Chapter 117 – ฉันต้องการเป็นราชาแห่งฮอลลีวูด
“ เจนนิเฟอร์คอนเนลลี่ อ่ะ โชคดีจริงๆ เธอได้บทใน Once Upon a Time in America ตอนอายุ 13 มันเป็นธรรมดาที่เธอจะใสซื่อและยึดมั่นในตัวเอง ตอนที่เธออายุได้ 30 ปีและถ้าเธอยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในฮอลลีวูดเธอจะรู้สึกผิดกับการเสียโอกาสนี้ “ – หลังจากที่ฟังเรื่องจาก เอริค เวอร์จิเนีย ก็ถอนหายใจออกมา บางทีเธออาจจะคิดถึงสิ่งที่เธอผ่านมา
เอริค ได้แต่กอดเธอไว้เพื่อปลอบเธอพร้อมกับคิดถึงบางอย่าง เกียรติของ เจนนิเฟอร์ นั้นคงหายไปตอนอายุ 30 ปี
ตอนอายุได้ 20 ในปี 1991 เธอจะโด่งดังขึ้นมา เธอจะได้บทหลักในหนัง Disney ที่ชื่อ The Rocketeer แต่โชคร้ายที่หนังมันล้มเหลว ตั้งแต่ที่เธอเปิดตัวมาหนังที่เธอเล่นต่างก็ทำรายได้ไม่ดีเท่าไหร่ แม้ว่าหนังพวกนั้นจะล้มเหลวแต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ แต่ผู้กำกับต่างก็พากันสงสัย ดังนั้นหลังจากนั้น 5 ปี เจนนิเฟอร์คอนเนลนี้ ก็หายไปจากสายตาของผู้คน
เวอร์จิเนีย เงยหน้ามอง เอริค ที่เหม่อลอยและเสนออกมา – “ เอริค มันไม่ยากที่นายจะได้เธอมา “
“ หือ ? “ – เอริค กลับมารู้สึกตัว
“ นายมีบริษัทหนังของตัวเอง มีหนังใหม่ในอนาคตอีก ที่นายต้องทำก็คือล่อเหยื่อ สำหรับเด็กสาวที่หวังชื่อเสียงถ้านายยั่วเธอไม่กี่ครั้ง แน่นอนว่าเธอต้องหุบเหยื่อแน่ๆ “
“ ว๊าว ฉันล่ะแทบไม่เชื่อว่าเธอจะเจ้าเล่ห์ได้แบบนี้ “ – เอริค กอดแล้วจบไปที่ก้นของเธอ – “ ดูเหมือนว่าฉันคงต้องลงโทษเธอสักหน่อย “
“ อ่ะ เหมือนว่านายไม่ได้หงุดหงิดแล้วนิ “ – เวอร์จิเนีย พันขารอบเอวของเขาแล้วเริ่มถูกไปมา
“ แน่นอนว่าไม่ “ – เอริค พลิกตัวกลับมาแล้วสอดของเขาเข้าไปที่ทางเข้าของเธอ – “ ฉันเป็นชายที่จะเป็นราชาแห่งฮอลลีวูด จะมาหงุดหงิดอะไร ? ในอนาคต ฉันอยากเป็นเพล์บอยเหมือน โอเวิร์ดฮิวส์ ตราบใดที่ฉันต้องการสาวๆ มันจะมีคนไปหามาให้ฉันเอง “
เมื่อรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ดันเข้ามา เวอร์จิเนีย ก็ได้ร้องออกมาและค้านขึ้น – “ ตลกแล้ว นี่ไม่ใช่ยุคเดียวกันสักหน่อย ไม่มีใครควบคุมฮอลลีวูดได้ทั้งหมดหรอก “
“ จริงๆแล้วการควบคุมฮอลลีวูดน่ะง่าย “ – เอริค พลิกตัวเธอขึ้นมาและจัดเธอไว้ในท่าที่เขาชอบก่อนจะพูดขึ้น –“ ที่ฉันต้องทำก็แค่เปลี่ยนสตูดิโอใหญ่ทั้งหมดในฮอลลีวูดให้กลายเป็นที่ใหญ่สุดเพียงที่เดียว “
“ มันเป็นไปไม่ได้หรอก อ่ะ ! “ – เวอร์จิเนีย พูดขึ้นมา – “ ตอนนายทำแบบนั้น อย่าลืมส่งจดหมายไปให้ฉันที่สวรรค์ด้วยนะ เพราะฉันคงตายไปนานแล้ว “
เอริค กัดฟันแล้วดึงของเขาออกมาจากตัวของเธอก่อนจะเริ่มเอาไปใส่อีกรูพร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า – “ เธออยากไปสวรรค์เหรอ งั้นฉันจะพาเธอไปสวรรค์ “
“ อ่ะ ห๊ะ ไม่ มันเจ็บ ไอ้บ้านี่ อย่าใส่เข้าไป อ่ะ….นี่ไม่ใช่สวรรค์แล้ว นี่มันนรก “
… …
แม้ว่าเขาจะนอนดึกแต่เขาก็ยังคงตื่นเช้า ถ้าคนเราต้องการทำอะไรที่แตกต่างกัน นิสัยติดตัวดีๆนั้นคือสิ่งจำเป็น
เขาก้มลงไปจูบแก้มของหญิงสาวที่หลับอยู่ เขาใส่เสื้อผ้าแล้วเดินลงไปชั้นล่าง เขาไปที่หลังบ้านแล้วทำการยืดตัวไปมาเพื่อปลุกร่างกาย จากนั้นเขาก็ไปที่ครัวเพื่อทำอาหารเช้า เวอร์จิเนีย ที่อยู่ชั้นบนนั้นยังไม่ตื่น ดังนั้น เอริค จึงปล่อยให้เธอหลับต่อ เขาไปที่กล่องจดหมายเพื่อเอาหนังสือพิมพ์มาอ่านพร้อมกับกินมื้อเช้าไปด้วย
เวอร์จิเนีย ไม่ได้ซื้อหนังสือพิมพ์เยอะเท่าไหร่แต่ เอริค ก็ยังพบข่าวของตัวเอง มันปรากฏอยู่ใน Los Angeles times Entertainment แม้ว่าเขาจะไม่ได้ขึ้นพาดหัวแต่ข่าวนี้ก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่ดูเตะตา
…………..
เอริควิลเลียม ได้พาแฟนใหม่ไปดู Road House เขากังวลว่ารายได้ของ Pretty Woman จะได้รับผลกระทบรึเปล่า
เมื่อคืนนี้นักข่าวได้เจอกับ เอริค ที่เบเวอรี่ฮิลล์อเวนิว เขาขับรถแลมโบกินีสีม่วง นักข่าวบอกว่าเขาเห็น เอริค กับ เจนนิเฟอร์คอนเนลลี่ ทำตัวใกล้ชิดกัน
ตอนอายุได้ 13 ปี เจนนิเฟอร์คอนเนลลี่ นั้นโชคดีที่ได้บทในหนัง Once Upon a Time in America เธอได้เข้าแสดงงานอย่าง Labyrinth แต่เด็กสาวที่ดูสวยราวกับตุ๊กตานั้นยังไม่ได้มีข่าวงานใหม่ในหลายปีมานี้ การปรากฏตัวพร้อมกับ เอริค นั้นหมายถึงอย่างเดียวคือการเป็นซินเดอเรลล่าฮอลลีวูดที่กำลังจะเกิดใหม่งั้นเหรอ ?
บังเอิญว่าหนังใหม่ของ วิลเลียม Running Out of Time นั้นมีการเลือกตัวหลักของหนังในอาทิตย์นี้และตามแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เจนนิเฟอร์คอนเนลลี่ เองก็เข้าร่วมการออดิชัน มันยากที่จะไม่คิดว่าบทตัวหนังจะเป็นของเธอ ดูเหมือนว่าเด็กสาวหลายร้อยคนที่เข้าร่วมการออดิชันนั้นต้องผิดหวัง
นักข่าวของเราบอกว่าเขาไม่ได้เห็นสองคนนั้นไปทำอย่างอื่น ทั้งสองเข้าไปที่โรงหนังเพื่อดูหนังใหม่ของ ริชาร์ดเกียร์ Road House ในตอนที่เดินออกมา เอริค ดูเศร้าๆและหลังจากที่เห็นนักข่าว เขาก็ดึง คอนเนลลี่ ออกจากโรงหนังโดยใช้ประตูหลัง
ดูเหมือนว่า Road House จะสร้างความกดดันให้กับ เอริค บอกกันว่า ริชาร์ดเกียร์ เห็นบทหนังและเขาก็ยังชมมันด้วยและตัดสินใจที่จะปฏิเสธ Pretty Woman
Road House เป็นหนังแอ็คชั่นที่กำกับโดย โรดี้เฮอริงตัน และ ริชาร์ดเกียร์ ที่เป็นตัวแสดงหลัก หนังนี้ลงทุนสร้าง 20 ล้านดอลลาร์ หนังนี้เป็นการต่อสู้, การไล่ล่า,การยิง, ระเบิดและองค์ประกอบต่างๆ คนที่ดูต่างก็ให้คำชม เราเชื่อว่าช่วงอีสเตอร์นี้ Road House คงสร้างวความตื่นเต้นให้กับคุณได้
…………..
ดูเหมือนว่าผู้บริหารของ United Artists จะใช้ความพยายามอย่างมากในการโปรโมตหนังของตัวเอง พวกนั้นถึงกับชื่อของเขาทำให้หนังขยะของพวกนั้นดูน่าสนใจขึ้น เขาต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายในการทำมัน แม้ว่าการลงทุนในหนังจะไม่ใช่ 20 ล้านแต่การคืนทุนนั้นคงไม่ใช่เรื่องยาก
เอริค ไม่ได้สนในส่วนที่สองของบทความ เขารู้ว่าคุณภาพหนังน่ะแย่และเมื่อวานหลังจากที่ดูมาแล้ว เขาก็ได้ยินที่ผู้ชมพูกัน ส่วนมากพากันคิด แม้ว่าพวกนั้นจะใช้ชื่อของเขาในบทความนี้แต่ยังไงก็ต้องล้มเหลวอยู่ดี
แต่หลังจากที่เห็นส่วนแรกที่อธิบายถึงความสัมพันธ์ของเขากับ เจนนิเฟอร์ เอริค ก็อดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวด แม้ว่าคำพูดพวกนี้จะไม่ได้ชี้เป้าแต่ทุกคนก็พอมองออกว่าการเลือกนักแสดงนั้นไม่ยุติธรรมและมีเบืองหลังอะไรกับการแลกเปลี่ยนของ เอริค กับ เจนนิเฟอร์
ในฮอลลีวูด มันเป็นเรื่องธรรมดาที่นักแสดงหญิงจะเข้าหาโปรดิวเซอร์, ผู้กำกับรึคนลงทุน ทุกคนต่างก็รู้และยอมรับเรื่องแบบนี้
แต่เรื่องนี้น่ะรู้กันแค่ส่วนตัว เมื่อสื่อเปิดเผยออกมา ผู้คนจะพากันตั้งคำถามและภาพลักษณ์ของพวกเขาก็จะเสียหาย
เพื่อพลิกสถานการณ์ วิธีที่ง่ายที่สุดคือปล่อยให้สื่อบอกว่าทั้งสองรักกัน มีผู้กำกับจำนวนมากได้ใช้วิธีนี้ แม้ว่าจะใช้วิธีนี้มาหลายครั้งแต่ที่พวกเขาแก้ตัวก็แค่บอกว่าเป็นเพล์บอยและมันก็จะไม่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพวกเขา
เมื่อคิดอยู่สักพัก เอริค ก็ตัดสินใจปล่อยเรื่องนี้ไป ถ้าเขาปฏิเสธเรื่องแบบนี้กับสื่อ เรื่องราวก็จะแย่ขึ้นไปอีก ยังไงซะ เจนนิเฟอร์ ก็ปฏิเสธบทไปแล้ว เมื่อเขาประกาศรายชื่อนักแสดงในอนาคต ข่าวลือก็จะหมดลงไปเอง
เขาไม่ใช่นักแสดงที่ต้องพึ่งชื่อเสียงและภาพลักษณ์ไว้หากิน ผู้กำกับหลายคนในฮอลลีวูดทุกวันนี้มีภาพลักษณ์ที่แย่แต่หนังของพวกเขาก็ยังได้รางวัลและทำได้ดีในบ็อกออฟฟิศ
