Abe the Wizard (AtW) – AtW ตอนที่ 82 ชายผู้น่ารังเกียจ

Abe the Wizard (AtW) AtW ตอนที่ 82 ชายผู้น่ารังเกียจ

AtW ตอนที่ 82 ชายผู้น่ารังเกียจ

 

“ในที่สุดก็จบสักที!” ดาเรนถอนหายใจออกในตอนนี้เขารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ความรู้สึกที่ถูกจับตามองโดยโวร์แกนกว่าร้อยชีวิ ตนั้นไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลยแม้ว่าดาเรนจะเคยแลกเปลี่ยนกับพวกโวร์แกนหลายครั้งแล้วก็ตามแต่ทุกครั้งเขาก็จะรู้สึกกลัวอย่างช่วย ไม่ได้

 

ดาเรนมีรถม้าขนาดใหญ่คันหนึ่งอยู่กับตัว แต่รถม้าคันนี้ไม่ได้หรูหราแม้แต่น้อย ดาเรนเป็นเพียงแค่นักธุรกิจธรรมดาเพียงเท่านั้น ดังนั้นแล้วรถม้าของเขาจึงถูกออกแบบมาเพื่อขนส่งสินค้าทั้งนั้น ตอนนี้สินค้าทุกอย่างที่เขากําลังขนไปคือถุงที่ได้มาจากอาณาจักรออร์คนั่นเองดังนั้นแล้วการขนส่งสินค้าในครั้งนี้จึงดูว่างเปล่าเป็นอ ย่างมาก

 

ดาเรนได้ตบไปที่ถุงใบใหญ่ที่กําลังอยู่ข้างๆ กับตัวเขาในตอนนี้ใบหน้าอันอวบอ้วมของดาเรนกําลังเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากนั้นดาเรนก็พูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ”กําไรจากการทําธุรกิจจากทั้ง 10 ปีที่ผ่านมายังไม่ได้กําไรเหมือนกับวันนี้เลยขอบคุณพระเจ้า!”

”เรส เร็วเข้า เมื่อนายถึงเมืองเมื่อไรนายจะได้รับรางวัลเร็วเท่านั้นนะ!”ดาเรนพูดกับชายผู้ขับรถม้าตอนนี้ดาเรนรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะเงินที่เขาได้รับมานั้นเป็นเงินที่จํานวนมากนั่นเอง

 

ชายผู้ขับรถม้าชื่อเรสเขาเป็นนักรบรุ่นเยาว์ที่รับหน้าที่เป็นผู้กันของดาเรน มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าดาเรนกําลังได้รับผลกําไรมากแค่ไหนดังนั้นแล้วดาเรนจึงไปกับเรสผู้คุ้มกันที่เขาไว้วางใจที่สุด

“ได้เลยครับท่าน” ม้าที่เรสกําลังขี่อยู่ด้อยกว่าม้าศึกนั่นเองแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเรสก็สามารถทําให้มันวิ่งเร็วได้อยู่ดี

 

ถึงแม้ว่าม้าตัวนี้จะสามารถเร่งความเร็วได้ แต่ดาเรนเองก็ยังไม่พอใจอยู่ดีตอนนี้ดาเรนก็ยังไม่สามารถทําอะไรได้อยู่ดี ดาเรนพูดออกไปอย่างไม่มีความสุข “ฉันไม่อยากจะใช้ม้าแบบนี้อีกแล้ว ถ้าฉันกลับไปเมืองได้ฉันจะซื้อม้าศึกแน่นอน”

เรสไม่ได้ตอบอะไรดาเรน ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่เข้าใจดีว่าการที่จะซื้อม้าศึกนั้นเป็นเรื่องที่เป็ฯไปไม่ได้เลย การจะซื้อม้าศึกได้มีเพียงอัศวินเพียงเท่านั้น ถึงแม้ว่าคนธรรมดาจะมีเงินมากแค่ไหนก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่สามารถซื้อม้าศึกได้อยู่ดี หากไม่ได้ยืนยันตัวตนแล้วละก็คนคนนั้นที่พยายามจะซื้อม้าศึกก็จะถูกศาลของพวกขุนนางลงโทษข้อหาดูหมิ่นอยู่ดี

 

” เมื่อฉันมีเงินมากพอแล้วละก็ฉันจะไปขอซื้อม้าพวกนั้นกับดยุคทันเดอร์เองฉันได้ยินมาว่าใครก็ตามที่บริจาคมากพอจะสามารถ เป็นลอร์ดได้นั่นเองเมื่อฉันเป็นลอร์ดแล้วฉันจะให้นายเป็นอัศ วินของฉันเอง”ใบหน้าอันอวบอ้วนของดาเรนกําลังคิดถึงจินตนา การที่กําลังจะเป็นจริงอยู่

 

รถม้าที่พวกเขาสองคนกําลังนั่งอยู่หยุดลงกลางทาง: “เรสทําไมถึงหยุดรถอย่างงั้นล่ะ?”

 

เมื่อรถม้าได้หยุดลงดาเรนก็ได้เปิดรถม้าในทันที ตอนนี้เขาเห็นอัศวินที่กําลังสวมใส่ชุดเกราะสีน้ําเงินคนหนึ่งกําลังขวางหน้าร ถม้าของเขาไว้เรสที่เป็นเหมือนกับผู้คุ้มกันนั้นถูกอัศวินคนนั้นคว้าแขนของเขาเอาไว้แล้วตอนนี้เรสไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป เขาถูกรัดคอโดยอัศวินคนนั้นนั่นเอง

 

อัศวินที่มาขวางทางรถม้าเอาไว้คืออาเบล เป็นไปไม่ได้เลยจะมีสายข่าวรายงานเรื่องที่ดาเรนร่วมมือกับพวกโวร์แกนได้อาเบลที่ปรากฏตัวขึ้นมาตอนนี้รัดคอของเรสเอาไว้จนเกือบจะหมดลมหายใจจนท้ายคอของเรสก็ถูกหักไป ตอนนั้นอาเบลใช้เพียงแรงของเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

อาเบลกําลังลังเลใจของเขาอยู่ ความแข็งแกร่งที่ตัวเขานั้นไม่หยุดที่จะเพิ่มมากขึ้นเลย เมื่ออาเบลได้ฝึกฝนการหายใจในแบบของอัศวินทุกครั้ง ในตอนกลางคืนเองตัวอาเบลก็จะปล่อยพลังลมปราณสีทองออกมาโดยรอบร่างกายของตัวเขาไว้ ดูเหมือนว่าพลังลมปราณอันนี้เองจะทําให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม ในตอนที่อาเบลรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้ตอนนั้นเขาใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นของตัวเองนั่นเอง

 

ใครก็ตามที่คิดจะจัดการกับนักรบรุ่นเยาว์แบบนี้ได้เขาคนนั้นคิดแบบแล้วนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงนักรบเท่านั้นแต่ร่างกายของพวกนักรบก็ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แน่นอนว่าพวกเขานั้นจะต้องมีพละกําลังที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเป็นอย่างมาก

อาเบลลืมไปสนิทเลยว่าตัวเขานั้นมักจะฝึกฝนกับอัศวินระดับกลางอย่างอัศวินมาแชลอยู่เป็นประจํา ร่างกายของอัศวินระดับกลางกับนักรบรุ่นเยาว์นั้นเป็นอะไรที่จะเทียบเคียงกันไม่ได้เลยแม้แต่อัศวินฝึกหัดระดับห้าก็ยังคงแข็งแกร่งกว่าร่างกายของนักรบรุ่นเยาว์คนนี้ไปแล้ว ถึงแม้ว่าพวกอัศวินและพวกนักรบนั้นจะผ่านการ ฝึกฝนที่หนักมาเหมือนกัน แต่สิ่งที่พวกนักรบยังขาดไปนั่นคืออาหารที่ดีนั่นเองโดยปกติแล้วอาเบลจะมีเนื้อสัตว์ส่วนที่ดีที่สุดกินอยู่เสมอ

 

หลังจากที่เผลอฆ่าเรสไป อาเบลก็ได้โยนศพของคนขับรถม้าคนนี้ออกไปด้วยมือเพียงข้างเดียวการที่จะฆ่าคนขับรถของดาเรนไปนั้นไม่ใช่ความผิดของอาเบลเลย ถ้าหากจะใช้กฎหมายตัดสินพวกเขาเหล่านี้แล้วแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องโดนโทษประ หารทั้งตระกูลอย่างไม่ต้องสงสัย

ร่างกายของเรสกระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรง ร่างกายของดาเรนที่อวบอ้วนนั้นกําลังสั่นไหวไปด้วยความกลัวตอนนี้ดาเรนทําได้เพียงกัดฟันและตั้งท่าที่จะต่อสู้แต่เพียงเท่านั้น ร่างกายท่อนร่างของดาเรนกําลังสั่นไปหยุดสุดท้ายแล้วกางเกงของเขาก็เปียกในที่สุด ดูเหมือนว่านี่ที่เต็มไปด้วยความกลัวโวร์แกนของชายที่ชื่อดาเรนกําลังไหลออกมาแล้วในท้ายที่สุดนั่นเอง

เมื่ออาเบลเห็นกิริยาท่าทางของชายวัยกลางคนคนนี้แล้วเขา กลับรู้สึกโกรธและรู้สึกตลกในเวลาเดียวกันตัวจริงของนักธุรกิจคน นี้ที่กล้าทรยศต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ของตัวเองแท้จริงแล้วเป็นแค่หนูที่ แสนจะขี้ขลาดนี้เองอาเบลไม่รู้เลยว่าชายคนนี้กล้าที่จะติดต่อกับโวร์แกนได้ยังไงกัน

“ได้โปรด อย่างฆ่าฉันเลย ฉันจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายต้องการ เอง!” ดาเรนได้ขอร้องอัศวินคนนี้ตอนนี้เขายังไม่เห็นใบหน้าขอ งอัศวินคนนี้เนื่องจากหมวกที่เขากําลังสวมใส่อยู่ปกปิดใบหน้าของเขาไว้นั่นเองอาเบลไม่แปลกใจเลยที่ทําไมดาเรนถึงกล้าที่จะขอร้อง เขาแบบนี้ แน่นอนว่าถ้าใครมาเห็นดาเรนติดต่อทําธุรกิจกับโวร์แกน เขาและครับครัวจะต้องถูกลงโทษอย่างสาสมแน่นอนแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่อันแรงกล้าของเขาก็ได้ทําให้ชายที่ชื่อดาเรนเอ่ยปากขอร้องอ้อนวอนออกมา

“งั้นพูดออกมาซ่ะ ว่าทําไมนายถึงติดต่อกับพวกโวร์แกนพวกนั้นได้?” อาเบลขมวดคิ้วระหว่างที่ถามดาเรน ในระหว่างนั้นเองอา เบลก็ได้ถอยห่างจากชายคนนี้มากขึ้นเพราะร่างกายของชายคนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของฉ่อยู่นั่นเอง

“ฉันแค่ให้อาหารกับพวกโวร์แกนก็เท่านั้นเอง พวกเราไม่ได้ทําอะไรกันสักหน่อย!” ดาเรนอธิบายทุกอย่างในทันทีโดยที่ไม่ได้คิดอะ

” ทําธุรกิจอย่างงั้นหรอ?” สุดท้ายแล้วอาเบลก็พบเบาะแสจากคําพูดหนึ่งของดาเรนเข้า

“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้ทําธุรกิจ” ตอนนี้ดาเรนกําลังพูดปฏิเสธออกมาด้วยความกังวลใจ ชายที่ชื่อว่าดาเรนนั้นเผลอที่จะพูดอะไรที่ทําให้ตัวเขานั้นเป็นผู้ต้องสงสัยไปแล้วนั่นเองตอนนี้เขาทําได้เพียงแก้ตัวและปฏิเสธเพียงเท่านั้น

นิ้วของอาเบลที่กําลังสวมใส่ถุงมือเหล็กอยู่ในตอนนี้ได้แตะเข้าไปที่แขนซ้ายของดาเรนอย่างเบาๆหลังจากที่แตะได้ไม่นานเสียงอะไรบางอย่างที่เหมือนกําลังจะหักก็ได้ดังออกมา

ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสได้ถาโถมเข้าไปใส่ดาเรนในทันที เนื่องจากความเจ็บปวดนี้เองทําให้ดาเรนเผลอตะโกนออกมาอย่างเสียงดังแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นนิ้วของอาเบลก็ไม่ได้หยุดลงแต่เพียงเท่านี้นิ้วที่กําลังถูกหุ้มไปด้วยถุงมือเหล็กเป็นเหมือนกับแขนของปีศาจส หรับดาเรนไปแล้ว ดาเรนที่ถูกทรมานอยู่ทําได้เพียงตะโกนให้อาเบลหยุดทรมานเขาได้เพียงอย่างเดียว ตอนนี้ร่างกายที่ถูกทรมานไปด้วยความเจ็บปวดกําลังมีเหงื่อหยดออกมาจากทั่วร่างกายแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นดาเรนเองก็ยังยอมโดนทรมานต่อไป ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะพูดความจริงออกมานั่นเอง

 

“แย่หน่อยนะ ดูเหมือนว่าความอดทนของฉันจะมีจํากัดและตอนนี้เองฉันก็ยังอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย ทุกครั้งที่นายโกหกฉันฉันสัญญาได้เลยว่าฉันจะหักกระดูกของนาย ตอนนี้นายมีกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้นด้วยกัน ดูเหมือนว่านายจะยังมีโอกาสที่จะโกหกอยู่อี กมากเลยนะ”อาเบลได้พูดออกมาอย่างสบายใจในขณะที่ตัวเขานั้นกําลังนั่งอยู่ข้างๆ กับชายที่ชื่อดาเรน

คําพูดที่ดาเรนได้ยินทําให้เขาคิดเพียงว่าชายที่กําลังนั่งอยู่นี้เองจะต้องเป็นปีศาจร้ายอย่างแน่นอน ร่างกายของดาเรนกําลังสั่นเทาไปด้วยความกลัวมากยิ่งขึ้น เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่ากระดูกของคนเรานั้นมีกี่ชิ้นกันแน่ หรือว่านี่จะคือความรู้ของพวกอัศวินที่เป็นชนชั้นสูงกันถึงแม้ว่าดาเรนจะไม่รู้ว่าร่างกายของคนเราจะมีกระดูกกี่ชิ้นก็ ตามที่แต่เขาก็รู้ดีว่าถ้าหากกระดูกในร่างกายหักเป็นจํานวนมากแน่นอนว่ามันจะต้องทําให้เจ็บปวดจนทําให้ถึงตายได้

” ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะบอกความจริงเอง” ดูเหมือนว่าดาเรนจะยอมแพ้ให้กับความเจ็บปวดไป ตอนนี้เขาไม่อยากที่จะตายโดยที่เก็บความลับเอาไว้อีกต่อไปแล้ว ดาเรนจึงพูดออกไปตรงๆ ว่า “ฉันเดินทางมาที่นี่เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนน้ํายาเสริมพลังกับพวกมนุษย์ หมาป่าไงล่ะของพวกนี้เป็นของที่หาได้จากพวกโวร์แกนเท่านั้น”

เดาเรนได้ชี้ไปที่กระเป๋าใบหนึ่งที่ได้ตกลงมาจากรถม้าอาเบลไม่รอช้าเขารีบเดินไปดูที่กระเป๋าอันนั้นในทันที เมื่อเขาเปิดออกมา อาเบลก็พบกับดอกไม้แห้งจํานวนมากที่มีลักษณะเหมือนกัน ดูเหมือนว่าดอกไม้ทั้งหมดนี้จะมีน้ําหนักถึง 20 ปอนด์ด้วยกัน อาเบลไม่เคยเห็นดอกไม้และพวกต้นไม้แบบนี้มาก่อนเลย เขาจึงไม่ลังเลที่จะ ถามออกไป “นี่มันคืออะไรกัน?”

“นี่มันหญ้าแห่งผู้คุมวิญญาณ ถ้าหากคนธรรมดาได้กินหญ้าแบบนี้เข้าไปแล้วละก็คนพวกนั้นก็จะตกอยู่ในผวังค์แห่งภาพหลอนนั่นเอง มันเป็นเหมือนกับองค์ประกอบสําคัญที่จะทําน้ํายาเสริมพลังและแน่นอนว่าในดินแดนของมนุษย์เองการที่จะหาหญ้าแบบนี้ได้เป็นไปได้ยากมาก” ดาเรนในตอนนี้ยอมที่จะตอบคําถามของอา เบลเทุกอย่างพราะเขากลัวที่จะต้องตายนั่นเอง

อาเบลที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็อดสงสัยต่อไปไม่ได้ เขาจึงได้ถามออกไปอีกครั้ง“นี่มันไม่ใช่ยาเสพติดสินะ? ถ้าหากมันไม่ได้ใช้เพื่อการทํายาแล้วนี่จะต้องเป็นยาเสพติดเหมือนกับโลกใบอื่นอย่างแน่นอน”

 

| ” แล้วนายติดต่อกับพวกโวร์แกนได้ยังไงกัน อย่าบอกว่านายติดต่อกับพวกมันด้วยตัวของนายเอง” อาเบลถามขึ้นมาอีก

ดาเรนได้แต่มองไปที่อาเบลด้วยความรู้สึกละอายใจ ในดวงตาของเขากําลังลังเลคล้ายกับว่าตัวดาเรนในตอนนี้กําลังหาข้อแก้ตัวอยู่นั่นเองแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นนิ้วมือของอาเบลก็ได้ออกแรงอีกครั้งความเจ็บปวดได้ถูกแทนความรู้สึกลังเลในดวงตาของดารนทันที

“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้าชายองค์ที่เจ็ด เจ้าชายมิดเดิลตันจอร์จเป็นคนติดต่อ ฉันเป็นแค่ตัวแทนของเจ้าชายก็เท่านั้น” ในตอนที่ดาเรนได้พูดเรื่องราวทั้งหมดตัวเขาเองก็เกือบจะร้องไห้ออกมา

 

” “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทําไมลูกชายของกษัตริย์สเพนซ์จอร์จถึงอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไปได้! อาเบลอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น หลังจากที่เขาพูดเสร็จอาเบลก็ยิ้มขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะถามต่อไปอีกว่า “ฉันจะถามนาย เป็นครั้งสุดท้าย นายยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไหมล่ะ?”

ในตอนนี้ดาเรนกําลังจะได้ความหวังที่จะทําให้ตัวเขานั้นกลับมามีชีวิตอยู่ได้ความปรารถนาที่ต้องการจะมีชีวิตรอดอันแรงกล้าของเขานั้นทําให้ชายที่ชื่อว่าดาเรนพูดอ้อนวอนขอร้องอาเบลต่อไป “ฉันซ่อนทองเอาไว้ 20,000 เหรียญที่ห้องเก็บน้ํายาเสริมพลังชั้นใต้ดินของร้านแกรี่ในเมืองฮาเวส ที่นั่นยังมีน้ํายาเสริมพลังอี กเป็นจํานวนมากฉันจะยกให้นายหมดเลยก็ได้เพราะงั้นแล้วช่วยปล่อยฉันไปเถอะนะ

“เงินทั้งหมดมันอยู่ใต้เตียงของฉันเอง” สุดท้ายแล้วดาเรนก็ยอมบอกที่ซ่อนให้กับอาเบลได้รู้ วิธีการที่อาเบลได้ใช้สอบปากคําคนร้ายแบบนี้เป็นวิธีการที่เห็นได้บ่อยในโลกเดิมของอาเบลมันเป็นวิธีในหนังตามโรงภาพยนตร์และตามโทรทัศน์นั่นเอง ถึง แม้ว่าอาเบลจะเบื่อฉากแบบนี้แล้วก็ตามแต่เขาก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าวิธีแบบนี้มันจะใช้ได้ผลจริงๆ

ดาเรนในตอนนี้ดูเสียขวัญเป็นอย่างมาก ทรัพย์สินสุดท้ายที่เขาจะพอมีเหลือได้ถูกส่งมอบไปให้กับอัศวินคนที่กําลังสอบสวนเขาไปแล้ว

 

Abe the Wizard

Abe the Wizard

ATW, 巫师亚伯
Score 6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Abe the Wizardฉันได้กลับชาติมาเกิดในโลกใบใหม่นี้ ดูเหมือนว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ติดตัวฉันมาที่โลกใบนี้ด้วย สิ่งนั้นคือ ฮอร์ราดริกคิวบ์ จากเกม Diablo II นั่นเอง หนทางการเป็นอัศวินสุดเท่ห์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ทำไมการเป็นจอมเวทย์ก็อยู่ในทางเลือกด้วยล่ะ? แล้วฉันควรจะเลือกทางไหนกันแน่นะ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset