“อย่าเลย การกลับไปของข้าในครานี้ ไม่เพียงแต่ต้องการแก้แค้นเท่านั้น ทว่ายังเป็นการหาคำตอบให้กับปัญหาที่ค้างคาใจข้าบางเรื่อง” แววตาของนางทอประกาย “นอกจากนี้ข้าไม่อยากให้คนบ้านสกุลไป๋ตาย ข้าต้องการให้เกียรติยศศักดิ์ศรีที่พวกเขามีต้องพังทลายย่อยยับมากกว่า อีกทั้งสิ่งมีค่าใด ๆ ที่พวกเขาฉกฉวยไปจากบ้านสกุลหลาน พวกเขาจะต้องชดใช้คืนมาทั้งหมด”
ผู้เฒ่าทั้งสามต่างหันมองตากัน พวกเขาอยู่กับไป๋หยานมานานหลายปี จะไม่รู้นิสัยศิษย์รักผู้นี้ได้อย่างไร ? สิ่งใดที่นางตัดสินใจลงไปแล้วย่อมไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
“อาจารย์ตา พวกท่านไม่ต้องเป็นกังวล” ไป๋เสี่ยวเฉิน ตบหน้าอกตนเองด้วยความมั่นใจ “ข้าจะปกป้องหม่ามี้ และจะไม่มีวันปล่อยให้คนใจร้ายพวกนั้นมาทำร้ายเราได้”
ในใจของไป๋หยานรู้สึกอบอุ่น การได้มีบุตรชายที่ดีเช่นนี้ ชั่วชีวิตนี้ของนางยังจะต้องเสียใจอันใดอีก
สองอึดใจถัดมา เด็กน้อยก็กลับทำลายอารมณ์ปลื้มปริ่มนั้นด้วยถ้อยคำที่ไม่สอดคล้องกับประโยคแรก ๆ ของเขาเลย “หากข้าทำไม่ได้ ข้าก็จะอบเสี่ยวมี่ทั้งเป็น ๆ เลย“
เสี่ยวมี่ที่น่าสงสาร กำลังหลับอย่างสบายภายในอ้อมแขนของเด็กชายตัวน้อย ทันทีที่มันได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น เสือขาวตัวน้อยแทบจะพลัดตกลงบนพื้นด้วยความตื่นตระหนก
นี่…มันเกี่ยวข้องอะไรกับข้า ?
“หากเป็นเช่นนั้นก็ดี” ฉิวชู่หรงถอนหายใจ “อย่างไรเสียก็ระมัดระวังตัวกันให้ดี ๆ อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือ จงอย่าลังเลที่จะกลับมาหาพวกเรา เออจริงสิ ประมุขน้อย กลับมาแล้ว เจ้าอยากไปพบเขาก่อนออกเดินทางหรือไม่ล่ะ ?”
“พ่อบุญธรรม กลับมาแล้วเหรอ ?” นัยน์ตาที่เบิกกว้างของไป๋เสี่ยวเฉินแวววาว เขาดึงแขนเสื้อมารดาของตน พร้อมทำท่าทางออดอ้อน ขณะกล่าวว่า “หม่ามี้…พวกเราไปกล่าวคำอำลาท่านพ่อบุญธรรมก่อนที่จะจากไปได้หรือไม่ ?”
ไป๋หยานกุมมือเด็กน้อย พร้อมกับพยักหน้าให้กับผู้อาวุโสทั้งสาม “เมื่อเขากลับมาแล้ว ก็ไม่ถูกต้องนัก หากพวกเราจะไม่ไปพบเขาก่อนออกเดินทาง ท่านอาจารย์ทั้งสาม โปรดรักษาตัวด้วย“
ครั้นนางกล่าวจบนางก็หันหลังเดินจากไปพร้อมบุตรชาย ทิ้งไว้เพียงภาพเงาสีแดงงดงามติดตาผู้เฒ่าทั้งสาม
“พี่ใหญ่ น้องสาม” เหรินอี้(อาจารย์รอง) ยิ้มอย่างขมขื่น
“พวกเราช่างน่าละอายยิ่งนัก ในฐานะผู้นำหมอปรุงยาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ หากเทียบกับลูกศิษย์ที่รักของเราแล้ว เรากลับด้อยกว่านางนัก นางมีพรสวรรค์อย่างที่ข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย !“
ฉิวชู่หรงเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “โฮะ โฮะ ลืมไปแล้วหรือว่าข้าเองที่นำหญิงสาวผู้นี้กลับมาที่นี่เมื่อหลายปีก่อน ? ถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลานานมากแล้วที่เราเก็บซ่อนนางไว้ เช่นนั้นย่อมถึงเวลาที่เราควรปล่อยนางออกไป เพื่อให้โลกได้ประจักษ์ในความสามารถของนาง ข้าอยากเห็นสีหน้าตื่นตกใจของคนจากสมาคมหมอยาสารเลวพวกนั้นเสียจริง ๆ“
ตั้งแต่มีการจัดตั้งสมาคมหมอยาขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาระดับชั้นนำต่างก็เข้าร่วมสมาคม คนในสมาคมหมอยามักจะดูถูกเหยียดหยามหมอยาคนอื่น ๆ ที่ไม่เข้าสังกัด อีกทั้งยังขับไล่ผู้ที่ไม่ยอมทำตามความคิดเห็นของสมาคม เช่นนั้นอาวุโสทั้งสามจึงเก็บซ่อนตัวลูกศิษย์ของพวกเขาให้พ้นสายตาสอดรู้สอดเห็นเหล่านั้น เพื่อให้คนเหล่านั้นต้องประหลาดใจครั้งใหญ่เมื่อได้พบนาง
ในขณะนี้ไป๋หยานซึ่งจากมาโดยไม่ทราบถึงเจตนาของอาจารย์ทั้งสาม กำลังหยุดยืนอยู่ที่ด้านหลังของภูเขา
เวลานี้…บุรุษผู้หนึ่งกำลังยืนหันหลังให้นาง โดยมีภูเขาและทะเลสาบเป็นฉากหลัง อาภรณ์สีขาว และเส้นผมสลวยของเขาแลดูระยิบระยับยามสะท้อนต้องแสงแดด เขายืนหลังตรงไพล่มือไว้ข้างหลัง ดูงดงามประหนึ่งภาพวาด เพียงเรือนร่างของชายผู้นี้ก็สามารถก่อกวนหัวใจหญิงสาวทั่วหล้าให้คลั่งไคล้ได้เลยทีเดียว
“ท่านพ่อบุญธรรม…” ไป๋เสี่ยวเฉินโบกมือเล็ก ๆ ของเขา หยอย ๆ ให้ชายผู้นั้น เพื่อเรียกร้องความสนใจ
แน่นอนว่าชายผู้นั้นหันกลับมาอย่างช้า ๆ มือของเขายังคงไพล่อยู่ด้านหลัง ขณะที่อาภรณ์ของเขาปลิวไสวไปตามแรงลม
ชายหนุ่มรูปงามหล่อเหลาราวเทพบุตรเดินดิน ใบหน้าของเขาสามารถบดบัง แม้กระทั่งดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดบนท้องฟ้า ทว่าสายตาของเขากลับแลดูเฉยเมยไร้ความรู้สึก กระทั่งหากผู้ใดจ้องมองก็จะรู้สึกเจ็บปวด ไป๋หยานมองชายผู้หล่อเหลาเบื้องหน้า ก่อนจะกล่าวว่า “อาจารย์ทั้งสามบอกข้าว่าเจ้ากลับมาแล้ว เช่นนั้นข้าจึงตั้งใจมาบอกลาเจ้า ข้ากับเสี่ยวเฉินจะจากที่นี่ไปสักระยะหนึ่ง“
***จบบท ชายหนุ่มรูปงามปานภาพวาด (2)***