้นยืนตรงข้ามเจ้าของร้าน และเดินไปที่หินแห่งความฝันที่ถูกผ่าเจียระไนเศษหินด้านนอกออกจนหมด
หินแห่งความฝันก้อนนี้มีขนาดใหญ่มาก มากจนก่อเกิดพลังวิญญาณที่หนาแน่นและอุดมสมบูรณ์ล้อมรอบอยู่ เพียงแค่เข้าไปใกล้มันเล็กน้อยมันก็ทําให้ตันเถียนแกนกลางภายในร่างกายของจี้เฟิงเยี่ยนสูบฉีดอย่างบ้าคลั่งแล้ว
นางเอื้อมมือไปแตะพื้นผิวเรียบของหินแห่งความฝัน ก่อนจะวางกระดาษห้าแผ่นรูปร่างเหมือนคนที่นางเตรียมไว้ล่วงหน้าวางเบาๆบนหินแห่งความฝัน
ทันใดนั้นเอง กระดาษรูปคนเหล่านั้นก็ลุกขึ้นยืน ราวกับว่าพวกมันมีชีวิตขึ้นมาและล่องลอยไปล้อมรอบหินแห่งความฝัน จากนั้นกระดาษรูปคนทั้งห้าได้ยกหินแห่งความฝันที่มีน้ำหนักมากถึง 500 กิโลกรัมได้อย่างง่าย!
วิญญาณสถิต 5 รูป มันคือหนึ่งในคาถามากมายที่จี้เฟิงเยี่ยนได้เรียนรู้จากอาจารย์ในชาติก่อน
เพียงแค่ดัดแปลงง่ายๆ ต่อให้ไม่ใช่หินแห่งความฝันที่มีน้ําหนัก 500 กิโลกรัม แม้ว่ามันจะหนักกว่านี้ถึง 10 เท่า มันก็ไม่เกินแรงของกระดาษรูปคนเหล่านี้…เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะมันคือคาถาที่มีประโยชน์มากในการขนย้าย ข้าวของในโลกก่อนไงล่ะ หนักเป็นตันยังยกไหว ประสาอะไรกับน้ําหนักแค่นี้!!
เจ้าของร้านที่กําลังคุกเข่าอยู่ได้เห็นเหตุการณ์อันน่า เหลือเชื่อเหล่านี้ทุกอย่าง และทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ทําให้เขา ก็ตกตะลึงจนลูกตาแทบถลนหลุดออกจากเบ้าตา!
ราวกับว่านางรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของเขา จี้เฟิงเยี่ยน ค่อยๆหันศีรษะของนางและมองมาทางเขาด้วยรอยยิ้มที่น่าขนลุก จากนั้นนางก็โบกมือข้างหนึ่งไปในอากาศ
ทันใดนั้นหมอกก็ปกคลุมหินแห่งความฝัน หลังจากนั้นหินแห่งความฝันทั้งก้อนพร้อมกับกระดาษทั้งห้าใบก็หายลับไปอย่างไร้ร่องรอยต่อหน้าต่อตาเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านก็ตัวสั่นด้วยความกลัว ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ปานนี้ขาของเขาคงจะโคลงเค ลงและทรุดลงไปที่พื้นแล้ว สัตว์ประหลาดตัวนี้มันเป็นตัวอะไรกันแน่!
“ ตอนนี้ของถูกส่งคืนไปยังเจ้าของที่ถูกต้องแล้ว แต่…สําหรับคนที่กล้าคดโกงและเล่นเล่ห์วางอุบายใส่ข้า พวกมันไม่สามารถหลบเลี้ยงโทษทัณฑ์ไปได้ เตรียมใจซะ!” จี้เฟิงเยี่ยนเดินไปตรงหน้าเจ้าของร้านอย่างสบายอารมณ์ ใบหน้าอ้วนของเจ้าของร้านนั้นซีดเผือดไปหมดแล้วและเหงื่อเย็น ๆ ก็ยังคงไหลหยดลงแก้มของเขาในขณะที่ดวงตาคู่นั้น เต็มไปด้วยความกังวลและกลัวจนแทบขาดใจ!
จี้เฟิงเยี่ยนตบใบหน้าที่อ้วนๆของเขาและพูดว่า “สมองที่ไม่สามารถแยกได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ใครแตะต้องได้ ใครแตะต้องไม่ได้ เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรักษามันไว้นะ” เจ้าของร้านได้ฟังก็ตัวสั่นจนแทบจะเป็นลม แต่เขาก็ทําอะไรไม่ได้แม้กระทั่งเอ่ยปากขอร้อง บัดนี้เขาก็ไม่ มีปัญญาทํา!!
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าอะไรทําให้ให้ซูหลิงเฉิงคุกเข่า
สายเกินไปแล้ว! แม้อยากย้อนเวลาไปแก้ไข แต่!! น่าเสียดายที่ยาย้อนเวลาหรือยาแก้เสียใจมันไม่มีจริงในโลกใบนี้!
มือของจี้เฟิงเยี่ยนวางอยู่บนศีรษะของเจ้าของร้าน และคําสาปแช่งที่ยากจะเข้าใจก็หลุดออกมาจากปากของนาง ร่างกายของเจ้าของร้านสั่นไปหมดและสิ่งที่เขารู้สึกและรับรู้ ได้ก็คืออากาศร้อนระอุถูกพ่นออกมาจากด้านบนของศีรษะของเขาและทั่วร่างกายก็เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆ ความกลัว ทําให้เขาแทบสิ้นสติ
แต่หลังจากที่จี้เฟิงเยี่ยนดึงมือของนางกลับไป ในหัวของเจ้าของร้านก็ไม่มีอะไรอยู่ข้างในอีก! นางเพียงยิ้มหวานๆให้กับ เจ้าของร้านและผลักประตูเดินออกจากร้านไป
สิ่งที่แปลกก็คือในสนามหญ้าด้านนอกประตู ทั้งๆ ที่มีผู้คนพลุกพล่าน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติใดๆของที่นี่และทุกคนยังคงทํางานในมือต่อไป ไม่แม้แต่จะเงย หน้าขึ้นมองดูเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านทําได้เพียงแค่จ้องมองด้วยการเบิกตากว้าง จนกระทั่งประตูห้องเล็กกําลังถูกปิดลงอย่างช้าๆ หลังจากนั้นความรู้สึกของเขาก็มีแต่ความกลัวสุดขีด! เสียงดังเอี๊ยด…ประตูถูกปิดสนิท
จี้เฟิงเยี่ยนเดินนําหน้ากระดาษรูปคนทั้ง 5 ที่กําลังถือหินแห่งความฝัน และเดินออกจากสวนหลังร้านได้อย่างราบรื่นราวกับว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ
ไม่มีใครรู้ว่านางมาได้อย่างไร?
ไม่มีใครสังเกตเห็นนาง
ทุกอย่างมันราวกับว่าร้านนี้ไม่เคยมีเรื่องใดๆอะไรเกิดขึ้น…