มังกรซ่อนเล็บ เนี่ยฟง
บทที่ 78
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ สายตาแต่ละคนจ้อมมองมาที่หลี่จางว่าจะทําอย่างไรต่อไป ไม่ถึงสีลมหายใจหลีจางก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนลานประลอง เสียงโห่ร้องดังสนั่น ทุกสายตาจับจ้องไปที่กลางลานประลองศิษย์อันดับหนึ่งในทําเนียบกําลังจะประลองกับศิษย์ใหม่ศิษย์ของเจ้าสํานักหยางเวยถูกขับไล่ออกจากวงรับพนันเหตุเพราะเจ้ามือหาได้มีเม็ดยามาจ่ายให้แก่หยางเวยอีกแล้ว บนลานประลองทั้งสองยังคงไม่มีท่าทีแต่อย่างใดยังคงจ้องมองกันอยู่เช่นเดิมชั่วน้ําเดือดทั้งสองก็เร่งโคจรพลังลมปราณออกมา พลังปราณระดับสีน้ําตาลขั้นสูงค่อยๆแผ่กระจายออกมาจากคนทั้งสอง
แรงลมพัดพาเสื้อผ้าที่สวมใส่โบกสะบัดไปมาไม่นานอาวุธของทั้งสองก็ถูกเรียกใช้ ผู้หนึ่งถือดาบสีเงินแวววาวอีกผู้หนึ่งถือมีดสั้นอยู่ในมือ ไม่นานทั้งสองก็พุ่งเข้าปะทะกันดาบสีเงินฟาดฟันเข้ามาอย่างรวดเร็ว มีดสั้นในมือกลายเป็นดาบด้วยเช่นกันตวัดเข้าปะทะ เครง ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใครเครั้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เสียงเฮเริ่มดังขึ้นมาอีกครั้งตามจังหวะดาบทั้งสองเข้าปะทะหยางเวยและหวังหลินด้วยเช่นกันจ้องมองการต่อสู้อย่างไม่วางตาทั้งสองต่างวิเคราะห์ว่าหากเป็นตนจะรับมือหลี่จางและเนี่ยฟงอย่างไร
เสียงดาบยังคงดังสนั่นอย่างต่อเนื่องเกือบหนึ่งเค่อทั้งสองก็แยกออกจากกัน หลีจางฟาดฟันดาบในมือปราณดาบสีขาวก็พุ่งออกมา เนี่ยฟงหาได้ฟาดฟันดาบเข้าปะทะเพียงแคโยกตัวหลบเฉยๆ
“ ข้าคิดว่าท่านจะทําให้ข้าสนุกกว่านี้เสียอีก ”
“ บัดซบเจ้ากล่าวอันใด ”
ข้าคิดว่าท่านจะเก่งกาจกว่านี้เสียอีกเป็นถึงอันดับหนึ่งแต่ตัวท่านยังสู้ท่านหวังหลินไม่ได้แม้แต่น้อยเลิกเล่นสนุกเถอะข้าเริ่มเบื่อแล้ว ”
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า กล่าววาจาผายลมได้ข้าจะจัดการเจ้าตาม ที่เจ้าต้องการ ”
สิ้นเสียงกล่าวหลี่จางก็รีบโคจรลมปราณไปทั่วทั้งร่างแรงกดดันสีน้ําตาลขั้นสูงปะทุออกมาอีกครั้ง เสียงขู่ร้องคํารามดังลั่นออกมาไม่ถึงสองลมหายใจ เสียงร้องคํารามก็เงียบลงเนี่ยฟงพุ่งทะยานเข้าหาระหว่างที่หลี่จางกําลังโคจรเพิ่มพลังต่อยหมัดซ้ายออกไปอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง หมัดซ้ายต่อยเข้าที่ใบหน้าของหลี่จางอย่างถนัดถนี่ เสียงโห่ร้องดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงสบถดังมาจากด้านหน้า
“ บัดซบไอ้สารเลว ”
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นท่านเองที่ช้าอดอาดเป็นบ้า ในการต่อสู้จริง คงไม่มีผู้ใครรอท่านโคจรพลังเสร็จหรอกนะ นี่มันคือการประลองหาใช้การแสดงปาที่ที่พวกท่านจัดการศัตรูในงานล่าอสูรกัน ”
“ บัดซบ ข้าจะสั่งสอนเจ้า ”
“ เหอะ หากว่าท่านทําได้ก็เข้ามาเถอะ ผู้ชนะย่อมต้องใช้ฝีมือหาได้ใช้ฝีปากเช่นท่านกัน คําก็บัดซบ สองคําก็บัดซบข้าอยากรู้จริงว่าหากข้าทุบตีท่าน ท่านยังจะกล่าวคํานั้นอยู่อีกหรือไม่ข้ามีเรื่องบางอย่างจะกล่าวกับท่านอีกเล็กน้อยหากท่านมั่นใจว่าเอาชนะข้าได้เรามาพนันกันเล็กหน่อยหรือไม่”
“ พนั้นสิ่งใด”
“ หากว่าข้าพ่ายแพ้ต่อท่าน ข้าจะออกจากสํานักและไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับที่นี่อีก แต่หากว่าข้าชนะท่าน ท่านต้องออกจากสํานักและไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับที่นี่อีกท่านยินดีพนันกับข้าเรื่องนี้หรือไม่ ”
หลี่จากไม่ใช้เวลาแม้แต่น้อยในการครุ่นคิดกล่าวตอบออกอย่างรวดเร็ว
“ ได้ข้ารับพนัน คอยดูเถอะว่าข้าจะทุบตีเจ้าเช่นไรที่บังอาจมาท้าทายข้า ”
“ ยินดีอย่างยิ่งขอรับศิษย์พี่หลี่จาง ”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงรีบโคจรลมปราณไปที่เท้าทั้งสองข้างไม่ถึงสองลมหายใจก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วหลี่จางเองก็เช่นกันฟาดฟันดาบในมือออกไปด้วยความโกรธปราณดาบสีขาวพุ่งเข้าหาเนี่ยฟงอย่างรวดเร็ว เปรียง เปรียง เปรียงทันทีที่ปราณดาบสีขาวเข้าปะทะร่าง หลีจางก็หัวเราะออกมาดังลั่นช่วงจังหวะนั้นเอง ร่างของศิษย์ใหม่ก็ปรากฏออกมาด้านหน้าของตนในสภาพไร้ซึ่งบาดแผลใดๆ ขณะที่กําลังคิดจะทําสิ่งใดต่อไป ก็เห็นหมัดซ้ายพุ่งออกมา เปรี้ยง หมัดซ้ายต่อยเข้าไปที่ใบหน้าด้านขวาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของหลี่จางสะบัดไปทางขวา เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉุดออกจากปาก
เนี่ยฟงไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือไป ใช้ดาบในมือขวาปักตรึงไปที่เท้าขวาของหลี่จางเอาไว้ หลังจากนั้นก็กระหน่ําต่อยหมัดออกไปทั้งซ้ายและขวาเปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ใบหน้าของหลี่จางปูดบวมประดุจลูกสุกร เสื้อผ้าที่สวมใส่ล้วนฉีกขาดและมีสภาพไหม้จากประกายสายฟ้าเลือดสีแดงสดสาดกระจายทั่วกลางลานประลอง เสียงเฮเสียง โห่ร้องต่างเงียบเสียงลง ได้ยินเพียงเสียงหมัดที่เข้าปะทะร่างของหลี่จาง ศิษย์สํานักจํานวนไม่น้อยที่จ้องมองฉากการทุบที่ศิษย์อันดับหนึ่งในทําเนียบการต่อสู้ หลายคนเริ่มมีอาการหวาดกลัว บางคนแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เสียงร้องโหยหวนเริ่มดังออกมาจากลานประลองฟันสีขาวหลุดกระเด็นจากปากร่วงลงพื้น ผ่านไปเกือบหนึ่งเค่อก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดแต่อย่างใด เลือดสีแดงย้อมหมัดทั้งสองเสียงร้องโหยหวนเงียบลง จนในที่สุดก็ได้ยินเสียงดังมาจากเจ้าสํานักจางหลิง
“ ศิษย์ข้าพอได้แล้ว ศิษย์พี่หลี่จางของเจ้าสลบไปแล้ว ”
สิ้นเสียงจากเจ้าสํานักเนี่ยฟงก็หยุดมือลงหลี่จางค่อยๆลงไปนอนกับพื้นด้วยสภาพลมหายใจรวยรินกระดูกทั่วทั้งร่า งแตกร้าวไปทั้งตัวเลือดสดๆไหลออกจากบาดแผลเสียงเฮและเสียงตะโกนโห่ร้องดังสนั่น หยางเวยตะโกนร้องดีใจอย่างดเสียง หวังหลินกําหมัดในมือแน่นแต่ไม่กล่าวสิ่งใดออกมาศิษย์สํานักสองคนเดินขึ้นมาแบกร่างของหลี่จางออกไปรักษาอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงยังคงยืนรอที่กลางลานประลอง เวลาค่อยๆไหลผ่าน หนึ่งเค่อผ่านไปเนี่ยฟงก็เดินลงจากลานประลอง เสียงตะโกนชื่อของเนี่ยฟงดังสนั่นลั่นลานประลอง
หลังจากศิษย์สํานักสี่คนทําความสะอาดลานประลองก็มีศิษย์หลายต่อหลายคนขึ้นมาประลองอีกครั้งเนี่ยฟงและหยางเวยแยกตัวออกมา หาอะไรทานในมื้อเที่ยงก่อนที่จะเข้าสู่การประลองในรอบบ่าย ตอนนี้เนี่ยฟงเดินไปทางไหนมีแต่ คนให้ความเคารพเพราะตําแหน่งอันดับหนึ่ง ถูกเปลี่ยนมือไปแล้วหลี่จางสภาพบาดเจ็บสาหัสแต่ทันทีที่ ได้รับรักษาก็มีอาการดีขึ้นเมื่อฟื้นขึ้นมาก็รีบออกจากสํานักทัน ที่ในสภาพไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
ในใจมีแต่ความเคียดแค้นต่อเนี่ยฟง เรื่องทั้งหมดมันมาจากการประลองครั้งก่อน เจ้าสํานักประกาศรับศิษย์ใหม่ผู้หนึ่งที่เป็นม้ามีดในการประลองเป็นศิษย์โดยตรง ทําให้ตนที่เป็นอันดับหนึ่งในทําเนียบการต่อสู้รู้สึกเสียหน้า เมื่อครั้งในงานล่าอสูรก็ทําผลงานได้อย่างดีเยี่ยมได้รับคําชมจากศิษย์สํานักไปไม่น้อยในระหว่างทางที่เดินออกจากสํานักมาก็ครุ่นคิดมาตลอดทางพอออกจากเมืองได้ก็มุ่งหน้าไปทางที่ตั้งของสํานักกิเลนไฟ
ในช่วงบ่ายการประลองยิ่งเข้มข้นกว่ามากนัก สิบอันดับแรกหลี่จางออกจากสํานักไปแล้ว หานทั้งเด็กก็ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วนหวังหลินร่างกายก็ไม่เต็มร้อยทําให้ศิษย์สํานักหลายคนมีความหวังที่จะขึ้นไปอยู่ในสิบอันดับแรกหนึ่งในนั้นก็คือหยางเวย ที่ตอนนี้นั่งกินอาหารอยู่กับเนี่ยฟง
” เจ้าจะลงประลองอีกหรือไม่หยางเวย ”
“ ข้าต้องติดหนึ่งในสิบแน่ เพราะคนที่เก่งกาจถูกเจ้าจัดการไปหมดแล้ว ”
สิ้นเสียงกล่าวทั้งสองก็หัวเราะออกมาดังลั่น