ในระหว่างทางกลับ ผู้จัดการเฉินรู้สึกเป็นห่วงจริงๆ บางครั้งเขาก็ถอนหายใจก่อนที่จะส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
“ผู้จัดการเฉิน ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเอง เจ้านั้นไม่เกี่ยวข้อง”
“อย่ากลัวไปเลย ดูเจ้าในตอนนี้สิ เจ้าดูน่ากลัวเหลือเกิน”
หลิน ฟานปลอบใจผู้จัดการเฉิน และบอกเขาว่าไม่ต้องกังวล เขาจะยืนอยู่ข้างข้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นใช่ไหม?
แม้ว่าผู้จัดการเฉินจะเป็นคนไม่ดี แต่เขาก็ภักดีต่อตระกูลหลิน
เขานั้นมีแนวโน้มที่รุนแรงต่อคนธรรมดา แต่มันก็ยังอยู่ในระดับที่สามารถยอมรับได้
“นายน้อย ข้าไม่ได้กังวลเรื่องที่จะถูกตำหนิโดยนายท่าน เพราะข้าเห็นด้วยกับสิ่งที่นายน้อยทำ”
“ข้าแค่กำลังคิดเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่นายน้อยสอนบนเรียนให้ ถ้าข้าคิดไม่ผิดเธอจะต้องเป็นคุณหนูของตระกูลซูแน่ๆ”
ผู้จัดการเฉินพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เขาเป็นกังวล
“ตระกูลซู? พวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน?”
หลิน ฟานไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะสามารถทำให้ผู้จัดการเฉินกังวลได้นานขนาดนี้ “พื้นหลังของตระกูลซูคืออะไร?”
“ตระกูลซูเป็นตระกูลชนชั้นสูงจากเมืองหวู่เฉิง และเป็นตระกูลที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางของพลัง ถ้าเธอเป็นคนสำคัญจริงๆละก็ มันคงจะเป็นปัญหาสำหรับนายน้อยและนายท่านเป็นแน่” ผู้จัดการเฉินอธิบาย
เขาไม่ได้ล้อเล่น
แน่นอนว่าด้วยตำแหน่งพิเศษของหัวหน้าตระกูลในเมืองหยูฉางนั้นแข็งแกร่งมาก แม้แต่ตระกูลซูก็ไม่สามารถเข้ามายุ่งได้ อย่างไรก็ตามหากตระกูลซูเลือกที่จะทำสิ่งต่างๆในที่มืด พวกเขาก็จะไม่สามารถป้องกันได้เลย
หลิน ฟานคิดอย่างลึกซึ้งและพูดว่า “ลืมมันไปซะ และหยุดคิดเกี่ยวกับมัน เนื่องจากปัญหามันได้เกิดขึ้นไปแล้ว ทำไมเจ้าต้องเก็บมันมาคิดอีก ตอนนี้มันร้อนมาก รีบกลับกันเถอะ”
“ขอรับ นายน้อย” ผู้จัดการเฉินตอบ
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกประทับใจกับทัศนคติของนายน้อยมาก
เขาไม่ได้เป็นกังวลเลยงั้นเหรอ?
ประตูเมืองหยูฉาง
กลุ่มคนในชุดเกราะพร้อมกับม้ายืนอยู่ตรงนั้น
พวกเขาดูก้าวร้าวจนทำให้คนที่อยู่ใกล้เคียงหลีกเลี่ยง แม้แต่คนที่กำลังเดินเข้าไปก็ระวังพวกเขา เพราะกลัวว่าจะมีปัญหา
“นายน้อยการคาดเดาของข้าถูกต้อง เธอเป็นคนสำคัญของตระกูลซู” ผู้จัดการเฉินกล่าวอย่างกังวล
หลิน ฟานไม่ได้สนใจ “เจ้าจะกลัวไปทำไม? เธอจะทำอะไรข้าได้? ลืมไปซะแล้วเข้าเมืองกันเถอะ”
“ลูกพี่ลูกน้องไม่ต้องกังวล ข้าจะปกป้องท่านเอง” โจว เชียงเหมาพูด
โกวชิสูดหายใจเข้าลึกๆ มันเป็นเพราะว่าเขาก็กลัวเช่นกัน อย่างไรก็ตามเพื่อนายน้อยเขาต้องทำตัวให้เหมือนปกติ
เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากประตูไม่กี่ก้าว
พวกเขาก็สังเกตเห็นใบหน้าบวมๆซู หลาน เธอกำลังมองคนที่เดินผ่านไปมาด้วยสีหน้ามืดมน
ชายชราข้างๆเธอดูโกรธมาก
หากเขาพบคนที่ทำร้ายคุณหนูเจ็ด เขาจะฆ่ามัน
ความแตกต่างระหว่างผู้คนจากตระกูลที่ร่ำรวย กับคนธรรมดานั้นชัดเจนมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่หลิน ฟานแต่งตัวหรูหรามากกว่าคนทั่วไป มันจึงทำให้เขาหล่อเหลามากขึ้น
ซู หลานมองผู้คนที่เดินผ่านหน้าเธอไป และเมื่อหลิน ฟานหร้อมกับกลุ่มของเขาปรากฏตัว เธอก็มองไปที่พวกเขา
“หยุด”
ทันใดนั้น ซู หลานก็เปิดปากของเธอ การ์ดที่อยู่รอบๆเดินมาขวางทางพวกเขาเอาไว้
หลิน ฟานใจเย็นและไม่มีความผันผวนทางอารมณ์เลย เมื่อเขาเห็นใบหน้าของซูหลาน เขาทำท่าตกใจ จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึกๆ “ไอหยา ใครกันที่กล้าโจมตีหญิงสาวที่สวยงาม และทำให้เธออยู่ในสภาพเช่นนี้?”
“ความโกรธ +20”
ตามที่เขาคาดไว้ เธอได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากคำพูดเหล่านั้น
ผู้หญิงทุกคนรักสวยรักงาม
แม้ว่าอาการบาดเจ็บของเธอจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่อาการบวมของเธอมันไม่หายไปเร็วๆนี้แน่
ซู หลานมองไปที่หลิน ฟานและพบว่าเขาค่อนข้างคุ้นเคย แต่เธอก็ไม่แน่ใจ
“คุณหนู มันเป็นเขาใช่รึไม่?”
สายตาของชายชราเปลี่ยนเป็นแหลมคม ถ้าเธอพยักหน้า เขาก็พร้อมที่จะพุ่งไปจัดการชายตรงหน้าเขาทันที
ผู้จัดการเฉินสังเกตเห็นเจตนาฆ่าในสายตาของชายชรา เขาตกใจและรีบพูดอย่างรวดเร็ว
“เจ้าคิดจะทำอะไร? ท่านนี้คือนายน้องของตระกูลหลินนะ”
เขารู้ตัวอยู่แล้วว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายชรา นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงชิงประกาศตัวตนของนายน้อยก่อน
ที่นี่คือเมืองหยูฉาง แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นตระกูลซู แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรกับนายน้อยแน่
ไม่อย่างนั้นก็ลืมเรื่องที่จะกลับไปได้เลย
“ที่เจ้าพูดแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง? ข้าดูเหมือนคนที่ชอบใช้สถานะของตนรังแกผู้อื่นงั้นรึ?” หลิน ฟานอารมณ์เสียเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะเป็นบุตรชายของตระกูลที่ร่ำรวย แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะใช้สถานะของเขามาทำอะไรแบบนี้
เขาไม่อยากจะทำตัวเป็นจุดเด่นมากนัก และจะใช้บุคลิกเพื่อปราบปรามผู้คน
เจ้ารู้ใช่ไหมว่าบุคลิกมันหมายความว่ายังไง?
อ่า ช่างเถอะ แม้ว่าข้าจะอธิบายไปยังไงพวกเจ้าก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี
“ขอรับ นายน้อย ขอบคุณท่านสำหรับคำชี้แนะ หลังจากนี้ข้าจะจัดการปัญหาด้วยตัวเอง” ผู้จัดการเฉินพูด
“อืม ครั้งต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก เพราะข้าไม่ใช่คนแบบนั้น เจ้าลองมองไปที่นางสิ นางยังเด็กและน่ารักมาก ราวกับว่านางไม่ใช่คนจากโลกนี้”
“เมื่อนางได้พบกับเรื่องแบบนี้ในเมืองหยูฉาง เราก็ไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้ ดูสิ เจ้าเห็นไหม แม้แต่ผู้อาวุโสก็ยังโกรธเลย ”
คำพูดของหลิน ฟานมันฟังดูสมเหตุสมผล
ผู้จัดการเฉินกระพริบตา
นายน้อยเรียนรู้วิธีโกหกหน้าตายมาจากไหน?
ผู้หญิงคนนั้นถูกทำร้ายโดยพวกท่านสองคน แต่ตอนนี้ท่านกลับทำเป็นไม่รู้เรื่อง
โชคดีที่ในบริเวณนั้นมีเพียงแต่พวกผู้ลี้ภัยเท่านั้น
มันอาจจะใช้เวลาสักพักในการดึงความจริงออกมาจากปากพวกมัน
“บุตรชายของหลิน วานยี่” ชายชรามองมาที่หลิน ฟานและพึมพำ จากนั้นเขาก็ประสานมือคำนับ“งั้นท่านก็คือนายน้อยหลินนี้เอง ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ส่วนท่านนี้คือคุณหนูเจ็ดของตระกูลซู ท่านได้รับบาดเจ็บจากคนชั่ว และตอนนี้เราก็กำลังหามันอยู่”
ชายชราเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนายน้องของตระกูลหลินคนนี้มาก่อน
ชายที่แข็งแกร่งเช่นหลิน วานยี่มีบุตรชายเมื่อเขาอายุย่างเข้าสี่สิบ ผู้คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบุตรชายคนนี้จะต้องเป็นมังกรอีกตัวในตระกูลหลิน
อย่างไรก็ตาม มันมีข่าวลือออกมาว่านายน้อยของตระกูลหลินคนนี้ไม่ต้องการที่จะฝึกฝน และไม่ทำอะไรเลยนอกจากสนุกกับชีวิตไปวันๆ ภายนอกเขาดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่มีเมตตา แต่หลังจากที่ลองสำรวจดูดีๆแล้ว เขาก็พบว่าชายที่อยู่ตรงหน้าดูไม่เหมือนคนที่รู้วิธีปลูกฝัง
ข่าวลือเป็นจริง
“คุณหนูเจ็ดไม่ต้องกังวล เราจะไม่ปล่อยเรื่องที่คุณหนูเจ็ดโดนโจมตีในเมืองหยูฉางไป ได้โปรดให้ข้าช่วยท่านหาคนร้ายด้วยเถอะ” หลิน ฟานกล่าว
หลังจากพูดแบบนั้นเขาก็ชี้ไปที่ใบหน้าของซู หลาน
“ลองมองดูสิ ดอกไม้ของตระกูลใหญ่ ความงามที่สามารถทำให้ประเทศล่มสลายได้ กลับกลายเป็นเช่นนี้ หากในอนาคตมีรอยแผลใดเกิดขึ้นบนนั้นอีก มันจะไม่เป็นการทำลายงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบงั้นเหรอ?”
หลิน ฟานถอนหายใจ เขาเสียใจ และดูเจ็บปวดมาก มันดูราวกับว่าอารมณ์ของเขาจะมาจากใจจริง
ผู้จัดการเฉินต้องการโขกหัวของเขาเข้ากับกำแพงจนตาย
นายน้อย ท่านช่วยอยู่เงียบๆหน่อยไม่ได้รึไง?
เพราะยิ่งพูดมากเท่าไหร่ ความจริงก็จะยิ่งถูกเปิดเผยมากขึ้นเท่านั้น
พวกเขาไม่สามารถเก็บมันเอาไว้เป็นความลับได้ เพราะเมื่ออีกฝ่ายเริ่มตรวจสอบ ความจริงมันจะต้องปรากฏออกมาแน่นอน
ในตอนนี้บรรยากาศเริ่มน่าอึดอัดใจมากขึ้น
“ความโกรธ +50”
“ความโกรธ +80”
มันเริ่มเพิ่มขึ้น
ดูเหมือนว่าเขาจะพูดจี้ใจดำเธอ
ซู หลานยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอ
โกวชิที่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ
นายน้อยของเขาสุดยอดมาก เขาไม่ได้เสียความสงบของเขาเลย
โจว เชียงเหมารู้สึกว่าสิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาพูดมามันถูกทั้งหมด
เขายังรู้สึกอีกด้วยว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขาค่อนข้างโง่
เธอถูกทำร้าย และไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ?
ดวงตาของเธอมีปัญหางั้นเหรอ?
ซู หลานโกรธมาก และเห็นด้วยกับสิ่งที่หลิน ฟานพูดมา เธอสามารถทำให้ประเทศล่มสลายได้ด้วยความงามของเธอ ดังนั้นไอบ้าคนไหนกันที่ทำร้ายเธอ?
หลิน ฟานมองไปที่เธอจากนั้นเขาก็ส่ายหัว “ดูสิ เธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงมาก มันจะต้องส่งผลกระทบต่อใบหน้าของเธอแน่นอน”
“โดยเฉพาะรอยมือนั่น มันเป็นตัวทำลายความสมบูรณ์แบบจริงๆ”
“ความโกรธ +100”
“ความโกรธ +120”
คะแนนความโกรธเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
หลิน ฟานยกมือขึ้น จากนั้นก็กางมันออก เมื่อเทียบดูแล้วจะพบว่าสิ่งนี้ตรงกับรอยบนใบหน้าของเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยตนเอง
“นี่มันน่าสนใจจริงๆ ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นใคร เพราะตัวข้านั้นไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน”
“นี่มันเป็นการหยามข้าชัดๆ เพราะดูๆแล้วรอยนิ้วมันดันตรงกับของข้าพอดี”
ชายชราที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว และรู้สึกราวกับว่านายน้อยหลินคนนี้กำลังพยายามจะบอกอะไรบางอย่าง เขาจมลงไปในความคิด
“ผู้จัดการเฉิน ตอนนี้มันจะสายแล้ว กลับกันเถอะ” หลิน ฟานรู้ว่าถ้าเขาพูดแบบนี้ต่อไปอีกฝ่ายจะรู้ตัวเป็นแน่ ดังนั้นตอนนี้เขาควรจะกลับบ้านได้แล้ว “คุณหนูเจ็ด ท่านอาวุโส เรายังมีสิ่งที่ต้องทำต่อ ถ้าท่านมีปัญหาท่านสามารถมาหาข้าที่ตระกูลหลินและขอความช่วยเหลือ หรือว่าจะมาสนทนาเรื่องต่างๆกันก็ได้ ข้ายินดี”
ชายชราคำนับ “ขอบคุณนายน้อยสำหรับความเมตตาของท่าน”
ซุ หลานถูใบหน้าของเธอ จากนั้นเธอก็คำนับเล็กน้อย
หลิน ฟานเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วพร้อมคนของเขา
ใบหน้าของชายชราเปลี่ยนเป็นเย็นชา “คุณหนู ลูกชายของตระกูลหลินคนนี้ดูเหมือนว่าจะมีเจตนาไม่ดี ข้าคิดว่าเขากำลังแกล้งท่านอยู่”
“ข้าไม่สนใจ ข้าแค่ต้องการค้นหาคนที่ทำร้ายข้า และฉีกร่างของมันออกเป็นชิ้นๆ” ซู หลานกล่าวอย่างเย็นชา
“สำหรับเขาเหรอ? ข้าแค่รู้สึกว่าเขาแตกต่างจากคนอื่นเท่านั้น”