ตอนที่ 55 ดาบหนักคู่เล่มใหม่(รีไรท์)
นักล่าที่มุงดูอยู่โดยรอบต่างพากันมองตาเป็นประกาย บางคนมองด้วยความอิจฉาและคิดอยากจะลงมือแย่งชิง
แต่พวกเขาก็ได้แต่คิดไม่กล้าที่จะลงมือ เพราะโดยรอบของชั้น 1 ตึกสมาพันธ์นักล่ามันเต็มไปด้วยผู้พิทักษ์ที่ใช่เกาะเหล็กราวกับอัศวิน คอยมองคนที่น่าสงสัยอยู่ตลอดเวลาถ้าเกิดพวกเขาลงมือทำเรื่องสิ้นคิดอย่างการขโมยผลคริสตัลวิวัฒนาการละก็
ไม่ต้องรอให้ตำรวจหรือทหารของรัฐบาลจับ พวกเขาก็คงถูกผู้พิทักษ์เหล่านี้จัดการจนไม่เหลือแม้แต่ซากแน่นอน
เคยมีคนหลายคนต้องการสมัครเป็นผู้พิทักษ์ แต่กลับไม่มีประกาศหรือบอกว่าจะสมัครทางไหน พอมีคนไปถามพวกเขาก็ไม่ได้บอก
ถึงแบบนั้นหลายคนก็จำได้ว่าหนึ่งในผู้พิทักษ์นั้นมีขอทานที่พวกเขาเคยรังแกอยู่ด้วยจึงพอจะเดาว่าพวกเขาไปเอาพวกคนเร่ร่อนขอทานมา
หลังจากนั้นก็มีคนลองแกล้งไปเป็นคนขอทาน แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ไม่มีใครติดต่อพวกเขาได้อีก หลายคนเดาว่าเขาคงจะไปเข้าการทดสอบผู้พิทักษ์แต่ก็ตายในการทดสอบ
ไรอันรับกล่องออกมาด้วยมือที่สั่นเทา เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ของสิ่งนี้คือผลคริสตัลวิวัฒนาการที่มอบพลังประเภทพลังธาตุให้กับเขาได้
“จะต้องทำอย่างไร?” ไรอันถามดามินด้วยความร้อนใจ
“แค่กินมันเข้าไป แต่มันจะทำให้…” ยังไม่ทันที่ดามินจะได้พูดจบไรอันก็หยิบผลคริสตัลกลืนลงไปก่อนแล้ว
ตุบ!
ร่างของไรอันล้มลงไปทั้งยืน บอดี้การ์ดทั้ง 4 คนของไรอันเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบเข้ามาพยุงร่างของเจ้านายทันที
“นี่มันหมายความว่าไง?” หนึ่งในบอดี้การ์ดเข้ามาหาดินพยายามที่จะจับเขา เพื่อถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่บอดี้การ์ดยังไม่ทันเข้าถึงตัวของดามินก็ถูกล้อมรอบไปด้วย ผู้พิทักษ์กว่า 20 คนในทันที
ถึงแม้ผู้พิทักษ์เหล่านี้จะเป็นแค่ระดับ สีขาว แต่พวกเขาก็มีจำนวนมากและที่สำคัญพวกเขาไม่กลัวการต่อสู้กับระดับสีเทาเลยแม้แต่น้อย
บอดี้การ์ดคนนั้นมองไปที่ผู้พิทักษ์และเกิดความลังเลขึ้นมาในทันที แต่ในตอนนั้นเองที่เอวาก็เดินเข้ามา เธอเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงถามกลับดามินถึงเรื่องราวและก็รู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน
“เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง มันคือผลข้างเคียงของการกินผลคริสตัลไปก็เท่านั้น ส่วนใหญ่จะสลบไปไม่กี่ชั่วโมงขึ้นอยู่กับกระบวนการวิวัฒนาการ เดี๋ยวเขาก็ฟื้นขึ้นมา” เอวาอธิบายออกมา ขณะที่เรียกเจ้าหน้าที่ให้พาไรอันและบอดี้การ์ดไปพักที่ชั้นสองก่อน
ในขณะที่คนรอบข้างก็มองไปที่เอวาด้วยสายตาที่หลงใหลแบบไม่ปิดบัง ถึงแม้ว่าหน้าตาของเธอจะไม่ใช่คนที่สวยที่สุด แต่รูปร่างที่ดูเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่เธออายุแค่ 20 กว่า ๆ เท่านั้น มันกลับดึงดูดเป็นอย่างมาก ทั้งสัดส่วนที่เหมือนกับเกิดมาเพื่อสยบผู้ชาย รวมกับตำแหน่งของรองประธานสมาพันธ์นักล่าที่ช่วยส่งเสริมให้เธอยิ่งดูน่าดึงดูดมากกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าเวลาที่อยู่ต่อหน้าไนเรลเธอจะเป็นเหมือนผู้หญิงที่ขี้อาย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้องและคนอื่น ๆ เธอเป็นเหมือนดังเจ้านายที่เข้มงวด
“นั้นคือคุณเอวารองประธานสมาพันธ์นักล่าใช่หรือไม่”
“ใช่แล้ว ถ้าพูดถึงผู้หญิงที่มีความสามารถในยุคนี้ก็คงจะเป็นเธอ เอวาแห่งสมาพันธ์นักล่านี้ละ”
“ถ้าใช้ใบหน้าที่หล่อเหล่าของฉัน จะต้องได้ครอบครองหัวใจของเธอแน่ และจากนั้นอำนาจสมาพันธ์นักล่าจะต้องตกมาอยู่ในมือของฉัน ฮ่าๆๆ”
“หยุดเลย เธอมีเจ้าของแล้วว่ากันว่าเธอโดนประธานสมาพันธ์นักล่าไนเรลจัดการไปแล้ว”
“ไม่ใช่แค่นั้น อาจจะเป็นสาว ๆ สวย ๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตอนรับพวกนั้นด้วย เพราะฉันตามจีบพวกเธอมาหลายวันแล้วแต่ก็ไม่ได้เบอร์สักที บางที่พวกเธออาจจะโดนไนเรล…”
“บัดซบว่าไงนะ แม้แต่รองประธานก็ไม่เว้น อย่าบอกนะว่าผู้หญิงทุกคนที่เข้าร่วมกับสมาพันธ์ก็โดนเขาจัดการไปด้วย ไม่ได้แล้วฉันจะต้องไปปกป้องเจ้าหญิงนิเรียก่อน”
ขณะที่คนพวกนี้กำลังนินทาไนเรลอย่างเสีย ๆ หาย ๆ อยู่นั้นก็ไม่รู้เลยว่ามีผู้พิทักษ์ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขา
หลังจากนั้นอีกหลายวันก็มีคนเห็นพวกเขาที่สภาพตาปูดหัวโนโดยเฉพาะคนที่คิดไม่ดีกับเอวาที่เป็นเหมือนนายหญิงของสมาพันธ์นักล่าที่ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวัน
วันต่อมาไรอันก็ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับได้รับได้ความสามารถของธาตุไฟ [ควบคุมไฟ F]
ไรอันรีบวิ่งออกมาที่ลานกว้างข้างนอกด้วยความตื่นเต้น ถึงกับลองใช้ความสามารถของตัวเองในทันที
ทันใดนั้นลูกไฟขนาดเท่านิ้วก้อยก็ปรากฏอยู่บนฝ่ามือของเขา ไรอันถึงกลับดีใจเป็นอย่างมาก
“นี่มัน นี่มัน…. ฮ่า ๆ ๆ ในที่สุดฉันก็มีพลังพิเศษ ฉันกลายเป็นมนุษย์ชั้นสูงแล้ว” ไรอันหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา สำหรับเขาแล้วสิ่งที่ไม่เคยขาดแคลนคือเงิน แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นมนุษย์ชั้นสูงมีพลังวิเศษเหมือนกับพี่น้องในตระกูล โลกของเขาก็แทบจะถล่มลงมา เพราะยิ่งอยู่ในที่ที่อำนาจคือทุกสิ่งอย่างเขา ก็ยิ่งรู้ว่าการเป็นมนุษย์ชั้นสูงนั้นคืออำนาจที่แท้จริงและสำคัญมากแค่ไหน
มนุษย์ธรรมดามีอายุขัยไม่เกิน 100 ปี แต่มนุษย์ชั้นสูงนั้นพวกเขาสามารถมีอายุขัยได้ถึง 150 200 300 ปีได้สบาย
ไรอันกำหมัดแน่นพร้อมกับคิดถึงความรุ่งโรจในอนาคตที่ไกลเข้ามา
“เอาแก่นพลังงานออกมา ฉันต้องการที่จะดูดซับมัน” ไรอันแบมือไปทางบอดี้การ์ดของเขา แต่ก็ไม่มีใครส่งมาให้
“ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งหรือ”
“เออ…คือว่าคุณชายได้ใช้แก่นพลังงานทั้งหมดแลกเป็นเงิน G หมดแล้ว ตอนนี้เหลือแต่เงิน 20,000 G”
“เออ…”
เมื่อไรอันนึกขึ้นได้เขาก็ถึงกลับยิ้มไม่ออก แต่เมื่อลองดูในร้านค้าของสมาพันธ์พวกเขาก็เห็นว่ามีแก่นพลังงานขายอยู่เหมือนกันแต่ราคามันแพงขึ้นกว่า 30-80% จากที่เขาขายไปซึ่งนี่เป็นราคาบอกเพิ่มของสมาพันธ์
และเมื่อเลื่อนดูก็มีของคนอื่น ๆ ที่เอามาฝากขายเช่นกันโดยสมาพันธ์จะคิดแค่ค่าธรรมเนียม 5-10% เท่านั้น แต่ทางสมาพันธ์ก็ไม่รับลองสิ่งของที่ทำการแลกเปลี่ยนว่าจะเป็นของจริงแท้แค่ไหน และไม่จัดส่งให้ด้วยเช่นกัน
ไรอันที่ถือการ์ดเก็บเงินที่มีตัวเลข 20,000 G แสดงอยู่เดินเข้าไปซื้อแก่นพลังงานขั้น 2 จำนวน 2 ชิ้นในทันที อย่างไม่มีทางเลือก
หลังจากที่ไรอันเดินออกไป นักล่าที่อยู่โดยรอบก็พากันพูดคุยด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น เมื่อพวกเขาเห็นตัวอย่างของคนธรรมดาแบบไรอันกลายเป็นมนุษย์ชั้นสูงกับตาก็กลายเป็นเหมือนไฟที่ถูกจุดขึ้นมาในจิตใจ
พวกเขาจินตนาการไปถึงขึ้นที่ว่าตนเองได้กลายเป็นมนุษย์ชั้นสูงแล้ว ทันในนั้นทุกคนก็พากันออกไปล่าสัตว์กลายพันธุ์ หรือซอมบี้เพื่อเก็บเงิน G เพราะกลัวว่าผลคริสตัลที่มีร้อยกว่าผลจะหมดลงก่อนเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าจะมีพวกมันอีก
ในขณะที่มนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ ก็เริ่มหาเงิน G เช่นกันเพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่ผลคริสตัลแต่มี ข้อมูลในการเพิ่มพลัง อีกทั้งยังมีเนื้อกลายพันธุ์ในระดับต่าง ๆ อีกมาที่วางขาย รวมไปถึงอาวุธระดับ 4 ที่ถูกสร้างมาจากหอกและหางกระดูกของจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์
เพราะหลังจากที่ความสามารถ [เร่งการเจริญเติบโตของพืช A] ที่ไนเรลใช้ออกมาโดยไม่รู้ตัวถึงแม้ว่ามันจะย่อยสลายส่วนที่เป็นเนื้อไปทั้งหมดแต่มันก็เหลือส่วน หางที่เป็นเหมือนกับแร่ที่แข็งแกร่งและทนทานเป็นอย่างมาก
และด้วยความที่มันมีขนาดใหญ่มากเมสันจึงคิดหาวิธีหลอมมันเป็นอาวุธจนในที่สุดเขาก็ทำมันเป็นดาบหนักที่ยาวกว่า 2 เมตรให้กับไนเรลและเกาะอีกหนึ่งตัว
ส่วนที่เหลือเขาก็หลอมมันเป็นดาบ หอก กระบอง กระทะ เกาะ และของอื่น ๆ ตามที่เขาจะคิดออก ลงขายในสมาพันธ์นักล่า
ในสวนด้านหลังขณะที่ไนเรลกำลังทดลองการใช้ดาบอยู่โดยมีเจ้าแมวน้อยและคาปิบาร่าที่ตอนนี้กำลังกินใบและผลของต้นมันโลหิตกับต้นคริสตัลวิวัฒนาการ
ธีโอกำลังกินผลคริสตัลวิวัฒนาการอย่างใจเย็น ถ้าพวกนั้นมาเห็นสิ่งนี้ละก็พวกเขาจะต้องอาเจียนออกมาเป็นเลือดอย่างแน่นอน
เพราะไนเรลกับใช้ผลคริสตัลเลี้ยงแมวและหนูยักษ์ นี่มันคือการสิ้นเปลืองเกินไป
แต่ไนเรลไม่ได้รู้สึกเสียดายเพราะนี้คือข้อตกลงในการที่พวกมันปกป้องสถานที่นี้ มันก็กินส่วนของมันไป และอีกอย่างอย่าคิดว่ามันเป็นแค่คาปิบาร่าธรรมดา
ถึงไนเรลจะไม่เคยถามแมวน้อยว่าพลังของทั้งคู่ไปถึงขั้นไหนแล้ว แต่ไนเรลสัมผัสได้ถึงพลังของพวกมันว่ามีแต่จะเพิ่มมากขึ้น
เขาคิดว่าถ้าสู้กัน ระหว่างไนเรลและแมวน้อยไนเรลอาจจะพลาดท่าก็ได้เพราะพลังจิตใจของแมวน้อยนั้นน่ากลัวเกินไป
แต่ส่วนเจ้าธีโอเขาไม่แน่ในว่ามันมีพลังอะไร เพราะมันไม่เคยแสดงพลังอะไรออกมาและที่สำคัญมันสงบนิ่งและเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้าไม่สนใจอะไร? ยกเว้นก็ตอนที่แมวน้อยสั่งมันถึงจะวิ่งเร็วขึ้น จนดูไม่เหมือนจะเป็นสัตว์เลี้ยงเชื่อง ๆ ไม่มีอันตรายอะไร
ตูม!
ไนเรลลองฟันที่ก้อนหินขนาดใหญ่กว่า 3 เมตรจนมันแตกออกเป็นเศษเล็ก ๆ เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก และก็หันไปรับผ้าเช็ดหน้าจากเซน
“ท่านไนเรลท่านเอวาบอกว่า ให้ท่านเข้าประชุมในตอนเย็นด้วย เห็นว่าเป็นเรื่องของการประมูลที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้”
“หืม…เรื่องนั้นก็ให้พวกเขาจัดการกันไปเองเลยก็แล้วกัน ถ้าไม่มีอะไรสำคัญจริง ๆ ก็ให้ตัดสินใจกันเองเลย เอ้อให้ไปเตรียมของที่สั่งใส่กระเป๋าไว้ด้วยเดี่ยวหลังจากเรื่องการประมูลผลคริสตัลพลังงานเสร็จสิ้นฉันจะออกเดินทางสักระยะหนึ่ง” ไนเรลเขาคิดถึงเป้าหมายอยู่ในใจนั้นก็คือ คฤหาสน์ตระกูลอาโรเดียแต่ก่อนอื่นเขาจะต้องจัดการเรื่องของสมาพันธ์ให้เรียบร้อยซะก่อน
ไนเรลเก็บดาบหนักกระดูกลงไปหลังจากนั้นก็เดินไปนอนพักที่ใต้ต้นคริสตัลขนาดใหญ่มันสูงกว่า 5 เมตร เขาชอบมานั่งอยู่ที่นี่จนดึกถึงจะกลับไปที่พัก มันอาจจะเพราะในชีวิตก่อนช่วงหลัง ๆ เขาใช้ชีวิตในป่าและนอนตามต้นไม้เยอะทำให้เกิดความเคยชิน
ส่วนเจ้าแมวน้อยและคาปิบาร่าก็มานอนเล่นอยู่ด้านข้างเช่นกัน
ไนเรลหยิบจดหมายครึ่งหลังของปู่เขา ที่ถูกฉีกออกโดยเมสันขึ้นมาดูมันเขียนถึงบางสิ่งว่าที่คฤหาสน์เก่าของตระกูลอาโรเดียนั้นมีคำตอบที่ตามหา ไนเรลจะต้องไปค้นหามันเพราะมันคือเบาะแสเพียงอย่างเดี่ยวในการตามหาตัวปู่ของเขา
ไนเรลเก็บจดหมายลงและหลับตาลงอย่างช้า ๆ …
เที่ยงคืนที่ดึกสงัด ที่นี้มีแค่แสงของจันทร์เต็มดวงและดวงดาวที่สาดสองกระทบกับต้นคริสตัลวิวัฒนาการส่องแสงออกมาอย่างสวยงามรำไร
ใบของมันพัดตามสายลมกระทบส่งเสียงกันไปมา ขณะที่ผลของมันนั้นก็เต็มไปด้วยรูปทรงที่แตกต่างกันไป
ในตอนนี้เองก็ปรากฏเงาดำทมิฬขึ้นที่ด้านหน้าทางเข้าของสวนหวงห้ามโดยที่เหล่าผู้พิทักษ์ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
เงาค่อย ๆ ขยายออกไปเรื่อยเผยให้เห็นร่างของคนจำนวนนับ 10 ในนั้นมี 9 คนที่เป็นระดับสีน้ำตาล ซึ่งมีจีซัสรวมอยู่ด้วย แต่เขาไม่ได้เป็นผู้นำในครั้งนี้ มันกับเป็นชายอีกคนที่มีความสามารถประเภทลึกลับ [เงา S] ระดับ สีเขียว