ตอนที่ 160 ฉู่เกินฮูหยิน
ที่สาคัญตอนนี้พ่อกับแม่คงรู้แล้วว่านางทําอะไรลงไป คราวนี้ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร!
ทางเดินจากโรงงานกลับบ้านช่างแสนยาวไกล แต่ถึงแม้จะช้า อย่างไรก็ต้องเข้าบ้านอยู่ดี!
เนื่องจากความอัปยศนี้ หากเฉินฉู่เกินและภรรยาของเขาออกจากบ้าน คงต้องเผชิญกับสายตาแปลกๆของผู้อื่น ดังนั้นทั้งคู่จึงได้แต่นั่งเงียบๆอยู่ในลานบ้าน!
จนกว่าคนร้ายจะกลับมา!
เมื่อเฉินเจียวเจียวเดินเข้าประตูบ้านมาเห็นพ่อแม่ ใบหน้าของนางก็หม่นหมองและคุกเข่าลงกับพื้นทันที
”แม่”
“ยังดีที่เจ้ายังรู้ว่าข้าเป็นแม่ เก่งไม่เบานี่ แอบทําอะไรลับหลังข้า!”
ดวงตาของเฉินเจียวเจียวพร่ามัวไปด้วยน้ําตา จากนั้นนางก็นึกถึงข้อตกลงของชายวัยกลางคนผู้นั้น ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถเก็บเรื่องนี้ไว้โดยลําพัง จะเป็นการดีกว่าหากแม่ร่วมมือด้วย! ถ้าทําสําเร็จจะได้รับเงินสองร้อยตําลึงและไม่ต้องกังวลกับชื่อเสียงที่ไม่ดีของตน หรือเรื่องที่ไม่สามารถแต่งงานได้
“ท่านต้องฟังข้านะ ข้าทําเพื่อประโยชน์ของครอบครัวเราด้วย!”
ฉู่เกินฮูหยินตบนางอีกครั้ง ก่อนจะพูดอย่างเฉยเมย “ข้าไม่เห็นว่ามันจะเป็นเช่นนั้น เจ้าทําให้ครอบครัวของเราอับอาย เป็นการทําเพื่อประโยชน์ของครอบครัวอย่างไร?”
“ข้า มีคนผู้หนึ่งมาหาข้าและขอให้ข้าขโมยสูตรลับในการทําเนี้อตากแห้งของนังผู้หญิงชั้นต่ําคนนั้น แล้วเขาจะให้เงินข้าสองร้อยตําลึง! แม่! เงินทั้งสองร้อยตําลึง!”
ในที่สุดฉู่เกินฮูหยินก็เอ่ยออกมา “คนแบบไหนกัน ที่ใช้เงินมากมายเพียงเพื่อซื้อสูตรลับ?”
เมื่อเห็นว่าแม่ไม่ค่อยสนใจ เฉินเจียวเจียวจึงรีบลุกขึ้น “ข้าคิดว่านายน้อยหลี่คงไปทําให้ใครขุ่นเคืองเข้า แต่ผู้คนต่างเกรงกลัวที่ยั่วยุนายน้อยหลี่ จึงเป็นเหตุผลที่เขามาหานังผู้หญิงหน้าตายนี่!”
ฉู่เกินฮูหยินจ้องมองมาที่นางอย่างหงุดหงิด “เจ้ายังมีความคิดอยู่หรือไม่? ตอนนี้คนทั้งหมู่บ้านยังไม่รู้ว่าเจ้าทําเรื่องนี้ เพียงเพราะพวกเขายังไม่ได้ตรวจสอบ เจ้าถึงยังไม่ถูกเรียกว่าคนร้าย!”
“ตั้งแต่ที่บอกว่ามีคนมาหาเจ้าเพื่อซื้อสูตร เจ้าเก็บเงินไว้ตลอดเลยหรือ?”
เฉินเจียวเจียวนึกถึงเงินห้าสิบตําลึงที่น่าสมเพชนั้น แม้ว่าจะเป็นเงินเพียงเล็กน้อย แม้ว่าแม่จะใจดีกับนาง แต่แม่ก็ไม่ค่อยได้เห็นเงินมากมายขนาดนี้
นางกัดริมฝีปาก “ข้าลืมถามเขา และเขาก็ไม่ได้ให้ข้าด้วย!”
ฉู่เกินฮูหยินจิ้มนิ้วไปที่ศีรษะของเฉินเจียวเจียว “ไม่รู้ว่าตอนที่คลอดเจ้า ข้าลืมให้สมองกับเจ้ามาด้วยหรือ! แม้แต่ตอนซื้อของยังต้องจ่ายเงินมัดจํา หากเขาโกงเจ้าล่ะ?”
“นังลูกโง่ ไม่มีเงินมัดจําแต่เจ้ากล้าที่จะลงมือ หากถูกจับได้ก็สมควรแล้ว เรื่องใหญ่โตขนาดนี้เจ้าไม่แม้แต่จะบอกคนในครอบครัว เจ้าคิดว่าตัวเองปีกกล้าขาแข็งแล้วหรือ?”
เฉินเจียวเจียวก้มศีรษะลงรับฟังคําสั่งสอน ไม่กล้าจะโต้แย้งแม้เพียงครึ่งประโยค
หากเปลี่ยนเป็นพ่อแม่ที่ปรัชญาสามทัศน์ เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนทําสิ่งนี้ ย่อมต้องอบรมสั่งสอนนางว่าไม่สามารถหาอะไรจากการย่องไปหยิบฉวยของผู้อื่น
แต่ฉู่เกินฮูหยินนั้นไม่ได้สั่งสอนลูกและตัวนางเองก็ไม่ได้ทําสิ่งดีๆ
หากหยุนเถียนเถียนอยู่ที่นี่ ก็คงจะรู้สึกว่าพ่อแม่เป็นเช่นใด ลูกก็เป็นเช่นนั้น ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นแบบเดียวกัน
“คนผู้นั้นบอกว่าจะแลกเปลี่ยนกับเจ้าเมื่อไหร่? ครั้งนี้ข้าต้องไปคุยกับเขาด้วยตัวเอง อย่างน้อยต้องได้เงินมัดจํามาครึ่งหนึ่ง จากนั้น ข้าจะไปที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านและสืบจากภรรยาของเขา ตราบใดที่รู้ว่าในโรงงานนั้นซื้อของอะไรบ้าง จะไม่รู้สูตรลับได้หรือ?”
ดวงตาของเฉินเจียวเจียวเป็นประกาย “แม่ของข้าฉลาดยิ่งนัก!”
ฉู่เกินฮูหยินภูมิใจมาก “เป็นเรื่องธรรมดา เจ้าจงเรียนรู้จากข้าให้มาก! เป็นได้หรือที่ข้าจะไม่หวังดีกับเจ้า? ดูสิ่งโง่ๆที่เจ้าทําลงไปเถิด ช่างไม่มีเหตุผลเลย ทั้งรองเท้าปัก หรือแม้แต่บันไดก็ยังทิ้งไว้ที่บ้านคนอื่น ไม่อยากได้เงินหรืออย่างไร?”
“ตอนนั้นข้าคิดแค่ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนข้าทําให้ท่านโกรธ แม่อาจจะหายโกรธหากข้าทําสําเร็จแล้วได้เงินมาสองร้อยตําลึง ข้ารู้แล้วว่าวันนั้นคิดผิดไป ดังนั้นข้าจึงอยากเอาใจแม่!”
เฉินเจียวเจียวกล่าวอย่างออดอ้อน อย่างไรนางก็เป็นลูกสาวและฉู่เกินฮูหยินก็ไม่ได้โกรธขนาดนั้น
หลังจากได้ยินเฉินเจียวเจียวบอกว่าชายผู้นั้นนัดพบที่ด้านหลัง เขาตอนบ่ายวันพรุ่งนี้ ฉู่เกินฮูหยินก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
เฉินฉู่เกินเป็นคนที่ชื่อตรงมาโดยตลอด ไม่คาดคิดเลยว่าภรรยาและลูกสาวของเขาจะมีแผนการกับคนในหมู่บ้านเดียวกัน แม้ว่าเงินสองร้อยตําลึงจะดึงดูดใจมาก แต่หากไปยั่วยุคนที่ไม่สมควร คงจะเป็นเรื่องใหญ่
“ลูกพ่อ เขาเป็นคนที่ขัดแย้งกับนายน้อยหลีได้ แสดงว่าตัวตนของเขาย่อมไม่ธรรมดา! พวกเรา พวกเราจะร่วมมือกับคนเช่นนั้นจริงหรือ?”
ฉู่เกินฮูหยินดูถูกสามีผู้นี้อยู่เสมอ นางไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว เขาขี้ขลาดเกินไป! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในหมู่บ้าน เป็นนางที่พุ่งออกไปข้างหน้า ชายผู้นี้ช่างไร้ประโยชน์นัก
นางตวัดสายใส่เฉินซูเกินด้วยความโกรธเคือง “อะไร? ท่านไม่สามารถหาเงินมากมายขนาดนี้ได้ก็จะไม่ให้ข้าหางั้นหรือ? ไม่ว่าชายผู้นี้จะขัดแย้งอะไรกับนายน้อยหลี่ เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเรา!”
“นังเด็กชั้นต่ํานั่น ทําให้ข้าต้องอับอายเมื่อสองสามวันก่อน ตอนนี้ข้าแค่เอาสูตรลับเนื้อตากแห้งของนางมา ยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ํา!”
เฉินซูเกินเคยชินแล้ว เนื่องจากภรรยาได้กระชากความกล้าหาญที่เขาดึงกลับมาได้ไปอีกครั้ง เขาจึงก้มหน้าทํางานในมือ และเป็นดังที่คาด ภรรยาของเขากลอกตาด้วยความรังเกียจ
“เด็กดื้อ หากครั้งนี้เราทําสําเร็จ แม่จะเตรียมสินสอดไว้ให้เจ้าหนึ่งร้อยตําลึง อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องหยุนเคอ! คนป่านั่นโหดร้ายอย่างหาที่สุดไม่ได้ หากเขารังแกเจ้า ครอบครัวของเราคงไม่มีใครกล้าช่วยเจ้า!”
แม้ว่าเฉินเจียวเจียวจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่มารดาของนางพูด แต่ในเวลานี้นางก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟังใน และคิดถึงเงินหนึ่งร้อยตําลึงสําหรับสินสอดของนาง
ฉู่เกินฮูหยินปลอบใจลูกสาวของนาง และเริ่มวางแผนตีสนิทกับภรรยาหัวหน้าหมู่บ้าน
เพื่อไม่ให้การกระทําของนางดูกระโตกกระตาก ฉู่เกินฮูหยินจึงถืองานปักมาที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อพูดคุยกับภรรยาหัวหน้าหมู่บ้าน ในขณะที่ทุกคนกําลังพักผ่อนตอนเที่ยง
แน่นอนว่าภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านย่อมดูถูกคนเช่นนี้! สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ยังติดตานางอยู่เลย!
“ฉู่เกินฮูหยิน เจ้ามาหาข้าที่มีอะไร? ทางที่ดีกลับไปลงโทษลูกสาวของเจ้าซะ หากเจ้ายังทําเรื่องขายหน้าให้หมู่บ้านอีก คอยดูว่าทุกคนจะปล่อยเจ้าไปหรือไม่?”
ฉู่เกินฮูหยินยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน แม้ว่าจะถูกนางตําหนิ แต่ก็ยังกัดฟันทนเพื่อแผนการในอนาคต!