ตอนที่ 170 สืบสวน
คนงานที่กําลังเตรียมพร้อมจะทํางานยืนกระซิบกระซาบกันอยู่หน้าบ้าน หลายคนพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร
จี้ชื่อกําลังขนฟินมาส่งที่โรงงาน ทันทีที่เดินมาและเห็นคนจํานวนมากยืนมุงกันอยู่ก็คิดว่าน่าจะมีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบฝ่าฝูงชนเข้าไป
“จะเป็นใครได้อีก? คงเป็นโจรที่มาขโมยของเมื่อไม่กี่วันก่อนอีกแล้วสินะ พวกมันทั้งหมดใช้วิธีปินหลังคาเหมือนกัน”
“แต่โจรคนนี้ฉลาดกว่ามาก มันรู้ดีว่าต้องวางยาพิษสุนัขก่อน! ดูสิ ยังมีเนื้อตกอยู่บนพื้น มีคนในหมู่บ้านไม่มากนักหรอกที่มีปัญญาซื้อเนื้อกิน!”
โรงงานแห่งนี้ได้นําประโยชน์มากมายมาสู่คนในหมู่บ้าน เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น บางคนก็รีบอาสาไปตามหัวหน้าหมู่บ้านมา
เมื่อเฉินซ่งมาถึงเขาก็พบว่าหญิงสาวหน้าซีดเผือด
“เกิดอะไรขึ้น?”
หยุนเถียนเถียนหันไป ใบหน้าของนางยังคงดูไม่ได้ “หัวหน้าหมู่บ้าน ดูเหมือนว่าครั้งก่อนข้าคงจัดการเบาไป ท่านดูสิ มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว!”
เฉินซึ่งตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขาหันไปเจอสุนัขที่นอนตายอยู่
ไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหนถึงกล้าใช้เนื้ออาบยาพิษให้สุนัขกินแล้วแอบเข้าไปในโรงงาน
“มีอะไรเสียหายไปบ้าง?”
หยุนเถียนเถียนกล่าวด้วยใบหน้าสงบนิ่ง “เมื่อวานข้าตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนจะลงกลอนประตู เช้านี้ข้าตื่นมาก็พบว่าโรงงานถูกค้นกระจัดกระจาย เสียเนื้อตากแห้งไปไม่กี่ชิ้นนับเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เครื่องปรุงก็หายไปด้วย ดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะมาที่นี่เพื่อหาสูตร”
สูตร?
คํานี้ทําให้ชาวบ้านหลายคนเริ่มเอะใจ
ป้าหวางรีบกล่าวขึ้นมา “พูดถึงสูตร ช่วงนี้มักมีคนแปลกหน้าสองสามคนมาที่หมู่บ้านและถามเรื่องโรงงานอยู่เสมอ จะใช้ฝีมือคนพวกนั้นหรือไม่?”
หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วและครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่คนเหล่านั้นไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้โรงงาน เพราะพวกเขากลัวจะเป็นจุดสนใจของผู้คน
อีกอย่างผู้ที่สามารถทราบตําแหน่งภายในของโรงงานได้อย่างถูกต้องควรเป็นคนในหมู่บ้าน!
หัวหน้าหมู่บ้านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “จากวิธีการลงมือนี้ต้องเป็นกลุ่มเดียวกับคนที่ก่อนหน้านี้เคยลงมือพลาด แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดและไม่ง่ายเลยที่จะตรวจสอบ”
หยุนเถียนเถียนกล่าวอย่างคับข้องใจ “หากข้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ข้าไม่ควรปล่อยพวกมันไปง่าย ๆ เลย”
ชาวบ้านเริ่มจับกลุ่มคุยกันอีกครั้ง!
“ดูเหมือนว่าเฉินเจียวเจียวและครอบครัวของนางจะลงมืออีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่เหลือหลักฐานหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย”
ในฐานะที่เป็นตํารวจการดําเนินคดีเล็ก ๆ เช่นนี้ถือเป็นเรื่องง่าย แม้ว่าหยุนเถียนเถียนจะไม่คิดอะไรแต่หลังจากนั้นก็เริ่มจัดการบางอย่าง
“ผู้ที่คุ้นเคยกับสิ่งของที่นี่จะต้องเป็นคนในหมู่บ้าน และไม่ใช่ทุกคนในหมู่บ้านที่จะซื้อเนื้อมากินได้ รบกวนหัวหน้าหมู่บ้านช่วยตรวจสอบว่าเมื่อคืนนี้มีใครที่ต้มเนื้อบ้าง”
“หากหมดหนทางจริง ๆ ก็ลองไปดูในเมือง ยาพิษย่อมซื้อมาจากร้านขายยา ทางร้านจะมีการจดบันทึกเอาไว้ ยังคงต้องรบกวนหัวหน้าหมู่บ้านตรวจสอบเรื่องนี้ให้ลุล่วง เพราะเรื่องของหลินชวนฮวาคราวก่อนหมู่บ้านก็เสื่อมเสียมากพอแล้ว ดังนั้นอย่าให้เรื่องนี้หลุดออกไปจะดีกว่า ท่านคิดว่าอย่างไร?”
เฉินซึ่งพยักหน้า สิ่งสุดท้ายที่เขารั้งรอไม่ได้ก็คือเรื่องความเป็นความตายของผู้คน คราวนี้ยังดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต หัวหน้าหมู่บ้านเต็มใจทํางานอย่างหนักเพื่อตรวจสอบด้วยตัวเองเพราะเขาไม่อยากรายงานเรื่องนี้ต่อเจ้าหน้าที่
“นอกเหนือจากเบาะแสทั้งสองอย่างนี้ ข้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว หลักฐานที่สําคัญก็คือชิ้นเนื้อตากแห้งที่หายไป โปรดช่วยกันสังเกตหากลิ่นของเนื้อตากแห้งที่ลอยกระจายอยู่ ถ้าเขากินมันในบริเวรหมู่บ้านคงหนีไม่พ้นจมูกของทุกคน”
ชาวบ้านในกลุ่มพยักหน้า หากผู้หญิงคนนี้โกรธขึ้นมาจริง ๆ และปิดโรงงาน พวกเขาคงต้องไปหารายได้จากทางอื่น
หยุนเถียนเถียนโบกมือให้ทุกคนแยกย้ายกันไปและปล่อยให้พวกเขาทําความสะอาดโรงงานให้เรียบร้อย เมื่อเห็นทุกคนปฏิบัติหน้าที่จนสิ่งต่าง ๆ เริ่มเป็นระเบียบ นางจึงค่อยกลับบ้าน
หยุนเคอกําลังก้มหน้าก้มตาซักผ้าอยู่ตรงลานบ้าน แม้บางครั้งเขาจะถอดเสื้อผ้าวางไว้และถ้าหยุนเถียนเถียนมาเจอก็จะคอยซักให้
แต่เนื่องจากเมื่อคืนเขามีความฝันในฤดูใบไม้ผลิที่ไม่อาจพูดออกมาได้ และกางเกงก็เลอะเทอะ หยุนเคอรู้สึกอับอายมากหากต้องให้หญิงสาวซักเสื้อผ้าเหล่านี้ให้ ดังนั้นเขาจึงต้องทําเอง
หยุนเถียนเถียนมัวแต่กังวลเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในโรงงานจึงไม่ทันได้สังเกตว่าหยุนเคอต่างไปจากปกติ
นางเดินเข้าไปถาม “พี่ใหญ่หยุน ข้ารู้ว่าเจ้าตื่นตัวอยู่เสมอ บ้านของเราอยู่ใกล้โรงงานที่สุด เจ้าได้ยินเสียงอะไรแปลก ๆ บ้างหรือไม่?”
จู่ ๆ เด็กสาวก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าและพูดประโยคนี้ขึ้นมา หยุนเคอผู้มีชนักติดหลังพลันหน้าแดงและหัวใจเต้นรัวเร็ว โชคดีที่มีหนวดเคราบดบังไว้จึงไม่มีใครสังเกตเห็น!
” เกิดอะไรขึ้น?”
ความจริงแล้วหยุนเคอได้ยินทุกอย่างจากภายนอก แต่เพื่อปกปิดความรู้สึกไม่สบายใจของเขา จึงแสร้งทําเป็นไม่รู้
“ข้ามัวแต่ทํางานไม่ได้ฟังให้ดี เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
เพื่อที่จะแก้ต่างให้ตัวเอง หยุนเคอผู้มีความผิดติดตัวจึงกล่าวเพิ่มอีกประโยค
หยุนเถียนเถียนไม่ได้ซักไซ้ แต่เล่าเรื่องทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นให้ฟัง
“ช่วงแรกข้านอนไม่ค่อยหลับ แต่หลังจากผ่านไปครึ่งคืนข้าก็หลับสบาย ไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใด ๆ จากข้างนอกเลย”
หยุนเถียนเถียนก้มหน้าลงด้วยความผิดหวัง “คงจะเป็นตอนกลางดึก ข้าได้ยินเสียงหมาเห่าแปลก ๆ แต่คิดว่าง่วงและฟังผิดเลยไม่ได้ลุกไปตรวจดู ข้าเดาว่าน่าจะเป็นตอนนั้นที่โจรบุกเข้ามา”
“ตอนนี้เจ้าแน่ใจแล้วว่าเป็นฝีมืองของคนในหมู่บ้าน และมีเพียงหลี่ชุนเฉียวที่เพิ่งสืบเสาะเรื่องสูตรลับในหมู่บ้าน จะเป็นใครไปได้หากไม่ใช่นาง?”
หยุนเถียนเถียนคิดตามการวิเคราะห์ของหยุนเคอ แต่ปัญหาคือตอนนี้ไม่มีหลักฐานและฉ่เกินฮูหยินไม่มีทางยอมรับว่านางเป็นคนทําแน่ หากโจมตีทันที่เรื่องนี้คงจบไม่สวย
“ข้ารู้ว่าเป็นนางแต่ยังไม่มีหลักฐาน จึงขอให้หัวหน้าหมู่บ้านช่วยตรวจสอบและคงจะรู้ผลในไม่ช้า ข้าไม่รู้ว่าเจ้าหมาน้อยกินพิษชนิดใดเข้าไป ไม่รู้ด้วยว่าซื้อมาจากร้านขายยาในเมืองหรือไม่ ถ้าใช่ ก็น่าจะหามันเจอ!”
หยุนเคอก้มหน้าและไม่พูดอะไร แต่เขากําลังซักผ้าในมืออย่างรวดเร็ว!