I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 72 ถ้าเจ้ากล้ากัด ข้าก็กล้ายิง

I Don’t Want To Defy The Heavens DTH ตอนที่ 72 ถ้าเจ้ากล้ากัด ข้าก็กล้ายิง

 

“ความโกรธ +333”

 

“ความโกรธ +123”

 

จากการร่วมมือกันของพวกเขาทําให้ผลลัพธ์ที่ได้มาเริ่มเบ่งบาน

 

ว้าว ช่างครอบงําเสียจริง เขาได้รับคะแนนความโกรธมาสองชุดทันที

 

อันที่น้อยกว่าน่าจะเป็นของหยวน เทียนชู ส่วนอันที่มากกว่าก็น่าจะเป็นของหวัง หยุนเฟย

 

ความโกรธที่ปะทุขึ้นมาเกิดจากการที่เขาเพิกเฉยต่ออีกฝ่ายเป็นผลให้ฝ่ายที่ถูกละเลยรู้สึกเหมือนถูกดูหมินและรู้สึกด้อยค่า มันช่างเป็นความรู้สึกที่น่าอึดอัดจริงๆ

 

สําหรับคนที่เขาทําให้ขุ่นเคือง?

 

นั่นไม่ใช่เรื่องตลกใช่ไหม? จนถึงตอนนี้ไม่ใช่ว่าเขาทําให้คนจํานวนมากขุ่นเคืองไปแล้วงั้นเหรอ?

 

สองในสามของตระกูลชนชั้นสูงในเมืองหยูฉางถูกเขาทําให้ขุนเคืองไปแล้ว หากตอนนี้เขาจะเพิ่มไปอีกหนึ่งตระกูลมันก็คงไม่ต่างกันมากนัก อย่างไรก็ตามพ่อที่ไม่ได้มีความเห็นที่ดีต่อเขาก็ถือได้ว่าเป็นครึ่งหนึ่งของคนที่เขาทําให้ขุ่นเคือง

 

ส่วนเรื่องการกลั่นแกล้งคนธรรมดาเขาไม่มีทางทําแบบนั้นอยู่แล้ว หากเขาอยากจะกลั่นแกล้งเขาคงเลือกเป้าหมายเป็นชายที่แข็งแกร่งดีกว่าหากเขาจะทําเช่นนั้น

 

“ลูกพี่ลูกน้องเจ้าอยู่ไหน?” หลิน ฟานยังคงหาต่อไป

 

“ลูกพี่ลูกน้องข้าอยู่นี่!” โจว เชียงเหมาโบกมือ ทําให้ปีศาจหยินที่อยู่ด้านหลังของเขาสัมผัสเข้ากับหยวน เทียนชู เขารู้สึกหวาดกลัวและอยากจะด่าแม่ของคนที่ทํา

 

เชี่ย!

 

ข้าเกือบจะโดนเจ้าสิ่งที่แกว่งอยู่ในอากาศ

 

พวกเขาจงใจ พวกเขาต้องจงใจอย่างแน่นอน

 

ช่างน่ารังเกียจอะไรเช่นนี้

 

หลิน ฟานและโจว เชียงเหมาเพิกเฉยต่อการดํารงอยู่ของหวัง หยุนเฟยโดยสิ้นเชิง

 

“ลูกพี่ลูกน้อง เจ้าไปไหนมา? ข้าต้องตามหาเจ้าซะตั้งนาน” หลิน ฟานกล่าว

 

โจว เชียงเหมารู้สึกอายเล็กน้อย “ลูกพี่ลูกน้องข้าไม่ได้ไปไหน ข้าแค่หลงทาง

 

ในคําพูดของพวกเขาเห็นได้ชัดเลยว่าทั้งสองไม่ได้มองว่าหยวนเทียนชูและหวังหยุนเฟยเป็นคนปกติ และปฏิบัติต่อพวกเขาดั่งคนตาบอด

 

“นายน้อยหลิน เจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่ข้าพูดกับเจ้าจริงๆงั้นรึ?”

 

หวัง หยุนเฟยรู้สึกโกรธในใจ นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทําไมเขาถึงไม่สนใจข้า?

 

ในฐานะนายน้อยของตระกูลชนชั้นสูง ทําให้เขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีซึ่งตามปกติแล้วเขาจะไม่โกรธหรือหงุดหงิดง่าย

 

แต่หลิน ฟานกลับปฏิบัติต่อหวัง หยุนเฟยราวกับอากาศเหมือนเขาไม่ได้ยินสิ่งที่พูด ขณะที่เขายังคงสนทนากับลูกพี่ลูกน้องของเขาต่อไป

 

“ความโกรธ +444”

 

คะแนนความโกรธที่เพิ่มขึ้นทําให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย

 

ชายคนนี้ต้องเอาแต่ใจขนาดไหนกันถึงให้คะแนนความโกรธมากขนาดนี้? หรือเป็นเพราะพวกเขาเป็นคนแปลกหน้าจึงทําให้คะแนนความโกรธที่ได้มันมากหน่อย?

 

หวัง หยุนเฟยไม่เคยถูกละเลยเช่นนี้มาก่อน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับการคุยแบบตัวต่อตัวระหว่างพวกเขาที่อยู่ห่างกันไม่เกินครึ่งเมตรแบบนี้ แม้ว่าจะตาบอดจริง แต่หูคงไม่หนวกด้วยถูกไหม?

 

จงใจ นี่จะต้องเป็นการจงใจอย่างแน่นอน

 

เพราะหลิน ฟานและโจว เชียงเหมามีทักษะการแสดงที่ค่อนข้างแย่

 

มันแย่มาก แย่มากจริงๆ

 

แต่ทักษะการแสดงที่แย่เช่นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้ทุกคนโกรธ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับเขาที่เป็นนายน้อยของตระกูลชนชั้นสูงที่มีตําแหน่งดีและเป็นที่ชื่นชอบของคนนับพัน การที่จู่ๆเขาก็ถูกเพิกเฉยเช่นนี้มันจึงทําให้ความคิดของเขาพังทลายลงไปอย่างง่ายดาย

 

แต่ก็ไม่เลวนัก

 

สําหรับเขาที่สามารถทนต่อความอัปยศเช่นนี้ได้นั้นค่อนข้างดี แต่มันก็บอกได้ยากนักว่าเขาจะสามารถทนไปได้อีกนานแค่ไหน

 

“นายน้อยหวัง โปรดใจเย็นลงก่อนและอย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย” หยวน เทียนชูกล่าว

เขาจะไม่ปล่อยให้หวังหยุนเฟยและหลิน ฟานมีความขัดแย้งกัน แน่นอน

 

เพราะถ้าหากความขัดแย้งระหว่างพวกเขาเกิดขึ้นจริง ฝ่ายที่จะโชคร้ายคงจะเป็นพวกเขา

 

เหตุเพราะลูกพี่ลูกน้องของชายคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่ในร่างมนุษย์ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นคนที่โหดร้าย

 

และการทุบตีหวัง หยุนเฟยก็จะเป็นตัวจุดประกายให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองตระกูล แต่ตระกูลหยวนก็คงจะต้องบอกลาตระกูลหวังเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วนายน้อยหวังก็ถูกทุบตีในเขตของตระกูลหยวน

 

ทําให้พวกเขาไม่สามารถหาข้ออ้างได้

 

หวัง หยุนเฟยถอนหายใจ เดิมที่แล้วเขาเป็นคนพูดคํานั้นกับหยวน เทียนชู แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะต้องใช้มันกับตัวเองเช่นกัน

 

เจ้าสารเลวเอ๊ย!

 

“อ้าวพี่หยวน ท่านก็กําลังจะไปทางนี้เหมือนกันหรือ?” หลิน ฟานถามออกมา

 

หยวน เทียนชูจ้องไปที่หลิน ฟานราวกับกําลังจะกลืนหลิน ฟาน เข้าไปทั้งตัว

 

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

 

ประเด็นคือเขาหูหนวกจริงๆงั้นหรือ?

 

นายน้อยหวังคุยกับเขาตั้งนาน แต่เขากลับทําเป็นไม่ได้ยิน เขาต้องเก่งขนาดไหนกัน

 

“นายน้อยหลิน ข้ากําลังพูดกับเจ้าอยู่” หวัง หยุนเฟยอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

 

น่าเสียดายที่หลิน ฟานและโจว เชียงเหมาไม่ได้สนใจ และทําเพียงกระพริบตาขณะมองไปทางหยวน เทียนชู สําหรับหวัง หยุนเฟยที่กําลังพูดอยู่ก็ถูกพวกเขาเพิกเฉยอีกครั้ง

 

“นี่เจ้าจะทําตัวเหมือนไม่มีใครพูดกับเจ้าจริงๆงั้นหรือ?” หยวน เทียนชูถาม

 

ทันใดนั้นเขาก็พบว่าชายคนนี้เป็นปีศาจ

 

นายน้อยหวังพูดกับเขาไปมากมาย แม้ว่าเขาจะไม่สนใจแต่อย่างน้อยเขาก็ควรจะตอบกลับไปบ้างเพื่อพิสูจน์ว่าเขาได้ยิน แต่เขากลับไม่ทําเช่นนั้น

 

ทัศนคติแบบนี้มันอะไรกัน?

 

ละเลย เขาละเลยอีกฝ่ายโดยสมบูรณ์

 

หลิน ฟานยิ้มและพูดออกมา “ไม่ใช่แค่พี่หยวนเท่านั้นหรือที่คุยกับข้า? แล้วมีเรื่องอะไรกัน? ท่านมีอะไรจะพูดกับข้างั้นรึ?”

 

ใบหน้าของหวัง หยุนเฟยเริ่มน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ

 

เมื่อหยวน เทียนชูเห็นว่าใบหน้าของนายน้อยหวังน่าเกลียดแค่ไหน เขาจึงกลัวขึ้นมาว่าหากอยู่แบบนี้ต่อไปเขาอาจจะเป็นลมได้ เขาจึงตัดสินใจลากนายน้อยหวังออกไปทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคํา

 

เขาไม่ต้องการพูดกับหลิน ฟานมากไปกว่านี้ แม้แต่ประโยคเดียว เขาก็ยังรู้สึกว่าเสียเวลา

 

หวัง หยุนเฟยถูกหยวน เทียนชูดึงออกไป ขณะที่เขากําลังจะจากไปสายตาของเขายังคงมองตรงมายังหลิน ฟาน

 

ราวกับเขาจะบอกว่า เจ้ากล้ามาก ข้าจะจําเจ้าไว้

 

เพราะมันไม่เคยมีใครกล้าละเลยและไม่สนใจเขาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้มาก่อน

 

“นายน้อย เราจะกลับกันเลยไหมขอรับ?” โกวชิถาม

 

เขารู้สึกว่าเรื่องทุกอย่างมันจบแล้ว

 

หลังจากการเล่นที่ยาวนานของนายน้อยก็ควรจะเป็นเช่นนั้น ชายคนนั้นโกรธมากจนแทบจะกระอักเลือด หากเขาเป็นนายน้อย เขาจะหยุดและทําเป็นลืมมันไป

 

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่นายน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจว่าทําไมนายน้อยถึงใช้วิธีที่น่ารังเกียจเช่นนี้

 

หากจะกล่าวให้ตรงประเด็น

 

เขาฆ่าไก่เพื่อคว้าไข่ ส่วนเรื่องที่จะได้รับไข่อีกหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องที่เขาจะมาสนใจ

 

“กลับทําไม? เร็วเข้ารีบตามพวกเขาไปให้ไว” หลิน ฟานกล่าว “ลูกพี่ลูกน้องอย่าลืมเอามันจ้องไปที่พวกเขาด้วยล่ะ”

 

“ไม่ต้องกังวลไปลูกพี่ลูกน้อง” โจว เชียงเหมาตอบ

 

วิธีนี่มันน่ารังเกียจมาก แต่สําหรับเขาแล้ว เขาจะทําทุกอย่างที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาขอโดยไม่ถามให้มากความ

 

ไกลออกไป

 

“นายน้อยหวัง อย่าโกรธไป” หยวน เทียนชูปลอบ

 

เมื่อเห็นนายน้อยหวังโกรธ เขาก็รู้สึกได้ถึงปัญหาแต่ไม่รู้ทําไมอารมณ์ของเขาถึงดีขึ้นมาก

 

หากจะให้พูดว่าใครโกรธมากที่สุดในที่นี้ก็คงหนีไม่พ้นนายน้อยหวัง เขาถูกเพิกเฉยจนกลายเป็นเหมือนคนไม่มีตัวตน

 

“ไม่โกรธเหรอ? พี่หยวนจะไม่ให้ข้าโกรธได้อย่างไร? ตัวข้านั้นไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่านายน้อยจากตระกูลหลินจะหยิ่งพยองเช่นนี้ ขนาดข้ากําลังยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขา แต่พวกเขาก็ทําราวกับไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา แบบนี้ไม่เรียกว่าดูถูกแล้วจะให้ข้าเรียกว่าอะไร?”

 

หวัง หยุนเฟยโกรธมาก

 

พวกเขามันบ้า!

 

“หากเขาอยู่ในเมืองหลงละก็ ข้าจะทําให้เขารู้ว่าจุดจบของคนที่ไม่สนใจข้าเป็นอย่างไร!”

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่นายน้อยหวังกล่าว หยวน เทียนชูก็ทําได้เพียงแค่เห็นใจ

 

ตอนนี้มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การโหมไฟ

 

เพราะถ้าตระกูลหลินอ่อนแอเขาจะต้องทําเช่นนั้นอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ตระกูลหลินไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันมีบางอย่างที่ไม่สามารถแตะต้องได้มิฉะนั้นมันอาจจะเป็นตัวเขาเองที่ต้องทนทุกทรมาน

 

“ข้ารู้เกี่ยวกับความสามารถของพี่หวังดี แต่ข้าว่าท่านลืมมันไปเถอะ อย่าลดตัวไปอยู่ระดับเดียวกับเขาเลย เขามันก็แค่ขยะที่ต้องพึ่งพาตระกูลของเขาเท่านั้น” หยวน เทียนชูกล่าว

 

ทันใดนั้นลมก็พัดผ่านพวกเขาไป

 

หยวน เทียนชูหันกลับมาและตกตะลึงโดยสิ้นเชิง

 

สิ่งนั้นปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง

 

ด้วยความที่โจว เชียงเหมาขยับตัวมากเกินไปเล็กน้อยจึงทําให้ขาที่สามของปีศาจหยินแกว่งไปมาราวกับกําลังยั่วยุพวกเขา

 

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset