ตอนที่ 228 : ปล่อยความรักให้เป็นไปตามธรรมชาติ
ในเวลานี้เจียงเฉินขับรถออดี้พาเอเวลออกมาเดินเล่นในเมือง
ภายใต้การโน้มน้าวของเจียงเฉินมันทำให้เอเวลนั้นรู้สึกมีความสุขขึ้นมา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มเธอเริ่มจับมือของเจียงเฉินและเดินไปตามถนน
แต่ในเวลานี้ก็มีสายตาที่จับจ้องมาที่พวกเขาอย่างลับๆโดยที่ทั้งสองนั้นไม่รู้ตัว
“จริงๆด้วยนะ”
เจ้าชายจอห์นที่มีดวงตาสีเขียวจ้องมองไปที่ร้างของเอเวลที่กำลังเดินจับมือกับเจียงเฉิน-
“คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง!”
“เอเวล ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าเธอรักตัวเองบ้างไหม?! ทำไมเธอถึงต้องมาอยู่กับไอ้พวกผู้ชายจีน!”
เจ้าชายจอห์นนั้นแอบชอบเอเวลมาตั้งแต่ยังเด็กเขานั้นไล่ตามเธอมานานแต่คำตอบที่เขาได้รับมาจากเธอก็คือ…
“ฉันไม่ชอบผู้ชาย!”
แต่เขาก็คิดว่ามันคงไม่เป็นอะไรเพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงเอเวลก็คงไม่มีทางชอบคนอื่นอย่างแน่นอน!
และตอนนี้เขานั้นก็รู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้ว เขานั้นบินตรงมาที่จีนก็เพื่อที่จะมาสารภาพรักกับเอเวล!
แต่สุดท้ายเจ้าหญิงที่เขาแอบรักกลับไปตกหลุมรักกับผู้ชายชาวจีน!
จอห์นพลิกโต๊ะ
“ได้ เธอไม่สนใจผู้ชายงั้นสินะ?”
เขานั้นรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก!
รู้สึกว่าตัวเองถูกทรยศ!
ปอดของจอห์นนั้นแทบจะระเบิดออกมา
แต่!
เจ้าหญิงเอเวลนั้นเป็นถึงรัชทายาทลำดับที่หนึ่ง!
ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าชาย ถ้าเขาอยากขึ้นเป็นราชาเขานั้นจะต้องแต่งกับเอเวลเท่านั้น!
“ไอ้สารเลว ไอ้จีนนี่จะต้องพูดหลอกล่อเอเวลแน่ๆ!”
จอห์นกัดฟันของเขา
เขานั้นทำอะไรเอเวลไม่ได้ ได้แต่โยนความผิดทั้งหมดให้กับเจียงเฉิน
จอห์นนั้นอยากจะเข้าไปหาเจียงเฉินแล้วแยกทั้งคู่ออกจากกันทันที
แต่-
ผู้ช่วยเกลี้ยกล่อมเขาเอาไว้
“ฝ่าบาท ทำอย่างนั้นมันเผด็จการเกินไปมันไม่ใช่ตัวตนของท่านนะครับ ท่านไม่ควรทำแบบนั้น”
จอห์นที่ได้ฟังก็คิด
ใช่แล้ว!
ตัวตนของเขาเป็นใครกัน?
เจ้าชายแห่งโบฮีเมีย!
ฉันจะไปมีเรื่องกับคนจีนที่ต่ำต้อยข้างถนนได้ยังไงกัน?!
หากเรื่องนี้หลุดออกไปแล้วเป็นข่าวเกรงว่าทั้งราชวงศ์จะต้องเสียหน้า!
“แล้วนายว่าฉันควรทำยังไงดี?!”
ดวงตาของผู้ช่วยเปลี่ยนไปทันที “อีกสองวันจะมีงาน [งานนิทรรศการเครื่องประดับราชวงศ์จีนและยุโรป] ที่ยิ่งใหญ่มากซึ่งถูกจัดโดยประเทศจีนและประเทศจากยุโรป งานนี้จะถูกจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์เจียงชื่อ!”
“โอ้ว”
นัยต์ตาของจอห์นเป็นประกาย “ใช่แล้ว ทำไมฉันถึงลืมเรื่องนี้ไปได้ ฉันมาที่จีนก็เพราะงานนี้ไม่ใช่รึไง!”
“ประเทศโบฮีเมียและครอบครัวของฉันให้ความสำคัญกับงานนี้มากพวกเขาถึงกับส่ง [มงกุฎราชินี] มาด้วย!”
ผู้ช่วยตาเป็นประกาย “มงกุฏนั่นเป็นมรดกตกทอดของตระกูลมีประวัติยาวนานกว่า 300 ปีและราชินีที่มาจากตระกูลนี้ล้วนแล้วแต่สวมมัน! มันเป็นสมบัติระดับชาติ! เป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่ล้ำค่ามากที่สุดในงาน!”
ดวงตาของจอห์นเป็นประกาย “มงกุฏนั่นเป็นของยายของฉันราชินีเทรซี่! มันมีเพรชประดับอยู่ถึง 27 เม็ด มูลค่าของมันนั้นประเมินค่าไม่ได้!”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ!”
ผู้ช่วยพยักหน้า
จอห์น “และแน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่รักเครื่องประดับตราบใดที่ฉันมอบมงกุฏนั่นให้กับเธอ ฉันก็จะสามารถเอาชนะใจเธอได้อย่างแน่นอน!”
ในเวลานี้จอห์นั้นได้คิดไอเดียเจ๋งๆขึ้นมาด้วยตัวเอง!
เขาจะต้องโอ้อวดออกมา!
แล้วจัดการคนขับรถคนนั้นให้อยู่หมัด!
ให้เจ้าคนขับรถนั่นได้รู้ถึงความแตกต่าง!
“ถ้าเอเวลได้ไปที่นั่นไม่ว่ายังไงคนขับรถนั่นก็จะต้องตามไปแน่ฉันจะทำให้มันได้รู้ว่ามันที่เป็นแค่คนขับรถชั้นต่ำไม่คู่ควรกับเจ้าหญิงเอเวล!”
และบางที่เอเวลอาจจะยอมรับคำขอแต่งงานของเขาจ่อหน้าสาธารณะชนด้วยก็ได้
เยี่ยม!
“แต่คำถามคือเอเวลจะเข้าไปในงานได้ยังไง?”
แผนการของเขานั้นได้ถูกวางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
แต่ถ้าเกิดเอเวลนั้นไม่เข้าร่วมงาน แผนทั้งหมดก็คงไร้ความหมาย!
จอห์นกลอกตาพลางครุ่นคิด
เขาเปิดประตูออกมาและเดินตรงไปหาเจียงเฉินกับเอเวล
“เจ้าหญิงเอเวล!”
จอห์นเดินเข้ามาอย่างเป็นสุภาพบุรุษและทำความเคารพแบบขุนนาง เขานั้นทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าสมบูรณ์แบบที่สุด
แถมยังให้คะแนนตัวเองอีก 105 คะแนน!
สุดยอด!
น่าสงสารเอามากๆ
บนถนนเต็มไปด้วยคนจีนที่เดินผ่านไปผ่านมา
จอห์นที่ดูมีความสูงส่งย่อมดึงดูดความสนใจของคนได้ทันที –
“พระเจ้า นี่เขาเป็นคนบ้ารึเปล่า?”
“ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย?”
“เฮ บางทีน้ำอาจจะท่วมสมองเขาก็ได้นะ?”
“หนุ่มน้อยทำไมนายถึงดูไม่ปกติล่ะ?”
จอห์น “…”
ฟิค!
นี่มันเป็นมารยาทในวังของยุโรปนะ!
พวกแกที่เป็นคนจีนไม่เข้าใจหรอก!
จอห์นยิ่งโกรธมากกว่าเดิมเมื่อเห็นคนจีนที่เดินผ่านไปผ่านมา
เอเวลก็ตกใจทันทีที่เห็นจอห์นที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ!
“จอห์นนายมาที่นี่ได้ยังไง?”
เอเวลขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาจริงๆ
เธอนั้นเพิ่งพูดกับเจียงเฉินว่าชายที่น่ารังเกียจคนนี้กำลังจะมาแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอแล้ว
“เจ้าหญิงเอเวล สิ่งที่คุณพูดออกมามันทำให้ผมเสียใจนะครับ”
จอห์นนั้นถือว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษและกริยามารยาทของเขานั้นเป็นสุภาพบุรุษที่สมบูรณ์แบบ เขาพูดออกมาอย่างอุ่นเคือง “พวกเราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และเราต่างก็เป็นทายาทของตระกูลฮับส์บวร์คและตระกูลจอห์น เรานั้นถือว่าเป็นรัชทายาทลำดับที่หนึ่งและสอง แต่คุณพูดแบบนั้นกับผมได้ยังไง”
ขณะที่เขาพูดกับเอเวลเขาก็เข้ามาใกล้เอเวลเอต้องการที่จะจูบมือของเธอ
การจูบมือนั้นเป็นมารยาทของทางยุโรป
เอเวลยังไม่ทันได้พูดอะไรจอห์นก็คุกเข่าลงและเริ่มจูบมือ
เขาหลับตาลง
ยืม
มือของเอเวลรั่งอบอุ่นจริงๆ
เอ๊ะ? ทำไมถึงมีกลิ่นเหม็นด้วย?
เขาลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ–
คนอ้วนที่เดินผ่านมาก็มองหน้าเขาด้วยความตกใจ
สิ่งที่เขาจูบเมื่อกี้ไม่ใช่มือเล็กๆของเอเวล แต่เป็นมือของชายอ้วนที่เพิ่งเก็บขี้หมามา!!
ทันใดนั้นชายอ้วนคนนั้นก็ตะโกนออกมา “คนโรคจิต!!”
จอห์นเห็นสุนัขตัวหนึ่งอยู่ข้างๆเขาและกองอุจจาระที่อยู่บนพื้นเขาก็เข้าใจมันได้ทันที ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นน่าเกียจและกลายเป็นสีเขียว!
“อ้วก!”
“อ้วกออกมาด้วยความขยะแขยง -”
เอเวลที่มองดูอยู่ก็หัวเราะออกมาจนน้ำตาไหล
ปรากฏว่าจอห์นที่กำลังจะทำตามมารยาทของราชวงศ์ยุโรปและจูบมือของเอเวละ
มือของเจียงเฉินก็ไปคว้าเอามือของชายอ้วนที่กำลังทำความสะอาดอุจจาระของสัตว์เลี้ยงตัวเองอยู่ข้างๆและผลัดให้กับจอห์น
และจอห์นที่จูบไปได้ซักพักก็เพิ่งจะรู้ตัว
มือที่เขากำลังจูบเป็นมือของคนอ้วนแถมคนอ้วนคนนั้นยังถือกระดาษที่ห่ออุจจาระของสัตว์เลี้ยงของเขาอยู่ด้วย
อ้วก อ้วก อ้วก—
จอห์นอ้วกออกมาจนหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว!
“นาย นาย นาย!”
จอห์นลุกขึ้นมาด้วยความโกรธและชี้ไปที่เจียงเฉิน “นายทำอะไรของนาย?!”
เจียงเฉินตอบกลับ “ผมควรถามมากว่าไหมว่าคุณน่ะกำลังทำอะ ไร?”
“ฉันก็จูบมือของเอเวลไงล่ะ!”
จอห์นพูดออกมาด้วยความมั่นใจ “นี่คือมารยาทชั้นสูงของโบฮีเมียเรา! นายไม่มีวันเข้าใจหรอก”
“ใช่ ผมไม่เข้าใจจริงๆ”
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเฉยเมย “แต่น่าเสียดายที่ ที่นี่คือบนถนนของประเทศจีน! ไม่ใช่ยุโรปของคุณ! ผมเองก็เห็นว่าเอเวลก็ไม่ได้เต็มใจ แต่คุณกลับยังพยายามทำมันต่อซึ่งมันถือว่าเป็นการล่วงละเมิดผู้อื่น! ผมจะลองโทรหาทนายความดูก็แล้วกันว่าพวกเขาจะว่ายังไง?!”
จอห์นคิด
เวรเอ๊ย! แผนล้มเหลว!
เขานั้นต้องการที่จะใช้มารยาทในวังหลวงเพื่อเป็นข้ออ้างในการจูบเอเวลแต่เจียงเฉินนั้นตบหน้าเขาจนแทบจะตาย! แถมยังต้องไปจูบมือสกปรกของคนอ้วนอีก!
แต่เมื่อคิดดูดีๆแล้วยังไงซะชียชนะมันก็จะมาอยู่ที่เขาอยู่แล้วการที่เขานั้นจะใช้กริยาที่มันหยาบคายก็คงดูล้ำเส้นเกินไปหน่อย
เขายิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส “นายเป็นเพื่อนของเอเวลงั้นหรอ ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันคือเจ้าชายจอห์น เป็นเพื่อนของเอเวล!”
ตอนแรกเขานั้นอยากจะบอกว่าเขานั้นเป็นแฟนของเธอแต่หลังจากที่ได้เห็นแววตาอาฆาตของเอเวลเขาก็เปลี่ยนคำพูดทันที
จอห์น “แล้วนายล่ะ?”
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเฉยเมย “ผมเป็นแฟนของเอเวล! สวัสดีครับ!”
เจียงเฉินจงใจเน้นเสียงตรงคำว่าแฟนออกมาดังๆ!
เมื่อเอเวลได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้สึกดีใจและเขินขึ้นมา
ใบหน้าของจอห์นดูมืดมนลงทุนที่ที่ได้ยิน–
ฟิค!
ฉันยังไม่กล้าพูดคำว่าแฟนออกมาแต่แกกลับกล้างั้นหรอ?!
“ฮึ่ม! แฟนงั้นหรอ? นายเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า?”
จอห์นเยาะเย้ยออกมา “ฉันคือเจ้าชายผู้มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ลำดับที่สอง! ส่วนเอเวลคือเจ้าหญิง! นายกล้าดียังไงถึงได้เรียกตัวเองว่าแฟนของเจ้าหญิงทั้งๆที่ตัวเองเป็นแค่สามัญชนชาวจีน!”
“เจ้าหญิง?”
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเฉยเมย “บางที่ในโบฮีเมีย เธออาจจะเป็นเจ้าหญิง แต่ต่อหน้าฉันเธอมีเพียงสถานะเดียวเท่านั้นนั้นก็คือแฟนของฉัน!”
หลังจากพูดจบเจียงเฉินก็กอดเอวของเอเวลแน่นเพื่อประกาศสิทธิของเขา
“นาย!”
จอห์นทำได้แต่ดูด้วยความโกรธจัด!
ด้วยฐานะที่สูงส่งของฉัน ทำไมแกถึงยังกล้าเมินฉัน?!
แกไม่เห็นฐานะเจ้าชายของฉันในสายตาเลยรียังไง?!
เมื่อเห็นว่าเจียงเฉินนั้นประกาศสิทธิของแฟนหนุ่มออกมา จอห์นนั้นก็รู้สึกราวกับว่าทุ่งหญ้าเขียวขจีเหนือศรีษะของเขาขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว..
“ฉันต้องทน ฉันต้องทนเอาไว้!”
จอห์นพยายามกลั้นหายใจและยิ้มออกมา “ใช่แล้ว ในอีกสองสามวันตอนเย็นๆจะมีงานแลกเปลี่ยนกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของพวกเราและประเทศของนาย งานิทรรศการสมบัติแห่งชาติจะจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์เจียงซื่อ ดังนั้นฉันก็ขอเชิญคุณเจียงเข้าร่วมงานอย่างจริงใจ”
สายตาของเจียงเฉินหันไปมอง เขานั้นรู้ได้ทันทีว่านายจอห์นคนนี้จะต้องมีเจตนาร้ายซ่อนอยู่
เอเวล “พวกเราจะไปทำไม?”
“ไม่คุณต้องไป ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าหญิงคุณมีหน้าที่ต้องไป!”
จอห์นสวมบทบาทกษัตริย์และกดดันเอเวล “เอเวลเธอเป็นเจ้าหญิง เธอมีหน้าที่ต้องเข้ารวมงานนี้!”
เอเวลขมวดคิ้วและคิดหนัก
อย่างไรก็ตาม เธอนั้นก็เป็นสมาชิกของราชวงศ์จริงๆ อย่างที่รู้กันดีว่าราชวงศนั้นจะได้รับเงินส่วนหนึ่งจากภาษีดังนั้นพวกเขาก็เลยมีหน้าที่ที่จะต้องเข้าร่วมงานสังคมเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศ
แม้ว่าตัวเธอนั้นจะเป็นเจ้าหญิงและปฏิเสธที่จะรับเงินนี้แต่เธอนั้นก็ยังต้องทำอยู่ดี
“ใช่ไหมล่ะ ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องเข้าร่วมอยู่ดีจริงไหม?”
จอห์นยิ้มเยาะออกมา
เอเวลได้แต่พยักหน้า
“แล้วนายล่ะจะไปไหม?”
จอห์นมองไปที่เจียงเฉิน
เจียงเฉินยิ้มออกมา
ในเมื่อเอเวลต้องไปทำไมเขาจะไม่ไป?
“ฉันจะไปกับแฟนของฉันอย่างแน่นอน!”
เจียงเฉินตอบรับ
จอห์นยิ้ม “งั้นก็ตกลงตามนี้!”
หลังจากพูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไปทันที
เพราะเขากลัวว่าเขานั้นจะได้เห็นฉากหวานๆของเจียงเฉินกับเอเวลมากเกินไปจนเขาต้องโกรธจนตายไปก่อน
“นายบอกว่านายเป็นแฟนของฉันงั้นหรอ?”
เอเวลมองไปที่เจียงเฉินอย่างตั้งใจ
เจียงเฉินพยักหน้า “ไม่ต้องไปสนใจหรอก”
“ยังไงก็ตาม ฉันก็ยังต้องขอโทษนายอยู่ดีนะที่เอานายมายุ่งกับเรื่องพวกนี้”
เอเวลนั้นรู้สึกผิดต่อเจียงเฉินมาก เธอนั้นรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจียงเฉินแม้แต่น้อย..
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรเพราะฉันเองก็พูดไปแล้วและฉันก็ต้องทำมัน ในฐานะแฟนฉันจะปกป้องเธอเอง!”
“ขอบคุณนะ!”
เอเวลขยับตัวพิงไหล่ของเจียงเฉินเธอนั้นทั้งรู้สึกปลอดภัยทั้งมีความสุข
บางครั้งความรักนั้นก็แค่ปล่อยให้มันไหลไปตามความรู้สึกก็พอ
วันต่อมาเจ้าชายจอห์นก็เชิญเพื่อนของเขาที่เป็นขุนนางในยุโรปสองสามคนเพื่อออกไปซื้อของและโอ้อวดกัน
พูดคุยกัน!
“หึหึ”
จอห์นพาเพื่อนของเขามายังย่านการค้าระหว่างประเทศ เมื่อมองไปรอบๆก็จะพบกับตึกระฟ้าเต็มไปหมด
เขาพูดออกมาอย่างเสียงดังด้วยความจงใจ “เสียดายจริงๆที่ฉันเป็นเจ้าชายจอห์นแห่งโบฮีเมีย!”
คนที่อยู่รอบๆตกตะลึง!
คนนับไม่ถ้วยอุทานออกมา
“พระเจ้า! เจ้าชาย? จากยุโรป?”
“น่าทึ่งมาก ไม่คิดเลยว่าเจ้าชายจะมาซื้อของที่นี่!”
“แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นคนชั้นสูง! แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาเป็นเจ้าชาย!”
“ฝ่าบาทเพคะ ฉันขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?”
ไม่นานจอห์นก็ได้รับความสนใจจากชาวจีนรอบข้างเขาสูดจมูกอย่างเย็นชาและยิ้มให้กับเพื่อนของเขา
“พวกนายเคยเห็นไหม ประเทศจีนล้าหลังมาก! ผู้คนก็ยังโง่เขลาแค่ฐานะของพวกเราก็ทำให้พวกเขาคลั่งไคล้ได้แล้ว!”
เขาพูดออกมาด้วยภาษาโบฮีเมียแต่คนจีนที่อยู่รอบๆตัวเขาบางคนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจพวกเขาจึงด่ากลับอย่างโกรธเคือง
“พวกคุณพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน เราเป็นคนจีนพวกเราให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นกับพวกคุณแต่พวกคุณกลับคิดว่าเราโง่?”
“ พวกแอบด่าลับหลัง!”
“สมองยังดีอยู่รึเปล่าเนี่ย?!”
เมื่อมีคนแปลข้อความตอนที่จอห์นพูดภาษาโบฮีเมียออกมาคนจีนรอบๆก็พากันโกรธขึ้นมาทันที!
“คนจีนแล้วมันทำไม?!”
“พวกเราให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นแต่เขากลับไม่รู้อะไรเลย!”
จอห์นกับเพื่อนของเขาเยาะเย้ยไปเดินไปจนรู้สึกกระหายน้ำ
พวกเขาเลยไปซื้อน้ำมากัน
แต่ร้านแผงลอยริมถนนไม่รับเงินสด!
พวกเขานั้นรับการจ่ายโดยผ่านวีแชท–
จอห์นตกตะลึง
“นี่คุณไม่เห็นป้ายรียังไง?”
จอห์นตกตะลึง “นี่พวกนายไม่รับเงินสด?”
“แล้วฉันจะนั่งเกยเงินไปทำไม?”
เจ้าของร้านพูดออกมา “จะเกียเงินสดให้มันยุ่งยากทำไมเปลี่ยนมาใช้วีแชทดีกว่าไม่ต้องทอนด้วย!”
จอห์นมองดูด้วยความสับสนก่อนจะส่ายหัว
เจ้าของร้านปลอบใจ “คุณชาวยุโรป พวกคุณไม่มีการชำระเงินผ่านมือถือหรอ?”
จอห์นตอบกลับอย่างว่าเปล่า “ไม่…”
คนจีนที่อยู่รอบๆพากันหัวเราะคิกคัก
หัวเราะเทบตาย!
“ประเทศของพวกเขาไม่มีแม้แต่การชำระเงินผ่านมือถือแต่พวกเขากลับบอกว่าพวกเราโง่และยังล้าหลัง ต่อให้ตายฉันก็ไม่ขอสัญชาติพวกเขาแน่!”
“น่าสงสารจริงๆ!”
“ช่างน่าสงสารอะไรขนาดนี้!”
“ยุคสมัยของพวกเรากำลังพัฒนา แต่พวกยุโรปกับถอยหลังงั้นหรอ?”
“ความแข็งแกร่งยังไม่มีแต่เรื่องเสแสร้งเป็นที่หนึ่ง!”
“ฉันละเห็นใจจริงๆที่ประเทศพวกเขาล้าหลังขนาดนี้ – มาไว้อาลัยให้พวกเขากันสักสามนาที่ดีกว่า…”
คนรอบข้างพากันดูถูก
จอห์น “…”
เชี่ยเอ้ย!
ฉันถูกมองว่าเป็นคนปัญญาอ่อนงั้นหรอ?
เขากลอกตาไปมาก่อนจะเริ่มเบี่ยงความสนใจ เขาหยิบรูปเอเวลออกมา….