ผู้กล้าอาคมดํา ตอนที่ 25
เมื่อเห็นแวมไพร์ปรากฏขึ้นตรงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกฝูงค้างคาวรุมทิ้ง ร็อดจึงม้วนตัวกลับหลัง
หลังจากกลิ้งตัวเสร็จ ร็อดก็รีบลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวรับมือกับฝูงค้าวคาวที่กําลังบินเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ที่ร็อดไม่คาดคิดก็คือ ค้างคาวไม่ได้บินเข้ามารุมกัดเขา หากแต่บินไปหาพวกซอมบี้ที่นอนอยู่ตามพื้น
ฝูงค้างคาวเริ่มเริ่มกัดกินเลือดเนื้อของพวกซอมบี้ แม้แต่จ่าฝูงหมาป่าซอมบี้ก็ยังตกเป็นเป้าในการโจมตีนี้ ทั่วร่างของมันเต็มไปด้วยค้างคาวจํานวนมาก มันได้ทิ้งตัวลงกลิ้งไปตามพื้น
เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ร็อดก็ทราบได้ทันทีว่าแวมไพร์ต้องการจะทําอะไร
ร็อดจําได้ว่าแวมไพร์นั้นสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้โดยการดูดเลือดจากสิ่งมีชีวิต และแวมไพร์ที่เบื้องหน้านี้ก็สามารฟื้นฟูพลังชีวิตได้ด้วยวิธีเดียวกัน
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ มีอันเดดบาดเจ็บล้มตายไปมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นผลดีต่อแวมไพร์เพียงใด
มองดูพวกซอมบี้ที่ถูกค้างคาวแยกย้ายกันไปดื่มเลือดกิน
เนื้อ
ร็อดก็รีบวิ่งเข้าไปจัดการค้างคาวทีละตัว แต่พวกค้างคาวดูเหมือนจะไม่สนใจแต่อย่างใด พวกมันเพียงสูบเลือดศพตามพื้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
ต่อให้ร่างกายกําลังสลายกลายเป็นควัน มันก็ยังไม่ยอมหยุดดูดเลือด
ร็อดได้แต่เร่งความเร็วในการแทงดาบ หวังจะลดการฟื้นฟูพลังชีวิตของแวมไพร์ให้ได้มากที่สุด
เมื่อมีค้างคาวจํานวนหนึ่งตกตายใต้คมดาบของร็อด ทันใดนั้นพวกค้างคาวก็ผละออกจากซอมบี้พร้อมกัน จากนั้นจึงไปรวมตัวกันในที่ที่ห่างออกไปไม่ไกล
ขณะที่ค้างคาวกําลังหลบหนี ร็อดก็พุ่งร่างตามไปติดๆ
จากความรู้เกี่ยวกับแวมไพร์ในชีวิตที่แล้วของร็อค ร็อดเข้าใจเรื่องข้อจํากัดเมื่ออยู่ในร่างค้างคาวดี ข้อจํากัดนี้จะส่งผลมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับแวมไพร์แต่ละตน เนื่องจากแวมไพร์ตนนี้สามารถแปลงกลายเป็นค้างคาวจํานวนมากได้ในเวลาเดียวกันเช่นนั้นมันก็จะต้องมีข้อจํากัดด้านอื่นๆ
ที่ร็อดตามมันไปก็ด้วยสาเหตุนี้เอง จากการสังเกตการณ์การใช้ค้างคาวแปลงกายในช่วงก่อนหน้านี้ ร็อดก็ค้นพบจุดอ่อนของมัน
ก่อนหน้านี้ ตอนที่ฝูงค้างคาวมารวมตัวกัน ร็อดก็สังเกตเห็นรายละเอียดจุดเล็กๆ เมื่อพวกค้างคาวคืนร่างเป็นแวมไพร์แวมไพร์จะอยู่ในสภาพหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวไปชั่วขณะหนึ่ง
นี่จึงเป็นการบ่งบอกว่าเมื่อใดก็ตามที่เวลาแปลงกายสิ้นสุดลง พวกมันก็จะจงใจถอยห่างจากร็อดไประยะหนึ่ง
เมื่อค้างคาวมารวมตัวกันตรงจุดหนึ่งก็มีหมอกดําปรากฏขึ้น และขณะที่พวกมันกําลังจะรวมร่างเป็นแวมไพร์นั้นเองร็อดก็ตามหลังพวกค้างคาวมาจนทัน สายตาของเขาเพ่งมองไปที่หมอกดํานั้น
ชั่วขณะที่แวมไพร์เพิ่งปรากฏตัว ก่อนที่มันจะทันได้ทําอะไร ร็อดก็แทงดาบออกไป ใบดาบได้เสียบทะลวงลําคอของแวมไพร์จนทะลุออกไปอีกด้านหนึ่ง
ร็อดได้ใช้จังหวะที่แวมไพร์ยังขยับตัวไม่ได้โจมตีเล่นงาน
ก่อนหน้านี้มันได้สูบเลือดกินเนื้อไปไม่น้อย บาดแผลตามร่างจึงได้รับการเยียวยาทั้งหมด รวมถึงส่วนศีรษะที่ถูกศรเวททะลวงก็เช่นเดียวกัน
แต่แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะกลับมาหายดีแล้ว แต่พลังชีวิตของแวมไพร์ก็ลดลงไปมาก ตอนนี้มันกําลังอยู่ในช่วงที่อ่อนแอที่สุด เมื่อถูกดาบของร็อดเสียบเข้าที่ลําคออีกครั้งก็ยิ่งสาหัสกว่าเดิม
ร็อดย่อมไม่ปล่อยมันได้มีโอกาสเล่นลูกไม้อะไรอีก เขายกอีกข้างขึ้นเล็งไปที่หน้าผากของแวมไพร์ ตระเตรียมจะใช้ [เมจิกแอโรว์ อีกครั้ง
เมื่อเห็นการขยับเคลื่อนไหวมือของร็อด แวมไพร์ก็รู้ได้ทันที ร็อดคิดจะสิ่งใด
แวมไพร์พลันลงมือ ขณะที่ร็อดกําลังจะปล่อยศรเวทออกมานั้น แวมไพร์ก็พุ่งตัวไปข้างหน้า ขณะเดียวกันก็เหวี่ยงกรงเล็บโจมตีออกไปโดยไม่สนใจลําคอที่ถูกดาบเสียบคาเอาไว้ ตัวดาบเสียบทะลวงเข้าไปจนมิดด้าม โลหิตสีเข้มพลันหยดไหลลงบนพื้น
เมื่อเห็นแวมไพร์ดิ้นรนลงมือ ร็อดก็ตอบโต้ทันควัน เขาปล่อยมือจากด้ามดาบ จากนั้นจึงกระโดดถอยหลังเพื่อหลบการโจมตีของแวมไพร์
เมื่อต้องหลบการโจมตีนี้ ศรเวทจึงไม่ได้ถูกปล่อยออกไปหากว่าร็อดยังฝืนโจมตีต่อไป ลําคอของเขาคอขาดแหว่งไปแล้ว
หลังจากหลบการโจมตีจากแวมไพร์ได้ในมือทั้งสองข้างของร็อดก็ไม่หลงเหลืออาวุธอีก
ก่อนหน้านี้เพื่อที่จะขนกองไม้มาทําเป็นแนวป้องกันเขาได้ทิ้งสิ่งของทั้งหมดเอาไว้บนลานหน้าสุสาน ไม่ไกลจากตรงจุดนี้สักเท่าใด ด้วยเหตุนี้ภายในแหวนมิติของร็อดจึงไม่มีอาวุธหลงเหลืออยู่เลย
ส่วนลําคอแทบจะทั้งหมดของแวมไพร์ได้ถูกดาบเสียบคาเอาไว้ ขอเพียงร็อดสามารถคว้าด้ามดาบและผลักไปยังทิศใดทิศหนึ่ง หัวของแวมไพร์ก็จะถูกตัดขาดจากร่าง
แวมไพร์ไม่ได้ไล่ตามโจมตี มันยกมือทั้งสองข้างขึ้นจับด้าม ดาบและพยายามจะดึงดาบออกจากลําคอร้อดไม่ได้เลือกที่จะ ปลีกตัวไปหยิบฉวยอาวุธเล่มใหม่มา เขาค่อยๆมือขึ้นเล็งไปทางแวมไพร์
เมื่อตระหนักได้ว่าศัตรูอาจจะใช้เวทมตร์ออกมาอีกครั้งแวมไพร์ก็พลันตอบโต้ แทนที่จะเป็นเป้านิ่งรอคอยการมาถึงของศรเวท แวมไพร์พลันปล่อยมือออกจากด้ามดาบแล้วโยกตัวไปซ้ายทีขวาที
แวมไพร์ทั้งไม่อาจเคลื่อนไหวและดึงดาบออกตอนนี้มันทําได้เพียงหลบซ้ายหลบขวา เพราะหากทดลองดึงดาบแล้วดาบเกิดขยับเคลื่อนตําแหน่งขึ้นมา นั่นคงเป็นการบั่นคอตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย และมันจะตายในทันที
ร็อดไม่ได้ร้อนใจแต่อย่างใด เขาแค่ยกมือขึ้นแต่ไม่ใช้เวทมนตร์ใดๆ สายตาของเขาจดจ้องมองดูแวมไพร์ที่เริ่มร้อนลนขี้นมา
ร็อดทราบดีว่าในเวลาแบบนี้ เวทมนตร์ที่ยังไม่ได้ถูกปล่อยออกไปย่อมน่ากลัวเวทมนตร์ที่ถูกปล่อยออกไปแล้ว
ตอนนี้แวมไพร์กําลังบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังไม่อาจใช้ค้างคาวแปลงกาย ซึ่งเป็นไปได้เพียงข้อเดียว จํานวนการใช้สกิลค้างคาวแปลงกายได้หมดลงแล้ว ไม่เช่นนั้นมันคงจะใช้สกิลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ลําคอ นับได้ว่าการเตรียมการของร็อดได้บรรลุเป้าหมายแล้วอย่างแท้จริง
แวมไพร์นึกว่าร็อดสามารถปล่อยศรเวทได้อีกหลายครั้งแต่อันที่จริงร็อดมีมานาเพียงพอให้ใช้เวทมตร์ได้อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ดังนั้นการที่ร็อดยกมือขึ้นมาเล็งก็ย่อมเป็นการสร้างความกดดันให้กับแวมไพร์อย่างมาก แวมไพร์ไม่กล้าหยุดนิ่งเพื่อดึงดาบออก ดังนั้นมันจึงทําได้เพียงโยกตัวไปมา
ตัวแวมไพร์เองก็ตระหนักได้ว่าร็อดคงจะไม่ปล่อยศรเวทออกมาง่ายๆ แต่ร็อดจะรอจังหวะที่มันกําลังจะดึงดาบออกเพื่อโจมตีปลิดชีพมัน
มันต้องการจะหนี แต่ร็อดกลับติดตามมาทันทีเมื่อเห็นว่าแวมไพร์จะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดร็อดก็จะไปดักทางเอาไว้
ในตอนนี้ไม่สิ่งใดที่แวมไพร์สามารถกระทําได้อีก ความสนใจทั้งหมดของมันมุ่งไปที่มือที่ยกขึ้นมาของร็อดตราบใดที่ร็อดยังไม่ได้ปล่อยศรเวทออกมา มันก็แต่ตกอยู่ในความกังวลมันไม่กล้าแม้แต่จะไปสนใจดาบที่ปักอยู่ตรงคอ
เมื่อแวมไพร์ทั้งไม่พยายามดึงดาบและสกิลฟื้นฟูไม่ส่งผลเพราะได้รับค่าความเสียหายอยู่ตลอดเวลา มันก็ย่อมทราบดีว่าหากตนโดนศรเวทอีกเพียงดอกเดียวมันก็ยากที่จะรอดชีวิตไป
ได้
เลือดสีแดงคล้ําไหลย้อยลงจากลําคอของแวมไพร์แม้ว่ามัน พยายามจะค่อยๆดึงดาบออกขณะที่หลบ แต่ดาบเล่มนี้ก็มีน้ําหนักในตัวเมื่อแวมไพร์โยกตัวหลบใบดาบที่เสียบคาเอาไว้ เช่นนั้นก็จะบาดลําคอของมันจนบาดแผลเริ่มขยาย
พื้นที่ใต้เท้าของแวมไพร์ในตอนนี้อาบย้อมไปด้วยโลหิต ใน เวลานี้แวมไพร์กําลังบาดเจ็บสาหัสและเหลือพลังชีวิตอีกไม่มากแล้ว
ขณะที่แวมไพร์กําลังโยกตัวหลบอยู่นั้นเองเงาดําสายหนึ่งก็พุ่งมาที่ด้านหน้าและงับเข้าที่เท้าของมัน
เงาดํานั้นก็คือจ่าฝูงหมาป่าซอมบี้
ตอนที่แวมไพร์แปลงกายเป็นค้างคาว จ่าฝูงหมาป่าซอมบี้ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่ด้วยค่าพลังชีวิตที่สูงกว่าอันเดดตัวอื่นๆของมัน มันจึงยังมีชีวิตอยู่
ด้วยเพราะพลังชีวิตที่เหลือของจ่าฝูงหมาป่าซอมบี้นั้นมีน้อยยิ่ง มันย่อมไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากแวมไพร์ได้อีก ดังนั้นร็อดจึงให้มันหลบฉากออกไปอยู่ด้านข้าง รอคอยจังหวะอันเหมาะสม
ตอนนี้ด้วยการควบคุมของร็อด จ่าฝูงหมาป่าซอมบี้จึงงับขาของแวมไพร์เอาไว้ไม่ยอมปล่อย
เมื่อถูกงับขาเอาไว้ แวมไพร์จึงไม่อาจหลบหลีกได้อีก มันยกมือข้างหนึ่งจับด้ามดาบเอาไว้ ขณะที่ใช้อีกข้างฟาดใส่จ่าฝูงหมาป่าซอมบี้
แม้ว่าจะอยู่ในห้วงวิกฤติ ทว่าแวมไพร์ก็ได้แสดงพลังที่คู่ควรกับอันเดดระดับสามออกมา การฟาดฝ่ามือเพียงครั้งเดียวก็ปลิดชีพจ่าฝูงหมาป่าซอมบี้ได้ทันที
แต่แม้ว่าจะสังหารจ่าฝูงหมาป่าซอมบี้ได้ แวมไพร์ก็ตระหนักดีว่าเมื่อมันหันไปโจมตีอันเดดที่อยู่ตรงขา มันก็จะเผยช่องโหว่ออกมา ศัตรูที่รอคอยจังหวะนี้จะใช้เวทมตร์ และตัวมันก็ไม่อาจหลบหลีกแต่อย่างใด
ทว่าศรเวทที่แวมไพร์รอคอยนั้นไม่ได้ถูกปล่อยออกมา แวมไพร์ปล่อยมือจากด้ามดาบตรงลําคอ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองดูศัตรูที่อยู่เบื้องหน้า
ร็อดมองดูแวมไพร์ด้วยสีหน้านิ่งเฉย ขณะเดียวกันตราประทับวิญญาณก็ปรากฏขึ้น