แววตาของฉู่อี้เฟิงที่เคยไร้ซึ่งความรู้สึกกลับพลันอบอุ่นขึ้น “หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือเมื่อใด ข้าพร้อมจะช่วยเจ้า”
ไป๋หยานคว้าดอกไม้ที่กำลังร่วงหล่น ซึ่งปลิวมาตามสายลมที่พัดเอื่อยเย็น ผมยาวสลวยสยายไปตามกระแสลมพัดพา ใบหน้าของนางระบายไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน และงดงาม ก่อนจะเอ่ยถามว่า
“อี้เฟิง…เจ้าว่าดอกท้อที่นี่งดงามหรือไม่ ?”
อี้เฟิงไม่ตอบ สำหรับเขาแล้วไม่ว่าดอกท้อที่นี่จะสวยงามสักเพียงใด ทว่าในสายตาของเขา ก็หาเทียบได้กับรอยยิ้มของหญิงสาวผู้งดงามไร้ที่ติตรงหน้า
“น่าเสียดาย ! ไม่ว่าดอกไม้เหล่านี้จะงดงามสักเพียงใด ท้ายที่สุดพวกมันก็จะเหี่ยวแห้งโรยรา และร่วงหล่นจากต้น ข้าไม่อยากเป็นเช่นนั้น เป็นคนที่ไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยตนเอง”
ฉู่อี้เฟิงราวกับเพิ่งหลุดออกจากห้วงภวังค์ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน “ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า ทว่า … หากเจ้าปรารถนาใครสักคนที่เจ้าคิดวางใจ ข้าก็เต็มใจที่จะเป็นที่พึ่งพิงของเจ้า และเสี่ยวเฉิน หากแต่ก่อนจะถึงวันนั้น ข้าจะทำหน้าที่เป็นดั่งพี่ชายที่คอยดูแลปกป้องเจ้าก่อน”
เมื่อรู้ว่าฉู่อี้เฟิงเข้าใจความหมายที่นางต้องการจะสื่อ ไป๋หยานก็ยิ้มอย่างสดใส นางคว้ามือบุตรชายของนางขึ้นมาอีกครั้ง แล้วค่อย ๆ หันหลังกลับ “เสี่ยวเฉิน พวกเราไปกันเถอะ”
“อืม !” เด็กน้อยตอบพร้อมกับยิ้มให้ฉู่อี้เฟิง “ลาก่อน ท่านพ่อบุญธรรม เฉินเอ๋อจะคิดถึงท่านนะ”
ดอกท้อร่วงหล่นเป็นสายกระจายไปทั่วท้องฟ้า ขณะที่ฉู่อี้เฟิงยืนอยู่ใต้ต้นท้อสูงใหญ่มองตามหลังไป๋หยาน และไป๋เสี่ยวเฉินผู้กำลังเดินจากไปไกล
แม้ร่างของคนที่เขาคุ้นเคยทั้งสองจะยังไม่ลับจากสายตา แม้ดินแดนแห่งนี้จะมากด้วยขุนเขาและทะเลสาบที่งดงาม ทว่าแววตาของเขากลับยิ่งดูหงอยเหงาเดียวดายมากขึ้นเรื่อย ๆ …
ครั้นเดินออกมายังบริเวณนอกลาน ไป๋เสี่ยวเฉินก็กระพริบนัยน์ตากลมโตมองมารดาของตน พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “หม่ามี้…ท่านไม่นึกชอบพ่อบุญธรรมบ้างเลยหรือ ?”
“ไม่ใช่ว่าแม่ไม่ชอบพ่อบุญธรรมของเจ้า หากแต่แม่คิดกับเขาเสมือนญาติพี่น้อง เสมือนหนึ่งคนในครอบครัว ระหว่างเราไม่มีทางเป็นไปได้ แม่ไม่ต้องการให้ความหวังที่ไม่มีวันเป็นไปได้กับเขา”
นางเป็นคนที่เด็ดขาดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด หากนางคิดว่าไม่ใช่ ไป๋หยานก็จะไม่ยื้อ และไม่ให้ความหวังกับผู้ใดลม ๆ แล้ง ๆ
ไป๋เสี่ยวเฉิน พยักหน้าเล็ก ๆ ของตน ราวกับว่าเขาเข้าใจความหมายนั้น “ถึงแม้ว่าข้าจะชอบพ่อบุญธรรมมาก หากแต่ข้ารักหม่ามี้มากกว่า สิ่งใดที่หม่ามี้ทำย่อมถูกต้องเสมอ”
ไป๋หยานหยิกแก้มเด็กชายตัวน้อยเบา ๆ อย่างเอ็นดู เอ่ยกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ไปกันเถอะ พวกเรากลับบ้านกัน”
“หม่ามี้…ท่านคิดว่าท่านน้าจะชอบข้าหรือไม่ ?”
“โอ้ ! นี่เจ้าใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่นตั้งแต่เมื่อใดกัน ?”
“ก็หม่ามี้ชอบเขา ข้าก็เลยอยากให้เขาชอบข้าด้วย”
“เมื่อเจ้าบอกว่าเขาเป็นคนที่แม่ชอบ แน่นอนว่าเขาจะต้องชอบเจ้าด้วย”
ไป๋หยานจับมือเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉิน จากนั้นร่างทั้งสองก็ค่อย ๆ ลับสายตา ทิ้งไว้เพียงเสียงที่ค่อย ๆ จางหายไปในอากาศ
*****
ช่วงเวลาหกปี ไม่นับว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นหรือยาวสักเท่าใดนัก ทว่าก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นภายในอาณาจักรหลิวฮั่ว
ประการแรก ก็คือการประสูติของพระนัดดาองค์โตของฮ่องเต้ ซึ่งถือกำเนิดจากพระชายาไป๋รั่ว ในวันที่เด็กน้อยถือกำเนิดสิงสาราสัตว์ทั่วโลกเกิดความโกลาหล นั่นรวมถึงสัตว์อสูรด้วย จึงมีข่าวลือว่าปรากฏการณ์ในครั้งนั้น คือการที่สัตว์ต่าง ๆ น้อมนมัสการเด็กน้อยผู้นี้
แม้ว่าสัตว์อสูร จะมีคำว่า “อสูร” ต่อท้ายชื่อของมัน ทว่าในอาณาจักรแห่งนี้ถือว่าพวกมันมีเกียรติสูง เพราะสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ผู้ใดที่สามารถควบคุมสัตว์อสูรเหล่านี้ได้ จะได้รับการยกย่อง อีกทั้งเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป
ด้วยเหตุนี้องค์ชายรองจึงถูกสถาปนาขึ้นเป็นองค์รัชทายาทผู้จะได้ครองบัลลังก์คนถัดไปในทันที และเขาก็ยกฐานะของไป๋รั่วขึ้นเป็นพระชายาเอก
อย่างไรก็ตามเมื่อห้าปีก่อน มีเรื่องที่สร้างความปั่นป่วนให้หญิงสาวทั่วเมือง นั่นคือการปรากฏกายของท่านอ๋ององค์ใหม่แห่งแว่นแคว้นผู้ใช้แซ่ซึ่งไม่เคยปรากฏในราชอาณาจักรแห่งนี้มาก่อน
ท่านอ๋องผู้นั้นมีพระนามว่า ‘ตี้คัง’ ทั้งภูมิหลังความเป็นมาของอ๋องผู้นี้ยังคงเป็นปริศนาไม่มีผู้ใดล่วงรู้ที่มาที่ไปของเขา หากแต่องค์ฮ่องเต้กลับเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นในความสามารถของคนผู้นี้ กระทั่งแต่งตั้งบุรุษผู้นี้ขึ้นเป็นอ๋อง ทั้งยังพระราชทานแซ่ ‘ตี้’ ให้กับชายผู้นี้ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันให้ทุกคนประจักษ์แจ้งว่าบุรุษผู้นี้ได้รับการยกย่อง และเป็นที่โปรดปรานขององค์ฮ่องเต้มากเพียงไร
* คำว่า ‘ตี้‘ ในภาษาจีน หมายถึง ฮ่องเต้ หรือ องค์ราชัน
นอกจากนี้ ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหล่า อีกทั้งทรงพลังของเขา ก็ไม่มีสตรีใดสามารถต้านทานเสน่ห์น่าหลงใหลของเขาได้เลยสักคน ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ทรงเสน่ห์ราวปีศาจ ก็เพียงพอที่จะทำให้บรรดาสาว ๆ ทุกคนในโลกนี้ต่างคลั่งไคล้เขากันหมด
***จบบท ข้ากลับมาแล้ว (1)***