สามีข้า…คือพรานป่า ตอนที่ 115 ไม่มีทางหาเงินได้
หลินชวนฮวารู้สึกว่าเหลือเวลาอีกหลายวัน ตอนนี้จึงคิดปลอบใจผู้เป็นสามีก่อน
“สามี ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ยอมให้พวกเขาทําอะไรเจ้าแน่!”
หลินชวนฮวากล่าวย้ำอย่างจริงจัง “ตอนนี้ใจเย็นก่อนเถิด ข้าจะไปยืมคนในหมู่บ้านให้!”
เฉินผิงอันพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง
เมื่อรู้สึกผ่อนคลายแล้วเฉินผิงอันจึงล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความสบายใจ หลินชวนฮวาเห็นภาพนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้ารังเกียจออก
อันที่จริงนางไม่จําเป็นต้องขอยืมใคร เพราะรู้ดีว่าคงไม่มีใครยอมให้เฉินผิงอันยืมเงินแน่ ดังนั้นหลินชวนฮวาจึงไม่คิดทําเช่นนั้นและออกไปนอกหมู่บ้านทันที!
เพราะเย่วชิวไฉกําลังรออยู่
เมื่อเห็นหลินชวนฮวาเดินออกมา เย่วชิวไฉรีบเข้ามาทักทาย “ชวนฮวา เป็นอย่างไรบ้าง?”
หลินชวนฮวาตอบกลับด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ไอ้โง่เฉินผิงอันสร้างเรื่องให้ข้าไม่รู้จบ! ข้าจะทิ้งเขาไว้ที่บ้านสองวันโดยไม่ให้รับรู้เรื่องราวอะไรจากใครทั้งนั้น! พรุ่งนี้ข้าจะขายเฉินเฉินเสีย เพราะเป็นวิธีเดียวที่หาเงินได้ง่ายที่สุดแล้ว!”
แม้เย่วชิวไฉจะไม่สนใจว่าหลินชวนฮวาจะมีลูกกับเฉินผิงอันหรือไม่ แต่ยังไงซะเรื่องนี้มันก็ยังคอยตามกวนใจไม่ยอมให้เขามีความสุขเสียที แต่เพราะความกระวนกระวายใจนี้จึงทําให้เขารู้ใจตัวเองว่าหลินชวนฮวาสําคัญต่อเขามากเพียงใด!
“ชวนฮวา แม้ข้าจะรู้ว่าเจ้าไม่มีทางเลือกอื่น แต่ในใจของข้ายังคงคับข้องใจ… เหตุใดเจ้าจึงมีลูกกับเขา?”
หลินชวนฮวาขมวดคิ้ว แต่เมื่อเห็นเย่วชิวไฉผู้เป็นที่รักกําลังเศร้า จึงอดไม่ได้ที่จะพูดปลอบเขาอย่างอ่อนโยน
“เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าหากข้าไม่ยอมมีลูกกับเขา ก็จะไม่มีวันถูกยอมรับและตั้งหลักที่หมู่บ้านนั้นได้ และเฉิงเยี่ยก็จะไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ! แต่ไม่ต้องกังวลไป หากไม่ใช่ลูกของเจ้า ข้าก็ไม่ต้องการเก็บไว้ใกล้”
“ขายให้อีขี้ครอกนั่นดีไหม? หากนางซื้อเด็กคนนี้ไปแล้ว เสียนหนามของเราก็จะหมดไป และตราบใดที่เฉินเอ๋อหายไป ครอบครัวเราสามคนก็จะได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า!”
ชิวไฉไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่กระซิบกลับอย่างแผ่วเบา “ข้ารู้ว่าข้ามิอาจตําหนิเจ้าได้ในเรื่องนี้ แต่ข้าเพียงไม่เข้าใจว่าเจ้าต้องอดทนทําเพื่อลูกของเราถึงเพียงนี้เลยหรือ?! ผู้ชายบ้านนอกอย่างเฉินผิงอันจะคู่ควรกับเจ้าได้อย่างไรกัน?”
หลินชวนฮวาพยักหน้าพลางปลอบโยน “ข้ารู้ว่าเจ้าจะไม่ตําหนิข้า! แต่หากเราไม่ขายเฉินเฉินตอนนี้และปล่อยให้พวกเขารู้ตัว อีขี้ครอกนั่นก็จะเล่นไม่ซื้อกับข้าได้ ดังนั้นข้าต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดี!”
เย่วชิวไฉเฝ้าดูหลินชวนฮวาเดินกลับไปในหมู่บ้าน โดยที่ตนเองกลับไปซ่อนตัวอยู่ในป่าดังเดิม
หญิงชั่วผู้นี้ หากนางยังสาวและยังสวย เย่วชิวไฉคงจะพึงพอใจในตัวนางมากกว่านี้หลายเท่า!
ย้อนกลับเมื่อหลายปีก่อน เขายอมแต่งงานกับนางเพียงเพราะความงามเท่านั้น! หลินชวนฮวาไม่มีดีอะไรเลยและพฤติกรรมยังไม่ต่างอะไรจากโสเภณีในซ่อง!
เย่วชิวไฉไม่ได้รักหลินชวนฮวามากมายถึงเพียงนั้น เพราะเมื่อตอนที่เขาก่อเหตุฆาตกรรมในซ่องครา หลินชวนฮวาโกรธมากจนพาลูกชายหนีและไปแต่งงานใหม่ เย่วชิวไฉใช้เวลาอยู่นานกว่าจะขจัดความรู้สึกคับค้องใจที่มีต่อหญิงผู้นี้ไปได้
การจะเกลี้ยกล่อมใครสักคนเพื่อใช้ประโยชน์จําเป็นต้องรักด้วยเหรอ? แน่นอนว่าไม่! หลังจากหลายปีผ่านไป ความงามของหญิงผู้นี้ก็ถดถอยลงเหลือทิ้งไว้เพียวความเหี่ยวย่นจนไม่น่ามอง!
เย่วชิวไฉไม่ได้สนใจหรือรักใคร่หญิงแก่เช่นหลินชวนฮวาเลย เพียงแต่ตอนนี้ชื่อเสียงและความสามารถของเขาลูกกําจัดไป ดังนั้นในฐานะชายขี้คุกเขาจึงต้องทําทุกอย่างเพื่อให้อยู่รอด!
แม้หลินชวนฮวาจะค่อนข้างแก่ แต่นางก็เต็มใจช่วยเหลือและเดินทางไปมาด้วยตัวเอง อีกทั้งยังหลอกเอาเงินของเฉินผิงอันเพื่อมาเลี้ยงดูเขา… นี่คือสิ่งที่สําคัญที่สุด
และเฉิงเยี่ยผู้ซึ่งเป็นลูกชายของเย่วชิวไฉก็เรียนเก่ง หากลูกชายประสบความสําเร็จก็อาจต่อสู้และพลิกคดีให้เขาได้ และเขาจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขอีกครั้ง
หลินชวนฮวามีประโยชน์เพียงเพื่อใช้หลอกเอาเงินเฉินผิงอันมาให้เขาเท่านั้น หลังจากที่ได้รับเงินก้อนสุดท้ายแล้ว เย่วชิวไฉจะพาลูกชายหนีไปตั้งรกรากที่เมืองอื่น!
แน่นอนว่าเย่วชิวไฉไม่ได้นึกถึงหลินชวนฮวาในความคิดหรือแผนการแห่งอนาคตของเขาเลย!
ก่อนเข้าบ้านหลินชวนฮวาแสร้งกระวนกระวายด้วยท่าทีโมโหร้าย!
เฉินผิงอันได้ยินการเคลื่อนไหวที่ประตูจึงมองไปและเห็นว่าหลินชวนฮวากําลังเดินเข้ามาด้วยท่าที่ไม่พอใจ!
“สามี ข้าขอโทษ ชาวบ้าน… พวกเขารู้สึกว่าเงินมันมากเกินไป พวกเขายังต้องจ่ายค่าเช่าให้กับเราจึงไม่มีเงินมากพอที่จะให้ยืมได้!”
เฉินผิงอันตกตะลึงพร้อมเผยสีหน้าเจ็บปวดออกมา
“หากไม่มีเงินคืนพวกเขา ข้าจะทําอย่างไร?
หลินชวนฮวามองไปรอบ ๆ และพูดต่อ “จริง ๆ แล้วยังมีคนรวยอีกคนที่ช่วยเราได้! เถียนเถียนขายดอกไม้ในเมืองมาระยะหนึ่งแล้วน่าจะเก็บเงินได้มากโข แต่ขากลัวว่านางจะไม่ยอมช่วยเรา…”
เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินผิงอันจึงลุกขึ้นทันที “ข้าเลี้ยงดูนางในฐานะลูกมาหลายปี ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้นางจะไม่ยอมช่วยข้าเลยหรือ?!”
หลินชวนฮวาพูดต่อด้วยความลังเล “เฉินเอ๋อไปอยู่กับพี่สาวของเขาและรู้สึกไม่อยากกลับมา ข้าบอกนางไปแล้วว่าจะเอาตัวเขาไปไม่ได้ แต่นางไม่ยอมฟัง หลังจากที่ข้าอ้อนวอนอยู่นาน หยุนเถียนเถียนจึงเสนอว่าให้ขายเฉินเฉินให้นางโดยไม่สนใจว่าเขาจะเกี่ยวพันกับเราอย่างไร! ยิ่งไปกว่านั้น การขายลูกคนนี้จะทําให้เรามีเงินใช้หนี้ได้!”
แต่ชายชนบทผู้โง่เขลากลับรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาทันที “ไม่ได้! เฉินเฉินเป็นลูกชายแท้ ๆ ของข้า หากขายเขาไป ข้าคงกลายเป็นพ่อผู้อํามหิตในสายตาชาวบ้าน!”
หลินชวนฮวาแสยะยิ้มในใจ โง่เขลาและเห็นแก่ตัวมาทั้งชีวิตแต่กลับรักลูกชายขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ?! กลัวชาวบ้านจะคิดว่าตนเป็นพ่อผู้อํามหิตงั้นเหรอ?! ก็ดี นับว่าเป็นประโยชน์ต่อแผนการของข้าไม่น้อย!”
“จริงอยู่ที่เด็กคนนั้นเป็นลูกของข้าเช่นกัน แต่ผิงอัน… เจ้าคือหัวใจของข้า! การที่หยุนเถียนเถียนกล้าพูดแบบนั้น แสดงว่านางมีเงินมากพอที่จะจ่ายเราได้!”
“แต่ในเมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นมีบ้านเป็นของตนเองแล้ว ย่อมไม่มีทางที่นางจะปฏิบัติต่อลูกของเราในทางที่ไม่ดี! หากขายเขาไปเราจะได้เงินมาเพื่อใช้หนี้! แต่หากเราตัดสินใจที่จะไม่ขาย เฉินเฉินก็ไม่มีทางกลับมาหาเรา!”
เฉินผิงอันเริ่มเปลี่ยนใจแต่ก็ยังมีความลังเล “แต่นั่นคือลูกของข้า ถ้าขายเขา ไม่! หลินชวนฮวา! มันต้องมีวิธีอื่นสิ ต้องมีวิธีอื่น!”
หลินชวนฮวารู้สึกหงุดหงิด เก็บไว้แล้วคิดว่าจะดูแลเขาได้หรืออย่างไร? ที่ผ่านมาไม่เคยแยแส แต่ตอนนี้กลับรู้สึกรักลูกขึ้นมางั้นเหรอ? เจ้ารู้ตัวช้าไปแล้ว!”