ตอนที่ 47 ท่านมีแผนหรือ?
จี้เฟิงเยี่ยนเก็บความรู้สึกกระหายเงิน แล้วเข้าสู่สภาวะปกติ นางโบกมือเพื่อให้หลิงเหอออกไปก่อน ในขณะที่นางจมดิ่งลงสู่ความคิดที่สับสน
นางมองไปที่หินแห่งความฝันที่นางเพิ่งเอากลับมาจากมือหลิงเหอ จากนั้นก็มองไปที่ก้อนหินในห้องของนาง และสมมติฐานที่เกินจริงก็ได้ก่อตัวขึ้นในสมองของนางอย่างเงียบ ๆ
การบ่มเพาะพลังของผู้บําเพ็ญเพียรส่วนใหญ่ จะรวบรวมพลังงานทางจิตวิญญาณและรวบรวมแก่นแท้ของสวรรคโลกเข้าไปไว้ในร่างกาย ณ จุดๆหนึ่ง และจุดนั้นจะถูกเรียกว่า “ตันเถียน” “แกนกลาง” “แก่นทอง” และอื่นๆ ตามแต่ผู้บําเพ็ญเพียรนั้นๆจะขานเรียก
แต่นางสามารถฝึกฝนและฟื้นฟูตันเถียนได้เพียงแค่ซึมซับ พลังงานจากแร่หิน ดังนั้นนางจึงอนุมานว่าแร่หินนั้นคงได้ดูดซับพลังจากสวรรค์และแก่นแท้ของโลกมาเก็บไว้ในตนเอง ทําให้นางสามารถดูดซับพลังนั้นต่ออีกทอดหนึ่งได้ไม่ยาก
มิหนําซ้ํา! การดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณจากแร่หินด้วยฝีมือของจี้เฟิงเยี่ยน ไม่เพียงแต่จะไม่เปลี่ยนแร่หายากเหล่านี้ให้กลายเป็นของเสีย แต่มันยังสามารถเพิ่มคุณภาพ ยกระดับราคาได้อีกด้วย! วิเศษมาก!
การค้นพบนี้ทําให้จี้เฟิงเยี่ยนพึงพอใจอย่างเต็มที่!
นางชื่นชอบมาก การฟื้นฟูตันเถียนและแกนกลางด้วยวิธีดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณจากแร่หินนี้ ไม่เพียงแต่ก้าวหน้าว่องไว ยังช่วยให้สภาวะการเงินพุ่งสูงในพริบตาอีกด้วย นางจําเป็นต้องยากจนข้นแค้นเพื่อฝึกบําเพ็ญเพียรอีกต่อไป
หลังจากได้รับคําตอบ จี้เฟิงเยี่ยนก็ไม่เหลือเวลาว่างให้คิดอีกต่อไป นางรีบกลับไปที่ห้องของตนเอง ตลอดทางก็ยิ้มเริงร่าอย่างมีความสุขและรีบทําการบ่มเพาะพลังต่อไปด้วยความพึงพอใจมหาศาล โดยที่นางไม่ได้สังเกตว่าที่ข้างๆทางเดินมีร่างเด็กชายตัวน้อย “หลิวฮ่าว”ปรากฏตัวขึ้น และเฝ้าสังเกตนางอย่างใกล้ชิด ทันทีที่นางเข้าไปในห้อง..ร่างเงาของเด็กชายก็หายวับไปด้วยเช่นกัน
ภายใต้ดวงตาที่ลึกล้ําดําสนิทคู่นั้น…มันยากที่จะบอกว่า เขากําลังคิดอะไรอยู่?
ในขณะที่บ้านของจี้เฟิงเยี่ยนทยอยเกิดโชคดีทีละอย่าง
ตรงข้ามกับสถานที่พํานักของเจ้าเมืองจี นาม “เล่ยซู” คลื่นแห่งความเศร้าหมองถูกปกคลุมไปทั่วจวน หลังจากทั้งสองคนกลับจากร้านพนันหิน ซูหลิงเฉิงก็มีไข้สูงอย่างต่อเนื่อง และยังคงนอนหมดสติอยู่บนเตียงโดยไม่สามารถลุกขึ้นยืนและเดินเหินได้
เลยมินนั่งอยู่เคียงข้างนางเกือบครึ่งวัน จนกระทั่งหมอประจําจวนได้ออกใบสั่งยา เขาก็ได้ป้อนยาให้นางด้วยตัวเองจนหมดถ้วย หลังจากนั้นไม่นานเล่ยซูก็ให้คนมาเรียกเขาไปพบ
“ เกิดอะไรขึ้น? ข้าจําได้ว่า..ซูหลิงเฉิงยังแข็งแรงดีในตอนที่ออกไปจากจวนด้วยซ้ํา ด้วยเวลาเพียงแค่ครึ่งวัน ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่? ถึงได้มีสภาพแบบนี้! มิน เอ๋อร์ลูกพ่อบอกพ่อมาสิ ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เจ้าก็รู้ว่าซูหลิงเฉิงเป็นถึงนางกํานัลคนสนิทขององค์หญิงใหญ่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนางจริงๆและองค์หญิงใหญ่ทรงเอาเรื่อง พวกเราก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่พ้น!” เล่ยซูขมวดคิ้วถามลูกชาย เสียงตะโกนถามที่ดังลั่นห้องโถงทําให้เล่ยมินมีสีหน้าเศร้าโศกและก้มหน้าหนีจากสายตาบิดา
อารมณ์ของเลยมินก็ไม่ดีเช่นกัน และเขาก็หงุดหงิดมากขึ้นหลังจากที่ถูกเล่ยซูกล่าวตําหนิ ดังนั้นเขาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในร้านพนันหินที่ตลาดในวันก่อนหน้านี้
“อะไรนะ? จี้เฟิงเยี่ยน…นังเด็กคนนั้นชนะซูหลิงเฉิงด้วย การแข่งขันเดิมพันด้วยหินจริงหรือ? ไม่ได้โกหกพ่อนะ!?” เล่ยซูเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อและรู้สึกว่านี้ เป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาได้ยินในวันนี้
“ ท่านพ่อ…มันเป็นเรื่องจริง แต่ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เล่ยมินพูดเสียงเบาๆ เลยซูหรี่ตาลงขณะที่สายตาของเขามีแววตาที่ดูซับซ้อนและเข้าใจยาก
“ เด็กคนนั้นจัดการลําบากกว่าที่ข้าคิด ตําแหน่งเจ้าเมืองแห่งเมืองจีนี้ไม่สามารถส่งต่อให้นางได้อย่างแน่นอน มิฉะนั้นนางจะทําให้แผนการอันยิ่งใหญ่ของพวกเราพัง!” เล่ยซูมองดูลูกชายของตัวเองอย่างจริงจัง
“ เมื่อก่อนนางไม่เป็นแบบนี้ ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางตอนที่อยู่ในเมืองหลวง ทําให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้เปลี่ยนนิสัยของนางจากอ่อนหวานอ่อนโยนเป็นคนดื้อรั้นไร้มารยาท แต่…เพราะนางจู่ๆก็เข้ามารังแกหลิงเฉิงอย่างไร้สาเหตุ ที่ๆ แสดงว่านางไม่ได้เฉยเมยอย่างที่นางแสดงออก ข้าคิดว่านางอาจจะทิ้งหลิงเฉิงเพราะความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของข้ากับนาง” เลยมินพูดด้วยความรู้สึกที่ภูมิใจในตัวเองเล็กน้อย
“ข้าไม่สนใจเรื่องระหว่างเจ้ากับซูหลิงเฉิง แต่ถ้าข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้าแต่งงานกับนาง…อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ข่าวที่ว่าจี้เฟิงเยี่ยนคือเจ้าเมืองคนใหม่กําลังจะถูกเปิดเผยแล้ว เราต้องจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว” เล่ยซูลูบคางของเขาแล้วพูดกับเล่ยมินผู้เป็นลูกชาย
“โชคดีที่นางยังเป็นแค่เด็ก ข้าเห็นคนที่นางพามาด้วยแต่ละคนได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า ดังนั้นนางไม่น่าจะมีกําลังอะไร เมืองจียังอยู่ในการควบคุมของเรา ไม่น่าจะยากที่พวกเราจะจับเจ้าเด็กสาวตัวเล็ก ๆ นั่นมาเป็นหุ่นเชิด”
“ ท่านพ่อพูดแบบนี้ หมายความว่าท่านมีแผนในใจแล้วหรือขอรับ?” ดวงตาของเลยมินเปล่งประกาย
เล่ยซูยิ้มแล้วพยักหน้าจากนั้นก็กล่าวว่า “ พาหนะที่ส่งมาจากเมืองหลวงมาถึงแล้ว พรุ่งนี้เจ้าต้องมากับข้าเพื่อส่งมอบพาหนะให้แก่จี้เฟิงเยี่ยน สุดท้ายก็ให้นางได้ลงมือเลือกเอง”