ตอนที่ 92 ตลาด
“เฮ้ คิดดูถูกข้าหรือ? นําเหยื่อที่จับได้ทั้งหมดให้ข้ามันหมายความว่าอย่างไร?”
หยุนเคอไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูด เขากําลังมองหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้ากําลังทําหน้ามุ่ยอย่างไม่เข้าใจจึงกล่าวถาม “แม่นาง เจ้าจะเลี้ยงดูครอบครัวอะไรกัน? ตอนนี้ข้าไม่ได้รีบร้อนจะใช้เงินนัก จึงคิดว่าควรยกเหยื่อทั้งหมดให้เจ้า”
แต่เถียนเถียนกลับไม่เชื่อถ้อยคําพวกนั้น นางหยิบตะกร้ามาวางตรงหน้าพร้อมกับเริ่มแยกเหยื่อที่จับมาได้ทีละตัว
“ข้าขอแค่ส่วนของข้าเท่านั้น ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาสงสาร ข้ามีวิธีเลี้ยงดูครอบครัวของข้าเอง ช่วงนี้ร้านยังไม่ได้เปิด ข้าจะล่าสัตว์ต่อไป!”
หลังจากผ่านไปสักพักอาจจะไม่มีสัตว์ให้ล่ามากนัก หยุนเคอเพียงคิดเรื่องเหล่านี้ในใจ บรรยากาศทั้งหมดพลันอึมครึม ดวงตาทั้งคู่หมองคล้ำอยู่ในความมืดอย่างคิดไม่ตก
“ยังไงซะการล่าสัตว์น่ะอันตรายยิ่ง แม้เจ้าจะมีฝีมือแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดอันตราย! หยุนเคอ… สิ่งที่เราทําอยู่นั้นไม่ยั่งยืน หากวันหนึ่งข้ามีวิธีหาเงิน เจ้ามาทํางานกับข้าไหม?”
แววตาหยุนเคอพลันเปลี่ยนเป็นลุ่มลึกก่อนกล่าวถาม “เจ้าไม่กลัวคนในหมู่บ้านนินทางั้นหรือ?”
หยุนเถียนเถียนถอนหายใจ “ก็จริงว่าหากเจ้าอยู่กับข้าคงไม่ดีนัก แต่ข้าก็ไม่อาจจัดการเรื่องทั้งหมดคนเดียวได้ อีกอย่างข้าก็ไม่ชินด้วย!”
“เจ้าก็อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ?”
ดวงตาของหยุนเคอยิ่งทอประกายวูบไหว เขานึกคิดว่าไตร่ตรองว่านางฟ้าตัวน้อยนี้มาจากที่ใดกัน?
“ไม่ต้องห่วง ข้าชนกับเสียงนินทานั้นแล้ว ข้าไม่สนใจมันหรอก ถ้าหากข้าทําสําเร็จ ข้าไม่ทนอยู่ในที่หมู่บ้านเล็ก ๆ เช่นนี้หรอก ข้ามีเป้าหมายที่ชัดเจน!”
หยุนเคอพลันคิดว่าหากเด็กสาวคนนี้ทําสําเร็จขึ้นมาจริง ๆ แล้วออกจากหมู่บ้านนี้ไป เขาจะสามารถอดทนได้งั้นหรือ?
เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายต้องการจะจากไป หยุนเคอจึงรีบพยักหน้ารับคําเชิญชวนนั้นอย่างไร้สติ
หยุนเถียนเถียนถึงกับตื่นตระหนก นางไม่คิดมาก่อนเลยว่าในยุคโบราณเช่นนี้ ชายคนหนึ่งจะยอมเดินตามผู้หญิงเพื่อทําเรื่องไร้สาระด้วยกัน อีกทั้งมันยังยากยิ่งที่ชายและหญิงจะคบกันฉันเพื่อน!
หยุนเถียนเถียนเดินกลับบ้านพร้อมกับเหยื่อที่ล่าได้วันนี้ นางคิดไตร่ตรองอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจว่าควรเอาพวกมันวางไว้ในเถาเป่า!
ต้องขายมันในเถาเป่าเท่านั้น! แต่หากแบกเหยื่อทั้งหมดนี้เข้าเมืองตอนกลางวันแสก ๆ เกรงว่าผู้คนคงจะตื่นตระหนกกันไม่น้อย!
วันรุ่งขึ้น เถียนเถียนเตรียมตัวเพื่อจะเข้าเมือง แต่ทุกครั้งที่นางต้องอาศัยเกวียน นางออกจากบ้านเช้ากว่าหลินชวนฮวามาก ทั้งสองจึงไม่เคยได้พบกันบนเกวียนเลยแม้เพียงครั้ง
แต่ไม่ใช่นางคนเดียวที่ตื่นเช้า ยังมีหยุนเคอและหญิงอีกคนที่นําไข่ไปขายในเมืองเช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองมาถึงเกวียน เสียงซุบซิบทั้งหมดของชาวบ้านเงียบลงทันที สายตาสอดรู้สอดเห็นจับจ้องที่หยุนเคอและเถียนเถียนผู้มาใหม่เป็นตาเดียว
แม้เด็กสาวจะแต่งตัวโทรม ๆ ด้วยเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ใบหน้าของนางสะอาดสะอ้านจนเผยความงดงามออกราวกับแม่นางหยุนจิงเอ๋อยืนอยู่ตรงนี้
แม้จะมีสายตาตกตะลึงของพวกเขาจับจ้องมา แต่ไม่ได้ทําให้หยุนเถียนเถียนสะทกสะท้านแต่อย่างใด นางขึ้นเกวียนพร้อมกับวางตะกร้าเล็ก ๆ ไว้ข้างกาย
ตระกร้าใบเล็กนี้เป็นสิ่งที่ทุกครอบครัวต้องมี ตระกร้าของหยุนเถียนเถียนถูกสร้างขึ้นโดยท่านลุงเฉินผิงอัน ท่านลุงสร้างมันจากต้นไม้ไผ่ที่ภูเขาด้านหลังและทําขึ้นเพื่อนางโดยเฉพาะ
ด้านบนของตระกร้ามีผ้าที่โทรมอยู่คลุมไว้ ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นของชาวบ้านจึงทําให้พวกเขาจ้องมันไม่วางตา
หลี่เสี่ยวเหอจากหมู่บ้านเดียวกันเป็นหญิงสาวที่แต่งงานเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ได้ไม่นาน นางเป็นคนมีความสามารถที่ผูกมิตรกับผู้หญิงในหมู่บ้านได้ทั้งหมด เพราะเหตุผลข้อดีของนางคือขี้นินทา
ยิ่งนางพูดคุยเรื่องซุบซิบกับผู้อื่นมากเท่าไหร่ ยิ่งทําให้นางรู้เรื่องราวตั้งแต่ทิศตะวันออกยันทิศตะวันตกและยังคุ้นเคยกับผู้คนในหมู่บ้านมากขึ้นด้วย
นางได้ยินเรื่องในหมู่บ้านมาบ้าง ถึงแม้ว่านางจะปากรั่วไปบ้าง แต่สําหรับหยุนเถียนเถียนนางกลับรู้สึกเห็นอกเห็นใจอีกฝ่ายยิ่ง
เด็กคนนี้แยกตัวออกมาได้ ชีวิตของนางไม่อดตายแล้ว ตอนนี้กลับมีน้ำมีนวลขึ้นเรื่อย ๆ ทําให้ใบหน้าเดิมที่ซูบผอมพลันเรียวอิมงดงาม…
หลี่เสี่ยวเหอเห็นตระกร้าใบเล็กข้างกายของนาง ด้วยสายตาที่เฉียบแหลมจึงถามออกไปอย่างสงสัย “เถียนเถียน ในตระกร้าของเจ้ามีอะไรงั้นหรือ?”
หยุนเถียนถียนมองอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง นางปกป้องมันราวกับสมบัติล้ำค่า อีกฝ่ายพลันคิดไปไกลว่าหากเป็นไข่ก็คงจะใช่ เพราะนางโอบกอดมันไว้แน่น หากผ้าคลุมเปิดสักหน่อยก็คงจะดีไม่น้อย!
“ยังไงซะชีวิตยังต้องดําเนินต่อไป ข้าจึงประดิษฐ์ของบางอย่างขึ้นมาและต้องการเอามันไปขาย
หยุนเถียนเถียนพูดขึ้นมาพลางยกผ้าบนตระกร้าออกอย่างใจกว้าง แม้ว่าข้างในใจจะสาบแช่งอีกฝ่ายมากแค่ไหนก็ตาม จึงปรากฏปิ่นปักผมที่งดงามสู่สายตาของทุกคน
หลี่เสี่ยวเหอก้มไปมองอย่างหวาดระแวง แม้ว่าฝีมือที่ทําออกมาจะงดงามแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็เป็นเพียงแค่เศษผ้าเท่านั้น!
เช่นนี้นางจึงถามออกด้วยความสงสัย “ของชิ้นนี้สามารถทําเงินได้หรือ มันทําจากเศษผ้า มีคนต้องการมันงั้นหรือ?”
หยุนเถียนเถียนได้ฟังอย่างนั้นจึงยิ้มอย่างเขินอายแล้วก้มศีรษะลง
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าก็แค่อยากลองดูสักครั้ง เพียงแค่สักครั้ง!”
หลี่เสี่ยวเหอเหมือนจะนึกขึ้นมาได้ว่า เด็กนี่คงทําอะไรหลายอย่างจนปัญญาแล้วกระมัง
“พ่อของเจ้านี่ช่างเหลวไหลจริงเชียว!”
เถียนเถียนแค่ยิ้มออกมา แม้จะได้ยินคําพูดเหล่านั้นแต่นางก็ไม่ได้กล่าวอะไรตอบ
ทุกคนที่นั่งอยู่บนเกวียนเริ่มซุบซิบกันอีกครั้ง หญิงหม้ายบนเกวียนขยิบตาใส่หลีเสียวเหอจนทําให้คนอื่น ๆ บนเกวียนต่างจ้องมองนางเป็นตาเดียว!
เถียนเถียนเพียงแค่ฟังผ่าน ๆ แล้วไม่ได้พูดอะไรออกไปแม้เพียงครึ่งคํา
หยุนเคอที่นั่งอยู่ด้านข้างราวกับไร้ตัวตน ข้างกายเขามีกองเหยื่อตั้งอยู่ ผู้หญิงเหล่านั้นกลัวว่ากลิ่นคาวเลือดจะติดเสื้อผ้าจึงได้แต่ถอยห่างออกไป
เกวียนจอดลงนอกตลาด ทุกคนหยิบยื่นเงินเพื่อชําระค่าเดินทางให้กับคนขับเกวียนและมุ่งหน้าเข้าตลาดไป
หลี่เสี่ยวเหอยังคงสงสัยอยู่ อยากจะรู้เหมือนกันว่าของของเด็กนี้จะขายได้จริงหรือ… นางจึงเริ่มที่จะตีสนิทอีกฝ่าย
“เถียนเถียน เจ้าคงดูไม่ค่อยสะดวกนัก ทําไมเจ้าไม่ไปตลาดกับพวกข้าล่ะ!”
แม้ว่าหยุนเถียนเถียนจะไม่ชอบคนขี้นินทาสักเท่านไหร่ แต่ความงามของนางก็โดดเด่นกว่าใคร ถ้าหากนางอยู่กับหญิงสาวเหล่านี้คงจะไม่เป็นที่สะดุดตานัก
ดังนั้นนางจึงพยักหน้าอย่างอาย ๆ ปล่อยให้หลี่เสี่ยวเหอลากตนไปด้วย
หยุนเคอมองเด็กสาวตัวน้อยที่แสร้งทําตัวอ่อนต่อโลกอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ นางฟ้าตัวน้อยของเขานั้นช่างไหวพริบยอดเยี่ยมนัก!
แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องของเขาก็สําคัญเช่นกัน ชายร่างใหญ่แบกเหยื่อในตะกร้าพร้อมกับเดินตรงไปยังร้านอาหารเจ้าดังที่มักจะซื้อเหยื่อจากเขาเสมอ
เถียนเถียนเดินตามพวกเขาไปจนถึงแผงลอยที่ตลาด นางเปิดตะกร้าออกเพื่อให้ปิ่นปักผมงามงดปรากฏต่อสายตาผู้คนที่สัญจรไปมา!