สามีข้า… คือพรานป่า บทที่ 156 ศัตรคนเดียวกัน
“นอกจากนี้ ที่ข้ายกเฉินเฉินให้ผู้อื่นอุปการะก็เพื่อประ โยชน์ของเขาเอง!”
“ท่านก็รู้ ข้าเพิ่งให้เฉินเอ๋อหยุดเรียน เพื่อไปเข้าสอบซิ่วไฉในปีหน้า! ท่านคิดว่ามีพ่อแบบท่านและมีแม่ที่ทําผิดกฎหมาย มันเป็นสิ่งที่ดีสําหรับเขาหรือ? ท่านต้องการให้เขาขาดคุณสมบัติสินะ”
เฉินผิงอันพูดไม่ออกพร้อมกับเผยสีหน้าขาวซีด
ใช่แล้ว! แม้ว่าเขาจะไม่เคยเรียนหนังสือมาก่อน แต่เฉินเฉิงเย่เคยพูดไว้ตอนที่เขาอยู่ในโรงเรียน! บรรพบุรุษทั้งสามรุ่นต้องมีประวัติขาวสะอาดถึงจะสามารถเข้าร่วมการสอบขุนนางได้!
ตอนนี้เขาได้ตัดสินใจขายลูกชายของเขาไปแล้ว! หลินชวนฮวาในฐานะแม่กําลังปกป้องผู้ร้ายหลบหนี! แม้ว่าในท้ายที่สุดจะพ้นโทษแต่ก็ถือว่าไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์
หยุนเถียนเถียนยิ้มและชื่นชมท่าทางที่หดหูของเฉินผิงอันด้วยความสะใจ!
“อะไร? ในที่สุดก็นึกได้แล้วหรือ? ท่านพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ลูกชายของนักโทษหนีคดีไปสอบซิ่วไฉ แต่กลับละเลยลูกชายของตัวเอง! ท่านคงไม่รู้ว่าเฉินเอ๋อเพิ่งได้เริ่มเรียนปีนี้แต่สามารถเข้าสอบซิ่วไฉในปีหน้า! ช่างมีพรสวรรค์อะไรเช่นนี้? หากไม่ใช่ข้า หยุนเถียนเถียน เขาก็คงทําได้แค่หลบซ่อนตัวอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น! บางทีอาจจะไม่มีโอกาสได้โตด้วยซ้ํา!”
“ช่วยบอกข้าที ตอนที่ท่านอยู่ในบ่อนพนัน หลินชวนฮวาไม่เคยให้เขากินข้าว เป็นข้าที่เลี้ยงดูเฉินเอ๋อมาโดยตลอด! หากข้าปล่อยเขาไว้คนเดียวลูกของท่านคงอดตาย! ตอนนี้ท่านยังต้องการลูกชายผู้นี้อยู่อีกหรือ? ท่านไปดูสิว่าเขายังยินดียอมรับท่านเป็นพ่ออยู่หรือไม่!”
คําพูดเหล่านี้เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่บดขยี้ให้เฉินผิงอันทรุดลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง
ใช่แล้ว! ตอนนี้เด็กคนนั้นคงจะเกลียดเขาไปแล้วใช่หรือไม่? อันที่จริงหลินชวนฮวาโกหกอยู่เสมอและมีข้อบกพร่องมากมาย เหตุใดเขาถึงไม่เคยคิดให้รอบคอบ?
“เอาล่ะ! สีหน้าโศกเศร้าของท่านช่างทําให้ข้ามีความสุขเสียจริง! เฉินผิงอัน จากนี้ท่านจงใช้ชีวิตให้ดีและอย่ามาก่อกวนพวกข้าอีก! ที่ผ่านมาท่านนําความเกลียดชังที่มีต่อท่านแม่มาลงที่ข้า ตอนนี้ข้าจะไม่นําความแค้นของข้ามาลงกับลูกชายของท่าน ท่านควรจะพอใจแล้ว!”
หยุนเถียนเถียนพูดจบก็หันหลังเดินออกไป ส่วนเฉินผิงอันถูกทิ้งให้นอนอยู่บนพื้นในลานบ้าน หัวใจของเขาก็หนาวเหน็บ!
หยุนเถียนเถียนกลับไปที่ลานบ้านโดยคิดว่าเด็กน้อยคงแสดงสีหน้าสงสัย ใครจะรู้ว่าเฉินเฉินไม่แม้แต่จะมองนางและไม่คิดจะเอ่ยถามด้วยซ้ํา! นางถอนหายใจยาว ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเงาดําในใจของเด็กไปเสียแล้ว
ด้านเฉินเจียวเจียวที่ลอบไปที่โรงงานเมื่อคืนกลางดึก แต่กลับถูกขัดขวางโดยแม่กุญแจทองแดงสองอันยังไม่ยอมถอดใจ!
ได้ยินว่าเนื้อตากแห้งถูกซื้อโดยร้านอาหารของนายน้อยหลี่และกิจการกําลังเฟื่องฟู จึงเริ่มเป็นที่กล่าวถึงของผู้คนและพวกเขาอยากมีส่วนร่วมในกิจการนี้
ครั้งล่าสุดที่รถม้าถูกลากออกไป ก็ได้ดึงดูดความสนใจของคนบางกลุ่มให้มายังหมู่บ้านเทพธิดา! อันที่จริงหลายคนในหมู่บ้านมักจะพบว่ามีคนมาถามถึงเนื้อตากแห้งอยู่เสมอ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนในหมู่บ้านเหล่านี้รู้เป็นเพียงแค่เปลือกนอก ส่วนประกอบสําคัญที่แท้จริงอยู่ในขวดซอสถั่วเหลืองนั้นต่างหาก นี่เป็นสูตรลับของเนื้อตากแห้ง
เฉินเจียวเจียวไม่สามารถควบคุมความอิจฉาริษยาของตัวเองได้ เมื่อมองหยุนเถียนเถียนซึ่งกําลังยุ่งอยู่ที่ประตูลานบ้านจากระยะไกลอย่างชิงชัง ชายแปลกหน้าคนหนึ่งก็สังเกตเห็นเหตุการณ์นี้ในทันที
“ขอถามแม่นาง ท่านหยุนอาศัยอยู่ที่ใดหรือ?”
เฉินเจียวเจียวหันไปอย่างอดกลั้นและมองหาหยุนเถียนเถียนอีกครั้ง
“ใครจะรู้ว่าท่านกําลังพูดถึงตระกูลหยุนคนไหน? ข้าไม่
แต่ชายผู้นั้นไม่โกรธกลับยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนแม่นาง จะไม่ชอบแม่นางหยุนเท่าใดนัก? พอดีเลย มีบางอย่างที่เจ้าสามารถทําแล้วยังได้เงินอีกมหาศาล ข้าคิดว่าคงจะทําให้แม่นางพอใจไม่น้อย?”
แม้ว่าเฉินเจียวเจียวจะไม่ฉลาดนัก แต่นางก็รู้ว่าไม่มีสิ่งใด ได้มาโดยไม่ต้องลงแรง
นางมองชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างระมัดระวัง ” ท่านต้องการให้ข้าทําสิ่งใด?”
ชายวัยกลางคนยิ้มและพยักหน้า “แม่นางฉลาดยิ่งนัก! ที่แม่นางหยุนมีฐานนะอย่างในตอนนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเนื้อตากแห้งของนางหรอกหรือ? หากเนื้อตากแห้งไม่ใช่ของตระกูลนางผู้เดียวอีกต่อไป เจ้าคิดว่านางจะพึ่งพาสิ่งใดให้หยิ่งผยองได้เช่นนี้อีก?”
หัวใจของเฉินเจียวเจียวหวั่นไหว แม้จะรู้ว่าชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าอาจไม่ใช่คนดี แต่เนื่องจากนางไม่ต้องการให้หยุนเถียนเถียนมีชีวิตที่ดี จึงถือว่าเขาเป็นมิตรกับนาง
“ท่านต้องการสูตรเนื้อตากแห้งของนางหรือ? เหตุใดถึงไม่ขอซื้อจากนางเล่า?”
ชายวัยกลางคนยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน “เราจะหาสิ่งที่นายน้อยหลี่ต้องการได้จากที่ไหน? หากเราได้มันมาโดยไม่ต้องเสียเงิน พวกเจ้าก็ไม่ต้องทํางานหนักขนาดนี้! แม่นาง ข้าต้องการสูตรเนื้อตากแห้ง และเจ้าไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นมีชีวิตที่ดี เหตุใดพวกเราไม่ร่วมมือกันล่ะ?”
เฉินเจียวเจียวคลายความระมัดระวังลงมาก แต่ก็ยังถามอย่างสงสัย “เนื้อตากแห้งมีค่ามากเลยหรือ?”
“เนื้อหมูชั้นดีข้างนอกราคายี่สิบเหวินต่อจิน เนื้อตากแห้งจานเล็กๆ ขายได้ราคามากกว่าหนึ่งร้อยเหวิน นายน้อยหลี่เองก็หาเงินได้มากมาย ด้วยเหตุนี้ แม่นางคิดว่าสิ่งนี้คุ้มกับเงินหรือไม่?”
“ข้าจะไม่พูดถึงอะไรทั้งนั้น และข้าก็ไม่สนใจว่าเจ้าจะขโมยสูตรลับในการทําเนื้อตากแห้งมาได้อย่างไร! แต่ข้าจะซื้อมันต่อจากเจ้าด้วยเงินสองร้อยตําลึง! แม่นางคิดว่าอย่างไร?”
เมื่อได้ยินว่าเงินสองร้อยตําลึง เฉินเจียวเจียวก็ตาลุกวาบ
หยุนเคอทําให้นางใจเต้นก็เพราะเงินของเขา! ในเมื่อมีเงินอยู่ในมือตัวเอง ทําไมต้องพึ่งพาผู้ชายหน้าเหม็นนั้น นอกจากจะสกปรกแล้ว ยังไม่รู้จักเข้าใจความรู้สึกรักใคร่!
“ท่านพูดจริงหรือ?”
“ข้าได้ยินมาว่า แม่นางดูเหมือนจะชอบพอชายมีเคราผู้นั้น! หากท่านมีวิธีที่ทําให้ชายมีเคราผู้นั้นคิดว่าสูตรลับทําเนี้อตากแห้งของเขาถูกคนร่วมเรียงเคียงหมอนเอาไปขาย ท่านคิดว่าหญิงผู้นั้นจะยังมีโอกาสอยู่อีกหรือ?”
ประโยคนี้ปลุกเฉินเจียวเจียวขึ้นมาทันที แผนการนี้นับว่าดีมาก! ไม่เพียงแต่จะแยกหยุนเคอกับหยุนเถียนเถียนจากกันได้! หากหยุนเคอโกรธเคืองหยุนเถียนเถียนจริงๆ นางอาจจะมีโอกาสได้ไปยืนเคียงข้างหยุนเคอ! และสุขสบายไปกับกองเงินกองทอง
และที่สําคัญที่สุด หยุนเถียนเถียนซึ่งก่อนหน้านี้เคยหยิ่งผยองใส่นาง กําลังจะกลายเป็นผู้หญิงที่ถูกคนอื่นทอดทิ้ง! เมื่อนึกถึงภาพนี้เฉินเจียวเจียวก็รู้สึกมีความสุขมาก
“ได้เท่านคอยดูเถิด ข้าจะพยายามจัดการเรื่องนี้ให้ได้!”
ชายวัยกลางคนยิ้มด้วยความพอใจและมอบเงินให้ครึ่งหนึ่ง ดวงตาของเฉินเจียวเจียวเปล่งประกาย เพราะคาดไม่ถึงว่าจะได้รับผลตอบแทนนี้
“นี่แค่ของขวัญในการพบกันของข้าขอมอบให้แม่นาง หากทําสําเร็จแล้ว ข้าจะให้ตัวเงินอีกสองร้อยตําลึง!”
แค่ของขวัญพบกันก็ได้เงินตั้งห้าสิบตําลึง เฉินเจียวเจียวยินดีไว้วางใจชายวัยกลางคนที่มีทรัพย์สมบัติมากมายตรงหน้า!
นางเช็ดเงินอย่างระมัดระวังด้วยผ้าเช็ดหน้าปักที่อยู่ในมือ แล้วยัดมันเข้าไปในแขน หากท่านแม่รู้ต้องเห็นด้วยแน่!