สามีข้า… คือพรานป่า
ตอนที่ 180 อดข้าว
เฉินไม่อีฟังถ้อยคําตําหนิของพี่ชายแต่ก็ไม่สามารถหาคําใดมาหักล้างได้ จึงทําได้เพียงยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้น
หญิงงามหลั่งน้ําตาเป็นภาพที่น่าดูมาก น่าเสียดายที่ตอนนี้ทั้งสองเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เขาจึงไม่มีเวลามาชื่นชมความงามราวกับดอกหลีต้องฝนของเฉินไฉ่อี
เตืออันใบหน้าทิ้งตึง เขาแทบทนไม่ไหวเกือบเข้าไปตบปากน้องสาวไร้สมองคนนี้ แต่เพราะรักและทะนุถนอมนางมาหลายปีจึงทําร้ายไม่ลง
เขาทําได้เพียงแค่ชี้หน้าและกรุนด่านางอย่างโกรธเคือง “เฉินไฉ อี เจ้าก็น่าจะเห็นแล้ว ตราบใดที่ป่าหวางรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ พรุ่งนี้คนทั้งโรงงานก็ต้องรู้ว่าเจ้าทําเรื่องดีงามอะไรลงไป สุดท้ายไม่พ้นครอบครัวของเราต้องล้างตามเช็ดให้เจ้า!”
“เจ้ายังมีหน้าไปบอกหยุนเถียนเถียนให้ดูแลคนข้างกายและปฏิบัติต่อหยุนเคอให้เหมาะสม! ข้าขอถามสักคํา ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานอย่างเจ้ามีหน้าที่อะไรถึงต้องไปจัดการเรื่องในบ้านของผู้อื่น?”
“หากหยุนเถียนเถียนไม่เจรจาการค้ากับนายน้อยหลี่ เจ้าคิดว่าโรงงานในหมู่บ้านจะสร้างขึ้นได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นหยุนเคอก็อยู่ด้วยตอนที่พวกเขาพูดคุยกัน คนเป็นคู่หมั้นยังไม่ขัดข้องแล้วเจ้าอยู่ในฐานะที่เข้าไปยุ่งเรื่องนี้ได้หรือ?”
“แม่ท่านดูแลนางให้ดีหน่อยเถิด วันนี้นางวิ่งไปหาเรื่องแม่นางหยุนถึงหน้าบ้าน ทั้งยังเสียงดังโวยวาย จากนี้ข้าจะมีหน้าไปพบกับแม่นางหยุนได้อย่างไร คนทั้งโรงงานคงหัวเราเยาะข้าเป็นแน่นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดกันได้ง่าย ๆ หากข้าเสียงานนี้ไป ก็คงหาเงินเยอะขนาดนี้ไม่ได้”
เมื่อเต่ออันพูดจบ เขาหันไปตวัดสายตาใส่น้องสาวผู้งี่เง่าอย่างหมดความอดทนและเดินกลับไปที่โรงงาน ตอนนี้เขาทําให้แม่นางหยุนอุ่นเคืองเขาควรจะตั้งใจทํางานอย่างดียิ่งขึ้น หากนางยัง ไม่พอใจเขาอาจจะถูกไล่ออกได้
ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านโกรธจัด ลูกสาวที่อยู่ตรงหน้าก็เอาแต่ร้องให้อยู่อย่างนั้น นางอดทนอย่างมากที่จะไม่ทุบตีลูกสาวสุดท้ายจึงทําได้แค่ปัดจานอาหารบนโต๊ะทิ้งเพื่อระบายความโกรธ
“ร้องไห้! เจ้ายังมีหน้ามาร้องไห้อยู่อีกหรือ? เจ้ามีชีวิตที่ดีกว่าใครหลายคนยังไม่พอใจหรือ? ถึงได้วิ่งออกไปทําตัวไร้ค่าข้างนอกนั่น!จากนี้ไปหากเจ้ายังกล้าเอ่ยชื่อนายน้อยหลี่ข้าจะจับเจ้าไปถ่วงน้ําให้ตายดีกว่าทําให้ข้าต้องอับอายขายหน้าอยู่ทุกวัน!”
ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านโกรธสุดขีดจึงได้กล่าววาจาอันโหดเหี้ยมออกมาลูกสาวที่นางเลี้ยงดูมาอย่างดีแทบประคองไว้ในฝ่ามือกลับพาตัวเองไปหานายน้อยหลี่เพื่อให้เขาเหยียบย่ํา ใครจะรู้ว่าหัวใจของนางเจ็บปวดเพียงใด
เฉินไฉ่อีตะโกนเสียงดังทั้งน้ําตา “ข้าจะแต่งงานกับนายน้อยหลี่เท่านั้นแม้ว่าจะเป็นแค่นางบําเรอก็ตาม! แม่เป็นบ้าไปแล้วหรือ ท่านทําร้ายจิตใจข้าแต่กลับไปช่วยเหลือนังเด็กไม่มีพ่อนั่น! แค่ได้เงินจากนางท่านก็ปฏิบัติกับนางเหมือนเป็นลูกสาวของตัวเอง! ”
“เจ้ามันเด็กโง่เง่าไม่รู้จักคิด! ทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้ของเจ้าต่างก็ทํางานหนัก เพื่อให้ได้รับเงินค่าจ้างจากนาง แล้วจะไม่นับว่านางมีความสําคัญต่อบ้านเราได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้เจ้าก็ทําตัวไร้เหตุผลยังจะให้ข้าเข้าข้างเจ้าอีกหรือ? อีกอย่างหยุนเถียนเถียนยังมีหยุนเคอแล้วเจ้าเล่า? ทําตัวให้คนทั้งหมู่บ้านดูถูกเหมือนเฉินเจียวเจียว เจ้าพอใจแล้วใช่หรือไม่?”
เฉินไฉ่อีเถียงกลับมาด้วยท่าที่เย้ยหยัน “ข้าไม่ใช่คนงี่เง่าเหมือนนังเฉินเจียวเจียวนั่น! หยุนเคอเป็นเพียงคนป่าบนภูเขาไร้ค่า อย่างไรนายน้อยหลีก็ดีกว่ามาก!”
“นังลูกไม่รักดี! เจ้าอยากให้ข้าตายไปจริง ๆ ใช่หรือไม่? ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าอย่าหวังจะได้เข้าไปเป็นสนมในบ้านตระกูลหลี่ดูซิว่าเจ้าจะทําอย่างไร?”
แม้ว่าคนในครอบครัวจะทั้งคู่ทั้งปลอบนางอย่างไรเฉินไฉ่อีกไม่ยอมรับฟังความจริง นางเอาแต่ร้องไห้และขังตัวเองอยู่ในห้อง
ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านโกรธจัดจนพูดไม่ออกต้องเอามือลูบหน้าอกตัวเองและค่อย ๆ หายใจ
เสียงกระแทกประตูของเฉินไฉอีทําให้ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านได้สติกลับมา ตราบใดที่นางยังคงไม่ปล่อยวางและเอาแต่หลอกตัวเองการปล่อยให้นางโศกเศร้าขังตัวเองอยู่แต่ในบ้านก็นับเป็นเรื่องดีอย่างไรนางก็ไม่ออกไปทํางานข้างนอกอยู่แล้ว
ก่อนที่เฉินไฉอีจะฟูมฟายไปมากกว่านี้ นางก็ได้ยินเสียงแม่ปิดประตูจากด้านนอก เห็นได้ชัดว่าแม่ของนางไม่อนุญาตแม้แต่ให้ออกจากห้อง
เฉินไม่อีตกใจจนลืมร้องไห้ แล้วรีบวิ่งไปทุบประตูด้วยมือของนางอย่างสิ้นหวัง แต่ผู้หญิงที่อ่อนแออย่างนางจะสามารถพังประตูนี้ออกไปได้หรือ?
หากเป็นเมื่อก่อนภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านคงลําบากใจไม่น้อยที่จะทํากับลูกสาวเช่นนี้ แต่ตอนนี้นางโกรธมากจนไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
เฉินไฉ่อีถูกด่าทอทุบตีจนร้องไห้เกือบทั้งวัน เมื่อคิดว่าแม่ใจร้ายและอยากลงโทษนาง จึงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลั่งน้ําตาออก
มา
ยิ่งร้องไห้ก็ยิ่งรู้สึกว่าชีวิตของตนนั้นช่างแสนเศร้าราวกับหญิงสาวในนิยายถูกพ่อแม่ขัดขวางความรักเช่นกัน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้จิตใจนางก็สงบมากขึ้นตราบใดที่นางยืนหยัดฝ่ากลุ่มก้อนเมฆไปได้สุดท้ายแล้วสายรุ้งจะปรากฏ
แม้ว่าในตอนนี้นายน้อยหลี่จะยังไม่ชอบนางแต่อีกไม่นานเขาต้องเห็นถึงความจริงใจของนางอย่างแน่นอน
แต่เฉินไฉอีคิดน้อยไป เรื่องความรู้สึกไม่ใช่สิ่งที่จะบังคับกันได้การพยายายามอย่างหนักใช่ว่าจะได้รับรางวัลตอบแทนเพราะนางไม่เข้าใจในความเป็นจริงนี้สุดท้ายจึงต้องเจ็บปวดเจียนตาย
สิ่งเหล่านี้ค่อยกล่าวถึงในภายหลัง แต่มื้อเย็นวันนี้ไม่มีส่วนของลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เฉินไม่กี่ต้องการอดข้าวเพื่อเรียกร้องให้แก่ความรักของนางจึงไม่สนใจว่าจะได้กินข้าวหรือไม่ ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครนําอาหารมาให้และยังขังนางไว้ในห้อง แต่นางไม่ทางเชื่อว่าพ่อแม่จะใจร้ายปล่อยให้นางอดตายได้
ในที่สุดภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านก็ใจอ่อนและทนไม่ได้อีกต่อไป “สามีไม่อดอาหารไม่ได้หรือไม่?นางไม่เคยต้องทนหิวมาก่อน”
ก่อนที่กลับเข้าบ้านหัวหน้าหมู่บ้านก็ได้ยินเรื่องซุบซิบมาบ้างตอนนี้เขาจึงกัดฟันพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “มีตั้งกี่คนที่ได้กินข้าวเพียงวันละสองมื้อทุกวันนี้นางได้กินข้าวครบสามมื้อแต่ก็ยังทําให้ข้าต้องอับอายขายหน้านางไม่เชื่อฟังถึงต้องอดอาหารนาง อย่างไรนางก็ ไม่อดตายหรอก!”
เตืออันถอนหายใจ เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเขาเองก็โกรธมากแต่เห็นน้องสาวที่เขารักและทะนุถนอมมาหลายปีต้องทนลําบากเช่นนี้เขาหักใจทําไม่ลงเช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงแอบซ่อนข้าวปั้นเก็บไว้รอจนกว่าพ่อแม่เข้านอน แล้วค่อยย่องไปเคาะหน้าต่างห้องน้องสาวเบา ๆ
“ไฉ่อี! ตื่นเร็ว พี่ชายเก็บอาหารไว้ให้ เจ้ารีบกินก่อนเถิด”
ก่อนหน้านี้เฉินไฉอีได้กินมื้อกลางวันอย่างเต็มอิ่มตอนเย็นจึงไม่กลัวว่าจะต้องทนหิว