สามีข้า…คือพรานป่า
ตอนที่ 173 เสียเงิน
“ข้ารู้ว่าท่านเป็นตัวก่อปัญหา แต่ไม่เกรงกลัวอะไรเลยหรือ? ไม่รู้ว่าหากได้ไปพบนายอําเภอจะทนได้สักเท่าไหร่กัน?”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเดินเข้ามาตรงหน้า ฉู่เกินฮูหยินก็ลุกขึ้น ตอนนี้นางสุดจะทนแล้ว เงินก็มีอยู่กับตัว ใครจะสนว่าหยุนเถียนเถียนต้องการอะไร?
“ก็แคโรงงานพัง ๆ ข้าเข้าไปดูแล้วมันเป็นอย่างไร? ข้าเข้าไปข้างในและได้เนื้อตากแห้งออกมา จึงอยากเอากลับมาลองทําที่บ้าน เจ้าทํากิจการที่ได้กําไรในหมู่บ้านของเรา แต่พวกข้ากลับไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!”
เฉินซ่งฟาดมือลงบนโต๊ะ “พอกันที! ชักจะมากเกินไปแล้ว มันคือความสามารถของพวกเขาที่หาเงินได้ หลี่ซุนเกี่ยวหรือเจ้าเป็นคนสร้างโรงงาน? เหตุใดเจ้าถึงไม่ได้รับผลประโยชน์ ในใจเจ้าไม่รู้เหตุผลเลยหรือ? ขโมยของบ้านคนอื่น ยังคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทํานั้นต้องอยู่อีกหรือ?”
“แค่เนื้อตากแห้งไม่กี่ชิ้น พวกเจ้าก็ชี้หน้าด่าว่าข้าเป็นขโมย แล้วยังจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่อีก ข้าอยากจะรู้นักว่านายอําเภอจะมาที่หมู่บ้านของเราเพื่อพิจารณาคดีเนื้อหายนี้หรือไม่!”
หยุนเถียนเถียนหัวเราะอย่างโกรธจัด แน่นอนว่าเนื้อตากแห้งชิ้นสองชิ้นไม่มีค่าพอสําหรับเงินที่จ่ายไป และไม่คุ้มที่จะรบกวนนายอําเภอสําหรับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้จริงๆ
“เอาล่ะ ไม่แจ้งความก็ไม่แจ้งความ แต่จากนี้ไปทุกคนต้องคอยระวัง แค่เนื้อตากแห้งทําให้คนโลภอยากได้ถึงกับต้องวางยาพิษสุนัขเพื่อขโมยมัน ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะวางยาพิษคนเพื่อขโมยของ”
คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนั้นซื่อสัตย์และไม่เคยทําอะไรแอบแฝง เมื่อพวกเขาไปทํางานจึงไม่เคยลงกลอนประตู แต่พอเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น มีขโมยอยู่ในหมู่บ้าน ต่อไปทุกคนต้องให้ความสําคัญกับมัน เพราะไม่มีใครอยากสูญเสียอะไรทั้งนั้น
“ลูกสาวขโมยไม่สําเร็จ จึงกลับบ้านให้แม่มาขโมยต่อ เป็นหัวขโมยกันทั้งครอบครัว ข้าอยากจะเห็นนักว่าต่อไปใครจะกล้าแต่งงานกับลูกสาวของเจ้า ไม่น่าแปลกใจหากจะไม่มีหลานสืบทอดสกุล”
วาจาเผ็ดร้อนเช่นนี้แน่นอนว่าไม่ได้มาจากหยุนเถียนเถียน แต่เป็นจี้ชื่อที่กล่าวออกมา หลังจากสูญเสียครั้งใหญ่ต้องได้ด่าสักที่สองที่ถึงจะพอใจ
หัวหน้าหมู่บ้านขมวดคิ้วเล็กน้อย การกล่าวเช่นนี้ถือว่ารุนแรงเกินไป
ถึงจะดีเลวอย่างไรก็ไม่ควรพูดจาทําร้ายจิตใจกันเช่นนี้ และเห็นได้ชัดว่าประโยคนี้แทงใจดําฉู่เกินฮูหยินไม่น้อย
ครอบครัวของจีซื้อได้ให้กําเนิดบุตรชายหลายคน นางจึงไม่กลัวจะถูกเยาะเย้ยเรื่องนี้ แต่จี้ชื่อก็มีจุดอ่อนของตัวเอง
เพราะการมีบุตรชายหลายคน เมื่อพวกเขาแต่งงานก็ต้องสร้างบ้านให้ ดังนั้นเฉินผิงเหอและครอบครัวจึงเรียกได้ว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้าน
“ถึงข้าไม่มีลูกชายแต่ข้าก็มีลูกสาว เหตุใดจะไม่มีหลานสืบทอดสกุล เจ้านั่นแหละจีชื่อหน้าตาน่าสงสาร ทั้งยังจนที่สุดในหมู่บ้าน หวังจะพึ่งพาหลานสาวให้ช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหรือ? ถ้าเช่นนั้นก็คิดถี่ถ้วนละ นางไม่ใช่หลานสาวแท้ๆของเจ้าเลยด้วยซ้ํา”
แม้จะถูกจับได้ว่าเป็นขโมยแต่ก็ยังกล้าตอกหน้านาง ตอนนี้กางเล็บออกแล้วพุ่งไปข้างหน้าเพื่อจะเอาชนะคู่เกินฮูหยิน
โชคดีที่บ้าหวางยืนอยู่ข้างๆ และรั้งนางเอาไว้ “เจ้าใจเย็นๆเถิด ตอนนี้เรื่องสําคัญคือต้องหาให้ได้ว่าใครเป็นขโมย แล้วคิดว่าจะทําอย่างไรต่อไป? จะมีประโยชน์อันใดหากเจ้าต่อสู้กับนางตรงนี้? อีกหน่อยก็จะเป็นย่าคนแล้ว ควรสนใจแค่เรื่องที่สําคัญเท่านั้น”
เมื่อกล่าวถึงสะใภ้ใหญ่ที่กําลังตั้งครรภ์ จีชื่อก็ใจเย็นลง
“นั่นสิ พวกเราจะสนใจอะไรกับครอบครัวที่น่าสมเพชเช่นนี้ว”
ขมับของเฉินซ่งถึงกับปรากฏเส้นเลือดสีน้ําเงินขึ้นมาเมื่อเห็นผู้หญิงสองคนทะเลาะกันอยู่ตรงหน้า “เอาล่ะ! หยุนเถียนเถียนเจ้า เป็นคนที่ถูกขโมยของ คิดจะทําอย่างไร?”
หยุนเถียนเถียนจําต้องปล่อยฉู่เกินฮูหยินไปโดยไม่พอใจนัก แม้ว่าจะมีหลักฐานอยู่ตรงหน้า แต่ผู้หญิงสารเลวคนนี้ก็ไม่ยอมจํานนง่ายๆ
เมื่อคิดดูดี ๆ แล้วก็แค่ของในบ้านหายและสุนัขถูกวางยาพิษ ด้วยสมองของหลี่ชุนเฉียว แม้ว่านางจะขโมยของทั้งหมดไปแต่ก็ไม่อาจะเข้าใจแก่นแท้ของสูตรได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าส่วนผสมลับจริงๆนั้นอยู่ในมือของหยุนเถียนเถียนเอง
หยุนเถียนเถียนยิ้มอย่างใจกว้าง “ง่ายมาก ในเมื่อท่านเพิ่งยอมรับว่าได้ขโมยของบางอย่างไป ก็จ่ายเงินชดเชยมาให้ข้า โดยเฉพาะเจ้าหมาปาน้อย ข้าซื้อมันมาในราคาสิบตําลึง”
“สําหรับความเสียหายนี้ท่านต้องจ่ายเงินชดเชยให้ข้ายี่สิบตําลึง จากนั้นก็ถือว่าจบกัน ถ้าไม่จ่ายก็ไปหาเจ้าหน้าที่ทางการ”
ฉู่เกินฮูหยินคิดจะหลีกเลี่ยง หัวหน้าหมู่บ้านจึงจ้องนางด้วยแววตาดุร้าย “ไร้เหตุผลที่จะแจ้งทางเรื่องเงินแค่ยี่สิบตําลึง เจ้าเลือกเอาว่าจะจ่ายเงินมาตอนนี้ หรือไม่ก็ออกไปจากหมู่บ้านของเราเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของชาวบ้านทุกคนไม่ค่อยดีนัก ฉู่เกินฮูหยินจึงทําอะไรไม่ถูก แต่นางก็ไม่เต็มใจที่จะเสียเงินไป
ในที่สุดเฉินฉู่เกินก็ตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อจะสารภาพเรื่องราวทั้งหมด เขาเป็นคนซื่อสัตย์มาโดยตลอดและไม่เคยทําเรื่องแย่ๆเช่นนี้มาก่อน!
แต่ฉู่เกินฮูหยินก็รีบเอามือปิดปากเขาไว้อย่างรวดเร็วพร้อมทั้งข่มขู่ด้วยสายตา จากนั้นจึงล้วงเงินออกมาจ่ายด้วยความยินยอม หากพวกเขารู้ว่านางขายสูตรลับทั้งหมดของโรงงาน ชาวบ้านคงไม่ปล่อยนางไว้แน่
เมื่อคิดดูแล้วแม้จะเสียเงินไปยสิบตําลึง แต่หลังจากซื้อเนื้อก็ยังเหลือเงินอยู่อีกเยอะมาก
ฉู่เกินฮูหยินรู้สึกปวดฟันแต่นางก็ทําใจยอมรับมัน
หัวหน้าหมู่บ้านรับเงินมายี่สิบตําลึงและกําลังจะส่งต่อให้หยุนเถียนเถียน แต่จี้ชื่อก็หันมาพูดกับนางอย่างไม่พอใจ “สาวน้อย อย่าโง่นักเลย หากแค่เพราะเนื้อตากแห้ง นางไม่จําเป็นต้องไปที่นั่นเพื่อวางยาพิษสุนัขหรอก จะต้องมีปัญหาอื่นอีกแน่”
“หรือว่าที่เมื่อวานนางไม่อยู่บ้าน เพราะไปขายเครื่องปรุงทั้งหมดในโรงงาน หากเป็นเช่นนั้นเราต้องถูกนายน้อยหลี่ขุ่นเคืองแน่ จะทําอย่างไรดี?”
หยุนเถียนเถียนยิ้มอย่างมีเลศนัย “ท่านคิดว่าเมื่อได้ของพวกนั้นไปแล้วจะรู้สูตรจริงๆหรือ? หลี่ซุนเกียวท่านคอยดูเถิด การแสดงดีๆยังมาไม่ถึง”
หากพ่อค้าผู้ซื้อสูตรพบว่าของที่ฉู่เกินฮูหยินขายไปนั้นไร้ประโยชน์ จากนั้นนางจะอธิบายอย่างไร? แค่คิดเรื่องนี้หยุนเถียนเถียนก็รู้สึกว่าชีวิตยังมีเรื่องสนุกอีกมาก
ฉู่เกินฮูหยินรู้สึกหวั่นไหวในใจ แต่เมื่อคิดดูว่าเงินก็ได้มาแล้ว อีกทั้งสัญญาเงินกู้ก็ถูกทําลายทิ้งไปแล้ว เถ้าแก่จางผู้นั้นจะทําอะไรนางได้?
จําชื่อไม่ขัดเมื่อเห็นว่าหยุนเถียนเถียนนั้นมั่นใจ นางปล่อยให้หยุนเถียนเถียนรับเงินยี่สิบตําลึงแล้วหันหลังกลับไป!