Chapter 141 – หนังคุณภาพสูง
หลังจากผ่านมาเดือนครึ่งกับการถ่ายทำที่เข้มข้นโดยเฉพาะกับการถ่ายทำตามที่ต่างๆ ทีมงานหลายสิบคนต่างก็ดูกันหมดแรง ส่วนนักแสดงนั้นดูดีกว่าเล็กน้อย ดังนั้นงานเลี้ยงหลังการถ่ายทำนี้จึงทำให้ทุกคนผ่อนคลายหลังจากที่กดดดันกันมานาน ทุกคนต่างก็พากันปลดปล่อยออกมา ห้องที่จัดงานเสียงดังพร้อมกับมีเสียงกรี๊ดดังขึ้นมาเป็นช่วงๆ
เอริค ได้แต่หัวเราะเมื่อเห็นแบบนั้น ยังไงซะทุกคนก็กดดันกันมาทั้งเดือนและความหยาบคายบางอย่างที่แสดงออกมาตอนนี้ก็มองข้ามได้ นักแสดง Running Out of Time ส่วนมากนั้นได้รับคำเชิญมางานเลี้ยงด้วยซึ่งรวมไปถึงดาราคนอื่นอีกหลายคนก็มางานนี้ด้วย
แต่หลังจากที่เห็นความวุ่นวายตอนนั้น ครูส ก็ได้อยู่แค่เพียง 20 นาทีก่อนที่จะกลับไป แม้ว่าเขาจะเกิดมาในชนชั้นล่างแต่ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองอยู่ชั้นบนสุดแล้ว แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนซึ่งทำงานนี้จะสนุกกับงานเลี้ยง ดังนั้นทีมงานและนักแสดงอายุมากบางคนก็ได้กลับไปด้วย ด้วยอายุของ เอริค ตอนนี้เขาไม่ได้สนุกกับงานเลี้ยงที่บ้าคลั่งนี้เลยแต่เขาต้องอยู่ในฐานะผู้กำกับหนังเรื่องนี้
จากในบรรดาคนที่อยู่ที่นี่ เอริค คือคนที่เด็กที่สุด แม้ว่าหน้าของเขาจะดูกดดันในตอนที่เขาด่าใครแต่เวลาอื่นเขาดูไม่มีพิษภัย อีกอย่างแล้วทีมงานก็คุ้นกับนิสัยของ เอริค ดี ดังนั้นจึงรู้ว่าเขาเป็นคนตลก มันคือเหตุผลที่เขาโดนทุกคนแหย่เอา
หลังจากที่กินเบียร์ไปเยอะด้วยเหตุผลต่างๆ เอริค ก็ขอตัวออกมาโดยบอกว่ามีเรื่องด่วนและเดินออกมาจากห้องงานเลี้ยงเพื่อที่จะไปห้องน้ำที่อยู่สุดทางเดิน ในตอนที่เขาออกมา เขาไม่รู้ว่ามันบังเอิญรึเปลา เขาเห็น บรูก ได้ออกมาจากห้องน้ำฝั่งตรงกันข้าม เธอกำลังเช็ดมือด้วยทิชชู่อยู่
“ ไง บรูก “ – เอริค พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม – “ สนุกมั้ย ? “
บรูก ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม – “ ก็ดีถึงมันจะเสียงดังนิดหน่อยก็เถอะ “ – ในฐานะคนที่สวยที่สุดในงานเลี้ยง แน่นอนว่าเธอต้องเป็นเป้าหมายของทุกสายตา เธอรู้สึกว่า เอริค ก็ต้องเป็นแบบนั้นด้วยแต่ท่าทีของ เอริค ที่มีต่อเธอก็ไม่ได้ดูเปิดเผยออกมา
หลังจากที่ทัก เอริค เสร็จ เธอก็หันกลับแล้วเดินออกไปหลังจากที่ทิ้งทิชชู่ไว้ที่ถังขยะ จกนั้นเธอก็เดินไปได้ 2-3 ก้าวและหันกลับมามองที่ เอริค
“ บรูก มีอะไร ?” – เอริค ถามกลับ
บรูก กระซิบขึ้นมาอย่างลังเล – “ ฉันแค่…อยากขอบคุณนาย ขอบคุณที่ให้บทนี้กับฉัน “
คำขอบคุณนี้ไม่ได้มีความหมายเล็กน้อย หลังจากที่บอกออกมาว่า บรูก จะได้เล่นใน Running Out of Time แม้ว่าสื่อหลายรายจจะบอกว่าเธอน่ะเคยเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำมาหลายรอบแต่มันก็ยังรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะได้บทมาด้วยตัวเองและมันต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ แม้ว่าจะเป็นข่าวเสียหายแต่ความสนใจจากสื่อที่มีต่อเธอก็เพิ่มมากขึ้น ในตอนที่เธอไปข้างนอก เธอจะกลายเป็นที่สนใจจากนักข่าว เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาหลายปีแล้ว ครั้งล่าสุดคือตอนที่เธอสนิทกับ ไมเคิลแจ็คสัน เมื่อไม่กี่ปีก่อน ที่สำคัญกว่านั้นความสนใจแบบนี้ก็ทำให้เรื่องการเงินของเธอดีขึ้นด้วย ระหว่างช่วงนี้เธอยังได้รับคำเชิญไปถ่ายโฆษณาด้วย
“ ไม่เป็นไร บรูก ความสามารถของเธอใน Running Out of Time น่ะดีมาก และฉันเชื่อว่าหลังจากที่ปล่อยหนังออกไปแล้ว ตัวละครของเธอต้องสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้แน่ “
“ งั้น “ – บรูก มองไปที่ เอริค ด้วยสีหน้าคาดหวังแล้วถามออกมา – “ เอริค เราจะมีโอกาสร่วมงานกันอีกในอนาคตรึเปล่า ? “
“ มัน…” – เอริค ลังเลไปสักพัก เขาไม่คิดว่าเธอจะถามออกมาตรงๆ เอาจริงๆแล้วเขาไม่อยากร่วมงานกับเธออีกต่อไปแต่เพื่อรักษาน้ำใจ เอริค บอกแบบนั้นไม่ได้ – “ บรูก เธอต้องเข้าใจว่าเราต้องมีโอกาสที่เหมาะสม “
สีหน้าของ บรูกชีลล์ หม่นลง สีหน้าของเธอตอนนี้สามารถทำให้ผู้ชายต้องเศร้าได้หากเห็นมัน
เอริค มองไปที่สีหน้าของเธอและรู้สึกผิดขึ้นมา หลังจากที่คิดดูดีๆแล้วเขาก็พยายามปลอบเธอ – “ บรูก ฉันคิดว่าเธอควรโฟกัสไปที่หนังก่อน เลือกหนังดีๆที่เหมาะกับทักษะการแสดงของเธอ “
บรูก เล่นหนังมา 12 ปีก่อนที่จะได้บทใน Running Out of Time และหลังจากที่ใช้เวลาไปมากกว่าสิบปีอยู่ในแวดวงหนัง เธอเข้าใจว่าหากเธอต้องการจะโด่งดังขึ้นมาด้วยตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมและพึ่งทักษะพวกนี้ในการเดินหน้าและไปเล่นหนังที่โด่งดัง
แต่เส้นทางนี้ไม่ได้ผลสำหรับเธอเพราะเธอน่ะสวยเกินไปและแม้ว่าเธอจะแสดงได้เพียงเล็กน้อยแต่มันคงปกปิดเรื่องหน้าตาและรูปร่างของเธอไป นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอไม่มีความสามารถในการแสดงแบบนั้น แม้ว่าเธอจะกลับมาในแวดวงได้แต่เธอคงได้เล่นแค่บทตัวประกอบและมีโอกาสน้อยที่จะยกฐานะตัวเองขึ้นมา
แน่นอน บรูก เข้าใจว่าถึงเธอจะได้เล่นเป็นตัวประกอบแต่มันก็ควรที่จะเป็นตัวประกอบในหนังใหญ่ แม้แต่บทตัวประกอบในหนังใหญ่ก็ดังกว่าตัวเอกในหนังเล็กๆ
มันน่าเสียดายที่ถึง บรูก จะมีชื่อเสียงแต่เธอน่ะก็แค่ดาราธรรมดา มันไม่พอดึงความสนใจจากหนังใหญ่ๆได้ มันมีคนสวยหลายคนในวงการ ค่ายหนังใหญ่กล้าที่จะเชิญเธอไปแสดงร่วมเป็นตัวประกอบอยูหลายครั้ง เอริค ถือว่าเป็นผู้กำกับคนแรกที่กล้าจะเรียกเธอมาเล่นเป็นตัวหลักในหลายปีมานี้
“ เอริค ฉันรู้จุดแข็งของตัวเอง ถ้าฉันกลับไปในวงการคนเดียว ฉันจะไม่สามารถไปต่อได้ นาย….ถ้าพรุ่งนี้นายมีเวลา ฉันขอเชิญนายไปกินข้าวเพื่อขอบคุณนาย “
“ ไม่จำเป็น บรูก “ – เอริค ปฏิเสธแล้วรีบพูดต่อ – “ เอาจริงๆหลังจากที่ปล่อยหนังเรื่องนี้ไป ฉันเชื่อว่าด้วยบทของเธอ แน่นอนว่าเธอต้องได้รับคำเชิญจากหนังหลายเรื่อง เธอควรเลือกบทดีๆ แม้ว่าเธอจะเป็นแค่ตัวประกอบในหนังหลายเรื่องแต่หากหนังมันดี แน่นอนว่าเธอจะอยู่ในบรรดานักแสดงชั้น A ได้ เธอไม่ต้องมาฝากความหวังไว้ที่ฉันคนเดียวหรอก ”
บรูก ผิดหวังกับคำปฏิเสธของ เอริค แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา เธอก็เริ่มเข้าใจ แม้ว่าเธอจะไม่ฉลาดแต่เธอก็ยังเข้าใจว่าถ้า Running Out of Time นั้นทำให้เธอดังขึ้นมา เธอก็ไม่ต้องกลับไปถ่ายหนังทุนต่ำแบบเดิมอีก
“ เอริค ฉันก็ยังอยากขอบคุณนายอยู่ดี “ – บรูก คิดและแสดงสีหน้าพอใจออกมาราวกับว่าสีหน้าพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาบนใบหน้ของเธอ ในตอนที่เธอพร้อม ตาของเธอได้กระพริบไปมาอยู่สองครั้งก่อนที่จะก้าวเข้ามาจับไหล่ของ เอริค ไว้และจูบเขาที่มุมปากและในตอนที่เห็นสีหน้าอึ้งของ เอริค นั้นเธอก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาก่อนที่จะหันกลับและเดินกลับไปที่ห้องจัดงานเลี้ยง
เอริค จตับปากตัวเองและส่ายหน้าก่อนจะยิ้มแล้วเดินกลับไปที่งานเลี้ยง
“ เอริค นายไปนานจังนะ นายแน่ใจนะว่าคนอื่นจะไม่อิจฉานาย ? “ – เมื่อเห็น เอริค โผล่มา ทอมแฮงค์ ก็ได้เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับส่งแก้วแชมเปญให้ก่อนจะมองไปที่ บรูก ที่ซึ่งคุยกับคนอื่นใกล้ๆ
เอริค จิบแชมเปญแล้วเผยรอยยิ้มออกมา
แฮงค์ เองก็ยิ้มออกมาด้วยและทั้งสองก็ได้มองหน้าแบบรู้กัน จากนั้น แฮงค์ ก็เก็บสีหน้าเพื่อที่จะให้คำพูดต่อไปของเขาจะได้ไม่ถูกเข้าใจผิด – “เอริค หนังของฉัน ฉันรอมันอยู่นะ “
แฮงค์ ยื่นนิ้วออกมา 5 นิ้วเหมือนจะเตือนเขาว่าอย่าลืมสัญญาหนังห้าเรื่องที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านในข้อตกลง เอริค ไม่สามารถนับเรื่อง Running Out of Time รวมไปด้วยได้
“ บทถูกเตรียมมานานแล้ว “ – เอริค พูดขึ้น – “ หลังจากที่พากษ์เรื่องนี้เสร็จ นายก็เตรียมตัวได้เลย “
แฮงค์ เป็นพวกบ้างานโดยเฉพาะในช่วงหลังๆ เขาถ่ายหนัง 2-3 เรื่องต่อปีซึ่งทำให้เขาเป็นหนึ่งในคนที่ขยันที่สุดในวงการ ในตอนที่เขาได้ยินคำพูดของ เอริค แฮงค์ ก็คึกขึ้นมาอีก – “ บอกฉันเรื่องบทก่อนได้มั้ย ?”
“ ไปตรงนั้นกัน “ – เอริค ชี้ไปที่โซฟาซึ่งตั้งอยู่มุมห้อง จากนั้น แฮงค์ ก็พยักหน้าก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปที่โซฟา
“ มันเป็นเรื่องโรแมนติคคอมเมดี้ชื่อ Sleepless in Seattle บทนั้นฉันคิดได้ตอนไปที่นิวยอร์ค “
“ เรื่องโรแมนติคคอมเมดี้ ?” – แฮงค์ ลังเลและลูบหน้าตัวเอง ในอดีต แฮงค์ หล่อนิดๆและเขาเคยเล่นหนังแบบนี้มาบ้างแต่หลังจากที่เขาอายุถึง 30 ปี แฮงค์ ก็ไม่เหมาะกับบทตัวละครหล่อๆอีก
“ เอริค นายคิดว่าภาพลักษณ์ของฉันเหมาะกับหนังแบบนี้เหรอ ?”
“ ไม่ต้องกังวล มันไม่ใช่หนังแบบคนหนุ่มกับผู้หญิง “- เอริค อธิบาย – “ นายจะเล่นพ่อม่ายในหนัง “
“ พ่อม่าย ? ! ”
“ เดี๋ยว อย่าเพิ่งโกรธสิ ทอม ฟังฉันพูดเรื่องให้จบก่อน โอเคมั้ย ?”
“ ได้ ! “- แฮงค์ ลดมือที่ยกขึ้นมาลง
เอริค พูดต่อ – “ เรื่องมันเป็นแบบนี้ หลังจากที่ภรรยานายตายไป แซม ก็ไม่อาจจะลืมภรรยาเขาได้อยู่นาน เขาจึงตัดสินใจออกจากชิคาโกพร้อมกับลูกชายวัย 8 ปี โจน่า และพวกเขาก็ได้ย้ายไปที่ซีแอตเทิล หนึ่งปีต่อมาในวันคริสมาสต์ โจน่า ได้โทรเข้าไปในรายการวิทยุเพื่อหาภรรยาใหม่ให้พ่อที่ยังสลัดเงาของภรรยาคนก่อนไม่ได้ บังเอิญว่าทางคลื่นหาผู้หญิงที่ชื่อ แอน ได้ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากนิวยอร์คมากนัก แม้ว่า แอน นั้นจะหมั้นแล้วแต่เธอก็ยังคงซึ้งกับเรื่องของ แซม และอดไม่ได้ที่จะเขียนจดหมายหาเขา เมื่อจดหมายมาถึงมือ โจน่า เด็กนั่นก็รู้สึกว่า แอน นั้นดีต่อพ่อเขามาก เขาจึงตัดสินใจตอบกลับจดหมายนั้นให้พ่อ เขาได้เขียนบอกว่าทั้งสองจะไปเจอกันที่ชั้นบนของตึกเอมไพร์สเตรทในนิวยอร์ค “
“ An Affair to Remember ? “ – เมื่อฟังที่ เอริค บรรยาย แฮงค์ ก็ได้แย้งขึ้นมา
เอริค พยักหน้า – “ มีหลายส่วนในหนังที่ให้ความเคารพต่อ An Affair to Remember “
“ เอริค ตามที่นายพูด หนังเรื่องนี้ไม่เรียบง่ายไปหน่อยรึไง ? “
เอริค ยิ้มและโบกมือ – “ ทอม ฉันเพิ่งบอกเนื้อเรื่องกับนาย มันถือว่าเป็นหนังคุณภาพสูงเลยนะ เรื่องราวตรงไปตรงมาเรียบง่าย สำหรับหนังถ้านายต้องการให้มันเป็นไปได้ด้วยดี นายต้องมีเนื้อเรื่องที่เรียบง่าย ส่วนที่เหลือนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้กำกับและนักแสดง “
