ยักษ์ฟ้ามีสกิลจำนวนมาก แต่มีเพียงสามสกิลเท่านั้นที่เขาต้องระวัง
‘พายุสายฟ้า’ ‘สายฟ้าคำราม’ และ ‘ดวงตาแห่งรุ่งอรุณ’
นี่เป็นสกิลหลักสามสกิลของยักษ์ฟ้า นอกจากนั้นการโจมตีปกติของยักษ์ฟ้าก็เป็นการโจมตีถึงตาย
‘วิธีต่อสู้กับยักษ์ฟ้าก็คือการทำดาเมจพร้อมกับหลบการโจมตีของมัน’
ตัวอย่างเช่น แทงเกอร์แบบดั้งเดิมนั้นไม่สามารถต่อสู้กับยักษ์ฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การโจมตีปกติของมันสามารถสังหารแทงเกอร์ได้ ดังนั้นจึงมีเพียงวิธีการใช้สกิลเพิ่มเลือดหรือแทงค์หลบ
อย่างไรก็ตามการแทงค์หลบอาจฟังดูทำง่าย แต่มันไม่มีผู้เล่นที่มีความสามารถพอที่จะทำได้
การแทงค์หลบไม่ใช่แค่ใช้สัมผัสที่ดีของแทงเกอร์ แต่ยังใช้ค่าสถานะหลบหลีกที่สูงมาก
หลังจากที่ข้อมูลเกี่ยวกับยักษ์ฟ้าถูกเผยแพร่ออกมา มันมีผู้เล่นบางคนที่พยายามแทงค์หลบหลังจากที่ใส่อุปกรณ์ที่เต็มไปด้วยค่าสถานะหลบหลีก แต่ตอนนี้มันยังไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น แน่นอนว่าซางฮยอคนั้นวางแผนที่จะแทงค์หลบ
เขาใส่อุปกรณ์ป้องกันทั้งหมดและอุปกรณ์เสริมที่มีสถานะหลบหลีกสูง นอกจากนี้เขายังเตรียมการ์ดฟิวชั่นบัฟต้นทุน 1 ‘พรแห่งสายลม’
บัฟที่มีระยะเวลา 30 นาทีซึ่งใช้การ์ดเพียงใบเดียวก็พอแล้ว ถึงแม้ว่าค่าสถานะหลบหลีกของเขาจะไม่สูงพอ เขาก็เชื่อในสัมผัสของตนเองว่าจะชดเชยในจุดนั้นได้ การแทงค์หลบไม่จำเป็นต้องมีค่าสถานะหลบหลีกที่สูงเท่านั้น แต่มันยังขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อการโจมตีของมอนเตอร์ด้วย
ในด้านการตอบสนอง ซางฮยอคผู้ที่รู้จักรูปแบบการต่อสู้ของยักษ์ฟ้าดีกว่าใครจึงมีความมั่นใจในการแทงค์หลบ
อย่างไรก็ตามการละทิ้งพลังป้องกันนั้นเป็นปัญหาอย่างแท้จริง การโจมตีของยักษ์ฟ้านั้นความรุนแรงไม่ใช่การโจมตีที่เบา
โดยปกติแล้วปาร์ตี้ 7 คนเพื่อสังหารยักษ์ฟ้าจะต้องมีดีลเลอร์อย่างน้อย 4 คน ปาร์ตี้ที่ดีที่สุดนั้นมีดีลเลอร์ 5 คน แทงเกอร์ 1 คน และฮีลเลอร์ 1 คน ซึ่งถูกเรียกว่า ‘5+1+1’ และอีกปาร์ตี้หนึ่งก็คือ ‘4+1+1+1’ ซึ่งมีดีลเลอร์ 4 คน บัฟเฟอร์ 1 คน แทงเกอร์ 1 คน และฮีลเลอร์ 1 คน
ปาร์ตี้ที่มีดีลเลอร์ 3 คน หรือ มีแทงเกอร์หรือฮีลเลอร์มากกว่า 1 คนส่วนใหญ่จะไม่สามารถสังหารยักษ์ฟ้าได้
หากไม่สามารถสังหารยักษ์ฟ้าได้ภายใน 30 นาที มันใช้บัฟ ‘ความโกรธเกรี้ยวของยักษ์ฟ้า’ ให้ตัวมันเองซึ่งเอฟเฟกต์ของบัฟก็คือค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 4 เท่า
ถึงตอนนั้นการจะสังหารมันนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
ดังนั้นพวกเขาจะต้องสังหารยักษ์ฟ้าภายใน 30 นาทีและการจะทำแบบนั้นได้ พวกเขาจึงต้องมีปาร์ตี้ที่มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นดีลเลอร์
แต่ทั้งหมดนั้นขัดแย้งกับเขา ซางฮยอคต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำดาเมจโดยการใช้วิธีแบบปกติได้
แม้ว่าซางฮยอคจะทรงพลังมากเมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่น แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำดาเมจเท่ากับดีลเลอร์ 5 คนในขณะที่ทำหน้าที่แทงเกอร์และฮีลเลอร์ ดังนั้นซางฮยอคจะชดเชยดาเมจที่ขาดหายไปยังไง?
ซางฮยอคมีวิธีแก้ปัญหานี้ในใจแล้ว
***
ฟริ้งงงง!
เมื่อแสงสีแดงปกคลุมร่างซางฮยอค เขาก็กัดฟันแน่นด้วยความอดทน จากนั้นเขาก็กระโดดไปข้างหน้าและวิ่งโดยไม่หันหน้ากลับมา
แม้ว่าในตอนที่เขากำลังวิ่ง แสงสีแดงก็ซึมเข้าไปในร่างของเขาซึ่งแสงสีแดงนี้ถูกเรียกว่า ‘คำสาปเพลิงคลั่ง’
มอนเตอร์ที่ใช้สกิลนี้นั้นคือมอนเตอร์ที่เกือบมีชื่อ ‘เสือเพลิงอมตะ’ ที่อาศัยอยู่ในถ้ำเพลิงที่อยุ่ทางใต้สุดของดินแดนแห่งความมืด
มอนเตอร์ที่รูปร่างเหมือนเสือตัวใหญ่นั้นเป็นมอนเตอร์ธาตุไฟซึ่งปกคลุมร่างกายของมัน และมอนเตอร์ตัวนี้ใช้คำสาปเพลิงคลั่ง
แน่นอนว่าเสือเพลิงอมตะจะใช้สกิลนี้ก่อนที่มันจะตาย และเพื่อที่จะสังหารมันต้องโจมตีไปที่หัวของมันในขณะที่ถูกสกิลคำสาปของมัน
เสือเพลิงอมตะนั้นเป็นมอนเตอร์ที่เกิดจากกองขี้เถ้าของฟินิกซ์และเป็นสิ่งมีชีวิตที่รู้จักกันในนามอมตะระดับต่ำ ดังนั้นการโจมตีปกติจึงไม่สามารถสังหารมันได้
เอฟเฟกต์ของคำสาปเพลิงคลั่งนั้นคือเผาผลาญ 10 HP และเผาผลาญค 1 คาร์มาทุกหนึ่งวินาที
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเมื่อถูกคำสาป มันจะทำลาย HP และคาร์มาของผู้เล่น
ผู้เล่นทุกคนเกลียดคำสาปนี้ ไม่มีใครอยากถูกลดคาร์มา
เมื่อโดนคำสาปเพลิงอมตะ ผู้เล่นจะสามารถละเว้นเอฟเฟกต์ที่เกี่ยวกับการป้องกันทั้งหมดและโจมตีเป็น ‘ทรูดาเมจ(ความเสียหายจริง)’ และด้วยเอฟเฟกต์นี้ความสามารถอมตะระดับต่ำของเสือเพลิงอมตะจะถูกละเว้น แม้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่มีผู้เล่นคนไหนเต็มใจที่จะเสียคาร์มาเพื่อสังหารมัน
ดังนั้นเสือเพลิงอมตะจึงเป็นมอนเตอร์ที่ไม่ค่อยนิยม
แล้วทำไมซางฮยอคถึงสังหารเสือเพลิงอมตะอยู่ที่นี่ก่อนที่จะโจมตียักษ์ฟ้าล่ะ? และทำไมเขาถึงวิ่งหนีล่ะ?
เหตุผลนั้นเรียบง่ายมาก
ซางฮยอคจำเป็นต้องใช้คำสาปนี้
คำสาปเพลิงคลั่ง…… คำสาปนี้จะทำให้สกิลป้องกันทั้งหมดเป็นโมฆะ แม้ว่าสิ่งที่ต้องจ่ายจะเยอะมาก แต่มันก็ไม่เยอะเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขาจะได้รับ
‘ด้วยคำสาปนี้…… ฉันจะสามารถทะลวงความอดทนของยักษ์ได้’
เหตุผลที่ซางฮยอคเลือกคำสาปนี้เป็นเพราะมันทำให้สกิลติดตัวความอดทนของยักษ์เป้นโมฆะ
คำสาปเพลิงคลั่งมีระยะเวลา 40 นาที
ดังนั้นหากเขาวิ่งหนีจากเสือเพลิงอมตะและใช้มาร์กกิ้งบุ๊คกลับไปที่ชั้นที่สี่ของถ้ำของยักษ์ และไปอยู่หน้าบอส คำสาปจะเหลือเวลาประมาณ 30 นาที
เขาต้องจบการต่อสู้ภายใน 30 นาที อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเขาจะเสีย 24,000 HP และ 2,400 คาร์มา แต่ HP สามารถฟื้นฟูได้ด้วยการ์ดฟิวชั่นต้นทุน 0 ‘ของขวัญแห่งการฟื้นฟู’ และเขาก็ได้เตรียมใจเสียคาร์มาแล้ว ดังนั้นเขาเลยไม่คิดเสียดายมัน
มันไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากเลเวลของเขาจะไม่ลดหากเขาเสีย 2,400 คาร์มาประมาณ 15 ครั้ง
ถ้าเขาเสียมากกว่า 15 ครั้ง เขาจะต้องไปฟาร์มคาร์มามาเติม
ในความจริงแล้วการการใช้บัฟ(?)จากมอนเตอร์นั้นจะเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือน
เนื่องจาก 2 เดือนต่อจากนี้จะมีกิลด์ที่สังหารมอนเตอร์มีชื่อที่แข็งแกร่ง ‘ลอร์ดออร์คสีเทา’ ซึ่งพวกเขาได้ใช้บัฟจากมอนเตอร์ และมันกลายเป็นที่ถกเถียงกันในอินเทอร์เน็ต
เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น โรนซอฟแวร์จะสั่งให้ระบบการจัดการทั่วไปเคออสทำการแก้ไขเพื่อให้บัฟจากมอนเตอร์หายไปเมื่อผู้เล่นออกจากพื้นที่
นอกจากนี้พวกเขายังประกาศว่าการใช้บัฟจากมอนเตอร์เพื่อสังหารลอร์ดออร์คสีเทานั้นอยู่ภายในขอบเขตของระบบ
มันเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ดูเหมือนใช้บัค ดังนั้นมันเลยยากที่จะลงโทษพวกเขา
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ซางฮยอคก็ต้องสังหารยักษ์ฟ้าก่อนทีเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น เมื่อบัฟของมอนเตอร์ถูกแก้ไข เขาจำเป็นต้องใช้เวลาและความพยายามในการสังหารยักษ์ฟ้ามากกว่าเดิม ไม่สิบางทีเขาอาจจะสังหารมันไม่ได้ด้วยซ้ำ
เมื่อมาถึงชั้นที่สี่ของถ้ำของยักษ์ ซางฮยอคก็วิ่งตรงไปที่ถ้ำขนาดใหญ่
การต่อสู้ของเขากับยักษ์ฟ้าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
บู้มมมมมมม!
ในตอนนั้นยักษ์ฟ้าก็ใช้พายุสายฟ้า ซางฮยอคก็กระโดดอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เท้าทั้งสองข้างของเขาไม่สัมผัสกับพื้น
พายุสายฟ้าจะทำให้ผู้เล่นทั้งหมดที่ยืนอยู่บนพื้นสตั้นไป 3 วินาทีและทำให้ผู้เล่นอ่อนแอลง เมื่อถูกพายุสายฟ้าสตั้นผู้เล่นจะถูกสกิลดวงตาแห่งรุ่งอรุณต่อทำให้ตายทันที
ฟริ้งงงงง!
เป็นอย่างที่เขารู้ ยักษ์ฟ้าใช้สกิลดวงตาแห่งรุ่งอรุณหลังจากที่ใช้พายุสายฟ้า ลำแสงสีแดงก็ถูกยิ่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของยักษ์ฟ้าซึ่งเป็นลำแสงที่รุนแรงจนสามารถแผดเผาทุกสิ่งได้
ดวงตาแห่งรุ่งอรุณนั้นมีรูปแบบของมัน และซางฮยอคจำรูปแบบนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงหลบมันได้อย่างไม่ยากนัก
‘รูปแบบนี้น่าจะยิงไปทางขวานะ……. ’
ซางฮยอคคาดการณ์รูปแบบผ่านทางทิศที่หน้าของยักษ์หันไปมองรวมถึงท่าทางที่หันไปทางขวาของมัน
บู้มมมมมม!
ลำแสงยิงออกไปทางขวาเหมือนตามที่เขาคาดการณ์ไว้ทุกย่าง
ซางฮยอคไม่ใช่แค่หลบมันเท่านั้น เขายังโยนการ์ดฟิวชั่น ‘หอกแห่งซุส’ ด้วยมือซ้ายของเขาในขณะที่เขาหลบลำแสง
ฟริ้วววว! บู้มมมมมม!
หอกแห่งซุสแทงไปที่เอวของยักษ์ฟ้าอย่างแม่นยำ
ซางฮยอคก็สร้างดาเมจแก่ยักษ์ฟ้า
‘เวลาเหลือแค่ 5 นาทีใช้มั้ย? ดาเมจของฉันยังขาดไปอยู่…… ’
เขาพยายามทำดาเมจอย่างสุดความสามารถ แต่มันดูเหมือนว่าจะยังไม่พอที่จะสังหารยักษ์ฟ้าได้
เนื่องจากเขาต้องทำดาเมจพร้อมกับทำหน้าที่แทงค์ไปในตัว เขาจึงขาดดาเมจ แม้ว่าเขาจะใช้คำสาปเพลิงคลั่งเพื่อทะลวงความอดทนของยักษ์
HP ของยักษ์ฟ้าสามารถดูได้ผ่านจำนวนเส้นเลือดที่อยู่บนหน้าผากของมัน และในตอนนี้บนหน้าผากมีเส้นเลือดอยู่ 6 เส้น
นี่มันหมายความว่ายักษ์ฟ้านั้นมีเลือดเหลืออยู่ประมาณ 40%
‘ยอมแพ้ก่อนละกันแล้วค่อยลองใหม่!’
มันจะดีกว่าหากเขายอมแพ้ในครั้งนี้ เนื่องจากสิ่งที่สำคัญของเขาคือคาร์มาซึ่งจะหายไปตลอดเวลา ดังนั้นการยอมแพ้เพื่อเสียคาร์มาให้น้อยกว่าเดิมจึงเป็นเรื่องดี
หวูดดด!
ซางฮยอคไม่ได้หลบการโจมตีปกติของยักษ์ฟ้า นี่หมายความว่าเขานั้นกำลังจะตาย
แปะ!
ซางฮยอคตายทันทีที่โดนหมัดของมัน ไม่มีความเจ็บปวดจากความตาย แต่เขาไม่ได้รู้สึกดี อย่างไรก็ตามเขาเลือกตั้งค่าเช่นนี้เพื่อจะได้ท้าทายยักษ์ฟ้าได้เร็วขึ้น ดังนั้นเขาจึงข้ามความตาย
***
ยักษ์ฟ้านั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะสังหารได้อย่างง่ายดาย
ซางฮยอคลองไปห้าครั้งในวันแรก แต่ทุกครั้งเขาต้องยอมแพ้กลางคัน เนื่องจากเขาตัดสินใจแล้วว่าดาเมจของเขายังไม่เพียงพอ
เขารู้สึกเสียใจที่ดาเมจของเขาขาดไปทุกครั้ง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนการ์ดฟิวชั่น
ซางฮยอคเอาการ์ดฟิวชั่น ‘โล่แห่งสายลม’ ซึ่งเขาวางแผนจะใช้มันในช่วงเวลาที่เขาไม่สามารถหลบการโจมตีได้ และใส่การ์ดฟิวชั่นที่เน้นการโจมตีอย่าง ‘มังกรเพลิงทมิฬ’ เข้าไปแทน
เหตุผลที่เขาไม่ใส่การ์ดฟิวชั่นมังกรเพลิงทมิฬก่อนหน้านี้ แม้ว่ามันจะทำดาเมจได้มหาศาลเป็นเพราะต้นทุนที่สูงถึง 12 และเงื่อนไขในการใช้งานที่ยุ่งยาก
อย่างไรก็ตามตอนนี้การใช้งานที่ยุ่งยากและต้นทุนที่เยอะนั้นไม่สำคัญอีกต่อไป เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มดาเมจของเขา ดังนั้นเขาเอาการ์ดที่ช่วยเอาชีวิตรอดออกและใส่การ์ดที่ทำดาเมจแทน
ต้นทุนของโล่แห่งสายลมนั้นคือ 4 และเขามีมันอยู่ 3 ใบ ดังนั้นเขาจึงเอามันออกแล้วใส่การ์ดฟิวชั่นมังกรเพลิงทมิฬไปแทน แต่เมื่อทำแบบนั้นการ์ดที่ช่วยชีวิตเขาก็จะหายไป
ถ้าแม้แต่การ์ดมังกรเพลิงทมิฬก็ยังทำดาเมจไม่เพียงพอ เขาก็จะต้องวางแผนใหม่ทั้งหมด
การฟิวชั่น ‘มังกรเพลิงทมิฬ’
: การ์ดนี้ประกอบถูกฟิวชั่นจากการ์ดธาตุความมืดระดับต่ำ การ์ดธาตุไฟระดับต่ำ การ์ดไข่กิ้งก่ายักษ์ การ์ดเลือดโอเกอร์ และการ์ดหัวใจของออร์คเบอร์เซิร์กเกอร์ ช่วงเวลาที่คุณใช้การ์ดใบนี้หัวใจของคุณจะเต้นแรงขึ้น……. คุณจะได้รับพลังของเบอร์เซิร์กเกอร์ที่แท้จริง
เอฟเฟกต์ : การ์ดใบนี้สามารถใช้ได้กับคุณเท่านั้น ดาเมจของคุณเพิ่มขึ้น 30% และเลือดของคุณจะหายไป 30% เมื่อบัฟหมดเวลา
ระยะเวลา : 16 นาที [คูลดาวน์ : 4 ชั่วโมง]
ค่าความเชี่ยวชาญการ์ด : 0 / 250 [ความเชี่ยวชาญระดับ D]