ตอนที่ 119 ไม่พอ
“เป็นไปได้อย่างไร?” เฉินผิงอันหันมองหลินชวนฮวาด้วยความสงสัย “เหตุใดหญิงผู้นี้จึงตัดสินใจทําอะไรเช่นนี้โดยไม่ปรึกษาข้า? แล้วเงินห้าสิบตําลึงนั้นอยู่ที่ไหน?”
หลินชวนฮวารีบกล่าวออกอย่างอุ่นเคือง “อย่ากล่าวหาข้า! เจ้ากับหยุนเคอทําผิดหลักศีลธรรมและต้องแต่งงานกัน! เช่นนั้นแล้ว ข้าก็สมควรได้รับเงินสินสอดจากการเลี้ยงดูเจ้ามานานหลายปี!”
หลินชวนฮวากลัวว่าหยุนเสียนเถียนจะเปิดเผยความจริงมากขึ้นและอาจทําให้เฉินผิงอันสงสัย จึงรีบก้าวไปด้านหน้านางพลางกล่าวว่า “เถียนเถียน! ข้ารู้ดีว่าข้าไม่สามารถควบคุมอะไรเจ้าได้อีกต่อไป แต่เจ้าเป็นคนบอกเองว่าจะซื้อเฉินเฉิน ในเมื่อเด็กผู้นั้นอยู่ในบ้านของเจ้า จ่ายเงินเจ็ดสิบตําลึงให้ข้าเสีย!”
“อะไรนะ… มีใครบ้างที่จะซื้อคนใช้ในราคาเจ็ดสิบตําลึง? หลินชวนฮวา… เจ้าเข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่?
“เจ้าคิดจะทําอะไรกันแน่ อย่างไรเขาก็เป็นพ่อของเจ้า!”
หยุนเสียนเถียนวางเข็มในมือก่อนจะยืนขึ้นพร้อมกล่าวตอบ “หลินชวนฮวา.. ต่อให้ข้ามีเงินมากมายก็ไม่อาจ มอบให้เจ้าได้ถึงเจ็ดสิบตําลึง นอกจากนี้ เฉินผิงอันก็เคย พูดต่อหน้าคนมากมายอย่างชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาไม่ใช่พ่อของข้า! และข้าจะซื้อเฉินเฉินในราคาห้าสิบตําลึงเท่านั้น หากเจ้าตกลง ข้าจะไปเอาเงินที่บ้านของหยุนเคอมาให้ แต่หากไม่ก็สามารถพาเด็กน้อยคนนี้กลับไปยังบ้านของพวกเจ้าได้เลย เพราะเขากินอาหารมากขึ้นทุกวันและข้าคงจ่ายไม่ไหว!”
เฉินเฉินที่แอบฟังอยู่ตรงประตูใจสลายเมื่อได้ยินว่าพ่อกําลังจะขายตน เขากัดฟันกลั้นน้ําตาด้วยความเจ็บปวด
หลงเยว่แสยะยิ้ม “แม่นาง เจ้าช่างฉลาดนัก! เด็กเจ็ดขวบไม่คุ้มกับเงินห้าสิบตําลึงที่เจ้าเสนอเลยแม้แต่น้อย หากเป็นข้าก็คงไม่ยอมจ่าย! แต่หากเป็นเจ้า ข้าจะเพิ่มให้อีกห้าสิบตําลึง!”
เนื่องจากเป็นตํารวจ หยุนเถียนเถียนจึงเกลียดชังคนเช่นนี้ยิ่งนัก เพราะพวกเขาทั้งน่ารําคาญและน่าขยะแขยง!
“หลงเยว่ ท่านมาเพื่อทวงหนี้ไม่ใช่หรือ?! ข้าไม่ได้เป็นหนี้เจ้าสักแดง เหตุใดจึงมาวุ่นวายที่บ้านข้า? ในเมื่อคนเราดําเนินชีวิตในสังคมร่วมกัน ก็ย่อมต้องรู้จักเกรงใจไม่ใช่หรือ?!”
หลงเยว่ยิ้มจางอย่างไม่ถือโทษ “ปากคอเป็นเลิศถูกใจข้าเสียจริง! หากมีใครทําร้ายหรือรังควานเจ้าในอนาคต จงเข้าไปบอกข้าในเมือง ข้าพร้อมจะช่วยเหลือเจ้าเสมอ! ฮ่าฮ่า!”
หยุนเถียนเถียนกลอกตาด้วยความหงุดหงิด “กว่าจะถึงวันที่ข้ายอมก้มหัวขอความช่วยเหลือเจ้า ข้าว่าเจ้าคงเหลือเพียงกระดูกแล้ว!”
หลงเยว่ยังคงหัวเราะต่อไปโดยไม่กล่าวคําตอบ แววตาของเขาทอประกายความพึงพอใจออกเมื่อมองเด็กสาวตรงหน้า!
อันธพาลเหล่านี้คือพวกที่เกลียดชังศีลธรรมทางโลก หญิงผู้นี้กล้าที่จะต่อสู้กับพ่อแม่ของตนเพื่อความยุติธรรม เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทําให้หลงเยว่ชื่นชมแล้ว!
อย่างไรก็ตาม จากการกระทําของหยุนเถียนเถียนก็พอจะทําให้หลงเยว่รับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หากพ่อและแม่ปฏิบัติต่อนางในทางที่ดีและถูกต้อง การต่อต้านหรือการก่อกบฏเช่นนี้คงจะไม่เกิดขึ้นแน่
หลินชวนฮวาตัดสินใจที่จะชายเฉินเฉินในราคาห้าสิบตําลึงและนําเงินไปคืนหลงเยว่ แต่นางลืมไปว่าเงินที่เฉินผิงอันยืมมาพร้อมดอกเบี้ยมันมากกว่านั้น!
เห็นได้ชัดว่าหลงเยว่ไร้ซึ่งความสงสารใด เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกระซิบกับอีกฝ่ายว่า “เงินห้าสิบตําลึงก็เพียงพอแล้ว อย่างน้อยก็สามารถช่วยรักษาขาของเจ้าทั้งสอนข้างไว้ แต่อีกยี่สิบตําลึง ใช้มือของเจ้าแทนก็แล้วกัน!”
หยุนเถียนเถียนนิ่งเงียบพลางถอนหายใจ ก่อนจะเกิดไปยังบ้านของหยุนเคอเพื่อเอาเงินจํานวนห้าสิบตําลึงจากเถาเปา และกลับมายังบ้านของตนอีกครั้ง
“เดี๋ยว! ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน โปรดร่างสัญญาซื้อขายให้ข้าด้วยเถิด ข้าไม่เชื่อในนิสัยของสองคนนี้! และเพื่อเห็นแก่เด็กน้อยผู้นี้ ข้าจะไม่ฟ้องร้องหน่วยงานราชการเพื่อเอาผิดพวกเขาที่ดูแลลูกไม่ดี แต่ข้าต้องการสัญญาไว้เผื่อในอนาคตทั้งสองคนนี้คิดไม่ซื่อและต้องการยั่วยุข้า โปรดเขียนสัญญาว่าข้ามีสิทธิ์ในตัวของเฉินเฉินทุกประการ!”
หัวหน้าหมู่บ้านถอนหายใจพลางหยิบพู่กันและกระดาษออกมาก่อนจะเริ่มร่างสัญญา
หลังจากร่างเสร็จ เฉินผิงอันและหลินชวนฮวาประทับนิ้วมือลงบนสัญญา หยุนเสียนเถียนตรวจสอบสัญญาฉบับนั้นด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะยื่นเงินให้พวกเขาไป
เฉินเฉินเดินออกมาพลางมองพ่อและแม่ด้วยแววตาที่ไม่คุ้นเคยราวกับมองคนแปลกหน้า
หยุนเสียนเถียนกลัวว่าเด็กน้อยจะรู้สึกเสียใจจึงรีบเดินไปหาพร้อมกล่าวปลอบโยน “เฉินเอ๋อ! ไม่ต้องกลัว…”
เฉินเฉินเดินไปคุกเข่าลงต่อหน้าพ่อและแม่ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง พร้อมกับใช้ศีรษะเคาะกับพื้นสามครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามหลังหยุนเถียนเถียนไปโดยไม่พูดอะไรสักคํา
“เอาล่ะ! ในเมื่อได้เงินแล้วก็กลับไปเสียบ้านของข้าค่อนข้างเล็ก ไม่มีพื้นที่พอที่จะจุคนจํานวนมากได้!”
“เฉินเอ๋อ เข้าไปข้างในเถิด เจ้าและพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว! อย่าทนมองคนใจร้ายเช่นนี้เลย! โอ้ แม้แต่ข้าก็ยังไม่อยากจะมองเช่นกัน!”
หยุนเถียนเถียนพูดพลางจูงมือเด็กน้อยเข้าไปในบ้านโดย ไม่สนใจพ่อที่กําลังจะถูกตัดมือแม้แต่น้อย!
เฉินผิงอันรับรู้ได้ทันที่ว่านับจากวินาทีนี้เขาได้สูญเสียลูกชายไปแล้วโดยสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่โทษหลงเยว่ที่บังคับเขาให้ทําเช่นนี้ แต่กลับขุ่นเคืองและเกลียดชังหยุนเถียนเถียนยิ่งกว่าเก่า
“เฉินเฉินต้องถูกหยุนเถียนเถียนยั่วยุแน่ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีวันเกลียดพ่อคนนี้!!
หนุนเถียนเถียนพาน้องชายเดินเข้าบ้านไปโดยไม่สนใจ สายตาของเฉินผิงอันที่กําลังมองตามแม้แต่นิด
หลังจากนั้น ลูกน้องทั้งสองคนของหลงเยว่เดินมาคว้าตัว เฉินผิงอันเอาไว้และดึงเงินในมือเขายื่นให้หลงเยว่ทันที
“เอาล่ะ แม้เจ้าจะคืนเงินต้นให้ข้าแล้วแต่ดอกเบี้ยยังคงอยู่ ข้าน่ะใช้มีดได้เชี่ยวชาญยิ่ง! ทุกอย่างจะรวดเร็วจนเจ้าไม่ทันรู้สึกเจ็บ!”
หลงเยว่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจราวกับยมทูตที่กําลังจะพรากชีวิตของเฉินผิงอัน!
ขณะที่เฉินผิงอันกําลังจะถูกตัดมือ เขาตะโกนลั่นทันที “หยุดก่อน! หากท่านไม่ตัดมือข้า ข้าจะยกที่ดินที่มีให้!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น หลงเยว่ยิ้มออกมาพร้อมกับปล่อยมือ เฉินผิงอันให้เป็นอิสระ
“ข้ามีที่ดินมากมาย! เอาโฉนดที่ดินไปเสียแล้วคนในหมู่บ้านที่เช่าที่ดินของข้าจะจ่ายเงินให้ท่านทุกเดือน! หากได้รับเงินจนครบยี่สิบตําลึงแล้ว ข้าจึงจะไปขอรับคืน!”
ชาวบ้านได้ยินอย่างนั้นก็พลันตื่นตระหนกทันที