Chapter 111 – ฟิวส์
ใบหน้าของเด็กสาวนั้นสวยงามและไร้ที่ติ มันราวกับถูกสลักโดยช่างศิลป์ เธอมีผมที่ดำสนิท, ใบหน้าที่เนียนเรียบ, จมูกที่โดง, เธอสวมชุดพนักงานออฟฟิศและถือกระเป๋าสีขาว ในตอนที่เธอนั่งอยู่ที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เธอนั้นได้แผ่บรรยากาศที่เงียบและสวยงามออกมา
จากความทรงจำในอดีตของเขา เขาจำได้ว่าเธอเล่นหนังที่ชื่อ Once Upon a Time in America ในปี 1984 ตอนที่เธอเพิ่งอายุได้ 13 ปี หลายปีต่อมาเธอก็ยังแสดงหนังเรื่อง A Beautiful Mind ในปี 2001 ซึ่งทำความสำเร็จครั้งใหญ่กว่า 313 ล้าน
แทนที่จะมองข้อมูลในมือ เอริค ได้พูดขึ้นมาแทน – “ คุณคอลเนลลี่ แนะนำตัวที “
“ สวัสดีฉันชื่อ เจนนิเฟอร์คอนเนลลี่ ฉันอายุ 19 ปี ฉันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาลัยเยลในอังกฤษ …”
เสียงของเธอนั้นดูแหบแห้งเล็กน้อยบวกกับเสน่ห์ของเธอ ในตอนที่ตอบคำถามนั้น เธอยังคงใจเย็น จนกระทั่งเริ่มการแสดงถึงได้มีปัญหาเกิดขึ้น เธอแสดงหนังมาหลายเรื่องแต่ไม่เคยได้รับการฝึกจริงๆจังๆ ดังนั้นการแสดงของเธอจึงดูแข็งทื่อเกินไป เธอถึงกับหน้านิ่งในตอนที่แสดงเลยด้วย
แต่มันไม่สำคัญสำหรับเขาที่ได้กลับมาเกิดใหม่ เธอสามารถที่จะฝึกได้ กุญแจคือ เอริค มั่นใจว่า เจนนิเฟอร์คอนเนลลี่ แน่นอนว่าต้องทำให้ตาของผู้ชมต้องเป็นประกายได้ ยิ่งกว่านั้นเธอสามารถทำให้ผู้คนนั้นหลงใหลและสงสารเธอตอนที่โจรจับเธอเป็นตัวประกันและในฉากที่เธอโน้มเข้าหา แอนดี้ สีหน้าอ่อนแอของเธอจะแสดงให้เห็นว่าฉากนี้มันรุนแรงแค่ไหนจนอยากที่จะกอดเธอไว้
หลังจากที่เธอแสดงเสร็จ เอริค ก็ได้เขียนบางอย่างข้างๆชื่อของ เจนนิเฟอร์ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาและพูดขึ้น – “ คุณคอนเนลลี่ ฉันเชิญเธอไปกินมื้อเย็นวันนี้ได้มั้ย ? “
เมื่อได้ยินคำถามนั้น ทีมงานในห้องต่างก็อึ้ง เขาพูดตรงเกินไป มันมีกฎในฮอลลีวูดที่พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องแบบนี้ในตอนออดิชัน
เจนนิเฟอร์ที่ซึ่งกำลังจะออกจากห้องเองก็อึ้งไปด้วย สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปมาอยู่หลายครั้งก่อนที่จะกลับการเป็นปกติ เธอมาจากอิตาลีเพียงเพื่อการออดิชันนี้แต่ด้วยการทำแบบนี้ เธอได้ทำให้ผู้กำกับหนังเล็กๆที่ชื่อ Étoile ไม่พอใจ
แต่ถ้าเธอสามารถได้รับบทนี้ งั้นเธอก็ไม่ต้องสนเรื่อง Étoile การถ่ายหนังที่ยุโรปนั้นคือจุดทางแยกของนักแสดงหลายคน แต่เธอต้องเลือกเส้นทางนี้ การถ่ายหนังยุโรปในยุคนี้นั้นไม่ใช่ว่าตกต่ำไปเลยซะทีเดียว มันจึงมีนักแสดงมากมายที่คิดจะไปถ่ายหนังยุโรปและเมื่อพวกเขาได้รางวัลมา พวกเขาก็จะกลับบ้านเกิดเพื่อเริ่มพัฒนาอาชีพตัวเองในฮอลลีวูด
ถ้าเขาเชิญเธอเป็นการส่วนตัว เจนนิเฟอร์ อาจจะลังเลอย่างมากแต่ภายใต้สายตาของคนมากมาย เด็กสาวที่มั่นใจในตัวเองก็พบกับช่วงเวลายากลำบากและสลัดความสุภาพของตัวเองทิ้ง เธอต้องอยู่ในสภาวะวิกฤต
“ ฉันขอโทษ ฉันเร่งรัดไปหน่อย คุณคอนเนลลี่ ขอบคุณสำหรับการออดิชัน เราจะแจ้งเธอให้เร็วที่สุด เธอกลับไปได้แล้ว “
เอริค นั้นรู้สึกผิดจริงๆกับการเชิญเธอต่อหน้าทุกคน เขาตั้งใจจะช่วยเธอและรักษาหน้าเธอไว้แต่เธอนั้นคิดว่าเขาคิดว่าการที่เธอลังเลนั้นคือคำปฏิเสธ เมื่อเป็นแบบนั้น เธอคงไม่อาจจะได้บทนี้แน่
เธอยืนนิ่งอยู่สักพักแต่ไม่ได้เปิดประตูเดินออกไป เธอลังเลไปไม่กี่วินาทีแล้วพูดออกมาเบาๆ – “ คุณวิลเลียม ฉัน…ฉันอยากไปค่ะ “
“ อะไรนะ ? “ – เอริค ที่ก้มหน้าเขียนบางอย่างบนกระดาษเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงของเด็กสาวที่เล็กซึ่งเขาไม่ได้ยินมันชัดนัก
หน้าของเธอแดงด้วยความอาย เธอไม่ต้องการที่จะพูดซ้ำอีกต่อหน้าคนมากมายแบบนี้
นิโคล อดไม่ได้ที่จะเตือนออกมา – “ เฮ้ เอริค อย่าเกินไปน่า เธอตกลงแล้ว “
เอริค รีบพยักหน้าทันที – “ ดีเลย คุณคอลเนลลี่ “ – เขารีบเขียนตัวเลขลงบนกระดาษแล้วส่งให้กับเธอก่อนจะพูดขึ้นมา – “ ฉันหวังว่าเธอจะติดต่อฉันมาตอนสัก 1 ทุ่ม ฉันจะไปรับเธอ ยังไงซะการออดิชันก็ต้องดำเนินต่อไป มีสาวๆหลายคนยังคงรออยู่ “
เจนนิเฟอร์ รีบรับกระดาษนั้นเก็บใส่กระเป๋าแล้วก้มหน้ารีบออกจากห้องไป
“ เฮ้ เอริค เธอใช่มั้ย ?” – นิโคล อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
เอริค พยักหน้าและพูดขึ้นมา – “ ถ้าไม่มีอะไรให้แปลกใจล่ะก็ งั้นคงเป็นเธอนี่แหละ “
“ งั้นเราจะทำการออดิชันกันต่อรึเปล่า ?”
“ แน่นอน – เอริค มองไปที่ข้อมูลยของคนถัดไป – “ มีคนรออยู่อีกตั้งเยอะ บางทีเราอาจจะหาคนที่ดีกว่าเธอก็ได้ เอาต่อ เรียกคนต่อไปเข้ามา “
ทุกคนในห้องรู้ว่าในหัวของ เอริค นั้นได้เลือกเธอไปแล้ว ดังนั้นการออดิชันต่อไป ทุกคนเลยไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ตอน 5 โมงเย็น เด็กสาวคนสุดท้ายได้ออกจากห้องไป เมื่อประตูห้องปิดลง ทุคนก็เริ่มเก็บของเพื่อแยกย้ายกันกลับ
… …
เอริค กลับไปที่ออฟฟิศของเขา เขาเก็บของและกำลังจะกลับในตอนที่ เจฟฟี่ มาเคาะประตูห้องแล้วเดินเข้ามา
หลังจากที่ส่งเอกสารให้แล้ว เจฟฟี่ ก็ได้พูดขึ้น – “ เอริค นี่คือผลล่าสุดของการเจรจาของเรา CAA ได้ปรับเงื่อนไข เงื่อนไขของ ครูส กับ แฮงค์ นั้นเหมือนกัน พวกเขาต้องการเงิน 5 ล้านและกำไร 12% ต่อคน “
เอริค รับเอกสารมาและพูดขึ้น – “ เจฟฟี่ สองสามวันนี้ไม่ต้องคุยกับพวกเขา รออีกอาทิตย์ ในวันศุกร์ Road House จะออกฉาย ฉันมั่นใจว่าอาทิตย์หน้าคงมีสีสันกว่านี้ “
“ ฉันเองก็ต้องการบอกนายเรื่องนี้ “ – เจฟฟี่ หัวเราะออกมา – “ คำวิจารณ์แทบทั้งหมดของคนที่ดูรอบพรีวิวของ Road House ต่างก็บอกว่าหนังมันไม่ดี ผลก็คือมีเสียงแค่เพียงครึ่งหนึ่งที่ชมมันและอีกครึ่งที่วิจารณ์ แม้ว่า United Artists จะพยายมกระตุ้นโดยบอกว่า ริชาร์ดเกียร์ ได้ทิ้ง Pretty Woman มา เพราะเขาพบว่า Road House ดีกว่าแต่ผลของมันก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ เดาว่ามีหลายคนที่อยากรอดูผลลัพธ์ที่ตลกของเรื่องนี้ “
เอริค แสยะยิ้มและพูดขึ้นมา – “ ใครสน ตราบใดที่ Road House มันแย่ CAA ก็จะไม่มีแรงพอที่จะสู้กับเราต่อได้อีก ไม่งั้นแล้วทั้ง ครูส กับ แฮงค์ คงไม่มีทางตกลงแน่ “
“ ทำไมเราไม่ลองใช้นักแสดงในสัญญาจากค่ายอื่นดูล่ะและทำให้เหมือนกว่าเรากำลังมองหานักแสดงหลักคนอื่นอยู่ ?”
เอริค ส่ายหน้าและพูดขึ้น – “ ยัง อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป “
พวกเขาไม่ได้คุยเรื่อง CAA มากมายนัก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ออกจากออฟฟิศไป ไม่มีใครคิดว่า Road House นั้นจะเหมือนฟิวส์ที่ระเบิด เสียงที่ดังขึ้นมานั้นดังกว่าที่ เอริค คาดเอาไว้นัก
