I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด – ตอนที่ 121

Chapter 121 – การลาออกของครูส

ถ้า Road House นั้นคือระเบิด งั้นบทสัมภาษณ์ของ ริชาร์ดเกียร์ ก็คงเป็นตัวจุดระเบิด
ในวันเดียวกันที่บทสัมภาษณ์ถูกตีพิมพ์ออกม CAA  ได้ออกมาปฏิเสธคำพูดของ ริชาร์ด และประกาศว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้มีหลักฐานยืนยัน CAA จะให้ฝ่ายกฎหมายจัดการกับเรื่องนี้
แม้ว่าหลายคนจะไม่รู้เรื่องนี้แต่ ริชาร์ดเกียร์ ก็ได้บอกกับนักข่าวว่าเขาเป็นเหยื่อและมีช่องโหว่หลายอย่างในคำพูดของเขาที่สามารถมองออกได้โดยคนในวงการ แต่นั่นไม่ได้กันไม่ให้สื่อนั้นขุดเรื่องนี้ลึกลงไปอีก
ข่าวลือนี้มีอิทธิพลอย่างมาก ในวันต่อมาหลังจากที่บทสัมภาษณ์ถูกตีพิมพ์ออกมา บทความเรื่อง คาปัวร์ กับ ไมเคิลโอวิท ที่ขัดแย้งกันก็เริ่มเป็นที่พูดถึง, ยังมีเรื่องที่ว่า คาปัวร์ ต้องออกจาก CAA และการที่เขาถูกบังคับให้ออกจากฮอลลีวูดก็ยังเป็นที่พูดถึงกันอีกครั้ง
แม้ว่า CAA จะพัฒนาขึ้นมาจนถือว่าเป็นต้นไม้ใหญ่แต่ประวัตินั้นก็มาจุดด่างพร้อยอยู่ ปัญหามากมายที่เข้ามานั้นทำให้หนังหลายเรื่องที่ล้มเหลวนั้นได้ถูกสื่อขุดคุ้ยออกมา
— จากเพื่อนไปเป็นศัตรู เผยให้เห็นถึงด้านมืดของ CAA
— 10 บริษัทที่เป็นเหยื่อของ CAA
— มือเบื้องหลังของการเพิ่มราคาทุนสร้างหนังใน 10 ปีมานี้
— ผู้ทำลายกฎของแวดวงหนัง
มีบทความมากมายที่เขียนไว้เกี่ยวกับ CAA บางหนังสือพิมพ์เริ่มที่จะแยกตัวกับ CAA และแสดงจุดยืนของตัวเอง

การเติบโตและพัฒนาของ CAA ไม่ใช่แค่การบีบค่ายหนังอื่นๆแต่ยังมีกฎที่คิดขึ้นโดย ไมเคิลโอวิท และการใช้กลยุทธ์ต่างๆซึ่งทำให้ค่ายหนังหลายแห่งในฮอลลีวูดต้องเจ็บช้ำ  CAA ไม่ใช่แค่ทำให้ค่าตัวนักแสดงเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมแต่เพราะกลยุทธต่างๆทำให้ค่ายหนังเองก็ต้องเพิ่มเงินทุนไปด้วย
ค่ายหนังใหญ่ทั้ง 6 นั้นไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากนัก พวกเขาไม่ได้มีปัญหากับ CAA แต่ค่ายหนังระดับ 2 และ  3 จำนวนมากนั้นไม่อาจต้านทานกลยุทธ์ของCAA ได้ พวกเขาไม่ได้เป็นเหมือน เอริค ที่ซึ่งสำเร็จได้ในหนังทุกเรื่อง พวกเขาทำได้แค่รับเงื่อนไขของ CAA เท่านั้น
ค่ายหนังจำนวนมากบวกกับพวกทำหนังอิสระและพวกรายการทีวีก็เห็นว่า CAA ได้เริ่มทำกับทางทีวีเหมือนกับที่ทำในแวดวงหนัง  พวกนั้นต่างก็เริ่มใช้พลังของตัวเองในการดิสเครดิตทาง CAA ยิ่งกว่านั้นคือเกือบทุกที่นั้นไม่ได้ติดต่อกันเลย พวกเขาทำตามสัญชาตญาณ
แน่นอนว่าไม่มีใครพูดอะไรสนับสนุน CAA ในตอนที่นักแสดงของ CAA ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ พวกเขาก็มีคำพูดดีๆแค่ไม่กี่คำ ยังไงซะ CAA ก็ได้เพิ่มรายได้ให้กับพวกเขาและนั่นก็คือข้อดีที่สุดสำหรับพวกนักแสดง แต่คำพูดพวกนั้นเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ หลักแล้วเพราะการควบคุมของฝ่ายอื่นๆ อำนาจของฝ่ายอื่นนั้นสามารถที่จะกลบเสียงของนักแสดงที่สนับสนุน CAA ได้หมด
แม้ว่า CAA จะมีอำนาจในสื่อ แต่เมื่อต้องเจอการโจมตีจากทุกฝ่าย ความแข็งแกร่งนั้นก็ไม่อาจที่จะเปลี่ยนอะไรได้ พวกเขาน่ะถือว่าติดชะงักกับมัน
จากนั้นเพราะ Road House ที่ล้มเหลว  CEO ของ United Artists ที่เสี่ยงจะโดนเด้งก็ได้โดนไล่ออก เขาได้ใช้บทสัมภาษณ์ของ ริชาร์ดเกียร์ในการโทษว่าเป็นส่วนที่ CAA ต้องรับผิดชอบ เขาถึงกับขู่ว่าได้รับความเสียหายจากทาง CAA ด้วย แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ แต่คนระดับสูงนั้นต้องกลายเป็นแพะรับบาปเพื่อทำให้บริษัทเสียเงินเป็นสิบล้านในการลงทุนและเรื่องนี้ไม่นานมันก็จะซาลงไปเอง นี่ทำให้เกิดการทะเลาะกันระหว่างเขากับ CAA
และในเวลาเดียวกัน ในช่วงที่วุ่นวายนี้ ตัวแทนหลายค่ายก็ได้รับนักแสดงจาก CAA มา และภายในอาทิตย์เดียว CAA ก็ได้เสียนักแสดงชั้น 2 และ 3 ไปกว่า 20 คน  นี่ไม่ได้ส่งผลเสียอะไรมากมายกับทาง CAA แต่อีกปัญหาใหญ่นั้นได้เกิดขึ้นภายในความวุ่นวายนี้
ทอมครูส ได้ประกาศว่าจะออกจากทาง CAA !
ทอมครูส นั้นถือว่าเป็นดาราฮอลลีวูดที่โด่งดังที่สุด ตั้งแต่ที่เขาเปิดตัวมานั้นไม่มีหนังสักเรื่องที่เขาเล่นที่ล้มเหลว หนังส่วนมากที่เขาเล่นนั้นทำกำไรได้สูงและส่วนมากในใช้ทุนเพียงเล็กน้อย  ในหนัง 86 เรื่อง  Top Gun ใช้งบไปเพียง 15 ล้านแต่หนังทำรายได้ไปถึง 350 ล้านและหนังเรื่องล่าสุดของเขา Rain Man แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะทำรายได้ไม่ถึง 100 ล้านแต่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาและเขาเองก็มีชื่อเข้าชิงออสการ์ด้วย นิตยาสารชั้นนำมากมายได้บอกว่าเขาคือคนที่มีอำนาจที่สุดในฮอลลีวูด  ทอมครูส นั้นเป็นนักแสดงที่อยู่ระดับสูงเหนือค่ายหนัง, ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์มือทอง
การที่เขาออกจาก CAA นี้ถือว่าเป็นกระแสที่หนักหน่วงอย่างมากและนั่นก็ทำให้เกิดพายุอีกลูกขึ้นมา
เพราะอำนาจจากฝ่ายต่างๆนั้นได้เข้ามาเล่นงาน CAA  สื่อได้ย้ายความสนใจไปที่การเจรจรระหว่าง เอริค และนักแสดงนำทั้งสอง หลังจากที่ขุดคุ้ยดูแล้ว พวกเขาก็ได้เผยเงื่อนไขที่ CAA ได้ให้มา
“ 6 ล้านดอลลาร์กับกำไรอีก 20% ข้อเสนอแบบนี้มีแค่ CAA ที่ใช้ได้ มันชัดแล้วว่า CAA ต้องการให้ เอริค ยอมแพ้  ดูเหมือนว่าแม้ว่า Pretty Woman จะประสบความสำเร็จมาแต่ ไมเคิลโอวิท ก็ยังคงดื้อด้าน  จากเงื่อนไขที่แทบรับไม่ได้นี้ เราสรุปได้ว่า ริชาร์ดเกียร์ นั้นพูดจริง  CAA ได้เริ่มทำกับนักแสดงราวกับลูกไก่ในกำมือ “ Los Angeles Times
อันที่จริงแล้วก่อนที่ ริชาร์ด จะให้สัมภาษณ์ CAA ได้ยอมลดค่าตัวของ ทอมแฮงค์ และ ทอมครูส  ก่อนที่จะปล่อย Road House  CAA ได้ทำการลดเงื่อนไขมาเหลือแค่ 12% แต่หลังจากคำสัมภาษณ์ของ ริชาร์ด CAA ได้ลดเงื่อนไขลงอีกเป็น 10%
แม้ว่าจะโดนเปิดโปงแต่ CAA ก็ได้ทำการประกาศทันทีโดยบอกว่าข้อเสนอไม่ได้สูงแบบนั้น สื่อยังคงใช้เรื่องนี้ในการขายข่าวต่อ  บางบทวิเคราะห์ก็บอกมุมมองของตัวเองในหนังสือพิมพ์ พวกเขาบอกว่าถ้า CAA ยังคงทำแบบนี้ต่อไป ราคาของการสร้างหนังก็จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันกำไรก็จะลดลงอย่างมากและความสำเร็จก็คงเป็นเรื่อยยากตามไปด้วย หากเป็นแบบนั้นสตูดิโอในฮอลลีวูดก็จะยากที่จะสร้างหนังขึ้นมาซึ่งนั่นถือว่าร้ายแรงกับการฟื้นฟูอุตสาหกรรมหนังในอเมริกา
บางสื่อได้เริ่มเรียกหน่วยงานการเงินให้มาตรวจสอบพฤตกรรมการรบกวนตลาดหนังของ CAA ภายใต้อำนาจของฝ่ายต่างๆ สมาชิกคนหนึ่งของสภาแคลิฟอร์เนียซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อบอกว่า CAA นั้นอาจจะโดนตรวจสอบกับพฤตกรรมการควบคุมตลาดแต่เพียงผู้เดียวนี้ ไม่นานเขาก็ปฏิเสธว่ามันไม่ใช่คำพูดเขาแต่นั่นก็ยังกดดันต่อ CAA อย่างมาก
สิ่งที่ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมหนังนั้นกลัวมากที่สุดนั้นไม่ใช่ภาษีแต่เป็นการตรวจสอบการควบคุมตลาด เอาอุตสาหกรรมหนังอื่นเป็นตัวอย่าง แค่ฮอลลีวูด  เพราะเหตุการณ์ของ Paramount Act ที่เกิดขึ้นในปี 1984  ได้ทำให้ค่ายหนังหลายแห่งต้องปิดตัวเงียบไป
ไมเคิลโอวิทซึ่งรับผิดชอบในการเจรจาระหว่าง Sony กับ Columbia ได้กลับมายัง CAA เพื่อดูแลสถานการณ์  เขาได้ส่งคนไปบอกกับ ทอมแฮงค์ และ ทอมครูส หวังว่าทั้งสองจะยอมยกเลิกส่วนแบ่งกำไรและรับแต่เงินเพื่อช่วยปัญหาของ CAA ในตอนนี้
ทอมแฮงค์ นั้นเจรจาด้วยง่ายเพราะเขาไม่เคยรับผลกำไรจากหนังเรื่องไหนมาก่อน แม้แต่ค่าตัวเขาก็ยังไม่ถึง 5 ล้าน หนังเรื่องที่แล้วของเขา Big ทำรายได้ไปมากกว่า 100 ล้านแต่เขาได้ค่าตัวแค่เพียง 2 ล้านและเขาก็ยังให้ค่าการร่วมงานกับ เอริค อย่างมาก ดังนั้นแล้วเขาจึงตกลง
ทอมครูส บอกว่าเขาต้องการคิดทบทวนเรื่องนี้ดูก่อนแต่วันต่อมาหลังจากที่เขาประกาศว่าจะออกจาก CAA พร้อมกับนายหน้าของเขาและเขาคิดจะไปเจรจาเรื่องค่าตัวกับทาง Firefly เอง
ครูส เป็นคนทะเยอทะยานอย่างมากและยิ่งคิดจากปัญหาที่เกิดตอนนี้ เขารู้สึกว่า CAA นั้นคิดว่าเขาเป็นไก่ในกำมือ ความรู้สึกนี้ยากสำหรับดาราดังอย่างเขาจะรับได้
บวกกับความสำเร็จของ Rain Man ได้ทำให้เขาเห็นเส้นทางอีกเส้น การได้ส่วนแบ่งจากหนังจะทำให้เขามีผลประโยชน์มากกว่าเดิมและยังช่วยให้เขาควบคุมการถ่ายทำได้ด้วย
เขาต้องการผลประโยชน์ทุกอย่างและไม่อยากโดนตีกรอบโดยค่ายตัวแทน  การออกจาก CAA จึงถือว่าเป็นก้าวแรกแต่เขาก็สร้างความเสียหายให้กับ CAA จริงๆในครั้งนี้ มันเหมือนกับว่าเขาได้โยนมีดเข้าใส่หลังของ ไมเคิลโอวิท

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูด

我就是好莱坞
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m in Hollywood ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลีวูดผู้กำกับหนังได้กลับมาเกิดในปี 1988 ที่ฮอลลีวูดในฐานะเด็กชายชาวตะวันตกวัย 18 ปีที่ชื่อ เอริควิลเลียม จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนบนทหนัง เพลงและรายการทีวีขึ้น แล้วกลายเป็นผู้กำกับที่เก่งในทุกด้านของวงการบันเทิง ชนะใจของดาราสาวทุกคนและเข้าสู่เส้นทางตำนานผู้กำกับแห่งฮอลลีวูด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset