ตอนที่ 5: การรักษาในถ้ำ
ในฐานะของนักฆ่าแล้ว ฮันซวนห่าวมิควรทำข้อตกลงเช่นนี้
แต่เหตุใดครั้งนี้เขากลับรู้สึกว่า แม้เด็กหนุ่มผู้นี้จะเย็นชาและเฉยเมย แต่เขาก็คงมิใช่ผู้ที่จะทรยศผู้อื่น
ฮันซวนห่าวฟื้นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวด เนื่องจากถูกเด็กหนุ่มลากอย่างรุนแรง
ทรายและก้อนกรวดบนพื้นเสียดสีกับบริเวณหลัง ซึ่งทำให้ผิวหนังของเขาถลอก และเป็นแผลเหวอะหวะ
ชางอู๋ซินเกลียดการสัมผัสร่างกายของผู้อื่น ดังนั้นนับตั้งแต่อายุแปดขวบ นางจึงมิยอมให้ผู้ใดได้สัมผัสตัวเลย
หากชางอู๋ซินมิตระหนักว่าชายผู้นี้มีประโยชน์ นางก็คงมิช่วยเขา
ชางอู๋ซินลากฮันซวนห่าว
กลับไปในถ้ำที่นางออกมาเมื่อครู่นี้
เนื่องจากพวกเขาได้ตกลงกันแล้วว่า จะดูแลชายผู้นี้เมื่อเขายอมทำตามคำบัญชาของนางสามข้อ
เมื่อฮันซวนห่าวเห็นว่า ตนเองถูกลากมาถึงภายในถ้ำแล้วจึงรู้สึกโล่งใจ และคิดว่าหากชางอู๋ซินยังคงลากเขาเช่นนี้ต่อไป เขาคงจะมิรอดชีวิตแน่
และแม้ว่าถ้ำจะรกร้าง แต่ก็สามารถป้องกันสายลมและพายุฝนได้
เมื่อมาถึงถ้ำชางอู๋ซินจึงปล่อยมือจากฮันซวนห่าวทันที
แม้เขาได้เตรียมใจแล้ว แต่การถูกลากมาในขณะที่ยังอาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ มันช่างทรมานเสียเหลือเกืน
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพนี้ มันทำให้เขาจึงต้องการที่จะกระอักเลือดออกมา
ฮันซวนห่าวยิ้มอย่างเย็นชา และดวงตาของเขาได้เปล่งประกายความหวาดกลัว ขณะที่มองดูเด็กหนุ่มกำลังเตรียมจุดไฟ
แต่เมื่อมองไปที่เด็กหนุ่มผู้นั้น แม้จะมีท่าทางเย็นชา แต่ฮันซวนห่าวก็มีความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ และคิดว่า
น่าจะเป็นเพราะพิษบาดแผลจึงทำให้ตนเองถึงกับเพ้อ
หลังจากที่ชางอู๋ซินก่อไฟเสร็จแล้ว นางได้ก้าวมาด้านข้างร่างของฮันซวนห่าว
จากนั้นจึงทำการตรวจสอบอาการของเขา และพบว่า อาการบาดเจ็บภายในนั้นรักษาได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับอาการภายนอก
ตอนที่ฮันซวนห่าวหมดสติไป ชางอู๋ซินได้ใช้กำลังภายในรักษาเขา แม้ว่านางจะมิสามารถใช้มันได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ดีกว่ามิได้ทำสิ่งใดเลย
ชางอู๋ซินนั่งอยู่ด่านหลังฮันซวนห่าว เขาจึงพยายามผ่อนคลายลมปราณของตนเอง
เนื่องจากฮันซวนห่าวพอจะเดาได้แล้วว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ต้องการที่จะทำอันใด
เมื่อได้เห็นเด็กหนุ่มในครั้งแรก ฮันซวนห่าวรู้สึกประหลาดใจกับรูปลักษณ์และนิสัยใจคอของชางอู๋ซินเป็นอย่างมาก
ฮันซวนห่าวมิคาดคิดเลยว่า ชางอู๋ซินจะมีทักษะศิลปะการต่อสู้ใด ๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเด็กหนุ่มผู้นี้ก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นเดียวกัน
ชางอู๋ซินวางมือทั้งสองข้างไว้บนหลังของฮันซวนห่าว มือของซางอู๋ซินเริ่มส่งกำลังภายในเข้าไปในตัวของชายผู้นั้น
เพื่อซ่อมแซมบาดแผลของเขา วิธีนี้เป็นเพียงวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวเท่านั้น
เขายังคงจำเป็นต้องใช้ยา แต่สำหรับตอนนี้มันสามาถช่วยประคับประคองร่างกายเขาได้
เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นต้อนรับเช้าตรู่ ชางอู๋ซินจึงค่อย ๆ ถอนมือออก
ฮันซวนห่าวรู้สึกได้ว่าอาการของเขาดีขึ้นแล้ว และตระหนักว่าชายหนุ่มได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
แต่สิ่งนี้ทำเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้น ฮันซวนห่าวจึงรู้สึกมิค่อยพอใจนัก
ชางอู๋ซินเดินออกมาจากถ้ำโดยมิเอ่ยอันใดออกมา ฮันซวนห่าวกำลังจะอ้าปากกล่าวบางสิ่ง แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักทันที
เพราะรู้ดีว่า ตนมิได้อยู่ในฐานะที่จะสามารถเอ่ยถามสิ่งใดได้
ฮันซวนห่าวนอนอยู่ลงบนพื้น และกองไฟยังคงลุกไหม้อยู่บริเวณด้านข้าง
บาดแผลภายนอกของเขาดูเหมือนจะหน้กหนาสาหัสมิใช่น้อย
แม้ว่าจะคุ้นเคยกับความเจ็บปวด แต่ก็แทบจะมิได้รับบาดเจ็บเลยนับตั้งแต่เขาเติบโตขึ้นมา
ร่างกายฮันซวนห่าวกำลังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ขณะที่นอนอยู่บนพื้นที่เยือกเย็น และเขาจะต้องกลับไปในอีกมิช้าเพื่อล้างแค้นครั้งนี้เสียก่อน
ชายหนุ่มผู้นั้นได้จากไป โดยมิรู้ว่าเขาเป็นผู้ใด เขามิกลัวว่าฮันซวนห่าวจะผิดสัญญาหรือ?
ขณะที่ฮันซวนห่าวกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ได้มีเสียงฝีเท้าดังมาจากทางเข้าถ้ำ เขาจึงรีบลุกขึ้นนั่งในทันที
แม้ว่าอาวุธข้างกายจะหายไปแล้ว แต่ฮันซวนห่าวได้หยิบท่อนไม้ที่อยู่ใกล้กับบริเวณนั้นขึ้นมา
และเขานั่งเฝ้าทางเข้าอย่างระแวดระวัง
สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือ ร่างของชายหนุ่มผู้ที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้นั่นเอง
แม้ว่าร่งกายจะดูผ่ายผอม แต่ท่าท่างการเดินของเด็กหนุ่มผู้นี้ กลับมีความมั่นคงเป็นอย่างมาก
แสงแดดสาดส่องมาจากด้านหลังของชางอู๋ซิน ทำให้ร่างของนางมีรัศมีสว่างล้อมรอบตัว
ในขณะนั้นฮันซวนห่าวรู้สึกว่าเป็นภาพอันงดงามที่สุดภาพหนึ่งที่เขาได้เคยเห็นมา